

Day 0 Tibetหลังคาโลก กว่าจะมาถึง ตอน 1
ตั้งใจไว้นานแล้วว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าในอาชีพไต่ไม่สุด ก็ขอไปยังที่ที่เค้าเรียกว่าหลังคาโลกซักครั้ง ข้ออ้างๆๆๆไม่ได้เกี่ยวกันเท่าไหร่หรอก ถ้าถามว่าแล้วไมไม่ไปปีนหลังคาคอนโดสูงๆ คำตอบชัดเจนกลัวความสูงกับกลัวหลังหักเผื่อจับพลัดจับผลูตกลงมา แล้วก็ไม่รู้ว่าจะปีนไปเพื่อสิ่งใด....พอน้องๆที่ทำงานตั้งlineกลุ่มทิเบต2016และinviteเข้ากลุ่มเบ็ดเสร็จ8ชีวิตด้วยกัน ลางสังหรณ์เรื่มปรากฏว่าจะมีงานเตรียมจัดtripเข้ามาแหงมๆ เพราะรอพักใหญ่ๆก็ยังเงียบๆกันกำลังจะหมดปี2015เข้าปี2016 ด้วยความที่กลัวว่าอายุขัยจะเลยวัยไต่ที่สูงได้อย่างปลอดภัย เลยเริ่มต้นถามไถ่เวลาที่จะว่างตรงกันจะได้เล็งๆตั๋วเครื่องบินและวางแผนกะเวลาทำวีซ่า เนื่องจากทำงานที่เดียวกันและมีแนวโน้มว่าน้ำจะขาดแคลนช่วงสงกรานต์จะใช้น้ำสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้เกรงว่าจะเกรียมคาบ้าน เลยสรุปว่าหนีร้อนไปช่วงสงกรานต์กันดีกว่า เลื่อนวันไปมาเพื่อให้ทุกคนสับหลีกเวรยามตารางทำงานให้ลงตัว จากนั้นก็เริ่มเล็งตั๋วเครื่องบิน แน่นอนcheaptickets ยังเป็นที่พึ่งเราได้เสมอยามที่การบินไทยรักคุณเท่าฟ้าไม่สามารถไปlandingที่หมายของเราได้ ปรากฏว่าเราได้ตั๋วสายการบิน Xiamen airlines ถูกสุด 14500บาทจากสุวรรณภูมิไปลาซา ( BKK-LXA ) ราคาตั๋วไปกลับก็ไม่ขี้ริ้วนะราคานี้ อยากบอกว่าทริปนี้ต้องระวังคำพูดกันเลยเป็นยังไงจะค่อยๆบอกกันไปนะ การไปทิเบตไปได้จากหลายทางทั้งจีน ทั้งเนปาล เราเลือกไปทางจีน และคิดว่าบินไปถึงทิเบตดีกว่าไปทางรถไฟ แล้วไปตั้งต้นที่ลาซา ( Lhasa ) เพราะเราจะเอาที่นี่เป็นhubหลังจากกลับจากแต่ละทิศของลาซา อีกเหตุผลคือสมาชิกในกลุ่มค่อนข้างกังวลกับเรื่องaltitude sickness เพราะทิเบตอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่2500เมตรขึ้นไปบางแห่งก็สูงถึง 5000กว่าเมตร ถ้านั่งรถไฟบางช่วงไต่ระดับไปถึง5000กว่าเมตร เกรงว่าสมาชิกบางคนปรับตัวกับที่สูงได้ไม่ดี แล้วยังมาเมารถไฟ จะเปลี่ยนเส้นทางก็คงลำบากต้องทนมึนในรถไฟไปกว่าจะถึงคงทรมานน่าดู เลยตัดสินใจบินลงลาซาดีกว่าเพื่อให้สมาชิกได้ค่อยๆปรับตัวในที่ที่สูงไม่มากนัก แต่ก่อนหน้าจะบินสามวันก็บังคับแกมขู่และขอร้องให้สมาชิกกินยา Diamox (acetazolamide )1เม็ดเช้าและ1เม็ดเย็นรับประทาน3วันก่อนถึงที่หมาย