โชเซ่ มูรินโญ่ ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยให้สัญญากับแฟนๆ ว่าปีหน้าทีมของเราจะต้องได้ไปลุยศึกแชมป์เปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง
“ครั้งนี้ผมไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไรดี สองครั้งก่อนที่ผมมาอยู่ที่ประเทศนี้มันแตกต่างจากครั้งนี้ เพราะครั้งนั้นผมโดน เชลซี ไล่ออก แต่ก็อยู่ในประเทศแห่งนี้แล้วก็พบเจอกับคนหน้าเดิมๆ มันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผมเลย ผมไม่ชอบบอกว่านี่คืองานในฝัน เพราะมันคือความจริง ผมเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว และมันก็เป็นงานที่หลายๆ คนฝันถึง ซึ่งผมเองก็คือคนที่ได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้!”
“ผมรู้ดีว่าผมต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ผมเข้าใจดีว่าความคาดหวังมันสูงแค่ไหน และผมก็ทราบดีว่า แฟนบอลคาดหวังในตัวผมมากขนาดไหน แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมเตรียมตัวมาดี รู้สึกว่ามีแรงฮึดมากเป็นพิเศษ ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้มาอยู่ในสโมสรที่ผมต้องการแล้ว”
“ผมรู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่ปีนี้ผมจะไม่ได้คุมทีมลงแข่งแชมป์เปี้ยนส์ ลีก คือผมมีแผนจะทำลายสถิติของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยู่นะ ก็หวังว่าผมจะอดไปแข่งแค่ปีนี้ปีเดียว เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรที่คู่ควรกับแชมป์เปี้ยนส์ ลีก อย่างแท้จริง”
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือ สโมสรที่อยู่ในแชมเปี้ยนส์ลีก และนั่นคือที่ๆเราควรต้องอยู่”
“คนอย่างผมไม่เก่งนักในการซ่อนหลังคำพูดและหลังปรัชญา ผมเป็นคนที่จริงจังผลักดันในกระบวนการของผมอย่างเข้มข้น”
“เรามาเริ่มทำงานเพื่อให้สโมสรกลับไป แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง, แต่ก็ต้องทำให้ดีใน ยูโรป้า ลีกด้วย แต่ผมจะทำให้มันจริงจังมากขึ้นอีกหน่อยและพูดว่าเราต้องการจะคว้าแชมป์”
“ในเดือนกรกฎาคม 2017 ผมจะพยายามทำให้ทีมเราไม่ต้องมารอลุ้นผลจับสลากยูโรป้า ลีก แน่นอน ผมอยากครอบครองทุกความสำเร็จ อยากคว้าชัยชนะ อยากให้ทีมเราเล่นสนุก อยากให้โอกาสดาวรุ่งของเรา และก็อยากขอให้แฟนบอลคอยหนุนหลังพวกเราด้วย”
“แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้มันทุกอย่างแต่พวกเราต้องการมันทั้งหมด!”
