สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 86
ก่อนอื่นก็ขอบอกก่อนนะว่าเราคือหนึ่งในคนที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าตั้งแต่อายุยังน้อย
(เคยพยายามฆ่าตัวตายตอน 16, ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าตอน 21, ปัจจุบันอายุ 23)
อธิบายเรื่องโรคซึมเศร้ากันก่อน
โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตใจชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีตัวกระตุ้นหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมไม่ดี บ้านห่วยแตก งานเครียด เรียนหนัก และภาวะอื่นๆที่ทำให้จิตใจเราพัง
แล้วทำไมเราถึงพังได้ล่ะ อ่อนแอเหรอ? ไม่อดทนเหรอ? ไม่เคยลำบากเหรอ?
ไม่เกี่ยวกันค่ะ
มันคือเรื่องของเจ้าสารเคมีในสมองตัวนึง ที่ชื่อว่า ซีโรโทนีน
เกี่ยวข้องกับเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก การนอนหลับ
ซึ่งคนที่ป่วยๆ เจ้าสารตัวนี้มันถูกทำลายจนน้อยกว่าปกติจนรู้สึกเหมือน "พัง"
จะสนุกก็ไม่สนุก จะเศร้าก็ไม่เศร้า เหมือนมีหมอกอยู่รอบตัว
อยู่ในจุดที่ไม่รู้สึกอะไร ไม่ยินดียินร้ายอะไร
ต่อให้เอาของที่ชอบมาล่อ หรือเอาของที่เกลียดมาแหย่ มันก็ไม่อะไรเลย
ที่แย่ที่สุดคือ การที่อยู่ๆก็คิดว่า อยากจะหลับยาวๆแบบไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย
(ในเมื่ออยู่หรือไม่อยู่ก็รู้สึกแบบเดียวกัน)
พร้อมกันนั้น พฤติกรรมอื่นๆก็เริ่มผิดปกติไปด้วย เช่น กินเยอะขึ้นหรือน้อยลง นอนมากขึ้นหรือน้อยลง
หงุดหงิดง่าย เหวี่ยง หรือซึม เบื่อโลก
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าส่วนใหญ่ไม่ได้เครียดแล้วฆ่าตัวตาย
แต่เกิดจากภาวะอารมณ์ที่ไม่รู้สึกอะไรแล้วมากกว่า
--------------
เดี๋ยวนี้คนป่วยมากขึ้น เพราะอะไร? แฟชั่นเหรอ? ดูสภาพสังคมด้วย
ไม่ใช่ว่า เออ ชั้นเศร้านะ ชั้นต้องป่วยแน่ๆเลย - อันนี้ผิดมาก
มันไม่ใช่โรคติดต่อค่ะ
(ต้องมีอาการสองอาทิตย์ขึ้นไป และจิตแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยโรคเท่านั้น อย่ามั่วเอง)
คนที่ป่วยทุกคนจะพูดเสียงเดียวกันว่า "ก็ไม่ได้อยากป่วยนะ"
คนรอบข้างของคนป่วยส่วนใหญ่แทบไม่รู้จักวิธีการรักษาจริงๆเลย
มันไม่ใช่ว่า ให้ปล่อยวาง ทำใจให้สงบ ฟังธรรม เข้าวัด ไสยศาสตร์ บลาบลาบลา แล้วจะหายป่วย
ซึ่งส่วนใหญ่มันคือวิธีการที่หลอกตัวเองให้สบายใจไปงั้น แต่ไม่ได้ซ่อมสมองที่พังไปแล้ว
ก็เหมือนไข้หวัดนั่นแหละ กินยา พักผ่อน
โรคซึมเศร้าก็เหมือนกัน ต้องกินยา (ไปปรับสารเคมีในสมอง) ต้องพักเหมือนกัน
ซึ่งยารักษาโรคซึมเศร้า หมอสั่งจ่ายเท่านั้น ไม่มีการไปซื้อหากินเองเด็ดขาด
และยาพวกนี้เอฟเฟกต์เยอะมาก
--------------
การที่คุณ จขกท ออกมาตั้งกระทู้แบบนี้ ถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรงเลยทีเดียว สำหรับคนที่ป่วยๆแบบเราเนี่ยบอกเลยว่ารับไม่ได้
