Day 0 Tibetหลังคาโลก กว่าจะมาถึง
http://pantip.com/topic/34683393
Day 1 Tibetหลังคาโลก Landingซะที
http://pantip.com/topic/35206799
Day2 Lhasa จริงจังวันแรก ( Potala palace , Jokrang Temple , Bakhor street )
http://pantip.com/topic/35342801
Day3 Lhasa รอบนอก (Drepung , Norbulinga park ,Sera Monestery )
http://pantip.com/topic/35349123
Day4 Lhasa - Nyinghi
http://pantip.com/topic/35356357
Day5 Nyingchi-Cypress King garden -Basomtso lake
http://pantip.com/topic/35357493
Day6 Basomtso lake - Lhasa
http://pantip.com/topic/35361292
Day7 Lhasa - Yamdrok Lake -Palkhor Monestery -Shigatze
http://pantip.com/topic/35365905
Day8 Shigatze - Tashihunpo Monestery- Lhasa
http://pantip.com/topic/35366937
Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline
http://pantip.com/topic/35371426




วันนี้ตื่นมาสดชื่นขึ้น เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น เรายังทานdiamoxกันอยู่ มีก็แต่อากาศมันแห้งมาก เมื่อคืนนอนต้องเอาtissue จุ่มน้ำมาอังที่จมูก ก็ช่วยได้นิดนึง นิดจริงๆ

จากโรงแรมเราจะเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อไป Drepung Monesteryก่อน แค่8กิโลเมตรจากdowntown lhasa ถ้ามาtaxi จะสามารถส่งเราถึงประตูทางเข้าวัดได้ แต่ถ้านั่งรถบัส เบอร์24,25 จะต้องมาลงที่เท้า(ตีน)เขาแล้วเดินขึ้นไปใช้เวลาอีก30นาทีไต่ขึ้นไปที่วัด

หลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย เราก็เดินขึ้นเขาไป เพราะวัดนี้ตั้งอยู่บนเขา Gambo Utse สูง3800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นหนึ่งในGelukpa Monesteryของทิเบต นอกเหนือจากGanden และ Sera monestery
ที่นี่สมัยรุ่งเรืองเคยมีพระสงฆ์มาเล่าเรียนพุทธศาสนาถึง 1000 คนปัจจุบันเหลือไม่ถึง400คน สร้างขึ้นในปี 1416 โดย Jamyang Chojey ศิษย์เอกของ Tsongkhapa ผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกาย Geluh องค์ดาไล ลามะที่ 1-4 ได้อยู่ที่นี่ แต่เมือPotala สร้างเสร็จ องค์ที่5ก็ย้ายไปพำนักที่Potala palaceต้งแต่นั้นมา

บนเขาก่อนที่เราจะเดินขึ้นวัด จะมีภาพวาดของ Tsongkhapa กับ Jamyang Chojey

อันนี้เป็นภาพวาดหนึ่งในแปดสิ่งมงคลของทิเบต

อันนี้เป็นคล้ายบทสวดมนต์สั้นๆของชาวทิเบต อ่านว่า โอม มะนี ปัท เม โฮม แปลว่า อะไรไปอ่านได้ที่
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2012/06/Y12276624/Y12276624.html
จากนั้นเราก็เดินต่อ

สูงขนาดไหนดูเอา

หลังจากดูห้องหับต่างๆที่ใช้สอนหมู่พระสงฆ์แล้วเราก็เดินกลับลงมาอีกทาง

ตอนขึ้นเราเดินมาจากทางข้างหน้าที่เป็นบันได เดินวนตามเข็มนาฬิกาและก็ลงมาทางที่เรายืนอยู่นี่ เพื่อไปจุดหมายถัดไป Norbulingka parkซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนห่างไปแค่ 5กิโลเมตร Norbulingka parkเป็นที่ตั้งของพระราชวังฤดูร้อน เริ่มสร้างในปีพ.ศ.1755 และได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี2011 ถ้านั่งรถบัส จะมีสาย 2,14,24มาลง Norbulingka park ที่นี่มีอาณาบริเวณราว360,000 ตารางเมตร มีห้องหับกว่า374ห้อง นับรวมพระราชวังตั้งแต่ขององค์ดาไล ลามะที่ 7-14

