วันนี้ได้มีโอกาสอ่านบทความนี้ค่ะ
http://hilight.kapook.com/view/139326
ดูเผินๆก็เหมือนข้อความของคนอ้วนคนนึงที่ต้องการปรับทุกข์เพราะโดนล้อเลียน โดนมองเป็นตัวตลกอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้เรามาตั้งกระทู้ในวันนี้ก็คือ ความเห็นของบางคนที่มาเขียนในเว็บนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเรายังเข้าใจ 'ความอ้วน' ผิดอยู่มาก
พอเห็นคนอ้วน หลายๆคนมักพุ่งเป้าไปต่อว่า 'พฤติกรรมการกิน' คนอ้วนมักจะเจอคำต่อว่าเช่น กินให้มันน้อยๆหน่อยสิ ลดอาหารบ้าง ทำไมไม่รู้จักควบคุมตัวเอง อย่าตะกละสิ กินอีกแล้ว อยากผอมก็อย่ากินเยอะ และอีกสารพัดคำสบประมาทที่เกี่ยวกับการกิน
ซึ่งหารู้ไม่ว่ามันเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง
เปรียบเทียบได้กับความขยันและความรวย คนจนไม่ได้แปลว่าเป็นคนขี้เกียจ และคนขยันก็ไม่ได้แปลว่าจะร่ำรวย แต่กรณีส่วนมากมันขึ้นอยู่กับต้นทุนชีวิต บางคนทางบ้านไม่ค่อยมีเงิน มีรายได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ขยันมาก ทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็มีแค่พอกินพอใช้ไปวันๆ ไม่เคยได้เห็นเงินล้าน แต่บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ต่อให้ขี้เกียจ ทำงานอาทิตย์ละไม่กี่ชั่วโมง ก็มีกินสบายๆไปตลอดชีวิต
ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนต้นทุนน้อย มีแค่พอกินทั้งๆที่ทำงานแทบตาย แล้วมีคนมาดูถูกคุณว่า ที่ไม่มีเงินเป็นล้านเพราะคุณขี้เกียจ เพราะไม่พยายาม เป็นคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร คิดสิ!
ความอ้วนก็เช่นกันค่ะ
การกินเยอะ ไม่ใช่สาเหตุของความอ้วน แต่ตัวแปรสำคัญนั้นอยู่ที่การเผาผลาญ ซึ่งระดับการเผาผลาญของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากันค่ะ
คนส่วนใหญ่คงมีเพื่อนหรือคนใกล้ตัวอย่างน้อยหนึ่งคน ที่เป็นคนประเภทกินเยอะมากๆ กินของที่ทำให้อ้วนแทบทุกอย่าง ไม่ออกกำลังกาย แต่ก็ยังผอม นั่นเป็นเพราะคนๆนั้นมีระบบเผาผลาญที่ดีมากค่ะ คนที่เกิดมาพร้อมระบบเผาผลาญที่ดี ต่อให้กินเยอะ ไม่ควบคุมตัวเอง ก็ไม่อ้วนค่ะ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าใครที่มีระบบเผาผลาญไม่ดี กินนิดเดียวก็อ้วนแล้วค่ะ ถ้านึกภาพไม่ออก ลองคิดถึงคนที่ลดความอ้วนผิดวิธีจนระบบเผาผลาญพังแล้วเกิดอาการโยโย่ คนกลุ่มนี้ต่อให้กินปริมาณปกติและออกกำลังกายไปด้วย น้ำหนักก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้ลองนึกถึงคนที่มีระบบเผาผลาญแย่แบบนี้มาตั้งแต่ต้น กินเท่าคนปกติก็ยังอ้วน คิดดูว่าชีวิตเค้าจะเป็นยังไง
และความเข้าใจผิดของคนส่วนมากที่มีต่อความอ้วนและการกินนี่เอง ที่นำไปสู่สารพัดการลดความอ้วนแบบผิดๆที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
ใครที่มีความเข้าใจว่าความอ้วนมากจากการกินเยอะแล้วไม่ออกกำลังกาย หรือถูกคนรอบข้างปลูกฝังให้เชื่อเช่นนั้น
เมื่อจะลดความอ้วน วิธีที่ใช้ก็หนีไม่พ้น อดอาหาร กินน้อยๆ ออกกำลังกายเยอะๆ กินยากดประสาทที่ทำให้ไม่หิว กินยาถ่ายที่ขับอาหารที่กินเข้าไปออกมา
