Day 0 Tibetหลังคาโลก กว่าจะมาถึง
http://pantip.com/topic/34683393
Day 1 Tibetหลังคาโลก Landingซะที
http://pantip.com/topic/35206799
Day2 Lhasa จริงจังวันแรก ( Potala palace , Jokrang Temple , Bakhor street )
http://pantip.com/topic/35342801
Day3 Lhasa รอบนอก (Drepung , Norbulinga park ,Sera Monestery )
http://pantip.com/topic/35349123
Day4 Lhasa - Nyinghi
http://pantip.com/topic/35356357
Day5 Nyingchi-Cypress King garden -Basomtso lake
http://pantip.com/topic/35357493
Day6 Basomtso lake - Lhasa
http://pantip.com/topic/35361292
Day7 Lhasa - Yamdrok Lake -Palkhor Monestery -Shigatze
http://pantip.com/topic/35365905
Day8 Shigatze - Tashihunpo Monestery- Lhasa
http://pantip.com/topic/35366937
Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline
http://pantip.com/topic/35371426
อาหารเช้าแบบทิเบตปนAmericanที่โรงแรมจัดให้ คล้ายกับโรงแรมในลาซา วันนี้จุดหมายปลายทางเราจะพักที่ Guest house รอบBasom Tso lake
จากโรงแรมเราจะเริ่มจะไปดู ต้นcypress tree ในKing Garden ที่หมู่บ้านPagyi
อันนี้เป็นสิ่งมงคลแปดอย่างของทิเบต อยู่บนเสาหน้าทางเดินเข้าสวน
แล้วก็เดินไปตามทางที่มี Prayer flagอย่างที่เห็นก่อนที่จะเข้าเขตสวนที่มีต้นCypress ที่สูงและอายุยินที่สุดในจีน หรือน่าจะในโลกก็ว่าได้นะ
ต้นที่อยู่หน้าสุดสูง50เมตรและมีเส้นผ่าศูนย์กลาง6เมตร ต้องใช้คนถึง 20คนโอบ รอบๆต้นไม้จะเห็นผ้าสีขาวที่เหมือนตอนดีเจเอามาคล้องคอเราตอนเจอกันครั้งแรก
ดีเจบอกว่าเพื่อความเป็นสิริมงคลให้เราเดินวนตามเข็มนาฬิการอบต้นCypress ที่เก่าแก่ที่สุด และชี้ให้เราดูบางคนที่เดินวนทวนเข็ม ดีเจบอกคนที่เดินสวนเข็มนาฬิกาจะเป็นพวกนับถือศาสนาบอน อันเป็นศาสนาในทิเบตก่อนพุทธศาสนาจะเผยแพร่เข้ามา
บนก้อนหินบางก้อนก็มีคนเขียนบทสวดมนตร์สั้นๆไว้
เสร็จจากดูต้นไม้ที่มีอายุกว่า2500ปีนี้แล้ว เราก็มุ่งหน้าไป Basomtso lakeซึ่งใช้เวลาเดินทางนานทีเดียว
ดีเจคงรู้ว่าพวกเราชอบถ่ายรูป พอขับรถมาเห็นแถวนี้มีทะเลสาปสีเขียวสดมาก เลยหยุดแวะให้พวกเราได้ลงไปถ่ายรูปกัน
นั่งรถมาตามทางที่สะดุดตามากคือต้นเหมือนซากุระเต็มไปหมด
สุดท้ายต้องบอกดีเจแวะจอดเพื่อให้พวกเราลงไปเก็บภาพกัน
และอันนี้มาเจอกันโดยบังเอิญ ลำธาร ภูเขาsnow capและซากุระ
ถ่ายกันจนหนำใจ ถ่ายซ่อมกันจนพอใจ ก็ต้อนสมาชิกขึ้นรถ
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้