ยานี้ปกติใช้รักษาต้อหินเพื่อลดความดันลูกตา แต่ก็ใช้เพื่อป้องกันAltitude sickness จากการไปอยู่ในที่สูงๆ2500 –3000เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป อันนี้ย้ำเลยอย่าลองของเพราะไม่คุ้มกับอาการคลื่นเหียน ปวดหัวตอนจะเที่ยวเทียบกับผลข้างเคียงเล็กๆน้อยจากการกินยา จำพวกชาๆหน้าหรือปลายมือปลายเท้าซึ่งเป็นไม่นาน บางคนอาจรู้สึกฉี่เยอะหน่อย เนื่องจากการไปทิเบตเราต้องขอpermitในการเข้าทิเบต และการขอTibet permit ก็ต้องใช้visaจีนไปขอ ใครที่คิดว่าขอวีซ่าจีนชิวๆ4-5วันได้ ถ้าจ่ายแบบเร่งด่วนวันเดียวได้ คิดผิดนะจ๊ะ (ศึกษาการขอวีซ่าจีนและdownloadแบบฟอร์มการขอวีซ่าจีนได้ที่
http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/qzxk/t1043517.htm )ทันทีที่สถานกงศุลเห็นตั๋วเครื่องบินปลายทางเราที่ลาซาหรือทิเบตความยุ่งยากก็มาเยือนทันที คำถามมาเป็นชุด ไปทำไม ทำไมอยากไป บราๆๆๆ พร้อมตบท้ายก่อนลาจากว่า เราไม่รับประกันว่าจะได้วีซ่าจีนนะ และไม่รับประกันเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน โรงแรมและค่าท่องเที่ยวนะ อึ้งไป5วิ กลับมาสงบจิตตั้งหลักที่บ้านและline แจ้งความคืบหน้ากับสมาชิก จริงๆก่อนหน้านั้นหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวทิเบตหลายเล่มก็ย้ำว่าอย่าบอกกงศุลว่าเราจะไปทิเบต เพราะจะมีปัญหาเรื่องการขอวีซ่าจีน แต่เราคิดตามเหตุผล ในเมื่อการเข้าทิเบตต้องการวีซ่าจีนเพื่อทำpermit เราก็ขอวีซ่าจีน แล้วการขอวีซ่าจีนเราก็คิดว่าทำอะไรให้มันโปร่งใสน่าจะดีกว่า ไปไหนทำอะไรก็บอกไปตรงๆอีกอย่างตั๋วเราจองBooking codeมันมีdestinationที่Lhasa ถ้าตัดตอนprintเฉพาะที่บินลงแค่xiamenไปยื่นก็น่าจะได้ แต่เราก็เกรงว่าเกิดกงสุลเช็คbooking codeนี้เจอfinal destinationที่ทิเบตนี่คงถูกปฏิเสธวีซ่าแน่นอนหมดสิทธิ์ลุ้นแถมเสียประวัติอีกต่างหาก ความตั้งใจดีน่าจะทำให้เราได้ไปนะ หลังจากไปยื่นได้สองวันก็ได้รับโทรศัพท์จากท่านกงสุลบอกกับเราว่าให้บอกบริษัททัวร์ที่ทิเบตให้ส่งเอกสารรับรองของบริษัทที่ประทับตราโดยการท่องเที่ยวทิเบต ลืมบอกไปว่าเราไปกันเองแต่ไปซื้อทัวร์ที่ทิเบต เนื่องจากเพื่อนที่เคยไปบอกว่าจะไปซื้อตั๋วเข้าPotala palaceต้องไปรอซื้อตั๋วซึ่งมีจำกัดไป2วันถึงจะได้เข้า เราไม่อยากเสียเวลาบวกกับเผื่อไว้ว่าเกิดใครมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจะได้มีตัวช่วยซึ่งคิดถูกเพราะคนส่วนใหญ่ที่เราเจอไม่พูดอังกฤษซักเท่าไหร่พูดจีนกลางทั้งนั้น