เริ่มจากที่ได้มีโอกาสไปใต้หวัน ก็เลยจัดเอาจักรยานคู่ใจใส่กระเป๋า บินไปด้วยกัน ใช้เวลาเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไปใต้หวันประมาณ 4 ชั่วโมง

เสร็จแล้วก็นั่ง TAXI จากสนามบิน มาต่อรถไฟความเร็วสูง

รถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเดินแค่ครึ่งชั่วโมง ในระยะทาง เกือบๆ 200 กิโลเมตร
แล้วก็มาถึงที่พัก

ถึงห้องแล้ว เหนื่อย อาบน้ำ พักผ่อน ประกอบรถเตรียมอะไรให้เรียบร้อย

ได้เวลาออกมาเดินดูสีสันยามค่ำคืนแล้ว ตื่นเต้นๆ

ชอบสินค้าประเภทรองเท้า มากๆ เพราะราคาไม่แพง และแบบก็เยอะกว่าบ้านเรา วัยรุ่น ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ก็ใส่ผ้าใบสวยๆกันทั้งน้าน

ถึงเวลาหาของกินละ เหมือนเยาวราชบ้านเรา แต่มีแต่คนเดิน ของกินตลอดทาง ก็ไปลองกินหอยเป๋าฮื้อ 4 ตัวร้อย อร่อยไปอีกแบบ เพราะไม่เคยกิน หวานๆ มันๆ

ได้ชามากินละ แก้วละ 40 กว่าบาท รสชาติพอรับได้
ตื่นเช้ามาความบรรเทิงรออยู่ เจ้าบ้านมารับจากที่โรงแรม ถนนในใต้หวัน มีช่องจอดมอไซด์ แยกจากช่องรวมชัดเจน ซึ่งเราก็ชอบเพราะรู้สึกปลอดภัยดี
แต่บ้านเค้ามอไซด์ส่วนใหญ่จะเป็นรถป้อป เยอะมาก เห็นว่าภาษีที่นั่นแพง คนที่ขับรถบิ๊กไบส์ก็คือพวกมีอันจะกิน รถยนต์ก็คงภาษีแพงมากเช่นกัน

ปั่นออกจากโรงแรมมาประมาณ 20 กว่าโล ก็เริ่มมองเห็นไกลๆ ว่านั่นไงเขาลูกนี้แหละ ตลอดทางไปเป็นเนินซึมไปเรื่อยๆ ยังไม่หนักความเร็วเดินทางประมาณ 20-25

เริ่มปั่นเข้ามาลึกเข้ามาเรื่อยๆ ตลอดทาง บรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย ไม่ถึงกับหนาว แต่ก็ไม่ทำให้เหงื่อออก เนินก็ยังซึมต่อไป

ความบันเทิงเริ่มละ หลังจากที่ปั่นขึ้นมา ประมาณว่า เมื่อพักก็ได้ถ่ายรูป เพราะตั้งหน้าตั้งตาปั่นมาก แต่ก็คิดถึงรูป กลัวจะไม่ได้รูป ก็เลยเอาซะหน่อย ชันเอาเรื่องคับ

ยังไม่ถึง ความชันยังมาเยือนเรื่อยๆ แทบจะไม่มีทางราบ มีแต่ชันน้อย กับชันมาก

สู้ต่อไป วัยรุ่น มองลงไปเหมือนภูเก็ตเหมือนกันแฮะ เหนื่อยๆ แต่หยุดไม่ได้ เพราะผู้นำทางได้ทิ้งเราไปแล้ว ตามประสาเจ้าบ้าน รู้เนินรู้แรง

เจอเนินนี้เข้าไป ถ้าใครไล่เกียร์ไม่เป็น มีร่วง พับขึ้นยังกะ ดีนะที่เราควงขามาดี ใส่คลีทออกแรงได้เต็มที่

ยังไม่จบ มีอีกหลายพับ ทำใจไว้เลย ถ้าไม่หอบก็ตะคริว ดีนะที่เราพักผ่อนมาพอ ปั่นแบบนี้ คุมหัวใจอย่างเดียว ส่วนเรื่องแรงช่างมัน ความเร็วแค่ 10

ถึงละคับ เหนื่อยเอาเรื่อง ถือว่าเป็นการปั่นที่สนุกแบบ เหนื่อยๆ น้ำ 2 ติก หมดเกลี้ยงเลย เจลอีก 2