เนื่องจากเริ่มแรกองค์ดาไล ลามะที่7 ชื่นชอบบริเวณนี้โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน เลยดำริให้สร้างพระราชวังฤดูร้อนขึ้นที่นี่ และองค์ดาไล ลามะองค์ถัดๆมาต่างก็สร้างพระราชวังของตัวเองขึ้นบนเนื้อที่มากมายนี้ โดยพระราชวังของแต่ละองค์ลามะ จะประกอบด้วยตัวพระราชวัง สวนรอบพระราชวังและพื้นที่หน้าพระราชวัง เพราะจะเป็นที่องค์ลามะจะประทับบนพระราชวังและมองการแสดงของประชาชนบนลานหน้าพระราชวัง
ค่าเข้าชมที่นี่แค่60 RMB พระราชวังขององค์ที่14จะดูอลังการกว่าองค์อื่นๆ หลังจากเดินดูพระราชวังของแต่ละองค์ดาไล ลามะครบ เราก็ไปทานอาหารเที่ยงก่อนที่จะไปวัด Sera monesteryในตอนบ่ายต่อไป

สำหรบคนที่จะมาsera monestery สามารถนั่งรถบัสสาย 6,16,24 จากป้ายรถบัสแถวจัตุรัสใกล้Jokrang templeได้ โดยสาย16จะวิ่งระหว่าง Drepung กับ Sera monestery ที่นี่สร้างโดยลูกศิษย์ของTsongkhapa ในปี1419และเสร็จสมบูรณ์ในปี1434

ปีกทางทิศตะวันออกจะเป็น Assembly hall ส่วนซีกทิศตะวันตกจะเป็นที่สำหรับสอนพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์ที่มาที่นี่ เคยมีพระสงฆ์สูงสุดที่นี่เกือบ9000คน
ที่ต้องมาเพราะที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องการ debate ซึ่งจะเป็นการถกความรู้ทางพุทธศาสนาและปรัชญาต่างๆ โดยการตั้งและตอบคำถามจะมีการแบ่งพระตามสมณศักดิ์ออกเป็นสองฝ่ายฝ่ายหนึ่งถาม อีกฝายตอบ จะมีการDebateทุกวันตั้งแต่ 15:00 น.ยกเว้นวันอาทิตย์และวันที่มีเทศกาลสำคัญๆ เป็นเรื่องเศร้าที่เราไปตรงกับวันอาทิตย์ เราเลยต้องcommentไปกับบริษัทว่า เหตุไฉนไม่ให้เรามาเมื่อวานแล้วสลับไปPotala วันนี้ ทีหลังอย่าทำ ประโยคหลังนี่คิดในใจ
เสร็จจากที่นี่ก็จบโปรแกรมเราในวันนี้ คุณดีเจส่งกลุ่มเรากลับที่พักเรียบร้อย แต่พวกเรายังมีแรงฮึกเหิม เลยให้เวลาพักผ่อน10นาทีจากนั้นลงมารวมพลเพื่อไปเดินเล่นกัน

พอออกจากโรงแรมแทนที่เราจะไปทางซ้ายอย่างทุกที คือทางไปBakhor street เราจะไปทางขวา

แล้วก็เดินเตลิดไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำลาซา

เดินกันจนมืด และที่สำคัญหิวตาลาย เดินมาเจอร้านDico's ขายไก่คล้าย KFC แต่ไก่อวบกว่าKFCเยอะ

เราไม่มีแก่ใจดูอะไรอีกจนทานกันอิ่มออกมานอกร้านก็พอดีเห็นพระราชวัง Potala ยามค่ำคืน ถ่ายรูปจนพอใจก็เดินตามแผนที่ จาก app maps me ที่สมาชิกLoad แผนที่เมืองลาซา ขึ้นรถเมล์กลับโรงแรม วันนี้ก็จบไปอีกวันที่ลาซา คืนนี้ต้องแพคกระเป๋าใบเล็กเพื่อไปค้างที่Nyingchi ( Linchi )ส่วนใบใหญ่เราจะฝากที่โรงแรมไว้