คนทำและคนที่แนะนำให้คนอื่นทำเช่นนี้จะรู้ตัวไหมว่า ภายใต้ความหวังดีที่อยากให้เค้าผอม แต่คำแนะนำตามความเชื่อผิดๆแบบนี้จะยิ่งไปทำให้ระบบเผาผลาญที่น่าจะไม่ค่อยดีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก
ได้โปรดทำความเข้าใจใหม่นะคะ ความคิดว่า กินเยอะ = อ้วน กินน้อย = ผอม ให้ลืมไปเลยค่ะ
ให้คิดใหม่ว่า ระบบเผาผลาญแย่ ต่อให้กินน้อยก็อ้วน แต่ถ้าระบบเผาผลาญดี ต่อให้กินเยอะก็ผอม
เพราะฉะนั้นถ้าจะลดความอ้วนหรือแนะนำให้ใครลด ควรโฟกัสไปที่ ทำยังไงให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นค่ะ ซึ่งวิธีที่จะทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นและควรเอาไปแนะนำต่อก็คือ กินอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย กินให้ครบทุกมื้อ ทุกหมู่ อย่าปล่อยให้ร่างกายหิว เน้นอาหารที่มีประโยชน์ กากใยสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอและให้สมดุลย์กับที่กิน ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ยกเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ยกหนักๆไปเลย (ไม่ต้องกลัวกล้ามโต โดยเฉพาะผู้หญิง) พักผ่อนให้เพียงพอ และทำทั้งหมดนี่ต่อเนื่องในระยะยาว ไม่ใช่ 3 วัน 7 วัน ไม่กี่อาทิตย์หรือไม่กี่เดือน
ถ้าทำเช่นนี้ในระยะยาวได้ เห็นผลแน่นอนค่ะ ระบบเผาผลาญจะดีขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ (ยกเว้นคนที่ระบบเผาผลาญไม่ดีเพราะเป็นโรค หรือผลข้างเคียงจากยารักษาโรคอื่นๆ อันนี้ต้องปรึกษาหมอค่ะ)
การกินเยอะ ไม่ใช่สาเหตุของความอ้วน
http://hilight.kapook.com/view/139326
ดูเผินๆก็เหมือนข้อความของคนอ้วนคนนึงที่ต้องการปรับทุกข์เพราะโดนล้อเลียน โดนมองเป็นตัวตลกอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้เรามาตั้งกระทู้ในวันนี้ก็คือ ความเห็นของบางคนที่มาเขียนในเว็บนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเรายังเข้าใจ 'ความอ้วน' ผิดอยู่มาก
พอเห็นคนอ้วน หลายๆคนมักพุ่งเป้าไปต่อว่า 'พฤติกรรมการกิน' คนอ้วนมักจะเจอคำต่อว่าเช่น กินให้มันน้อยๆหน่อยสิ ลดอาหารบ้าง ทำไมไม่รู้จักควบคุมตัวเอง อย่าตะกละสิ กินอีกแล้ว อยากผอมก็อย่ากินเยอะ และอีกสารพัดคำสบประมาทที่เกี่ยวกับการกิน
ซึ่งหารู้ไม่ว่ามันเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง
เปรียบเทียบได้กับความขยันและความรวย คนจนไม่ได้แปลว่าเป็นคนขี้เกียจ และคนขยันก็ไม่ได้แปลว่าจะร่ำรวย แต่กรณีส่วนมากมันขึ้นอยู่กับต้นทุนชีวิต บางคนทางบ้านไม่ค่อยมีเงิน มีรายได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ขยันมาก ทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็มีแค่พอกินพอใช้ไปวันๆ ไม่เคยได้เห็นเงินล้าน แต่บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ต่อให้ขี้เกียจ ทำงานอาทิตย์ละไม่กี่ชั่วโมง ก็มีกินสบายๆไปตลอดชีวิต
ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนต้นทุนน้อย มีแค่พอกินทั้งๆที่ทำงานแทบตาย แล้วมีคนมาดูถูกคุณว่า ที่ไม่มีเงินเป็นล้านเพราะคุณขี้เกียจ เพราะไม่พยายาม เป็นคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร คิดสิ!
