สืบเนื่องจากแฟนผมทำงานอยู่ที่บ.แห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างใหญ่โต (ใหญ่โตในสเกลที่ว่าเรามีสำนักใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางคอยคุมกะลาหัวอีกที) เนื่องจากระยะหลังๆแฟนผมได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมยุติธรรมเท่าไหร่ทั้งจากฝ่ายบุคคลและหัวหน้างาน เขาเลยตัดสินใจเรียกร้องไปที่ส่วนกลาง ซึ่งทางส่วนกลางเองหลังจากได้พิจารณาหลักฐานต่างๆ นำเข้าที่ประชุมแล้ว ก็พยายามช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยให้ทางบริษัทหาข้อตกลงที่ยุติธรรมกับเขา ก่อนที่เรื่องจะลามไปมากกว่านี้
ปรากฏว่าหัวหน้างานไม่พอใจที่แฟนผมเอาเรื่องไปเรียกร้องกับส่วนกลาง เขาเลยเรียกแฟนผมไปคุย พร้อมบอกว่าถ้าไม่ลาออก เขาจะเอาเรื่องๆหนึ่งไปฟ้องสำนักงานใหญ่ ซึ่งผู้ช่วยผู้จัดการซึ่งค่อนข้างสนิทกับผมเองยังค่อนข้างตกใจว่าหัวหน้าเขาจะใช้วิธีนี้เอาออกเลยเหรอ? เพราะว่าถ้าใช้เหตุผลดังกล่าว ก็เท่ากับว่าพนง.เกือบทุกคนก็ผิดโทษฐานเดียวกัน (ถ้าให้ยกตัวอย่างก็ประมาณว่าก่อนหน้านี้ทำงานมาด้วยวิธี A จนหัวหน้าเห็นว่าไม่ดี เลยปรับเปลี่ยนมาใช้วิธี B แต่เอกสารแฟนผมที่เคยทำด้วยวิธี A ยังคงอยู่ เขาเลยจะขุดเอาเอกสารตัวนั้นมา แล้วบังคับว่าถ้าแฟนผมไม่ลาออก เขาจะเอาเอกสารตัวนี้ยื่นต่อส่วนกลางว่าแฟนผมทำให้บ.เสียหาย ฯลฯ)
ซึ่งแฟนผมเองเขาก็ไม่อยากมีประวัติเสีย เลยจำต้องเขียนใบยื่นออกเอง โดยหัวหน้าให้ยื่นออกแล้วออกเลย พร้อมได้ชดเชยเงินเดือน 1 เดือน แต่ผมอยากทราบว่า
1. นอกจากเงินเดือนชดเชย 1 เดือน เรามีสิทธิได้ค่าชดเชยอะไรอีกไหม (หัวหน้าและฝ่ายบุคคลค่อนข้างอคติแฟนผมเป็นการส่วนตัว เพราะฉะนั้นถ้ามีสิทธิประโยชน์ใดๆที่แฟนผมพึงได้รับ ผมคิดว่าเขาคงไม่บอก ที่แฟนผมได้เงินเดือนชดเชย เป็นเพราะแฟนผมท้วงเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป)
2. ในเมื่อฝ่ายบุคคลมีปัญหากับเขาแบบนี้ ผมกลัวว่าไปสมัครงานที่อื่นจะมีปัญหา เพราะคิดว่าเขาคงโทรมาขอ reference จากฝ่ายบุคคลด้วยกัน และฝ่ายบุคคลผมก็ค่อนข้างจะทำงานตามอารมณ์ คือถ้าเขาชอบใคร เขาก็จะพูดดี อันนี้ผมทราบเพราะน้องคนหนึ่งที่เพิ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ก็ทำงานไม่ค่อยดี (มาสาย ขโมยเงิน โดนใบเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรหลายครั้ง ฯลฯ) แต่น้องเป็นเพื่อนกับฝ่ายบุคคลมาก่อน ตอนที่น้องมาพูดกับผมเรื่องลาออก เขาก็บอกว่าเขาไม่เครียดเรื่องหางานใหม่ เพราะฝ่ายบุคคลบอกว่าจะไม่จดประวัติของน้องเพื่อที่น้องจะได้หางานใหม่ง่ายขึ้น และถ้ามีใครโทรมาถามก็จะบอกว่าน้องขยัน และทำงานดี แต่ออกด้วยปัญหาครอบครัว หรือเพื่อนอีกท่านของฝ่ายบุคคลที่รู้จักกันกับผม (ผมแนะนำให้มาทำงานที่นี่ แต่หลังๆเขาไปสนิทกับฝ่ายบุคคล) ก็มาทำงานสาย หรือเมาค้างจนไม่มาทำงาน แอบหลับในเวลางาน ก็ไม่เคยโดนลงโทษ ทั้งๆที่พนงหลายท่านเป็นพยาน เพื่อนๆพันทิปน่าจะพอเข้าใจอยู่ว่าผมกังวลอะไร และเรามีสิทธิเรียกร้องหรือป้องกันอะไรในส่วนนี้หรือไม่ ?