อากาศด้านบนก็เย็นสบาย หายเหนื่อย

ขากลับก็วิ่งลงทางเดิม แล้วก็มาแวะเติมน้ำก่อนกลับโรงแรม

ซัดเรียบ หลังจากใช้พลังงานมาเยอะ

กลับมาถึงโรงแรมละ พักผ่อนต่อ

ต่อด้วยว่ายน้ำ เบาๆ ที่โรงแรม

นี่มหาวิทยาลัย F4 รึป่าว ไม่แน่ใจ แต่นักศึกษาเยอะมาก ได้เวลาเดินเที่ยว

เดินสนุก เพลินตาไปหมด

ซื้อมาฝากแม่คู่นึง เป็นรองเท้าวิ่ง พันกว่าบาท ถือว่าไม่แพง

สังเกตุให้ดีมันจะมีป้าย ลดราคาอยู่ ถามพนักงาน ที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้เก่งเลยละ แต่บางที่ พูดไม่ได้ ก็เลยไม่ได้อุดหนุน

สาวกมินเนี่ยนห้ามพลาด

เช้าแล้ว ตื่นๆ วันนี้มีนัดกับขาแรง ขึ้นเขาอีกแล้ว

เมื่อรวมตัวกันครบก็ออกเดินทาง

ยังไม่พ้นจากเมืองติดไฟแดงไปก่อน พลางดูรถเพื่อนร่วมทางไปเพลินๆ

คุยอะไรก็ ก็ไม่รู้ภาษาจีน ฟังไม่ออก แต่ก็อยากคุยด้วยนะ ก็เลยได้แค่ OKๆ

รถแต่ละคนไม่ธรรมดา

ใกล้จะหลุดออกมานอกเมืองแล้ว เค้าก็อยากรู้ว่าเราแรงรึป่าว ต่างคนต่างเชิงกัน แต่เราไม่รู้ทาง จะแซงไปก็กะไรอยู่ ขอตามไปอย่างติดๆละกัน

พื้นที่ทั่วไป จะเป็นเนิน เขาใกล้กับเมืองทำให้นักปั่นที่นั่นมีเขาให้ปั่นอยู่ใกล้ๆบ้าน ถือว่าเป็นสายเขา ก็ว่าได้

ขึ้นมาถึงก็มาพักคุยกันก่อน จะปั่นไปต่อ ระหว่างทางขึ้นเขาตั้งใจปั่นมาก ขึ้นมาเป็นที่สาม เลยไม่ได้ถ่ายรูป แต่ก็ชัน และก็โดนเจ้าบ้านยิงหนีขึ้นไปเป็นคนแรก ตามมาด้วยลูกพี่ผม ที่จี้ตูดไปติดๆ แต่ก็ยังตามไม่ทัน จนลูกพี่ผมถามว่าได้ KOM รึป่าว เค้าบอกว่าไม่ นี่ขนาด ไม่ใช่ KOM ยังยิงขึ้นเขาได้พลิ้วขนาดนี้
ก็คงเป้นทางที่เค้าซ้อมประจำนั่นแหละ ลองมาสนามฟ้าบ้านเราสิ อิอิ

ถ่ายรูปกับหินหน่อย อยู่บนสามแยกพอดีเลย

ไปต่อๆ เพื่อนๆ จะพาไปกินเค้กใส่สับปะรด

ไปถึงอีกจุดที่เรียกว่าเป็นแหล่งนัดรวม พบปะพูดคุย และพัก ที่ศาลเจ้า บนเขา นักปั่นเป็นร้อยเลยวันนั้น เหมือนมีงานแห่อะไรด้วยนี้แหละ
เสื้อลายที่ขี่ เซอเวโร่ ชื่ออาเหลียง ที่สปริ้นขึ้นเขามาเป็นคนแรก

