ตัวประหลาด ..... "หลังเลนส์"

ตั้งแต่เด็กๆ ผมจะนึกว่าผมเป็นตัวประหลาดเสมอ คือย้อนไปราวๆ ปี 2539 ประมาณ 19 ปีที่แล้ว พ่อผมพาไปเที่ยวเขาดิน ที่บ้านมีกล้องฟิล์ม compact อยู่ตัวนึง ผมก็ยึดพ่อมา แล้วก็เอามาถ่าย ซึ่งโดยปกติแล้วพ่อก็จะสอนให้ถ่ายคน ก็คือพี่ป้าน้าอาน้องหลานที่ไปเที่ยวด้วยกันนั่นแหละ ให้มายืนรวมๆ กันหน้าป้าย ให้ไปเกาะขอบบ่อฮิปโปบ้าง บ่อสิงโตบ้าง ตอนนั่งกินข้าวบ้าง งานรับปริญญานี่ รั้วตรงสวนอัมพร รั้วหน้าพระที่นั่งวิมานเมฆนี่ขาดไม่ได้เลย

                  แต่เมื่อกล้องฟิล์มมาตกอยู่ในมือผม รูปถ่ายส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนไป สิงโตบ้าง อิกาบนถนนบ้าง ฮิปโปบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าใน 1 ม้วน ฟิล์มประมาณ 32 รูป จะมีรูปคนไม่เกิน 5 รูป ... แล้วเป็นไง โดนด่าสิครับ
ซึ่งตลอด สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมโดนค่อนแคะ แซวบ่น ตลอดว่า เอากล้องไปถ่ายอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีรูปคนเลย หรือหลังๆ ก็จะเป็น “ออกไปถ่ายรูปอะไร” “ถ่ายฟ้า ถ่ายทะเลไปทำไม”

            จนเมื่อเดือนมกรา ที่ผ่านมาผมได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วเผอิญมีรุ่นพี่ที่รู้จักกัน บอกว่าเค้ามีทริปไปถ่ายรูปกัน ไปมั้ย รถออกตีสาม
จะเหลือขี้เกลืออะไรครับ ผมก็ตบปากรับคำไปอย่างความคิดไม่ต้องผ่านก้านสมอง


             ถึงเวลาตีสามเช้าของเช้าอีกวัน ผมได้ร่วมเดินทางไปกับพี่ๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนประมาณ 14 ท่าน ออกเดินทางไปยังดินแดนที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อ “วัดจันทร์" อะไรคือวัดจันทร์ ไม่รู้จักครับ ตื่นมาเดินขึ้นรถตู้ไปเหมือนคนถูกป้ายยา ไม่รู้จักใครเลย รู้จักแต่รุ่นพี่คนเดียว เราก็อาศัยว่าได้รางวัล มนุษยสัมพันธ์ดีสมัย ป.4 (คือคุณครูจะเวียน ๆ ให้เด็กในห้อง กะว่าจบ ป.6 ถ้าไม่นิสัยแย่มาก ไม่ขี้เกียจ ไม่โดดเรียน ไม่ไปเปิดกระโปรงสาว ๆ ในห้องนี่ได้แน่นอนครับ) ... มารู้ทีหลัง หลังจากกลับบ้านว่า ที่ที่เค้าพาไปเรียก ป่าสนวัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่

             กลับมาตอนตีสาม พอขึ้นรถทุกคนต่างพร้อมใจกันนอนเอาแรง ก่อนหกโมงเช้าถึงจุดหมายแรก อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง สมาชิกทุกท่านกระโจนออกจากรถเหมือนเสือชีตาร์กระโดดออกล่ากวางน้อย ต่างคนต่างออกไปตั้งกล้อง พอซัก 8 โมงแสงหมด จบ Workshop แรก Landscape  

                หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น ก็มีนกต่าง ๆ มากินน้ำหวานที่ต้นพญาเสือโคร่งใกล้ ๆ ที่เราตั้งกล้องถ่ายภาพ พี่ ๆ นี่ซัดเลนส์ tele ถ่ายนกกันอย่างกับ เหล่านายพรานพร้อมใจกันรัวกระสุนเข้าไปที่ต้นพญาเสือโคร่งฮะ
                หลังจากรัวกันถ่ายนกเสร็จก็ขึ้นรถตู้ต่อไปทานข้าว ... พอตกสาย ๆ ก็ไปร้านกาแฟ ... คราวนี้ก็ถึงคราว Workshop ถ่ายรูป Packshot , Stock Photo ถ่ายกาแฟ ถ่ายขนมกันสนุกสนาน จากเอสเปรสโซ่ แมคคิอาโต้ คาราเมล ทรอปิคาน่านี่ กลายเป็นกาแฟเย็นลืมใส่น้ำแข็งป้าจันหน้าปากซอยไปเลย  ถึงกาแฟจะเย็นลง ไอศรีมที่แปะมะม่วงสุกไว้จะละลายแค่ไหน ก็ไม่มีใครบ่นซักคำ มีแต่แบบ “เอ่อ พี่ขออีกมุมนะ ขอมุมนี้อีกที” ถ้าไปไหนกับทริปปกตินี่ หลังจากน้องเด็กเสิร์ฟวางขนม วางอาหารแล้วนี่ ถ้าใ้เวลาถ่ายรูปเกิน 15 วินาที นี่โดนด่าแน่เลยฮะ