พอมาถึงก็เย็นแล้ว ดีเจต้องเอา Tibet permitของพวกเราไปซื้อตั๋วเพื่อเดินทางไปวัดที่อยู่กลางเกาะใน Basom Tso lake ดีเจกลับมาบอกว่า คนที่ขายตั๋วแจ้งว่าเราต้องไป stamp และแจ้งกับตำรวจท้องถิ่นว่าจะมีชาวต่างชาติมาพักรอบทะเลสาปคืนนี้ เรารออยู่พักใหญ่ ดีเจก็เดินกลับมาพร้อมกับหน้าตาไม่สู้ดี เราถามว่ามีปัญหาอะไร ดีเจบอกตำรวจที่นี่ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติพักในโรงแรมต่ำกว่า 3 ดาว Guest houseรอบเกาะจะมีแต่2ดาว ดีเจบอกว่ากฏหมายเปลี่ยนบ่อย เพิ่งยกเลิกเมื่อต้นปีนี้ให้พักได้ และตำรวจในเมืองก็แจ้งกับบริษัทแล้วว่ายกเลิกกฏนี้ตั้งแต่ต้นปี ดีเจเลยโทรรายงานให้บริษัทจัดการโทรประสานงานให้แทนดีเจ เพราะตอนเข้าเขตNyingchi ให้ตำรวจในเมืองดูTibet permit ของกลุ่มเราและสอบถามแล้วจากตำรวจว่าพักได้ ส่วนดีเจก็พาพวกเราไปเที่ยวที่เกาะก่อนหมดเวลา
เราต้องนั่งรถบัสของเจ้าหน้าที่ซึ่งจำกัดจำนวนคนต่อคันเพื่อไปยังบริเวณทางเดินไปเกาะ Tashi นั่งรถประมาณ 5นาทีก็ถึง ลมแรงมาก เดินไปถึงเกาะแล้วต้องเดินขึ้นบันไดไปยังวัด เกาะนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าล้อมรอบด้วยน้ำสีเขียวสดในทะเลสาป Basom Tso ถือว่าเป็นทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์อีกที่หนึ่งในเขตNyingchi กลางลานหน้าวัดจะมีเสาใหญ่ๆตั้งเป็นสง่า
ด้านหน้าเป็นวัดที่สร้างด้วยไม้ มีอายุกว่า 1500 ปี ภายในมีพระพุทธรูปที่สำคัญเช่นPadmasambhava,พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ องค์พระศรีอารยเมตตรัย(ดีเจเรียกว่า Future Buddha )
ตรงข้ามกับวัดจะเป็น Stupas อันย่อมๆ บางคนอาจจะบินจากฉงชิ่งหรือเฉินตูมาลงที่สนามบิน Nyingchiและนั่งshuttle busมาที่ Bahe Bridge และนั่งรถมาที่ Scenic spot ใช้เวลา 1 ชั่วโมงแล้วค่อยนั่งรถbusของที่นี่เหมือนพวกเราเพื่อเข้าไปยังสะพานที่เดินไปยังเกาะ Tashi เดือนเมษายน - ตุลาคม ค่าเข้าจะอยู่ที่ 120 RMB นอกจากนี้ราคาลดลงครึ่งหนึ่ง เวลาที่เหมาะที่สุดคือเดือน ตุลาคม กันยายน เพราะใบไม้จะเป็นสีแดงทั้งหมดสะท้อนลงในน้ำสีเขียวรอบเกาะ เกาะนี้เปิด 9:00 - 18:00 น. เนื่องจากวัดนี้เป็นนิกาย Nyingma ตามผู้ก่อตั้งและผู้ค้นพบที่นี่ Padmasambhava เป็นพระที่เป็นผู้นำและผู้เผยแพร่ศาสนาพุทธจากอินเดีย พระบริเวณนี้จะเป็นนิกายหมวกแดง ไม่เหมือน ในเมืองที่เราดูมาส่วนใหญ่จะเป็นนิกายGelug หมวกเหลือง
( ทั้งหมดจะมีสี่นิกายหมวกเหลือง หมวกแดง หมวกขาว และหมวกดำ )
หลังจากดูพระพุทธรูปภายในเรียบร้อย ก็เริ่มกลับมาสู่ปัญหาของเรา ตำรวจในเมืองโทรclearกับตำรวจท้องถิ่นไม่ได้ เพื่อไม่ให้เราต้องรอ บริษัทตัดสินใจหาโรงแรมในเมืองที่ใกล้ที่สุด ระหว่างทางจาก basom Tso lake และที่ที่เราต้องผ่านไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้