วันนึงคนป่วยจริงๆต้องเจออะไรบ้าง? เจอคนถากถาง เจอคำถามมากมาย เจอสภาพแวดล้อมห่วยๆ
(ซึ่งเราแก้ที่รอบข้างไม่ได้ ต้องป้องกันตัวเองอย่างเดียว)
ต้องทนกินยาที่ไม่อร่อย ไปหาหมอตามนัด จะเลิกกินยากลางคันก็ไม่ได้
บอกเลยว่าโค-ต-ร ทรมาน
อยากรู้เพิ่มเติม ลองอ่านตามบล็อก/เพจเหล่านี้ดูนะ
https://carrotshead.wordpress.com
http://depme.blogspot.com/
https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=727
https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=716
https://www.facebook.com/letter.from.depression/?fref=ts
https://www.facebook.com/D2JED/?fref=ts
https://www.facebook.com/bipolarfc/?fref=ts
สุดท้ายนี้ฝากบล็อกและเพจด้วยค่ะ เล่าเกี่ยวกับที่เราป่วยโดยเฉพาะ
http://amilyiserror.blogspot.com/
https://www.facebook.com/AmilyIsERROR
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ป.ล.ขออีกอย่าง เลิกเอาชื่อโรคมาเรียกด่าคนหรือล้อเลียนได้แล้วนะคะ
(เคยพยายามฆ่าตัวตายตอน 16, ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าตอน 21, ปัจจุบันอายุ 23)
อธิบายเรื่องโรคซึมเศร้ากันก่อน
โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตใจชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีตัวกระตุ้นหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมไม่ดี บ้านห่วยแตก งานเครียด เรียนหนัก และภาวะอื่นๆที่ทำให้จิตใจเราพัง
แล้วทำไมเราถึงพังได้ล่ะ อ่อนแอเหรอ? ไม่อดทนเหรอ? ไม่เคยลำบากเหรอ?
ไม่เกี่ยวกันค่ะ
มันคือเรื่องของเจ้าสารเคมีในสมองตัวนึง ที่ชื่อว่า ซีโรโทนีน
เกี่ยวข้องกับเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก การนอนหลับ
ซึ่งคนที่ป่วยๆ เจ้าสารตัวนี้มันถูกทำลายจนน้อยกว่าปกติจนรู้สึกเหมือน "พัง"
จะสนุกก็ไม่สนุก จะเศร้าก็ไม่เศร้า เหมือนมีหมอกอยู่รอบตัว
อยู่ในจุดที่ไม่รู้สึกอะไร ไม่ยินดียินร้ายอะไร
ต่อให้เอาของที่ชอบมาล่อ หรือเอาของที่เกลียดมาแหย่ มันก็ไม่อะไรเลย
ที่แย่ที่สุดคือ การที่อยู่ๆก็คิดว่า อยากจะหลับยาวๆแบบไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย
(ในเมื่ออยู่หรือไม่อยู่ก็รู้สึกแบบเดียวกัน)
พร้อมกันนั้น พฤติกรรมอื่นๆก็เริ่มผิดปกติไปด้วย เช่น กินเยอะขึ้นหรือน้อยลง นอนมากขึ้นหรือน้อยลง
หงุดหงิดง่าย เหวี่ยง หรือซึม เบื่อโลก
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าส่วนใหญ่ไม่ได้เครียดแล้วฆ่าตัวตาย
แต่เกิดจากภาวะอารมณ์ที่ไม่รู้สึกอะไรแล้วมากกว่า
--------------
เดี๋ยวนี้คนป่วยมากขึ้น เพราะอะไร? แฟชั่นเหรอ? ดูสภาพสังคมด้วย
ไม่ใช่ว่า เออ ชั้นเศร้านะ ชั้นต้องป่วยแน่ๆเลย - อันนี้ผิดมาก
มันไม่ใช่โรคติดต่อค่ะ
(ต้องมีอาการสองอาทิตย์ขึ้นไป และจิตแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยโรคเท่านั้น อย่ามั่วเอง)
คนที่ป่วยทุกคนจะพูดเสียงเดียวกันว่า "ก็ไม่ได้อยากป่วยนะ"