นับว่าโชคดีที่ก่อนหน้านั้นเรามีบริษัทที่เป็นหลักแหล่งปลายทางยืนยันว่าเราไปเที่ยวกันจริง จนวันนี้ยังสงสัยว่าพวกเรา8ชีวิตจะไปก่อจลาจลหรือปลุกม๊อบอะไรในทิเบตได้นะ เข้าเรื่องต่อหลังจากวางสายรีบemailบอกMr.Wang (ขอเรียกคุณหวังจะได้ไม่ต้องสลับแป้นพิมพ์ไปมา) คณหวังรีบส่งใบอนุญาตให้ดำเนินการท่องเที่ยวในทิเบตรับรองโดยการท่องเที่ยวทิเบตมาให้ เรารีบพิมพ์และไปส่งสถานทูต กลับได้คำตอบว่าไม่ใช่ emailไปถามคุณหวัง คุณหวังก็บอกว่าอันนี้มีตราประทับของการท่องเที่ยวทิเบตเลยนะ พร้อมกับส่งมาใหม่ชัดกว่าเดิมซึ่งก็ยังไม่ใช่สิ่งที่สถานกงสุลต้องการ ระหว่างนี้เราเริ่มมีปุจฉาว่าหรือบริษัทที่เราดีลด้วยนี่มันเชื่อถือไม่ได้ เราเลยย้อนกลับไปemailถามอีกบริษัทที่เราดีลด้วยชื่อMr.Derekขอเรียกคุณดิเรก(แต่เทียบเคียงราคาและจัดที่เที่ยวตามที่เราต้องการไม่ลงตัวเท่าคุณหวังเราเลยเลือกบริษัทคุณหวังแทน)ทันทีที่เราบอกคุณดิเรกว่าเราจะขอวีซ่าจีนเค้าต้องการเอกสารจากการท่องเที่ยวทิเบตมันคืออะไรและเราต้องส่งอะไรไปให้ ก็ได้คำตอบว่าเค้าต้องขอinvitation letterที่มีรายชื่อพวกเราไปให้การท่องเที่ยวทิเบตออกให้ซึ่งจะออกให้ปลายๆมีนาคม เราเลยตั้งใจว่าถ้าบริษัทคุณหวังทำไม่ได้เราจะเปลี่ยนมาใช้บริษัทคุณดิเรกแทน อย่างน้อยก็ช่วยเราไม่ต้องไปเจอบริษัทว่างเปล่าทีทิเบต(จริงๆเรามัดจำไปตั้งแต่ปลายปี2015แล้วภายใต้เงื่อนไขถ้าวีซ่าจีนทำไม่ได้เค้าคืนเงิน100%ไม่โกงใครคงไม่โดนโกงหรอก คิดเข้าข้างตัวเองตอนจะโอนมัดจำผ่านpaypal)กลับไปที่คุณหวังหลังจากพกฉบับชัดเจนขึ้นไปยื่นก็ได้คำตอบว่าไม่ใช่เอกสารที่กงศุลต้องการ เราขอร้องให้เค้าเขียนมาให้เราเลยได้มั้ยว่าชื่อเอกสารอะไรจะได้บอกบริษัทได้ถูก และได้ประโยคเด็ดกลับมาว่าบริษัทควรจะรู้ว่าเค้าจะต้องส่งเอกสารอะไรมาให้พวกคุณยื่นประกอบการขอวีซ่าจีนเลยหนีบประโยคกลับไปบอกคุณหวังConsul told me that legal company must know what document should request from Tibet Tourist Bureau for our group.จริงๆอยากบอกไปว่าขอinvitation letterแต่ขอตรวจสอบความเป็นบริษัทที่ถูกต้องเลยบอกไปตามที่ได้รับคำบอกเล่ามาได้ผลคุณหวังขอเลขpassportวันเดือนปีเกิดอาชีพและชื่อสกุลไป วันรุ่งขื้นสายๆเราก็ได้ invitation letterมาจากคุณหวังนึกว่าคงจบ ยังๆอุปสรรคยังไม่จบสิ้น