หลังจากพักเสร็จก็ปั่นกลับ ที่พัก วันนี้รู้สึกสนุกกว่าวันแรกเพราะเพื่อนเยอะแยะเลย

มื้อค่ำ มาร้านนี้แหละ เห็นว่าขึ้นชื่อ

อาหารใช้ได้ หรือว่าหิวก็ไม่รู้

คล้ายๆ MK บ้านเรานะ แต่บรรยากาศดีกว่า สาวๆ ไม่ต้องพูดถึง ขาวๆทุกคน

เช้าอีกวันวันนี้ เบาๆ เพราะจะกลับไทยแล้ว

ขึ้นมาจุดชมวิว ตรงนี้สูงใช่เล่น แต่เราไปโดนนวดมาละ ก็เลย ชิวๆ

ปั่นเสร็จก็ตั้งวง กินข้าว

เอารูปหน่อย มาถึงบ้านถึงเรือนถึงแหล่งแล้ว

พนักงานต้อนรับ เอาไดโนเสาร์มาเล่นด้วย

บายๆ ใต้หวัน พบกันใหม่ เมื่อมีโอกาส

เขียนเล่นเพลินๆ ให้เพื่อนๆ อ่าน คิดซะว่า แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ครับ
เที่ยวด้วย ปั่นด้วย
เสร็จแล้วก็นั่ง TAXI จากสนามบิน มาต่อรถไฟความเร็วสูง
รถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเดินแค่ครึ่งชั่วโมง ในระยะทาง เกือบๆ 200 กิโลเมตร
แล้วก็มาถึงที่พัก
ถึงห้องแล้ว เหนื่อย อาบน้ำ พักผ่อน ประกอบรถเตรียมอะไรให้เรียบร้อย
ได้เวลาออกมาเดินดูสีสันยามค่ำคืนแล้ว ตื่นเต้นๆ
ชอบสินค้าประเภทรองเท้า มากๆ เพราะราคาไม่แพง และแบบก็เยอะกว่าบ้านเรา วัยรุ่น ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ก็ใส่ผ้าใบสวยๆกันทั้งน้าน
ถึงเวลาหาของกินละ เหมือนเยาวราชบ้านเรา แต่มีแต่คนเดิน ของกินตลอดทาง ก็ไปลองกินหอยเป๋าฮื้อ 4 ตัวร้อย อร่อยไปอีกแบบ เพราะไม่เคยกิน หวานๆ มันๆ
ได้ชามากินละ แก้วละ 40 กว่าบาท รสชาติพอรับได้
ตื่นเช้ามาความบรรเทิงรออยู่ เจ้าบ้านมารับจากที่โรงแรม ถนนในใต้หวัน มีช่องจอดมอไซด์ แยกจากช่องรวมชัดเจน ซึ่งเราก็ชอบเพราะรู้สึกปลอดภัยดี
แต่บ้านเค้ามอไซด์ส่วนใหญ่จะเป็นรถป้อป เยอะมาก เห็นว่าภาษีที่นั่นแพง คนที่ขับรถบิ๊กไบส์ก็คือพวกมีอันจะกิน รถยนต์ก็คงภาษีแพงมากเช่นกัน
ปั่นออกจากโรงแรมมาประมาณ 20 กว่าโล ก็เริ่มมองเห็นไกลๆ ว่านั่นไงเขาลูกนี้แหละ ตลอดทางไปเป็นเนินซึมไปเรื่อยๆ ยังไม่หนักความเร็วเดินทางประมาณ 20-25
เริ่มปั่นเข้ามาลึกเข้ามาเรื่อยๆ ตลอดทาง บรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย ไม่ถึงกับหนาว แต่ก็ไม่ทำให้เหงื่อออก เนินก็ยังซึมต่อไป
ความบันเทิงเริ่มละ หลังจากที่ปั่นขึ้นมา ประมาณว่า เมื่อพักก็ได้ถ่ายรูป เพราะตั้งหน้าตั้งตาปั่นมาก แต่ก็คิดถึงรูป กลัวจะไม่ได้รูป ก็เลยเอาซะหน่อย ชันเอาเรื่องคับ
ยังไม่ถึง ความชันยังมาเยือนเรื่อยๆ แทบจะไม่มีทางราบ มีแต่ชันน้อย กับชันมาก
สู้ต่อไป วัยรุ่น มองลงไปเหมือนภูเก็ตเหมือนกันแฮะ เหนื่อยๆ แต่หยุดไม่ได้ เพราะผู้นำทางได้ทิ้งเราไปแล้ว ตามประสาเจ้าบ้าน รู้เนินรู้แรง
เจอเนินนี้เข้าไป ถ้าใครไล่เกียร์ไม่เป็น มีร่วง พับขึ้นยังกะ ดีนะที่เราควงขามาดี ใส่คลีทออกแรงได้เต็มที่
ยังไม่จบ มีอีกหลายพับ ทำใจไว้เลย ถ้าไม่หอบก็ตะคริว ดีนะที่เราพักผ่อนมาพอ ปั่นแบบนี้ คุมหัวใจอย่างเดียว ส่วนเรื่องแรงช่างมัน ความเร็วแค่ 10