                หลังจากนั้นช่วงบ่ายก็เข้าที่พักครับ ไปนอนเอาแรง อุณหภูมิที่วัดจันทร์ เย็นสบายมาก เที่ยง ๆ บ่าย ๆ นี่ 20 องศาได้มั้งครับ พอตกบ่ายแก่ ๆ ซัก 4 โมงเย็น แล้วค่อยออกล่าแสงเย็นอีกครั้ง ไปดูสถานที่ที่จะถ่ายหมอกตอนเช้าที่อ่างเก็บน้ำ ถ่ายใบเปิ้ล (แต่ช่วงนั้นยังเขียวอยู่ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวค่อย Photoshop เอา) ถ่าย Portrait  โดยน้อง ๆ ที่มาด้วยก็ช่วยเป็นนางแบบให้
                เสร็จแล้วทานข้าวเย็นกันชิว ๆ ที่อุณหภูมิประมาณ 14 องศา 
หลังจากนั้น ก็กลับบ้านไปใส่ heat tech หมวกและอุปกรณ์กันหนาว ออกล่าถ่ายดาวกันต่อ ที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศา  ... สุดๆ จริงๆฮะ พี่ๆชาวเหนือทุกท่านอุปกรณ์กันความร้อนออกจากร่างกายครบมาก แล้วเด็กใต้ชาวเกาะอย่างผมจะเหลืออะไร ... ยืนหนาวถ่ายดาวอยู่กลางสนามบอลอุณหภูมิ 10 องศานั่นแหละครับ 555
               

เช้าวันต่อมาประมาณเกือบตีห้าครึ่งแล้ว ยังไม่มีเสียงนาฬิกาปลุกของใครเลย ผมงัวเงียมาเห็น เซน เพื่อนร่วมทริป ชาวอินเดีย ตื่นขึ้นมาแปรงฟัน พร้อมกับถามผมว่า “What time will we go?” “ออกกี่โมงครับ (สำเนียงอินเดียหน่อย)” ผมก็ตอบว่า “I don’t Know” 555 หลังจากนั้นก็ตื่นไปปลุกหัวหน้าทีมครับ พอหัวหน้าทีมรู้เวลา คราวนี้ก็กระวีกระวาด เก็บของใส่ Heat tech ใส่เสื้อใส่หมวกไปที่รถ ไม่มีใครอาบน้ำแล้ว 555  เมื่อเดินมาถึงที่รถ กลุ่มสาว ๆ ก็ออกมารอที่รถกันแล้ว ออกจากที่พักไม่เกิน 5 นาที เราก็ถึงอ่างเก็บน้ำวัดจันทร์ สถานที่ผลิตหมอกชั้นดี เมื่อรถตู้จอดต่างคนก็ต่างไปหามุมที่ เล็งกันไว้ตั้งแต่เมื่อวานครับ ... ชาวเกาะต่างถิ่นอย่างผม ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน  ก็กดชัตเตอร์ท่ามกลางสายหมอกรัว ๆ ไม่ยั้งกันเลยครับ
                สายหน่อย หมอกหมดเราก็เดินทางกลับตัวเมืองเชียงใหม่ครับ กลับมาจากทริปป่าสนวัดจันทร์นี้ ผมก็ได้มิตรภาพดี ๆ กลับมาด้วยครับ ขอบคุณพี่วีน พี่เก่ง หมอกอล์ฟ เซน พี่ยุ้ย พี่ปริม พี่นลิน พี่นีส พี่ป้อม พี่เอ ด้วยนะคร๊าบ

หลังกลับจากทริปนี้ ผมเลยเพิ่งรู้ว่าผมก็ไม่ใช่ตัวประหลาดที่ไหน มีพี่ๆเพื่อนๆ อีกหลายคนก็เป็นเหมือนกัน แค่ผมเพิ่งหาเจอเท่านั้นเองครับ
























ถ่ายแสงเย็น(แต่วันนั้นฟ้าก็ไม่ระเบิดอีก)











แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่