ขับไปได้พักใหญ่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากบริษัทหาโรงแรมให้พวกเราได้แล้ว ขับไปไม่นานก็ถึง ดีเจถามว่าเราจะcheckin ก่อนหรือทานอาหารก่อนเราขอไปทานอาหาร แล้วเข้าโรงแรมทีเดียวดีกว่า ดีเจเลยแค่แวะไปบอกว่ากลุ่มที่จองไว้ตอนเย็นมาถึงแล้วจะได้ไม่เอาห้องไปขายต่อ
หลังจากถึงโรงแรม ได้กุญแจและน้ำคนละขวดแล้ว เจ้าหน้าที่หญิงของโรงแรมก็แจ้งว่าน้ำจะมาในอีกครึ่งชั่วโมง เราก็เข้าใจว่าคงเหมือนโรแรมเมื่อคืนที่เปิดปิดเป็นเวลา ทุกคนก็แยกย้ายไปรอน้ำ ด้วยความที่เหนื่อยมาทั้งวัน เราลุกไปเปิดปิดก๊อกน้ำหลายครั้งน้ำก็ยังไม่มา จนเราเปิดก๊อกค้างไว้กะว่าเสียงน้ำซู่มาเมื่อไหร่ค่อยลุกไปปิด ปรากฎว่าตกใจตื่นเพราะคิดว่าน้ำคงไหลทิ้งไปเยอะ แต่เปล่าเงียบสนิท เปิดwhat apps กลุ่มที่ไปเที่ยวกันก็ถามไถ่ว่าน้ำมาหรือยังกันทั่ว เราเลยออกไปกะว่าจะไปคุยเรื่องน้ำ เจอเจ้าหน้าที่หญิงที่แจ้งเราเรื่องเวลาที่น้ำไหลเธอเดินสวนมาหอบpassportกลุ่มเรามาคงเตรียมเอามาคืนดีเจ เธอค่อยมาบอกว่าเดี๋ยวจะไปเปิดน้ำล่ะ เรางี้ลมออกหูแล้วเธอทำอะไรอยู่ทำไมไม่เปิดตั้งแต่แรก ซักพักน้ำก็ไหลมาดีว่าไหลแรง หลังจากเรากับน้องที่พักห้องเดียวกันอาบน้ำเสร็จ เราก็ลองน้ำในกาละมังอีก1กาละมังไว้เผื่อพรุ่งนี้น้ำไม่ไหล จากนั้นก็หลับไหลไม่ได้สตินับแต่หัวถึงหมอน โดยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ยังมีมหากาพย์เล็กๆของโรงแรมนี้อีก
[CR] Day5 Nyingchi - Basomtso lake
Day 1 Tibetหลังคาโลก Landingซะที http://pantip.com/topic/35206799
Day2 Lhasa จริงจังวันแรก ( Potala palace , Jokrang Temple , Bakhor street )http://pantip.com/topic/35342801
Day3 Lhasa รอบนอก (Drepung , Norbulinga park ,Sera Monestery ) http://pantip.com/topic/35349123
Day4 Lhasa - Nyinghi http://pantip.com/topic/35356357
Day5 Nyingchi-Cypress King garden -Basomtso lake http://pantip.com/topic/35357493
Day6 Basomtso lake - Lhasa http://pantip.com/topic/35361292
Day7 Lhasa - Yamdrok Lake -Palkhor Monestery -Shigatze http://pantip.com/topic/35365905
Day8 Shigatze - Tashihunpo Monestery- Lhasa http://pantip.com/topic/35366937
Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline http://pantip.com/topic/35371426
อาหารเช้าแบบทิเบตปนAmericanที่โรงแรมจัดให้ คล้ายกับโรงแรมในลาซา วันนี้จุดหมายปลายทางเราจะพักที่ Guest house รอบBasom Tso lake
จากโรงแรมเราจะเริ่มจะไปดู ต้นcypress tree ในKing Garden ที่หมู่บ้านPagyi
อันนี้เป็นสิ่งมงคลแปดอย่างของทิเบต อยู่บนเสาหน้าทางเดินเข้าสวน
แล้วก็เดินไปตามทางที่มี Prayer flagอย่างที่เห็นก่อนที่จะเข้าเขตสวนที่มีต้นCypress ที่สูงและอายุยินที่สุดในจีน หรือน่าจะในโลกก็ว่าได้นะ