คนรอบข้างของคนป่วยส่วนใหญ่แทบไม่รู้จักวิธีการรักษาจริงๆเลย
มันไม่ใช่ว่า ให้ปล่อยวาง ทำใจให้สงบ ฟังธรรม เข้าวัด ไสยศาสตร์ บลาบลาบลา แล้วจะหายป่วย
ซึ่งส่วนใหญ่มันคือวิธีการที่หลอกตัวเองให้สบายใจไปงั้น แต่ไม่ได้ซ่อมสมองที่พังไปแล้ว
ก็เหมือนไข้หวัดนั่นแหละ กินยา พักผ่อน
โรคซึมเศร้าก็เหมือนกัน ต้องกินยา (ไปปรับสารเคมีในสมอง) ต้องพักเหมือนกัน
ซึ่งยารักษาโรคซึมเศร้า หมอสั่งจ่ายเท่านั้น ไม่มีการไปซื้อหากินเองเด็ดขาด
และยาพวกนี้เอฟเฟกต์เยอะมาก
--------------
การที่คุณ จขกท ออกมาตั้งกระทู้แบบนี้ ถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรงเลยทีเดียว สำหรับคนที่ป่วยๆแบบเราเนี่ยบอกเลยว่ารับไม่ได้
วันนึงคนป่วยจริงๆต้องเจออะไรบ้าง? เจอคนถากถาง เจอคำถามมากมาย เจอสภาพแวดล้อมห่วยๆ
(ซึ่งเราแก้ที่รอบข้างไม่ได้ ต้องป้องกันตัวเองอย่างเดียว)
ต้องทนกินยาที่ไม่อร่อย ไปหาหมอตามนัด จะเลิกกินยากลางคันก็ไม่ได้
บอกเลยว่าโค-ต-ร ทรมาน
อยากรู้เพิ่มเติม ลองอ่านตามบล็อก/เพจเหล่านี้ดูนะ
https://carrotshead.wordpress.com
http://depme.blogspot.com/
https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=727
https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=716
https://www.facebook.com/letter.from.depression/?fref=ts
https://www.facebook.com/D2JED/?fref=ts
https://www.facebook.com/bipolarfc/?fref=ts
สุดท้ายนี้ฝากบล็อกและเพจด้วยค่ะ เล่าเกี่ยวกับที่เราป่วยโดยเฉพาะ
http://amilyiserror.blogspot.com/
https://www.facebook.com/AmilyIsERROR
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ป.ล.ขออีกอย่าง เลิกเอาชื่อโรคมาเรียกด่าคนหรือล้อเลียนได้แล้วนะคะ
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านคห.จขกท.และหลายๆคนในนี้แล้ว ผมบอกได้คำเดียวเลยครับ ต้องลองเป็นดู บางทีคุณอาจนอนอ่านการ์ตูนเฉยๆแล้วเกิดหายใจไม่ทัน ทั้งๆที่ตอนนั้นในใจคุณไม่ได้เครียดอะไรเลย หรืออยู่ๆท้องเสียเรื้อรังเป็นเดือนโดยหาสาเหตุไม่ได้ หมดเรี่ยวแรง นอนทั้งวัน กินข้าววันละสองช้อนทั้งๆที่ปกติกินมื้อนึงสองจานพูนๆ หรือเกิดอารมณ์ดีเตลิดไปจนคนหาว่าบ้า ถ่ายไม่ออก ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
ตอนเรียนจิตวิทยาเบื้องต้นในมหาลัย อาจารย์ที่เคยสอนบอกเลยว่าคนเป็นโรคเกี่ยวกับจิตเวชนี่ลำบากที่สุด เพราะโรคอื่นๆต่อให้ร้ายแรงแค่ไหน ถ้าใจคุณยังดีอยู่คุณยังสู้มันได้ แต่โรคจิตเวชคุณทำตัวเข้มแข็งแค่ไหน แต่คุณหลอกจิตใต้สำนึกตัวเองไม่ได้หรอก คุณบอกตัวเองว่ายังไหว แต่ร่างกายมันไม่ไปกับใจคุณแล้ว
ตอนเรียนจิตวิทยาเบื้องต้นในมหาลัย อาจารย์ที่เคยสอนบอกเลยว่าคนเป็นโรคเกี่ยวกับจิตเวชนี่ลำบากที่สุด เพราะโรคอื่นๆต่อให้ร้ายแรงแค่ไหน ถ้าใจคุณยังดีอยู่คุณยังสู้มันได้ แต่โรคจิตเวชคุณทำตัวเข้มแข็งแค่ไหน แต่คุณหลอกจิตใต้สำนึกตัวเองไม่ได้หรอก คุณบอกตัวเองว่ายังไหว แต่ร่างกายมันไม่ไปกับใจคุณแล้ว