3. มีคำแนะนำ หรือคำปลอบใจไหมครับ ? T_T
ผมค่อนข้างกังวล เพราะสายงานที่แฟนผมทำค่อนข้างที่จะหาตำแหน่งใหม่ยาก (มีข้อจำกัดหลายอย่าง) แถมเป็นวงการที่ผู้คนรู้จักกันดี และด้วยภาระค่าใช้จ่าย มันจะดีกว่าถ้าเราสองคนมีงานทำทั้งคู่ ตอนนี้เครียดทั้งสองคนเลยครับ ผมเองก็อยากลาออกเพราะตกใจกับการบริหารงานแบบเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งจากคนที่ผมเคยเคารพมากๆ แต่ก็ไม่สามารถลาออกได้ไม่งั้นคงกินแกลบทั้งคู่
ทั้งหมดทั้งมวลนี่เป็นเพราะหัวหน้าโกรธที่แฟนผมร้องเรียนเข้าสำนักงานใหญ่ ทำให้เขาเสียหน้าแท้ๆ
ปรึกษาเรื่องการโดนบีบบังคับให้ลาออกครับ
ปรากฏว่าหัวหน้างานไม่พอใจที่แฟนผมเอาเรื่องไปเรียกร้องกับส่วนกลาง เขาเลยเรียกแฟนผมไปคุย พร้อมบอกว่าถ้าไม่ลาออก เขาจะเอาเรื่องๆหนึ่งไปฟ้องสำนักงานใหญ่ ซึ่งผู้ช่วยผู้จัดการซึ่งค่อนข้างสนิทกับผมเองยังค่อนข้างตกใจว่าหัวหน้าเขาจะใช้วิธีนี้เอาออกเลยเหรอ? เพราะว่าถ้าใช้เหตุผลดังกล่าว ก็เท่ากับว่าพนง.เกือบทุกคนก็ผิดโทษฐานเดียวกัน (ถ้าให้ยกตัวอย่างก็ประมาณว่าก่อนหน้านี้ทำงานมาด้วยวิธี A จนหัวหน้าเห็นว่าไม่ดี เลยปรับเปลี่ยนมาใช้วิธี B แต่เอกสารแฟนผมที่เคยทำด้วยวิธี A ยังคงอยู่ เขาเลยจะขุดเอาเอกสารตัวนั้นมา แล้วบังคับว่าถ้าแฟนผมไม่ลาออก เขาจะเอาเอกสารตัวนี้ยื่นต่อส่วนกลางว่าแฟนผมทำให้บ.เสียหาย ฯลฯ)
ซึ่งแฟนผมเองเขาก็ไม่อยากมีประวัติเสีย เลยจำต้องเขียนใบยื่นออกเอง โดยหัวหน้าให้ยื่นออกแล้วออกเลย พร้อมได้ชดเชยเงินเดือน 1 เดือน แต่ผมอยากทราบว่า
1. นอกจากเงินเดือนชดเชย 1 เดือน เรามีสิทธิได้ค่าชดเชยอะไรอีกไหม (หัวหน้าและฝ่ายบุคคลค่อนข้างอคติแฟนผมเป็นการส่วนตัว เพราะฉะนั้นถ้ามีสิทธิประโยชน์ใดๆที่แฟนผมพึงได้รับ ผมคิดว่าเขาคงไม่บอก ที่แฟนผมได้เงินเดือนชดเชย เป็นเพราะแฟนผมท้วงเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป)
2. ในเมื่อฝ่ายบุคคลมีปัญหากับเขาแบบนี้ ผมกลัวว่าไปสมัครงานที่อื่นจะมีปัญหา เพราะคิดว่าเขาคงโทรมาขอ reference จากฝ่ายบุคคลด้วยกัน และฝ่ายบุคคลผมก็ค่อนข้างจะทำงานตามอารมณ์ คือถ้าเขาชอบใคร เขาก็จะพูดดี อันนี้ผมทราบเพราะน้องคนหนึ่งที่เพิ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ก็ทำงานไม่ค่อยดี (มาสาย ขโมยเงิน โดนใบเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรหลายครั้ง ฯลฯ) แต่น้องเป็นเพื่อนกับฝ่ายบุคคลมาก่อน ตอนที่น้องมาพูดกับผมเรื่องลาออก เขาก็บอกว่าเขาไม่เครียดเรื่องหางานใหม่ เพราะฝ่ายบุคคลบอกว่าจะไม่จดประวัติของน้องเพื่อที่น้องจะได้หางานใหม่ง่ายขึ้น และถ้ามีใครโทรมาถามก็จะบอกว่าน้องขยัน และทำงานดี แต่ออกด้วยปัญหาครอบครัว หรือเพื่อนอีกท่านของฝ่ายบุคคลที่รู้จักกันกับผม (ผมแนะนำให้มาทำงานที่นี่ แต่หลังๆเขาไปสนิทกับฝ่ายบุคคล) ก็มาทำงานสาย หรือเมาค้างจนไม่มาทำงาน แอบหลับในเวลางาน ก็ไม่เคยโดนลงโทษ ทั้งๆที่พนงหลายท่านเป็นพยาน เพื่อนๆพันทิปน่าจะพอเข้าใจอยู่ว่าผมกังวลอะไร และเรามีสิทธิเรียกร้องหรือป้องกันอะไรในส่วนนี้หรือไม่ ?
3. มีคำแนะนำ หรือคำปลอบใจไหมครับ ? T_T
ผมค่อนข้างกังวล เพราะสายงานที่แฟนผมทำค่อนข้างที่จะหาตำแหน่งใหม่ยาก (มีข้อจำกัดหลายอย่าง) แถมเป็นวงการที่ผู้คนรู้จักกันดี และด้วยภาระค่าใช้จ่าย มันจะดีกว่าถ้าเราสองคนมีงานทำทั้งคู่ ตอนนี้เครียดทั้งสองคนเลยครับ ผมเองก็อยากลาออกเพราะตกใจกับการบริหารงานแบบเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งจากคนที่ผมเคยเคารพมากๆ แต่ก็ไม่สามารถลาออกได้ไม่งั้นคงกินแกลบทั้งคู่
ทั้งหมดทั้งมวลนี่เป็นเพราะหัวหน้าโกรธที่แฟนผมร้องเรียนเข้าสำนักงานใหญ่ ทำให้เขาเสียหน้าแท้ๆ