[CR] Day 3 Lhasa รอบนอก ( Drepung Monestery, Norbulingka park, Sera Monestery )
Day 1 Tibetหลังคาโลก Landingซะที http://pantip.com/topic/35206799
Day2 Lhasa จริงจังวันแรก ( Potala palace , Jokrang Temple , Bakhor street )http://pantip.com/topic/35342801
Day3 Lhasa รอบนอก (Drepung , Norbulinga park ,Sera Monestery ) http://pantip.com/topic/35349123
Day4 Lhasa - Nyinghi http://pantip.com/topic/35356357
Day5 Nyingchi-Cypress King garden -Basomtso lake http://pantip.com/topic/35357493
Day6 Basomtso lake - Lhasa http://pantip.com/topic/35361292
Day7 Lhasa - Yamdrok Lake -Palkhor Monestery -Shigatze http://pantip.com/topic/35365905
Day8 Shigatze - Tashihunpo Monestery- Lhasa http://pantip.com/topic/35366937
Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline http://pantip.com/topic/35371426
วันนี้ตื่นมาสดชื่นขึ้น เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น เรายังทานdiamoxกันอยู่ มีก็แต่อากาศมันแห้งมาก เมื่อคืนนอนต้องเอาtissue จุ่มน้ำมาอังที่จมูก ก็ช่วยได้นิดนึง นิดจริงๆ
จากโรงแรมเราจะเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อไป Drepung Monesteryก่อน แค่8กิโลเมตรจากdowntown lhasa ถ้ามาtaxi จะสามารถส่งเราถึงประตูทางเข้าวัดได้ แต่ถ้านั่งรถบัส เบอร์24,25 จะต้องมาลงที่เท้า(ตีน)เขาแล้วเดินขึ้นไปใช้เวลาอีก30นาทีไต่ขึ้นไปที่วัด
หลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย เราก็เดินขึ้นเขาไป เพราะวัดนี้ตั้งอยู่บนเขา Gambo Utse สูง3800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นหนึ่งในGelukpa Monesteryของทิเบต นอกเหนือจากGanden และ Sera monestery
ที่นี่สมัยรุ่งเรืองเคยมีพระสงฆ์มาเล่าเรียนพุทธศาสนาถึง 1000 คนปัจจุบันเหลือไม่ถึง400คน สร้างขึ้นในปี 1416 โดย Jamyang Chojey ศิษย์เอกของ Tsongkhapa ผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกาย Geluh องค์ดาไล ลามะที่ 1-4 ได้อยู่ที่นี่ แต่เมือPotala สร้างเสร็จ องค์ที่5ก็ย้ายไปพำนักที่Potala palaceต้งแต่นั้นมา
บนเขาก่อนที่เราจะเดินขึ้นวัด จะมีภาพวาดของ Tsongkhapa กับ Jamyang Chojey
อันนี้เป็นภาพวาดหนึ่งในแปดสิ่งมงคลของทิเบต
อันนี้เป็นคล้ายบทสวดมนต์สั้นๆของชาวทิเบต อ่านว่า โอม มะนี ปัท เม โฮม แปลว่า อะไรไปอ่านได้ที่ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2012/06/Y12276624/Y12276624.html
จากนั้นเราก็เดินต่อ
สูงขนาดไหนดูเอา
หลังจากดูห้องหับต่างๆที่ใช้สอนหมู่พระสงฆ์แล้วเราก็เดินกลับลงมาอีกทาง