ต้นที่อยู่หน้าสุดสูง50เมตรและมีเส้นผ่าศูนย์กลาง6เมตร ต้องใช้คนถึง 20คนโอบ รอบๆต้นไม้จะเห็นผ้าสีขาวที่เหมือนตอนดีเจเอามาคล้องคอเราตอนเจอกันครั้งแรก
ดีเจบอกว่าเพื่อความเป็นสิริมงคลให้เราเดินวนตามเข็มนาฬิการอบต้นCypress ที่เก่าแก่ที่สุด และชี้ให้เราดูบางคนที่เดินวนทวนเข็ม ดีเจบอกคนที่เดินสวนเข็มนาฬิกาจะเป็นพวกนับถือศาสนาบอน อันเป็นศาสนาในทิเบตก่อนพุทธศาสนาจะเผยแพร่เข้ามา
บนก้อนหินบางก้อนก็มีคนเขียนบทสวดมนตร์สั้นๆไว้
เสร็จจากดูต้นไม้ที่มีอายุกว่า2500ปีนี้แล้ว เราก็มุ่งหน้าไป Basomtso lakeซึ่งใช้เวลาเดินทางนานทีเดียว
ดีเจคงรู้ว่าพวกเราชอบถ่ายรูป พอขับรถมาเห็นแถวนี้มีทะเลสาปสีเขียวสดมาก เลยหยุดแวะให้พวกเราได้ลงไปถ่ายรูปกัน
นั่งรถมาตามทางที่สะดุดตามากคือต้นเหมือนซากุระเต็มไปหมด
สุดท้ายต้องบอกดีเจแวะจอดเพื่อให้พวกเราลงไปเก็บภาพกัน
และอันนี้มาเจอกันโดยบังเอิญ ลำธาร ภูเขาsnow capและซากุระ
ถ่ายกันจนหนำใจ ถ่ายซ่อมกันจนพอใจ ก็ต้อนสมาชิกขึ้นรถ
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้
พอมาถึงก็เย็นแล้ว ดีเจต้องเอา Tibet permitของพวกเราไปซื้อตั๋วเพื่อเดินทางไปวัดที่อยู่กลางเกาะใน Basom Tso lake ดีเจกลับมาบอกว่า คนที่ขายตั๋วแจ้งว่าเราต้องไป stamp และแจ้งกับตำรวจท้องถิ่นว่าจะมีชาวต่างชาติมาพักรอบทะเลสาปคืนนี้ เรารออยู่พักใหญ่ ดีเจก็เดินกลับมาพร้อมกับหน้าตาไม่สู้ดี เราถามว่ามีปัญหาอะไร ดีเจบอกตำรวจที่นี่ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติพักในโรงแรมต่ำกว่า 3 ดาว Guest houseรอบเกาะจะมีแต่2ดาว ดีเจบอกว่ากฏหมายเปลี่ยนบ่อย เพิ่งยกเลิกเมื่อต้นปีนี้ให้พักได้ และตำรวจในเมืองก็แจ้งกับบริษัทแล้วว่ายกเลิกกฏนี้ตั้งแต่ต้นปี ดีเจเลยโทรรายงานให้บริษัทจัดการโทรประสานงานให้แทนดีเจ เพราะตอนเข้าเขตNyingchi ให้ตำรวจในเมืองดูTibet permit ของกลุ่มเราและสอบถามแล้วจากตำรวจว่าพักได้ ส่วนดีเจก็พาพวกเราไปเที่ยวที่เกาะก่อนหมดเวลา
เราต้องนั่งรถบัสของเจ้าหน้าที่ซึ่งจำกัดจำนวนคนต่อคันเพื่อไปยังบริเวณทางเดินไปเกาะ Tashi นั่งรถประมาณ 5นาทีก็ถึง ลมแรงมาก เดินไปถึงเกาะแล้วต้องเดินขึ้นบันไดไปยังวัด เกาะนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าล้อมรอบด้วยน้ำสีเขียวสดในทะเลสาป Basom Tso ถือว่าเป็นทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์อีกที่หนึ่งในเขตNyingchi กลางลานหน้าวัดจะมีเสาใหญ่ๆตั้งเป็นสง่า
ด้านหน้าเป็นวัดที่สร้างด้วยไม้ มีอายุกว่า 1500 ปี ภายในมีพระพุทธรูปที่สำคัญเช่นPadmasambhava,พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ องค์พระศรีอารยเมตตรัย(ดีเจเรียกว่า Future Buddha )
