จริงหรือ “ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังลากไม่ไหว” แฉ ! ทีโออาร์ ‘เครื่องสูบน้ำ กทม.สเปคจีน’ กระบะเรนเจอร์ยังลากไม่ไหว.

อยากถามผู้รู้ว่ามันลากไม่ไหวจริงหรือครับ  เนื้อหาข่าว  โดยรถกระบะที่มีสมรรถนะสูงสุดอย่าง “ฟอร์ด เรนเจอร์” ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรที่ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ซึ่งในตลาดรถถือว่าล้ำหน้าไปกว่ายี่ห้ออื่นในการบรรทุกหรือลากจูงได้ถึง 3,500 กิโลกรัม หรือ 3.5 ตัน ทั้งยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ซึ่งช่วยผ่อนน้ำหนักรถยามบรรทุกหรือลากจูงสัมภาระ แต่สุดท้ายยังลากเครื่องสูบน้ำตัวเดียวไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปิกอัพรุ่นอื่นๆ ที่จอดแบบไม่ต้องแจว ...  

แฉ! ทีโออาร์ ‘เครื่องสูบน้ำ กทม.สเปคจีน’ กระบะเรนเจอร์ยังลากไม่ไหว..แล้วซื้อมาทำไม?!  
มาดูกันชัดๆ 1Morenews แฉ! สเปคเครื่องสูบดีเซล “เครื่องจีนประกอบไทย” ขนาดกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ยังลากไม่ไหว ชี้แบกได้สูงสุดแค่ 3.5 ตัน ฉงน! น้ำหนักรวมลากจูง 4 ตัน ไม่เหมาะสภาพใช้งานจริง ต้องใช้เครนยก แล้วจะซื้อมาทำไมให้เปลืองงบฯ ถึง 200 เครื่อง น่ากังขา! ทีโออาร์ระบุโครงสร้าง-น้ำหนัก แต่ไม่กำหนดสเปคให้ "ทดสอบการลากจูง" แต่อย่างใด มีเฉพาะส่วน “โครงสร้างสำหรับเกี่ยวยก” ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญ

หลังจาก 1Morenews ได้ขุดคุ้ยปมทุจริตในกรุงเทพมหานคร (กทม.) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ถึงคิว... เครื่องสูบน้ำชนิดลากจูง (ไม่ได้) ซึ่งไม่เหมาะกับสภาพการใช้งานจริง โดยเครื่องสูบน้ำดังกล่าว ใช้เครื่องยนต์ดีเซลนำเข้าจากจีน มาประกอบเข้ากับ “ฝาครอบตัวถัง” ใช้เหล็กทั้งดุ้นในการประกอบ ทำให้มีน้ำหนักมากถึงกว่า 4 ตัน ซึ่งทำให้ไม่สะดวกในการขนย้ายไปติดตั้งในจุดที่มีน้ำท่วม

อีกทั้งการจัดซื้อล็อตนี้ 200 เครื่อง เป็นการซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดกลาง เพื่อให้สามารถเข้าถึงในตรอกซอย ชุมชน รวมถึงหมู่บ้านต่างๆ ที่ประสบภาวะ “น้ำรอการระบาย” ได้อย่างทันท่วงที แต่เพราะเครื่องสูบน้ำมีน้ำหนักค่อนข้างมาก รถเล็กไม่สามารถขนย้ายได้ ต้องใช้รถ 6 ล้อมาลากไป แต่ถึงอย่างนั้น ท้ายของ “เครื่องสูบน้ำลากจูง” กลับห้อยติดพื้นถนน สุดท้ายจึงต้องใช้วิธีขนย้ายโดยใช้รถเครนยกไปติดตั้ง ซึ่งยิ่งเพิ่มภาระอุปสรรคให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และไม่คุ้มค่าต่อการใช้งาน

สำหรับ “เครื่องสูบน้ำจีนประกอบไทย” ชนิดลากจูง จำนวน 200 เครื่อง สนนราคาขาย 186,800,000 บาท โดย กทม. จัดซื้อจากบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่งฯ คู่ค้าขาประจำ ที่เคาะประมูลถูกกว่าราคากลางแค่ 1,320,000 บาท เฉลี่ยตกเครื่องละ 934,000 บาท