“สไตล์การเล่นของผมน่ะหรอ ก็คือการเอาชนะการแข่งขัน บางทีคุณอาจจะเล่นไม่ดี แต่คุณก็ต้องชนะ ชนะก็คือยิงประตูให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้ ยิงประตูให้มากๆเพื่อแฟนๆ”
“ส่วนเรื่องที่ผมต้องพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกไหม? มีผู้จัดการบางคนที่อาจจะเคยได้แชมป์ลีกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บางคนอาจจะไม่เคย แต่ผมพึ่งทำได้เมื่อปีที่แล้วนะ ถ้ามีอะไรที่ผมจะต้องพิสูจน์ บางทีอาจจะต้องนึกถึงเรื่องอื่นนะ”
“ผมอาจจะพูดว่า เราคว้าอันดับสี่ก็ได้นะ แล้วก็ทำให้ดีในเอฟเอ คัพ แต่ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้”
“หลายๆปี การประสบความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวัน สามปีที่ผ่านมาผมอยากจะลืมมันไปซะ อะไรคือการทำได้ดีกว่าเดิม? จบอันดับสี่หรอ? นั่นไม่ใช่เป้าหมาย”
“ส่วนนักเตะอย่างทางการคนที่สามที่คุณถามกัน เมื่อไรจะประกาศน่ะหรอ? เมื่อไรนะ? (มองไปทางสตาฟ และมีเสียงตอบว่า “เร็วๆนี้”)
“ผมอยากได้ นักเตะที่ชำนาญการพิเศษ 4 คน, เรามี 3 แล้วตอนนี้ จนกว่าเราจะได้ครบสี่คน เรายังต้องทำงานหนักเพื่อจัดการมัน”
“เมื่อได้ครบสี่คน ผมถึงจะหายใจได้ทั่วท้อง เราคงจะไม่ต้องรอให้ถึง 31 สิงหาคม เราจะทำมันให้เรียบร้อยก่อนนั้น ตอนนี้เราได้สามคนแล้วและหวังว่าเราจะได้คนที่สี่”
“ถ้าพูดถึงคู่แข่งแชมป์ พวกเราอยู่ในลีกที่ 20 ทีมต่างก็ลุ้นแชมป์ ถ้าทีมไหนชนะ 5 นัดแรกฤดูกาลหน้านะ คุณก็นับเขาเป็นผู้ชิงชัยได้เลย”
“วันเวลาที่คุณบอกสโมสรแห่งนี้จะล่มสลายมันจบลงแล้ว. ตอนผมอยู่สเปนมีทีมแข่งกันแค่ 2 ทีม, ในอิตาลี 3 ทีม ลีกอื่นก็ประมาณนั้น แต่มันไม่ใช่ในพรีเมียร์ลีก ผมให้ความเคารพทุกสโมสร โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นเป็นบ้านของผม ที่ที่ผมเป็นผู้จัดการทีม”
“แต่ผมอยู่ในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องไปสนใจทีมอื่นให้มากนัก”
“ส่วนเรื่องดาวรุ่ง คุณรู้ไหมนักเตะกี่คนที่ผมผลักดันจากอคาเดมี่ 49 คน 49 คนเลยนะที่ผมดันขึ้นมา”
“ในเรื่องของ ไรอัน กิ๊กส์ มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมที่ ไรอัน ไม่ได้อยู่ในสโมสรแห่งนี้. ไรอัน อยากจะเป็นผู้จัดการทีม และสโมสรตัดสินใจให้หน้าที่นี้กับผม”
“ไรอัน อยากจะเป็นผู้จัดการทีม เขาจะอยากได้ตำแหน่งไหนก็ได้แต่ ตำแหน่งผู้จัดการทีมคือตำแหน่งที่สโมสรมอบให้กับผม”
“เขาเป็นคนที่มีความกล้าหาญมากเลยนะ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เขากล้าที่จะเดินออกจากสโมสรที่เป็นเหมือนบ้านที่อยู่มา 29 ปีนะ ไม่ใช่ 29 วัน ผมก็ขอให้เขาโชคดี ถ้าเขาอยากจะกลับมาที่สโมสรแห่งนี้เมื่อไร ผมพูดเลยว่า ได้เสมอ”
“ผมได้คุยกับป๋าเล็กน้อย เขายังอยู่ในทัวร์นาเมนท์ยูโร และน่าจะเจอกันอีกอาทิตย์นึง แต่เขาก็ให้คำแนะนำผม ให้เอาร่มมาด้วยพร้อมกับไวน์เหมือนเดิมเพราะเราคงมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอีกหลายๆครั้งเลย”
“ในส่วนของรูนีย์ นักฟุตบอลอาจจะเล่นได้หลายตำแหน่งในสนาม บางคนอาจจะลงมาลึก บางคนอาจจะยิงประตู นักเตะมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี”
“เขาเปลี่ยนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางทีเขาอาจจะไม่ใช่หมายเลข 9 คนเดิมเหมือนที่เคยเป็นอีกแล้ว แต่สำหรับผม เขาไม่ใช่หมายเลข 6 สำหรับผมเขายังเป็นหมายเลข 9, หมายเลข 10 ไม่ใช่หมายเลข 6 หรือ 8”
เครดิต : devilmag.com :
http://www.devilmag.com/page/1951
ยินดีต้อนรับ โชเซ่ มูรินโญ่ สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ
“ครั้งนี้ผมไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไรดี สองครั้งก่อนที่ผมมาอยู่ที่ประเทศนี้มันแตกต่างจากครั้งนี้ เพราะครั้งนั้นผมโดน เชลซี ไล่ออก แต่ก็อยู่ในประเทศแห่งนี้แล้วก็พบเจอกับคนหน้าเดิมๆ มันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผมเลย ผมไม่ชอบบอกว่านี่คืองานในฝัน เพราะมันคือความจริง ผมเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว และมันก็เป็นงานที่หลายๆ คนฝันถึง ซึ่งผมเองก็คือคนที่ได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้!”