ความอ้วนก็เช่นกันค่ะ การกินเยอะ ไม่ใช่สาเหตุของความอ้วน แต่ตัวแปรสำคัญนั้นอยู่ที่การเผาผลาญ ซึ่งระดับการเผาผลาญของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากันค่ะ
คนส่วนใหญ่คงมีเพื่อนหรือคนใกล้ตัวอย่างน้อยหนึ่งคน ที่เป็นคนประเภทกินเยอะมากๆ กินของที่ทำให้อ้วนแทบทุกอย่าง ไม่ออกกำลังกาย แต่ก็ยังผอม นั่นเป็นเพราะคนๆนั้นมีระบบเผาผลาญที่ดีมากค่ะ คนที่เกิดมาพร้อมระบบเผาผลาญที่ดี ต่อให้กินเยอะ ไม่ควบคุมตัวเอง ก็ไม่อ้วนค่ะ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าใครที่มีระบบเผาผลาญไม่ดี กินนิดเดียวก็อ้วนแล้วค่ะ ถ้านึกภาพไม่ออก ลองคิดถึงคนที่ลดความอ้วนผิดวิธีจนระบบเผาผลาญพังแล้วเกิดอาการโยโย่ คนกลุ่มนี้ต่อให้กินปริมาณปกติและออกกำลังกายไปด้วย น้ำหนักก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้ลองนึกถึงคนที่มีระบบเผาผลาญแย่แบบนี้มาตั้งแต่ต้น กินเท่าคนปกติก็ยังอ้วน คิดดูว่าชีวิตเค้าจะเป็นยังไง
และความเข้าใจผิดของคนส่วนมากที่มีต่อความอ้วนและการกินนี่เอง ที่นำไปสู่สารพัดการลดความอ้วนแบบผิดๆที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
ใครที่มีความเข้าใจว่าความอ้วนมากจากการกินเยอะแล้วไม่ออกกำลังกาย หรือถูกคนรอบข้างปลูกฝังให้เชื่อเช่นนั้น
เมื่อจะลดความอ้วน วิธีที่ใช้ก็หนีไม่พ้น อดอาหาร กินน้อยๆ ออกกำลังกายเยอะๆ กินยากดประสาทที่ทำให้ไม่หิว กินยาถ่ายที่ขับอาหารที่กินเข้าไปออกมา
คนทำและคนที่แนะนำให้คนอื่นทำเช่นนี้จะรู้ตัวไหมว่า ภายใต้ความหวังดีที่อยากให้เค้าผอม แต่คำแนะนำตามความเชื่อผิดๆแบบนี้จะยิ่งไปทำให้ระบบเผาผลาญที่น่าจะไม่ค่อยดีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก
ได้โปรดทำความเข้าใจใหม่นะคะ ความคิดว่า กินเยอะ = อ้วน กินน้อย = ผอม ให้ลืมไปเลยค่ะ
ให้คิดใหม่ว่า ระบบเผาผลาญแย่ ต่อให้กินน้อยก็อ้วน แต่ถ้าระบบเผาผลาญดี ต่อให้กินเยอะก็ผอม
เพราะฉะนั้นถ้าจะลดความอ้วนหรือแนะนำให้ใครลด ควรโฟกัสไปที่ ทำยังไงให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นค่ะ ซึ่งวิธีที่จะทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นและควรเอาไปแนะนำต่อก็คือ กินอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย กินให้ครบทุกมื้อ ทุกหมู่ อย่าปล่อยให้ร่างกายหิว เน้นอาหารที่มีประโยชน์ กากใยสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอและให้สมดุลย์กับที่กิน ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ยกเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ยกหนักๆไปเลย (ไม่ต้องกลัวกล้ามโต โดยเฉพาะผู้หญิง) พักผ่อนให้เพียงพอ และทำทั้งหมดนี่ต่อเนื่องในระยะยาว ไม่ใช่ 3 วัน 7 วัน ไม่กี่อาทิตย์หรือไม่กี่เดือน
ถ้าทำเช่นนี้ในระยะยาวได้ เห็นผลแน่นอนค่ะ ระบบเผาผลาญจะดีขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ (ยกเว้นคนที่ระบบเผาผลาญไม่ดีเพราะเป็นโรค หรือผลข้างเคียงจากยารักษาโรคอื่นๆ อันนี้ต้องปรึกษาหมอค่ะ)