เนื่องจากเราขอวีซ่ากันที่สถานกงสุลต่างจังหวัดขอไม่พาดพิงจังหวัดไหนในinvitation letterเขียนให้ยื่นที่บางกอกแถมยังสะกดTAILANDให้ปวดตับอีก เจ้าหน้าที่ที่รับเอกสารคงสงสารเลยแอบเอาจดหมายที่มีชื่อสถานกงสุลประจำจังหวัดที่ถูกต้องให้เราเพื่อไปแก้ไข พอส่งไปให้คุณหวังก็มีเรื่องตื่นเต้นอีกเพราะใกล้ตรุษจีน ทั้งสถานกงสุลที่ไทยและการท่องเที่ยวทิเบตจะปิดยาวหลายวัน คุณหวังบอกเราว่าจะพยายามให้เพื่อนที่ลาซาเปลี่ยนให้เรียบร้อยก่อนวันหยุดยาว เรารออยู่สองวันเช้าวันพฤหัสเราก็ได้รับinvitation letter แต่ยังมีลุ้น เพราะทางทิเบตไม่ตัดBangkok,Kingdom of Tailand ออก แต่เพิ่มสถานกงสุลในจังหวัดต่อท้ายแทน เข้าใจว่าทางทิเบตก็คงไม่กล้าตัดKingdom of Tailandออกเพราะจังหวัดที่เราไปยื่นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่ากลุ่มเราเป็นกลุ่มแรกที่มาขอไปทิเบต ด้วยเวลามีน้อยเลยขอยื่นทั้งที่มีTailandคาตับอยู่ ปัญหาที่ตามมาอีกคือในItineraryที่บริษัทให้มาสถานที่สะกดไม่เหมือนกับคำอ่านที่เขียนในinvitation letter เช่น ShigatzeกับRikaze,Basomtso LakeกับBasongcuoอีกทั้งชื่อบริษัทในInvitation letter กับในitineraryก็ไม่ตรงกัน อันนี้ยอมรับได้เพราะอาจเป็นบริษัทแม่กับลูกได้ ถ้าบริษัทดำเนินการเอาหนังสือจากการท่องเที่ยวทิเบตได้รวดเร็วแบบนี้ถือว่าคุณหวังผ่านความไว้วางใจ ส่วนสถานที่เราเคยเอะใจถามไปก่อนหน้าที่กงสุลจะทักมาแล้วก็ได้ความว่ามันคือที่เดียวกัน ดังนั้นปัญหาข้อสุดท้ายแก้ไม่ยาก เราเลยบอกคุณหวังให้เอาชื่อบริษัทตามในinvitation letterไปใส่แทน และเอาชื่อสถานที่ไปวงเล็บต่อท้ายสถานที่เที่ยวในitineraryที่สอดคล้องกัน เนื่องจากเราแวะไปกงสุลเช้าเลยรีบemailบอกคุณหวังสายๆคุณหวังก็แก้ทุกอย่างตามที่เราบอก บ่ายๆก็แวะไปส่งที่สถานกงสุลอีกรอบ ครั้งนี้โล่งอกไม่มีการบ้านให้แก้อีกเหลือแต่รอรอและรอ ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ยังไม่มีเสียงตอบรับจากสถานกงสุลซึ่งโดยปกติใช้เวลา4-5วัน ปัญหาอีกอันที่กำลังจะตามมา สมาชิกบางคนจำเป็นต้องเอาpassportไปทำvisaไต้หวันบ้างScotlandบ้าง สวดมนต์ทุกวันตั้งจิตอธิษฐานกะว่าศุกร์ที่จะถึงถ้ายังไม่มีเสียงตอบรับจะโผล่ไปแสดงความยุ่งยากขอเอาpassportออกมาเที่ยวที่อื่นก่อน วันพฤหัสสายๆมีเสียงโทรศัพท์จากกงสุลโทรมาว่ายังไม่มีข่าวความคืบหน้าจะเอาpassportไปทำอะไรก่อนมั้ย