“ผมรู้ดีว่าผมต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ผมเข้าใจดีว่าความคาดหวังมันสูงแค่ไหน และผมก็ทราบดีว่า แฟนบอลคาดหวังในตัวผมมากขนาดไหน แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมเตรียมตัวมาดี รู้สึกว่ามีแรงฮึดมากเป็นพิเศษ ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้มาอยู่ในสโมสรที่ผมต้องการแล้ว”
“ผมรู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่ปีนี้ผมจะไม่ได้คุมทีมลงแข่งแชมป์เปี้ยนส์ ลีก คือผมมีแผนจะทำลายสถิติของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยู่นะ ก็หวังว่าผมจะอดไปแข่งแค่ปีนี้ปีเดียว เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรที่คู่ควรกับแชมป์เปี้ยนส์ ลีก อย่างแท้จริง”
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือ สโมสรที่อยู่ในแชมเปี้ยนส์ลีก และนั่นคือที่ๆเราควรต้องอยู่”
“คนอย่างผมไม่เก่งนักในการซ่อนหลังคำพูดและหลังปรัชญา ผมเป็นคนที่จริงจังผลักดันในกระบวนการของผมอย่างเข้มข้น”
“เรามาเริ่มทำงานเพื่อให้สโมสรกลับไป แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง, แต่ก็ต้องทำให้ดีใน ยูโรป้า ลีกด้วย แต่ผมจะทำให้มันจริงจังมากขึ้นอีกหน่อยและพูดว่าเราต้องการจะคว้าแชมป์”
“ในเดือนกรกฎาคม 2017 ผมจะพยายามทำให้ทีมเราไม่ต้องมารอลุ้นผลจับสลากยูโรป้า ลีก แน่นอน ผมอยากครอบครองทุกความสำเร็จ อยากคว้าชัยชนะ อยากให้ทีมเราเล่นสนุก อยากให้โอกาสดาวรุ่งของเรา และก็อยากขอให้แฟนบอลคอยหนุนหลังพวกเราด้วย”
“แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้มันทุกอย่างแต่พวกเราต้องการมันทั้งหมด!”