ถึงละคับ เหนื่อยเอาเรื่อง ถือว่าเป็นการปั่นที่สนุกแบบ เหนื่อยๆ น้ำ 2 ติก หมดเกลี้ยงเลย เจลอีก 2
อากาศด้านบนก็เย็นสบาย หายเหนื่อย
ขากลับก็วิ่งลงทางเดิม แล้วก็มาแวะเติมน้ำก่อนกลับโรงแรม
ซัดเรียบ หลังจากใช้พลังงานมาเยอะ
กลับมาถึงโรงแรมละ พักผ่อนต่อ
ต่อด้วยว่ายน้ำ เบาๆ ที่โรงแรม
นี่มหาวิทยาลัย F4 รึป่าว ไม่แน่ใจ แต่นักศึกษาเยอะมาก ได้เวลาเดินเที่ยว
เดินสนุก เพลินตาไปหมด
ซื้อมาฝากแม่คู่นึง เป็นรองเท้าวิ่ง พันกว่าบาท ถือว่าไม่แพง
สังเกตุให้ดีมันจะมีป้าย ลดราคาอยู่ ถามพนักงาน ที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้เก่งเลยละ แต่บางที่ พูดไม่ได้ ก็เลยไม่ได้อุดหนุน
สาวกมินเนี่ยนห้ามพลาด
เช้าแล้ว ตื่นๆ วันนี้มีนัดกับขาแรง ขึ้นเขาอีกแล้ว
เมื่อรวมตัวกันครบก็ออกเดินทาง
ยังไม่พ้นจากเมืองติดไฟแดงไปก่อน พลางดูรถเพื่อนร่วมทางไปเพลินๆ
คุยอะไรก็ ก็ไม่รู้ภาษาจีน ฟังไม่ออก แต่ก็อยากคุยด้วยนะ ก็เลยได้แค่ OKๆ
รถแต่ละคนไม่ธรรมดา
ใกล้จะหลุดออกมานอกเมืองแล้ว เค้าก็อยากรู้ว่าเราแรงรึป่าว ต่างคนต่างเชิงกัน แต่เราไม่รู้ทาง จะแซงไปก็กะไรอยู่ ขอตามไปอย่างติดๆละกัน
พื้นที่ทั่วไป จะเป็นเนิน เขาใกล้กับเมืองทำให้นักปั่นที่นั่นมีเขาให้ปั่นอยู่ใกล้ๆบ้าน ถือว่าเป็นสายเขา ก็ว่าได้
ขึ้นมาถึงก็มาพักคุยกันก่อน จะปั่นไปต่อ ระหว่างทางขึ้นเขาตั้งใจปั่นมาก ขึ้นมาเป็นที่สาม เลยไม่ได้ถ่ายรูป แต่ก็ชัน และก็โดนเจ้าบ้านยิงหนีขึ้นไปเป็นคนแรก ตามมาด้วยลูกพี่ผม ที่จี้ตูดไปติดๆ แต่ก็ยังตามไม่ทัน จนลูกพี่ผมถามว่าได้ KOM รึป่าว เค้าบอกว่าไม่ นี่ขนาด ไม่ใช่ KOM ยังยิงขึ้นเขาได้พลิ้วขนาดนี้
ก็คงเป้นทางที่เค้าซ้อมประจำนั่นแหละ ลองมาสนามฟ้าบ้านเราสิ อิอิ
ถ่ายรูปกับหินหน่อย อยู่บนสามแยกพอดีเลย
ไปต่อๆ เพื่อนๆ จะพาไปกินเค้กใส่สับปะรด
ไปถึงอีกจุดที่เรียกว่าเป็นแหล่งนัดรวม พบปะพูดคุย และพัก ที่ศาลเจ้า บนเขา นักปั่นเป็นร้อยเลยวันนั้น เหมือนมีงานแห่อะไรด้วยนี้แหละ
เสื้อลายที่ขี่ เซอเวโร่ ชื่ออาเหลียง ที่สปริ้นขึ้นเขามาเป็นคนแรก
หลังจากพักเสร็จก็ปั่นกลับ ที่พัก วันนี้รู้สึกสนุกกว่าวันแรกเพราะเพื่อนเยอะแยะเลย
มื้อค่ำ มาร้านนี้แหละ เห็นว่าขึ้นชื่อ
อาหารใช้ได้ หรือว่าหิวก็ไม่รู้
คล้ายๆ MK บ้านเรานะ แต่บรรยากาศดีกว่า สาวๆ ไม่ต้องพูดถึง ขาวๆทุกคน
เช้าอีกวันวันนี้ เบาๆ เพราะจะกลับไทยแล้ว
ขึ้นมาจุดชมวิว ตรงนี้สูงใช่เล่น แต่เราไปโดนนวดมาละ ก็เลย ชิวๆ
ปั่นเสร็จก็ตั้งวง กินข้าว
เอารูปหน่อย มาถึงบ้านถึงเรือนถึงแหล่งแล้ว
พนักงานต้อนรับ เอาไดโนเสาร์มาเล่นด้วย
บายๆ ใต้หวัน พบกันใหม่ เมื่อมีโอกาส
เขียนเล่นเพลินๆ ให้เพื่อนๆ อ่าน คิดซะว่า แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ครับ