โดยรายละเอียดในทีโออาร์ และร่างเอกสารการประกวดราคา กำหนดสเปคการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ Centrifugal pump หรือ “ปั๊มหอยโข่ง” แบบ Single Stage Radial Flow ที่มีระบบ Self-Primingโดยเป็นเครื่องสูบน้ำชนิดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลติดตั้งบนเทรลเลอร์ลากจูงพร้อมอุปกรณ์ มีประสิทธิภาพในการสูบน้ำได้ไม่น้อยกว่า 8,000 ลิตร/นาที ที่ระยะสูบส่ง (HEAD) ไม่น้อยกว่า 13.5เมตร มีความเร็วรอบในการสูบไม่น้อยกว่า 1,450รอบ/นาที

ทั้งนี้ ทีโออาร์ได้กำหนดสเปคเครื่องสูบน้ำ ให้สามารถติดตั้งบนเทรลเลอร์ลากจูง โดยโครงสร้างของเทรลเลอร์ทำด้วยโลหะรูปพรรณ มีระบบรองรับน้ำหนักแบบรถยนต์ มีล้อยางชนิดไม่มียางใน (เรเดียล) พร้อมกงล้อขนาดไม่น้อยกว่า R14 จำนวน 2 ล้อ ประกอบเข้ากับโครงสร้างอย่างมั่นคงแข็งแรง พร้อมระบุรายละเอียดรุ่น น้ำหนักของเครื่องสูบน้ำและเครื่องยนต์ที่ติดตั้ง กรอกลงในเอกสารข้อมูลทางเทคนิคให้ครบถ้วน

ขณะที่โครงสร้างเทรลเลอร์ ระบุให้มีตะขอลากจูงและห่วงสำหรับยกเคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุก พร้อมทั้งรับรองอุปกรณ์ลากจูง และโครงสร้างสำหรับใช้รองรับการเกี่ยวยกเครื่องสูบน้ำโดยรถเครน ว่ามีความแข็งแรงได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยเพียงพอในการนำไปใช้งาน โดยต้องมีวิศวกรระดับไม่ต่ำกว่าภาคีวิศวกร สาขาวิศวกรรมเครื่องกล ลงนามรับรอง

แต่น่าสังเกตว่า แม้ทีโออาร์จะระบุไว้อย่างชัดเจนถึงโครงสร้าง และ “น้ำหนัก” ของเครื่องสูบน้ำ รวมไปถึงอุปกรณ์ลากจูง แต่กลับไม่มีการ “ทดสอบการลากจูง” แต่อย่างใด มีระบุไว้เฉพาะส่วน “โครงสร้างสำหรับเกี่ยวยก” เท่านั้น

นั่นจึงทำให้รถปิกอัพไม่สามารถลากจูงเครื่องสูบน้ำดังกล่าวได้ โดยรถกระบะที่มีสมรรถนะสูงสุดอย่าง “ฟอร์ด เรนเจอร์” ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรที่ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ซึ่งในตลาดรถถือว่าล้ำหน้าไปกว่ายี่ห้ออื่นในการบรรทุกหรือลากจูงได้ถึง 3,500 กิโลกรัม หรือ 3.5 ตัน ทั้งยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ซึ่งช่วยผ่อนน้ำหนักรถยามบรรทุกหรือลากจูงสัมภาระ แต่สุดท้ายยังลากเครื่องสูบน้ำตัวเดียวไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปิกอัพรุ่นอื่นๆ ที่จอดแบบไม่ต้องแจว

จึงเป็นที่กังขาว่า ด้วยเหตุสนกลใด “คณะกรรมการกำหนดร่างทีโออาร์” ถึงปล่อยปละละเลยส่วนที่จำเป็นที่สุดนี้ไป อีกทั้งไม่ได้พิจารณาถึงน้ำหนักรวมของเครื่องสูบน้ำ มาเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาด้านเทคนิค ว่ามันเหมาะสมแล้วหรือไม่..กับสภาพการใช้จริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสำนักเขตหลายแห่ง ถึงกับบอกเลยว่า มันน่าจะปล่อยให้สนิมเขรอะจอดนิ่งอยู่อย่างนั้น เพราะขนย้ายลำบาก แม้แต่ “บิลน้ำมัน” สำหรับใส่เครื่องสูบน้ำ ยังไม่มีรายการเบิกจ่ายแม้แต่หน่วยเดียว

นั่นคือข้อจำกัดหลายอย่างในการใช้งานจริงของเครื่องสูบไทยสเปคจีน จะเป็นอย่างไรบ้าง 1Morenews จึงปัดฝุ่นเอกสาร “ร่างทีโออาร์” เครื่องสูบน้ำฉาว! มาเปิดดูกันจะๆ ให้คลายข้องใจ?!!  





เนื้อข่าวจาก http://www.1morenews.com/6005.html

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่