ใกล้ๆทราบผลหรือเสร็จธุระค่อยเอามาให้ใหม่ เราเลยไปเอาpassportทั้งกลุ่มออกมาก่อน หลังจากพวกเราใช้passportไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆเรียบร้อยก็เอาไปฝากไว้ที่สถานกงสุลดังเดิม ติ๊กต๊อกๆๆๆ เราไปยื่น18มกราคม2016 2เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก เวลาก็จวนเจียนแล้วความกังวลเริ่มครอบงำจะได้ไปมั้ยน้อ ทุกคนเจอหน้าในที่ทำงานก็ถาม พี่มีข่าวอะไรมั้ย สวดมนต์ชุดใหญ่อีกครั้งไม่รู้ว่าจะช่วยวีซ่าผ่านหรือไม่ผ่านนะ แต่ช่วยไม่ให้ฟุ้งซ่านได้เยอะ5555 และแล้วเช้าวันหนึ่งมีสายโทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามารับpassportทั้งกลุ่มและมาชำระค่าทำวีซ่าได้แล้ว ยิปปี้...พอไปถึงหลังจากตรวจชื่อนามสกุลในวีซ่าเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ย้ำกับเราว่าดูดีๆนะถึงแม้วีซ่าจะออกให้สิ้นสุดที่เดือนพฤษภาคม อีก1เดือนหลังจากวันเดินทางกลับแต่วีซ่านี้อนุมัติให้อยู่ไม่เกิน11วันนับจากวันที่เหยียบจีนผืนแผ่นดินใหญ่นั่นแปลว่านับจากวันบินไปถึงและวันที่บินกลับจากXiamenเราไม่คิดอะไรมากกับคำเตือนของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างที่บอกอะไรที่มีใครทักมักมีเรื่องให้มึนตามมา จะค่อยเล่าให้ฟังตอนหลัง(ถ้ายังติดตามกันอยู่)เรารีบถ่ายหน้าวีซ่าจีนของทุกคนพร้อมทั้งใบรับรองการทำงานที่เตรียมไว้ตั้งแต่ขอวีซ่าจีนให้คุณหวังไปเพื่อทำTibet permitซึ่งคุณหวังก็จัดการโดยเร็วเรากะจะไปพักที่xiamen1คืนเพราะflightเราถึงประมาณสี่ทุ่มคุณหวังเลยจะเอาPermitของกลุ่มเราไปฝากที่โรงแรมให้ โดยไม่ลืมemailสำเนามาให้เราด้วย1ชุด เมื่อpermitผ่านหมดเรียบร้อย คุณหวังจึงมาแจ้งกับเราว่ากลุ่มเราต้องเดินทางพร้อมกันห้ามแตกกลุ่มแยกไปเที่ยวที่อื่น และขอเก็บค่าทัวร์ก่อนสุดท้ายเป็นเงินสดตอนรับเราที่สนามบิน เพราะถ้าจ่ายส่วนที่เหลือผ่านpaypal เค้าจะโดนหักค่าธรรมเนียม เค้าขอเอาค่าธรรมเนียมมาชดเชยค่าวิ่งเต้นที่เค้าไปวิ่งที่การท่องเที่ยวทิเบตเพื่อให้เราได้invitation letterแบบเร่งด่วน ซึ่งเราไม่เสียอะไรเพิ่มอยู่แล้วก็ OKแถมเราคำนวณเงินที่ต้องจ่ายที่เหลือให้คุณหวังเกินไปคุณหวังยังท้วงติงกลับมาคือดีงามเลย ใครอยากไปแบบหาlocal tourที่ทิเบตหลังไมค์ได้ค่ะ ที่หมดพอดีเรื่องตื่นเต้นก่อนถึงทิเบตยังไม่หมดง่ายๆ แต่ที่หมดแล้วซิ 10000อักษร ยกยอดแล้วกัน
[CR] Day 0 Tibet ตื่นเต้นๆ