“สไตล์การเล่นของผมน่ะหรอ ก็คือการเอาชนะการแข่งขัน บางทีคุณอาจจะเล่นไม่ดี แต่คุณก็ต้องชนะ ชนะก็คือยิงประตูให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้ ยิงประตูให้มากๆเพื่อแฟนๆ”
“ส่วนเรื่องที่ผมต้องพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกไหม? มีผู้จัดการบางคนที่อาจจะเคยได้แชมป์ลีกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บางคนอาจจะไม่เคย แต่ผมพึ่งทำได้เมื่อปีที่แล้วนะ ถ้ามีอะไรที่ผมจะต้องพิสูจน์ บางทีอาจจะต้องนึกถึงเรื่องอื่นนะ”
“ผมอาจจะพูดว่า เราคว้าอันดับสี่ก็ได้นะ แล้วก็ทำให้ดีในเอฟเอ คัพ แต่ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้”
“หลายๆปี การประสบความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวัน สามปีที่ผ่านมาผมอยากจะลืมมันไปซะ อะไรคือการทำได้ดีกว่าเดิม? จบอันดับสี่หรอ? นั่นไม่ใช่เป้าหมาย”
“ส่วนนักเตะอย่างทางการคนที่สามที่คุณถามกัน เมื่อไรจะประกาศน่ะหรอ? เมื่อไรนะ? (มองไปทางสตาฟ และมีเสียงตอบว่า “เร็วๆนี้”)
“ผมอยากได้ นักเตะที่ชำนาญการพิเศษ 4 คน, เรามี 3 แล้วตอนนี้ จนกว่าเราจะได้ครบสี่คน เรายังต้องทำงานหนักเพื่อจัดการมัน”
“เมื่อได้ครบสี่คน ผมถึงจะหายใจได้ทั่วท้อง เราคงจะไม่ต้องรอให้ถึง 31 สิงหาคม เราจะทำมันให้เรียบร้อยก่อนนั้น ตอนนี้เราได้สามคนแล้วและหวังว่าเราจะได้คนที่สี่”
“ถ้าพูดถึงคู่แข่งแชมป์ พวกเราอยู่ในลีกที่ 20 ทีมต่างก็ลุ้นแชมป์ ถ้าทีมไหนชนะ 5 นัดแรกฤดูกาลหน้านะ คุณก็นับเขาเป็นผู้ชิงชัยได้เลย”
“วันเวลาที่คุณบอกสโมสรแห่งนี้จะล่มสลายมันจบลงแล้ว. ตอนผมอยู่สเปนมีทีมแข่งกันแค่ 2 ทีม, ในอิตาลี 3 ทีม ลีกอื่นก็ประมาณนั้น แต่มันไม่ใช่ในพรีเมียร์ลีก ผมให้ความเคารพทุกสโมสร โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นเป็นบ้านของผม ที่ที่ผมเป็นผู้จัดการทีม”
“แต่ผมอยู่ในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องไปสนใจทีมอื่นให้มากนัก”
“ส่วนเรื่องดาวรุ่ง คุณรู้ไหมนักเตะกี่คนที่ผมผลักดันจากอคาเดมี่ 49 คน 49 คนเลยนะที่ผมดันขึ้นมา”
“ในเรื่องของ ไรอัน กิ๊กส์ มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมที่ ไรอัน ไม่ได้อยู่ในสโมสรแห่งนี้. ไรอัน อยากจะเป็นผู้จัดการทีม และสโมสรตัดสินใจให้หน้าที่นี้กับผม”
“ไรอัน อยากจะเป็นผู้จัดการทีม เขาจะอยากได้ตำแหน่งไหนก็ได้แต่ ตำแหน่งผู้จัดการทีมคือตำแหน่งที่สโมสรมอบให้กับผม”
“เขาเป็นคนที่มีความกล้าหาญมากเลยนะ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เขากล้าที่จะเดินออกจากสโมสรที่เป็นเหมือนบ้านที่อยู่มา 29 ปีนะ ไม่ใช่ 29 วัน ผมก็ขอให้เขาโชคดี ถ้าเขาอยากจะกลับมาที่สโมสรแห่งนี้เมื่อไร ผมพูดเลยว่า ได้เสมอ”
“ผมได้คุยกับป๋าเล็กน้อย เขายังอยู่ในทัวร์นาเมนท์ยูโร และน่าจะเจอกันอีกอาทิตย์นึง แต่เขาก็ให้คำแนะนำผม ให้เอาร่มมาด้วยพร้อมกับไวน์เหมือนเดิมเพราะเราคงมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอีกหลายๆครั้งเลย”
“ในส่วนของรูนีย์ นักฟุตบอลอาจจะเล่นได้หลายตำแหน่งในสนาม บางคนอาจจะลงมาลึก บางคนอาจจะยิงประตู นักเตะมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี”
“เขาเปลี่ยนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางทีเขาอาจจะไม่ใช่หมายเลข 9 คนเดิมเหมือนที่เคยเป็นอีกแล้ว แต่สำหรับผม เขาไม่ใช่หมายเลข 6 สำหรับผมเขายังเป็นหมายเลข 9, หมายเลข 10 ไม่ใช่หมายเลข 6 หรือ 8”
เครดิต : devilmag.com : http://www.devilmag.com/page/1951