ตรงข้ามกับวัดจะเป็น Stupas อันย่อมๆ บางคนอาจจะบินจากฉงชิ่งหรือเฉินตูมาลงที่สนามบิน Nyingchiและนั่งshuttle busมาที่ Bahe Bridge และนั่งรถมาที่ Scenic spot ใช้เวลา 1 ชั่วโมงแล้วค่อยนั่งรถbusของที่นี่เหมือนพวกเราเพื่อเข้าไปยังสะพานที่เดินไปยังเกาะ Tashi เดือนเมษายน - ตุลาคม ค่าเข้าจะอยู่ที่ 120 RMB นอกจากนี้ราคาลดลงครึ่งหนึ่ง เวลาที่เหมาะที่สุดคือเดือน ตุลาคม กันยายน เพราะใบไม้จะเป็นสีแดงทั้งหมดสะท้อนลงในน้ำสีเขียวรอบเกาะ เกาะนี้เปิด 9:00 - 18:00 น. เนื่องจากวัดนี้เป็นนิกาย Nyingma ตามผู้ก่อตั้งและผู้ค้นพบที่นี่ Padmasambhava เป็นพระที่เป็นผู้นำและผู้เผยแพร่ศาสนาพุทธจากอินเดีย พระบริเวณนี้จะเป็นนิกายหมวกแดง ไม่เหมือน ในเมืองที่เราดูมาส่วนใหญ่จะเป็นนิกายGelug หมวกเหลือง
( ทั้งหมดจะมีสี่นิกายหมวกเหลือง หมวกแดง หมวกขาว และหมวกดำ )
หลังจากดูพระพุทธรูปภายในเรียบร้อย ก็เริ่มกลับมาสู่ปัญหาของเรา ตำรวจในเมืองโทรclearกับตำรวจท้องถิ่นไม่ได้ เพื่อไม่ให้เราต้องรอ บริษัทตัดสินใจหาโรงแรมในเมืองที่ใกล้ที่สุด ระหว่างทางจาก basom Tso lake และที่ที่เราต้องผ่านไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้
ขับไปได้พักใหญ่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากบริษัทหาโรงแรมให้พวกเราได้แล้ว ขับไปไม่นานก็ถึง ดีเจถามว่าเราจะcheckin ก่อนหรือทานอาหารก่อนเราขอไปทานอาหาร แล้วเข้าโรงแรมทีเดียวดีกว่า ดีเจเลยแค่แวะไปบอกว่ากลุ่มที่จองไว้ตอนเย็นมาถึงแล้วจะได้ไม่เอาห้องไปขายต่อ
หลังจากถึงโรงแรม ได้กุญแจและน้ำคนละขวดแล้ว เจ้าหน้าที่หญิงของโรงแรมก็แจ้งว่าน้ำจะมาในอีกครึ่งชั่วโมง เราก็เข้าใจว่าคงเหมือนโรแรมเมื่อคืนที่เปิดปิดเป็นเวลา ทุกคนก็แยกย้ายไปรอน้ำ ด้วยความที่เหนื่อยมาทั้งวัน เราลุกไปเปิดปิดก๊อกน้ำหลายครั้งน้ำก็ยังไม่มา จนเราเปิดก๊อกค้างไว้กะว่าเสียงน้ำซู่มาเมื่อไหร่ค่อยลุกไปปิด ปรากฎว่าตกใจตื่นเพราะคิดว่าน้ำคงไหลทิ้งไปเยอะ แต่เปล่าเงียบสนิท เปิดwhat apps กลุ่มที่ไปเที่ยวกันก็ถามไถ่ว่าน้ำมาหรือยังกันทั่ว เราเลยออกไปกะว่าจะไปคุยเรื่องน้ำ เจอเจ้าหน้าที่หญิงที่แจ้งเราเรื่องเวลาที่น้ำไหลเธอเดินสวนมาหอบpassportกลุ่มเรามาคงเตรียมเอามาคืนดีเจ เธอค่อยมาบอกว่าเดี๋ยวจะไปเปิดน้ำล่ะ เรางี้ลมออกหูแล้วเธอทำอะไรอยู่ทำไมไม่เปิดตั้งแต่แรก ซักพักน้ำก็ไหลมาดีว่าไหลแรง หลังจากเรากับน้องที่พักห้องเดียวกันอาบน้ำเสร็จ เราก็ลองน้ำในกาละมังอีก1กาละมังไว้เผื่อพรุ่งนี้น้ำไม่ไหล จากนั้นก็หลับไหลไม่ได้สตินับแต่หัวถึงหมอน โดยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ยังมีมหากาพย์เล็กๆของโรงแรมนี้อีก