Day 0 Tibetหลังคาโลก กว่าจะมาถึง ตอน 1
ตั้งใจไว้นานแล้วว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าในอาชีพไต่ไม่สุด ก็ขอไปยังที่ที่เค้าเรียกว่าหลังคาโลกซักครั้ง ข้ออ้างๆๆๆไม่ได้เกี่ยวกันเท่าไหร่หรอก ถ้าถามว่าแล้วไมไม่ไปปีนหลังคาคอนโดสูงๆ คำตอบชัดเจนกลัวความสูงกับกลัวหลังหักเผื่อจับพลัดจับผลูตกลงมา แล้วก็ไม่รู้ว่าจะปีนไปเพื่อสิ่งใด....พอน้องๆที่ทำงานตั้งlineกลุ่มทิเบต2016และinviteเข้ากลุ่มเบ็ดเสร็จ8ชีวิตด้วยกัน ลางสังหรณ์เรื่มปรากฏว่าจะมีงานเตรียมจัดtripเข้ามาแหงมๆ เพราะรอพักใหญ่ๆก็ยังเงียบๆกันกำลังจะหมดปี2015เข้าปี2016 ด้วยความที่กลัวว่าอายุขัยจะเลยวัยไต่ที่สูงได้อย่างปลอดภัย เลยเริ่มต้นถามไถ่เวลาที่จะว่างตรงกันจะได้เล็งๆตั๋วเครื่องบินและวางแผนกะเวลาทำวีซ่า เนื่องจากทำงานที่เดียวกันและมีแนวโน้มว่าน้ำจะขาดแคลนช่วงสงกรานต์จะใช้น้ำสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้เกรงว่าจะเกรียมคาบ้าน เลยสรุปว่าหนีร้อนไปช่วงสงกรานต์กันดีกว่า เลื่อนวันไปมาเพื่อให้ทุกคนสับหลีกเวรยามตารางทำงานให้ลงตัว จากนั้นก็เริ่มเล็งตั๋วเครื่องบิน แน่นอนcheaptickets ยังเป็นที่พึ่งเราได้เสมอยามที่การบินไทยรักคุณเท่าฟ้าไม่สามารถไปlandingที่หมายของเราได้ ปรากฏว่าเราได้ตั๋วสายการบิน Xiamen airlines ถูกสุด 14500บาทจากสุวรรณภูมิไปลาซา ( BKK-LXA ) ราคาตั๋วไปกลับก็ไม่ขี้ริ้วนะราคานี้ อยากบอกว่าทริปนี้ต้องระวังคำพูดกันเลยเป็นยังไงจะค่อยๆบอกกันไปนะ การไปทิเบตไปได้จากหลายทางทั้งจีน ทั้งเนปาล เราเลือกไปทางจีน และคิดว่าบินไปถึงทิเบตดีกว่าไปทางรถไฟ แล้วไปตั้งต้นที่ลาซา ( Lhasa ) เพราะเราจะเอาที่นี่เป็นhubหลังจากกลับจากแต่ละทิศของลาซา อีกเหตุผลคือสมาชิกในกลุ่มค่อนข้างกังวลกับเรื่องaltitude sickness เพราะทิเบตอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่2500เมตรขึ้นไปบางแห่งก็สูงถึง 5000กว่าเมตร ถ้านั่งรถไฟบางช่วงไต่ระดับไปถึง5000กว่าเมตร เกรงว่าสมาชิกบางคนปรับตัวกับที่สูงได้ไม่ดี แล้วยังมาเมารถไฟ จะเปลี่ยนเส้นทางก็คงลำบากต้องทนมึนในรถไฟไปกว่าจะถึงคงทรมานน่าดู เลยตัดสินใจบินลงลาซาดีกว่าเพื่อให้สมาชิกได้ค่อยๆปรับตัวในที่ที่สูงไม่มากนัก แต่ก่อนหน้าจะบินสามวันก็บังคับแกมขู่และขอร้องให้สมาชิกกินยา Diamox (acetazolamide )1เม็ดเช้าและ1เม็ดเย็นรับประทาน3วันก่อนถึงที่หมาย