ตอนขึ้นเราเดินมาจากทางข้างหน้าที่เป็นบันได เดินวนตามเข็มนาฬิกาและก็ลงมาทางที่เรายืนอยู่นี่ เพื่อไปจุดหมายถัดไป Norbulingka parkซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนห่างไปแค่ 5กิโลเมตร Norbulingka parkเป็นที่ตั้งของพระราชวังฤดูร้อน เริ่มสร้างในปีพ.ศ.1755 และได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี2011 ถ้านั่งรถบัส จะมีสาย 2,14,24มาลง Norbulingka park ที่นี่มีอาณาบริเวณราว360,000 ตารางเมตร มีห้องหับกว่า374ห้อง นับรวมพระราชวังตั้งแต่ขององค์ดาไล ลามะที่ 7-14
เนื่องจากเริ่มแรกองค์ดาไล ลามะที่7 ชื่นชอบบริเวณนี้โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน เลยดำริให้สร้างพระราชวังฤดูร้อนขึ้นที่นี่ และองค์ดาไล ลามะองค์ถัดๆมาต่างก็สร้างพระราชวังของตัวเองขึ้นบนเนื้อที่มากมายนี้ โดยพระราชวังของแต่ละองค์ลามะ จะประกอบด้วยตัวพระราชวัง สวนรอบพระราชวังและพื้นที่หน้าพระราชวัง เพราะจะเป็นที่องค์ลามะจะประทับบนพระราชวังและมองการแสดงของประชาชนบนลานหน้าพระราชวัง
ค่าเข้าชมที่นี่แค่60 RMB พระราชวังขององค์ที่14จะดูอลังการกว่าองค์อื่นๆ หลังจากเดินดูพระราชวังของแต่ละองค์ดาไล ลามะครบ เราก็ไปทานอาหารเที่ยงก่อนที่จะไปวัด Sera monesteryในตอนบ่ายต่อไป
สำหรบคนที่จะมาsera monestery สามารถนั่งรถบัสสาย 6,16,24 จากป้ายรถบัสแถวจัตุรัสใกล้Jokrang templeได้ โดยสาย16จะวิ่งระหว่าง Drepung กับ Sera monestery ที่นี่สร้างโดยลูกศิษย์ของTsongkhapa ในปี1419และเสร็จสมบูรณ์ในปี1434
ปีกทางทิศตะวันออกจะเป็น Assembly hall ส่วนซีกทิศตะวันตกจะเป็นที่สำหรับสอนพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์ที่มาที่นี่ เคยมีพระสงฆ์สูงสุดที่นี่เกือบ9000คน
ที่ต้องมาเพราะที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องการ debate ซึ่งจะเป็นการถกความรู้ทางพุทธศาสนาและปรัชญาต่างๆ โดยการตั้งและตอบคำถามจะมีการแบ่งพระตามสมณศักดิ์ออกเป็นสองฝ่ายฝ่ายหนึ่งถาม อีกฝายตอบ จะมีการDebateทุกวันตั้งแต่ 15:00 น.ยกเว้นวันอาทิตย์และวันที่มีเทศกาลสำคัญๆ เป็นเรื่องเศร้าที่เราไปตรงกับวันอาทิตย์ เราเลยต้องcommentไปกับบริษัทว่า เหตุไฉนไม่ให้เรามาเมื่อวานแล้วสลับไปPotala วันนี้ ทีหลังอย่าทำ ประโยคหลังนี่คิดในใจ
เสร็จจากที่นี่ก็จบโปรแกรมเราในวันนี้ คุณดีเจส่งกลุ่มเรากลับที่พักเรียบร้อย แต่พวกเรายังมีแรงฮึกเหิม เลยให้เวลาพักผ่อน10นาทีจากนั้นลงมารวมพลเพื่อไปเดินเล่นกัน
พอออกจากโรงแรมแทนที่เราจะไปทางซ้ายอย่างทุกที คือทางไปBakhor street เราจะไปทางขวา
แล้วก็เดินเตลิดไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำลาซา
เดินกันจนมืด และที่สำคัญหิวตาลาย เดินมาเจอร้านDico's ขายไก่คล้าย KFC แต่ไก่อวบกว่าKFCเยอะ
เราไม่มีแก่ใจดูอะไรอีกจนทานกันอิ่มออกมานอกร้านก็พอดีเห็นพระราชวัง Potala ยามค่ำคืน ถ่ายรูปจนพอใจก็เดินตามแผนที่ จาก app maps me ที่สมาชิกLoad แผนที่เมืองลาซา ขึ้นรถเมล์กลับโรงแรม วันนี้ก็จบไปอีกวันที่ลาซา คืนนี้ต้องแพคกระเป๋าใบเล็กเพื่อไปค้างที่Nyingchi ( Linchi )ส่วนใบใหญ่เราจะฝากที่โรงแรมไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น