จากเงินเดือน 25 k สู่เงินเดือน 13 k ชีวิตช่างมีศรีนครินทร์

สวัสดีครับ

กระทู้นี้เป็นกระทู้แค่อยากจะเล่าให้ฟัง ถึงพัฒนาการของตัวผม ไม่มีข้อคิดใด ๆ
ลองอ่านดูนะครับ

ผมอายุ 35 ย้อนความเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/30781748  ขึ้นแนะนำด้วยนะ
ซึ่งตอนนั้นผมเงินเดือนหมื่นห้าหลังจากบ่นไปในกระทู้สักพักเงินเดือนผมก็ขึ้นมาเป็นหมื่นแปด
ทำงานมาเรื่อย ๆ ปลายปี 57 ผมโดนหยุดให้ทำงาน โดยเจ้าของบริษัทค้างเงินเดือน 2 เดือน ทวงอะไรไม่ได้สักบาท
เพราะทำงานด้วยระบบใจ ไม่มีสัญญาใด ๆ ทั้งนั้น

แต่ด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ ตอนสัมภาษณ์พกไปเยอะมาก ก็ได้งานอย่างรวดเร็ว โดยเริ่ม start ที่หมื่นแปดเท่าที่เก่า
ทำไปด้วยความสนุก มีเพื่อนร่วมงานเยอะแยะ ไม่ต้องนั่งคนเดียวเหมือนที่พึ่งออกมา
แต่แล้วความแน่นอนไม่มีในโลก ทำได้ 4 เดือน บริษัทปรับโครงสร้าง ผมโดนไปด้วย ได้เงินชดเชยมานิดหน่อย
ซึ่งผมไม่คิดเลยว่าจะมีการปรับโครงสร้าง ผมมั่นใจในบริษัทที่ผมทำว่ามั่นคงสุด ๆ เพราะเป็นบริษัทในเครือบริษัทใหญ่ (จัดงานปีใหม่ที่ไบเทค)

แต่ก็ด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกรอบ ผมก็ได้งานใหม่อย่างรวดเร็ว (ความสามารถไม่ค่อยมีหรอก)
ผมมีทางเลือกให้ 2 ทาง ทางแรกเงินเดือนเท่าเดิม ทำงานในเครือบริษัทเก่าที่เขาปรับโครงสร้าง ในตำแหน่งที่จะได้ใช้ความรู้ที่จบมา
หลังจากที่ไม่ได้ใช่เลยตั้งแต่เรียนจบ

ทางที่สอง เงินเดือนสองหมื่นห้า กับรูปแบบการทำงานคล้าย ๆ เดิม ประสานงานธุรการ โดยเข้าไปดูแล project หนึ่ง
ผมก็ไม่เลือกอะไรมาก หน้าเงิน 555 เลือกเงินเยอะไว้ก่อน อายุ 30 กว่า ก็อยากเงินเดือนเกิน 2 หมื่นสักที
แต่แล้ว project ที่เข้าไปดูแลล่ม ไม่มีงานให้ทำ ก็โดนเชิญออกอีก ได้เงินชดเชยมานิดหน่อย

หลังจากนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิไม่ช่วยอีกเลย หางานยิ่งนานไปยิ่งลดเงินเดือน ตอนแรกคิดว่าลดแค่หมื่นแปดก็สุด ๆ แล้ว
พอผ่านไป 1 ปี หมื่นห้าก็เอาแล้ว (ในระยะเวลา 1 ปี ผมก็ไปทำงานตามกองถ่าย งานหลักคือล้างจาน วันไหนไม่มีงานก็ช่วยแม่ขายของ
แม่ให้วันละ 100)

ท้ายสุด ผมก็โดนเรียกไปสัมภาษณ์ ตอนนั้นขอเงินเดือนไปกว้าง ๆ 15-20 k คุยไปคุยมาถึงเรื่องเงินเดือน
เขาถามว่า หมื่นสามทำไหม + เบี้ยขยันวันละ 100 วันไหนหยุด เสาร์ อาทิตย์ ขัตฤกษ์ ไม่ได้เงิน
ผมรีบกระโดดรับเลย อะไรก็ได้ขอให้มีเงินใช้ก็พอ

ตอนนี้ก็มีงานทำครับ แต่งานที่ทำก็เปลี่ยนแนวไป คือ test product เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนึง
แล้วส่งสรุป เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจจะนำเข้าไหม หรือมีสินค้าเข้ามาใหม่ก็ทำ present ให้ sale เพื่อเป็นข้อมูล
ซึ่งเครื่องพวกนี้เกิดมายังไม่เคยใช้เลย ทำไป google ไป ดูเอกสารของคนเก่า รอดตัวมาได้เดือนนึง

สุดท้าย คือ ผมเป็นคนไม่รู้ว่า ผมเก่งอะไร มีความสามารถอะไร แต่รู้แน่ ๆ คือไม่เก่งภาษา
ความสามารถที่มี คือ โดนสั่งงานมาก็ไปหาวิธีทำ พอเปลียนงานไม่ได้ทำ ความรู้ก็หายหมด
งานที่ทำตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะไปต่อยอดยังไง

สารภาพเลยว่าทุกวันนี้ หวังกับสลากออมสิน ธกส ที่ซื้อไว้ กับล็อตเตอรี่งวดละใบครับ
คิดไม่ออก ยังไม่คิดหางานใหม่ เพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปเขียนในใบสมัคร

จบครับ

ปล.อ่านจบแล้วคิดเหมือนผมไหม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่