ยานี้ปกติใช้รักษาต้อหินเพื่อลดความดันลูกตา แต่ก็ใช้เพื่อป้องกันAltitude sickness จากการไปอยู่ในที่สูงๆ2500 –3000เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป อันนี้ย้ำเลยอย่าลองของเพราะไม่คุ้มกับอาการคลื่นเหียน ปวดหัวตอนจะเที่ยวเทียบกับผลข้างเคียงเล็กๆน้อยจากการกินยา จำพวกชาๆหน้าหรือปลายมือปลายเท้าซึ่งเป็นไม่นาน บางคนอาจรู้สึกฉี่เยอะหน่อย เนื่องจากการไปทิเบตเราต้องขอpermitในการเข้าทิเบต และการขอTibet permit ก็ต้องใช้visaจีนไปขอ ใครที่คิดว่าขอวีซ่าจีนชิวๆ4-5วันได้ ถ้าจ่ายแบบเร่งด่วนวันเดียวได้ คิดผิดนะจ๊ะ (ศึกษาการขอวีซ่าจีนและdownloadแบบฟอร์มการขอวีซ่าจีนได้ที่ http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/qzxk/t1043517.htm )ทันทีที่สถานกงศุลเห็นตั๋วเครื่องบินปลายทางเราที่ลาซาหรือทิเบตความยุ่งยากก็มาเยือนทันที คำถามมาเป็นชุด ไปทำไม ทำไมอยากไป บราๆๆๆ พร้อมตบท้ายก่อนลาจากว่า เราไม่รับประกันว่าจะได้วีซ่าจีนนะ และไม่รับประกันเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน โรงแรมและค่าท่องเที่ยวนะ อึ้งไป5วิ กลับมาสงบจิตตั้งหลักที่บ้านและline แจ้งความคืบหน้ากับสมาชิก จริงๆก่อนหน้านั้นหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวทิเบตหลายเล่มก็ย้ำว่าอย่าบอกกงศุลว่าเราจะไปทิเบต เพราะจะมีปัญหาเรื่องการขอวีซ่าจีน แต่เราคิดตามเหตุผล ในเมื่อการเข้าทิเบตต้องการวีซ่าจีนเพื่อทำpermit เราก็ขอวีซ่าจีน แล้วการขอวีซ่าจีนเราก็คิดว่าทำอะไรให้มันโปร่งใสน่าจะดีกว่า ไปไหนทำอะไรก็บอกไปตรงๆอีกอย่างตั๋วเราจองBooking codeมันมีdestinationที่Lhasa ถ้าตัดตอนprintเฉพาะที่บินลงแค่xiamenไปยื่นก็น่าจะได้ แต่เราก็เกรงว่าเกิดกงสุลเช็คbooking codeนี้เจอfinal destinationที่ทิเบตนี่คงถูกปฏิเสธวีซ่าแน่นอนหมดสิทธิ์ลุ้นแถมเสียประวัติอีกต่างหาก ความตั้งใจดีน่าจะทำให้เราได้ไปนะ หลังจากไปยื่นได้สองวันก็ได้รับโทรศัพท์จากท่านกงสุลบอกกับเราว่าให้บอกบริษัททัวร์ที่ทิเบตให้ส่งเอกสารรับรองของบริษัทที่ประทับตราโดยการท่องเที่ยวทิเบต ลืมบอกไปว่าเราไปกันเองแต่ไปซื้อทัวร์ที่ทิเบต เนื่องจากเพื่อนที่เคยไปบอกว่าจะไปซื้อตั๋วเข้าPotala palaceต้องไปรอซื้อตั๋วซึ่งมีจำกัดไป2วันถึงจะได้เข้า เราไม่อยากเสียเวลาบวกกับเผื่อไว้ว่าเกิดใครมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจะได้มีตัวช่วยซึ่งคิดถูกเพราะคนส่วนใหญ่ที่เราเจอไม่พูดอังกฤษซักเท่าไหร่พูดจีนกลางทั้งนั้น