ความคิดเห็นที่ 30
ช่วงวัยอายุ อาหาร อารมณ์ ส่งผลทุกอย่างต่อสารเคมีในสมอง
โรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคแอ๊บ โรคโง่ คิดไม่เป็น มันคือโรคชนิดหนึ่ง
คนที่ไม่เข้าใจ เพราะมองตัวเองเป็นที่ตั้งมากกว่าจะมองเข้าไปในใจเด็ก
ยุคสมัยต่างกัน ถ้าจะเอาความคิดแบบในยุคตัวเองมาชี้วัด ปฏิบัติให้เหมือนๆกัน
มันก็ไม่ต่างอะไร กับผู้ใหญ่ที่เอาวิธีคิดแบบสมัยก่อนมาใส่หัวเด็กแบบไร้เหตุผล
ถ้าชีวิตมันง่าย ออกไปเล่นกีฬา เลิกคิด ให้กำลังใจ คงไม่มีใครฆ่าตัวตาย
เคยเห็นคลิปของนักสุขภาพจิต ที่มีการแนะนำจากกรณีนักร้องชื่อดัง ฆ่าตัวตายไหมคะ
เวลาคนที่เขามีความเศร้า เจ็บปวด ซึมเศร้า เขาไม่ได้ต้องการให้ใครมาบอกว่า
เฮ้ย ชีวิตมันต้องแบบนี้ ต้องคิดแบบนั้น ต้องงี้ซิดูตรูเป็นตัวอย่าง
มันไม่ได้ช่วยค่ะ มันคือการตัดสินเขาในแบบโลกของคนพูด อะไรไม่เจอกับตัวมันไมเคยยากสำหรับคนอื่นหรอก
พ่อ แม่ ผู้ปกครอง โดยเฉพาะ ครู อาจารย์ ต้องปรับจูนตัวเองเพื่อเข้าใจเด็ก เด็กถึงจะศรัทธาและเชื่อในสิ่งที่สอน
ตรงกันข้าม ถ้าบุคลลเหล่านั้น เอาแต่คิดจะดึงเด็กให้มาเข้าใจวิธีคิดของผู้ใหญ่ โดยลืมไปว่า เขาไม่ได้อายุเท่าคุณ
ความคิดนี้ จะผลักเด็กให้ออกห่าง จะทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวและซึมเศร้ามากขึ้น ที่เอาแต่ตัดสินเขามากกว่าจะเข้าใจเขา
ความซึมเศร้าไม่สามารถบำบัดด้วยตคำพูดจากคนอื่น แต่ต้องบำบัดด้วยความพร้อมทางใจของเขาเอง
และการที่ใจเขาจะพร้อม และบำบัดได้ เขาต้องมีคนซัพพอร์ทเขาด้วยการ ยอมรับและเข้าใจ ไม่ใช่สอนๆๆๆ
พ่อแม่ ครู อาจารย์ ควรดูเรื่อง Inside Out ค่ะ จะได้เข้าใจเด็ก มากกว่าที่จะดึงเด็กให้มามองมุมเดียวกับตัวเองที่ไม่ใช่ตัวเขา
ป.ล.เคยขำผู้ใหญ่บางคน พอเห็นอะไรที่เป็นการ์ตูน หรือเกมส์ มักจะมองว่าหาสาระไม่ได้
ทั้งที่ สาระ มันอยู่ในมุมที่เลือกมอง ไม่ใช่ภาพรวมที่มองผ่านแบบเอามุมเดิมๆในใจมากำหนดกัน
ถ้า จขกท เป็นครู ขอร้องว่า กรุณาปรับจูนหาเด็กด้วยค่ะ อย่าเอาทัศนคติตัวเองตัดสินเด็ก ไม่งั้นลูกศิษย์คุณจะน่าสงสาร
เพราะคุณเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ใช้คำว่า ฮิต หัดเป็น กับคนเป็นโรค และแถมยังตอกย้ำว่าใครเป็นเพราะทำตัวเอง
ทัศนคติคุณไม่เปิดค่ะ คุณยังมองอะไรด้านเดียว ช่วยเปิดใจกับสังคมที่เปลี่ยนไปด้วย
อย่าตัดสินเด็กแบบนี้เด็ดขาด ถ้าคุณยังไม่มีลูกผ่านช่วงวัยนั้นมา ครูที่มีทัศนคติแบบคุณยากที่จะเข้าใจเข้าถึงเด็กค่ะ
โรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคแอ๊บ โรคโง่ คิดไม่เป็น มันคือโรคชนิดหนึ่ง
คนที่ไม่เข้าใจ เพราะมองตัวเองเป็นที่ตั้งมากกว่าจะมองเข้าไปในใจเด็ก
ยุคสมัยต่างกัน ถ้าจะเอาความคิดแบบในยุคตัวเองมาชี้วัด ปฏิบัติให้เหมือนๆกัน
มันก็ไม่ต่างอะไร กับผู้ใหญ่ที่เอาวิธีคิดแบบสมัยก่อนมาใส่หัวเด็กแบบไร้เหตุผล