นับว่าโชคดีที่ก่อนหน้านั้นเรามีบริษัทที่เป็นหลักแหล่งปลายทางยืนยันว่าเราไปเที่ยวกันจริง จนวันนี้ยังสงสัยว่าพวกเรา8ชีวิตจะไปก่อจลาจลหรือปลุกม๊อบอะไรในทิเบตได้นะ เข้าเรื่องต่อหลังจากวางสายรีบemailบอกMr.Wang (ขอเรียกคุณหวังจะได้ไม่ต้องสลับแป้นพิมพ์ไปมา) คณหวังรีบส่งใบอนุญาตให้ดำเนินการท่องเที่ยวในทิเบตรับรองโดยการท่องเที่ยวทิเบตมาให้ เรารีบพิมพ์และไปส่งสถานทูต กลับได้คำตอบว่าไม่ใช่ emailไปถามคุณหวัง คุณหวังก็บอกว่าอันนี้มีตราประทับของการท่องเที่ยวทิเบตเลยนะ พร้อมกับส่งมาใหม่ชัดกว่าเดิมซึ่งก็ยังไม่ใช่สิ่งที่สถานกงสุลต้องการ ระหว่างนี้เราเริ่มมีปุจฉาว่าหรือบริษัทที่เราดีลด้วยนี่มันเชื่อถือไม่ได้ เราเลยย้อนกลับไปemailถามอีกบริษัทที่เราดีลด้วยชื่อMr.Derekขอเรียกคุณดิเรก(แต่เทียบเคียงราคาและจัดที่เที่ยวตามที่เราต้องการไม่ลงตัวเท่าคุณหวังเราเลยเลือกบริษัทคุณหวังแทน)ทันทีที่เราบอกคุณดิเรกว่าเราจะขอวีซ่าจีนเค้าต้องการเอกสารจากการท่องเที่ยวทิเบตมันคืออะไรและเราต้องส่งอะไรไปให้ ก็ได้คำตอบว่าเค้าต้องขอinvitation letterที่มีรายชื่อพวกเราไปให้การท่องเที่ยวทิเบตออกให้ซึ่งจะออกให้ปลายๆมีนาคม เราเลยตั้งใจว่าถ้าบริษัทคุณหวังทำไม่ได้เราจะเปลี่ยนมาใช้บริษัทคุณดิเรกแทน อย่างน้อยก็ช่วยเราไม่ต้องไปเจอบริษัทว่างเปล่าทีทิเบต(จริงๆเรามัดจำไปตั้งแต่ปลายปี2015แล้วภายใต้เงื่อนไขถ้าวีซ่าจีนทำไม่ได้เค้าคืนเงิน100%ไม่โกงใครคงไม่โดนโกงหรอก คิดเข้าข้างตัวเองตอนจะโอนมัดจำผ่านpaypal)กลับไปที่คุณหวังหลังจากพกฉบับชัดเจนขึ้นไปยื่นก็ได้คำตอบว่าไม่ใช่เอกสารที่กงศุลต้องการ เราขอร้องให้เค้าเขียนมาให้เราเลยได้มั้ยว่าชื่อเอกสารอะไรจะได้บอกบริษัทได้ถูก และได้ประโยคเด็ดกลับมาว่าบริษัทควรจะรู้ว่าเค้าจะต้องส่งเอกสารอะไรมาให้พวกคุณยื่นประกอบการขอวีซ่าจีนเลยหนีบประโยคกลับไปบอกคุณหวังConsul told me that legal company must know what document should request from Tibet Tourist Bureau for our group.จริงๆอยากบอกไปว่าขอinvitation letterแต่ขอตรวจสอบความเป็นบริษัทที่ถูกต้องเลยบอกไปตามที่ได้รับคำบอกเล่ามาได้ผลคุณหวังขอเลขpassportวันเดือนปีเกิดอาชีพและชื่อสกุลไป วันรุ่งขื้นสายๆเราก็ได้ invitation letterมาจากคุณหวังนึกว่าคงจบ ยังๆอุปสรรคยังไม่จบสิ้น