ถ้าชีวิตมันง่าย ออกไปเล่นกีฬา เลิกคิด ให้กำลังใจ คงไม่มีใครฆ่าตัวตาย
เคยเห็นคลิปของนักสุขภาพจิต ที่มีการแนะนำจากกรณีนักร้องชื่อดัง ฆ่าตัวตายไหมคะ
เวลาคนที่เขามีความเศร้า เจ็บปวด ซึมเศร้า เขาไม่ได้ต้องการให้ใครมาบอกว่า
เฮ้ย ชีวิตมันต้องแบบนี้ ต้องคิดแบบนั้น ต้องงี้ซิดูตรูเป็นตัวอย่าง
มันไม่ได้ช่วยค่ะ มันคือการตัดสินเขาในแบบโลกของคนพูด อะไรไม่เจอกับตัวมันไมเคยยากสำหรับคนอื่นหรอก
พ่อ แม่ ผู้ปกครอง โดยเฉพาะ ครู อาจารย์ ต้องปรับจูนตัวเองเพื่อเข้าใจเด็ก เด็กถึงจะศรัทธาและเชื่อในสิ่งที่สอน
ตรงกันข้าม ถ้าบุคลลเหล่านั้น เอาแต่คิดจะดึงเด็กให้มาเข้าใจวิธีคิดของผู้ใหญ่ โดยลืมไปว่า เขาไม่ได้อายุเท่าคุณ
ความคิดนี้ จะผลักเด็กให้ออกห่าง จะทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวและซึมเศร้ามากขึ้น ที่เอาแต่ตัดสินเขามากกว่าจะเข้าใจเขา
ความซึมเศร้าไม่สามารถบำบัดด้วยตคำพูดจากคนอื่น แต่ต้องบำบัดด้วยความพร้อมทางใจของเขาเอง
และการที่ใจเขาจะพร้อม และบำบัดได้ เขาต้องมีคนซัพพอร์ทเขาด้วยการ ยอมรับและเข้าใจ ไม่ใช่สอนๆๆๆ
พ่อแม่ ครู อาจารย์ ควรดูเรื่อง Inside Out ค่ะ จะได้เข้าใจเด็ก มากกว่าที่จะดึงเด็กให้มามองมุมเดียวกับตัวเองที่ไม่ใช่ตัวเขา
ป.ล.เคยขำผู้ใหญ่บางคน พอเห็นอะไรที่เป็นการ์ตูน หรือเกมส์ มักจะมองว่าหาสาระไม่ได้
ทั้งที่ สาระ มันอยู่ในมุมที่เลือกมอง ไม่ใช่ภาพรวมที่มองผ่านแบบเอามุมเดิมๆในใจมากำหนดกัน
ถ้า จขกท เป็นครู ขอร้องว่า กรุณาปรับจูนหาเด็กด้วยค่ะ อย่าเอาทัศนคติตัวเองตัดสินเด็ก ไม่งั้นลูกศิษย์คุณจะน่าสงสาร
เพราะคุณเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ใช้คำว่า ฮิต หัดเป็น กับคนเป็นโรค และแถมยังตอกย้ำว่าใครเป็นเพราะทำตัวเอง
ทัศนคติคุณไม่เปิดค่ะ คุณยังมองอะไรด้านเดียว ช่วยเปิดใจกับสังคมที่เปลี่ยนไปด้วย
อย่าตัดสินเด็กแบบนี้เด็ดขาด ถ้าคุณยังไม่มีลูกผ่านช่วงวัยนั้นมา ครูที่มีทัศนคติแบบคุณยากที่จะเข้าใจเข้าถึงเด็กค่ะ

แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนสมัยนี้ฮิตเป็นโรมซึมเศร้ากันจัง ?
วัยเด็กวัยรุ่นมันเป็นวัยสดใสสนุกสนาน ตามครรลองของมัน... แต่เดี๋ยวนี้ก็หัดเป็นกัน...
ขอแก้ไขเป็น ***แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มเป็นกันเยอะขึ้น***
เห็นรุ่นก่อน ๆ ยุคก่อน ๆ genก่อน ๆ ไม่เห็นจะฮิตเป็นโรคนี้กัน...
***ขอแก้ไขเป็น***... ผมคิดว่าคนรุ่นก่อน ๆ รุ่นเก่า ๆ ไม่เป็นโรคนี้กันมาก...(ผมเชื่อว่าแบบนั้นครับ)
เล่นเน็ทมากเกินไปรึเปล่า... เลยโดนสูบพลังชีวิต ไม่ค่อยอยู่และสัมผัสกับชีวิตจริง ๆ เพราะมัวแต่อยู่ในโลกมโน(cyber world)
สมาชิกมีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ
ขอบคุณครับ
ขอแก้ไขชื่อกระทู้นะครับ ***
ทำไมคนยุคสมัยนี้ถึงประสบภาวะโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น?