Love Between The Lines เรื่องรักระหว่างบรรทัด Ep.7



            สำหรับลิงค์ตอนเก่านะคะ  

            [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


            ...


            (7)


         หล่อนไม่เคยรู้สึกอยากตายเท่าตอนนี้มาก่อนเลย!

       นับตั้งแต่ตอนที่ตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนของตนเองโดยที่จำไม่ได้เลยสักนิดว่ากลับมาได้อย่างไร ความรู้สึกมึนตึบเข้าจู่โจมเธอในทันทีที่ขยับตัว โชคยังดีที่นลินีเป็นพวกไม่ค่อยเกิดอาการเมาค้างเหมือนคนอื่นๆ สักเท่าใดนัก อย่างมากก็แค่ปวดหัว คอแห้ง กับอ่อนเพลียนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติดี

       หญิงสาวพยายามคิดทบทวนว่าเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากฝันประหลาดๆ ของหล่อนที่เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าขอให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน จนกระทั่งตอนที่นลินีเปิดประตูบริษัทเข้าไปแล้วพบกับคำทักทายของนายรุ่นน้องตัวแสบ ที่ทำให้เธอรู้สึกอยากเป็นลมตายวันละหลายร้อยรอบ

      “อ้าว พี่หนูเมรี มาทำงานได้แล้วหรือครับ” ภาสกรเอ่ยปากแซวคนที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามาในบริษัท ก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อนลินีทำท่าจะเอากระเป๋าถือในมือฟาดเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้ “เฮ้ย ผมไม่ใช่พี่ทีนะถึงจะได้มาตีเอาๆ แบบนี้!”
    
          นลินีชะงักกึกเมื่อเริ่มรู้สึกว่าฝันร้ายที่สุดของหล่อนกำลังจะกลายมาเป็นความจริง

        “หมายความว่ายังไง นายเต๋า?”
    
          “อ้าว นี่พี่จำวีรกรรมของตัวเองเมื่อคืนไม่ได้เลยเหรอเนี่ย คืองี้...”

       ยิ่งฟังเรื่องเล่าผสมแอ็คชั่นเกินจริงจากปากของเด็กหนุ่มรุ่นน้องมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งนึกภาพหล่อนกำลังขุดหลุมฝังตัวเองมากยิ่งขึ้นเท่านั้น นี่ล่ะน้า เธอถึงได้ไม่อยากดื่มต่อหน้าเขาหากเลือกได้ จริงอยู่ที่เธอไม่ได้เป็นคนที่เมาแล้วออกอาการโหวกเหวกโวยวายจนขายขี้หน้า แต่ก็เป็นประเภทเมาแล้วดราม่าชอบคิดเองเออเองสรุปเองเสียเสร็จสรรพ เรียกว่ามีอะไรอยู่ในใจ พอเหล้าเข้าปากปุ๊บเป็นต้องคูณร้อยจากสิบแถมยังเก็บอาการไม่ค่อยอยู่อีกต่างหาก นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่หล่อนไม่หลุดปากตัดพ้อต่อว่าเรื่องความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาไปด้วย

      “ผมยังงงอยู่เลยนะว่าพี่รู้ได้ยังไงว่ารถคันนั้นเป็นรถของพี่ที พอปีนขึ้นหลังรถได้ปุ๊บพี่ก็หลับปุ๋ยปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น ตอนแรกพี่ทีอาสาจะไปส่งที่บ้าน แต่พี่เจนห้ามไว้แล้วให้ผมพายัยเพลงไปส่งพี่ที่คอนโดแทน แกกลัวว่าเดี๋ยวพี่ทีจะมีปัญหาถ้าพาผู้หญิงเมาไม่ได้สติขึ้นคอนโดไป”  

      แค่นึกภาพทิวัตถ์พยายามแบกหล่อนขึ้นคอนโดในสภาพนั้น หญิงสาวก็รู้สึกขอบคุณเจนจบเหลือเกินที่ห้ามเอาไว้ก่อน ให้ตายสิ หล่อนจะไม่มีวันแตะเครื่องดื่มมึนเมาต่อหน้าผู้ชายที่หมายปองอีกเป็นอันขาด สัญญาด้วยเกียรติของเนตรหนูลีเลยเอ้า!    

      “ละ..แล้วเมื่อคืนพี่..เอ๊ย คุณทีพูดอะไรบ้างรึเปล่าที่...”

      “ที่พี่เอากระเป๋าฟาดหลังเข้าให้เต็มแรงน่ะรึ?” ภาสกรฉีกยิ้มยั่ว “โอ๊ย รายนั้นจะไปว่าอะไร แต่ผมว่าแกก็ดูโกรธๆ อยู่เหมือนกันนะ ตีแรงขนาดนั้นคงจะเจ็บไม่ใช่เล่นแถมกระเป๋าพี่ก็ใบไม่ใช่เล็กๆ ด้วย หนักจะตายไม่รู้ใส่บ้านเข้าไปหรือยังไง ว่าแต่พี่ไม่พอใจอะไรรุ่นพี่ผมเนี่ย คราวหน้าคราวหลังบอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช้กำลังหรอก”

      นลินีไม่สนใจที่จะตอบเพราะเธอมีเรื่องให้กลุ้มใจมากกว่านั้น  

      “เต๋า ช่วยขอโทษคุณทีให้พี่หน่อยสิ ฝากบอกว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หรือไม่ก็บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุก็ได้ นะ นะ” หญิงสาวอ้อนวอน

      “อุบัติเหตุอะไรซัดซะเต็มเหนี่ยวขนาดนั้น อีกอย่างพี่รอบอกด้วยตัวเองเถอะเพราะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ทีจะเข้ามาที่บริษัทเราด้วย”

      “ห๊า อะไร? ทำไม? พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่ามีประชุมด้วย”

      “เปล่า ไม่ใช่ประชุมหรอก แกบอกผมว่าพรุ่งนี้จะเข้ามาคุยกับพี่เจนเรื่องร่างสัญญาฉบับแก้ไข ได้ข่าวมาว่าวันนี้ทางโน้นเค้าก็เรียกประชุมทีมกัน เพื่อคุยเรื่องข้อเสนอของเราที่ยังตกลงกันไม่ได้นี่แหละ” เด็กหนุ่มอธิบายแล้วจึงเสริมต่อว่า “เพราะฉะนั้นถ้าพี่หนูลีมีอะไรจะคุยกับพี่ที พรุ่งนี้ก็ดักรอเอาเองแล้วกัน”

      นลินีเข้าใจในที่สุดแต่เธอยังไม่พร้อมเจอหน้าทิวัตถ์เลยสักนิด ลำพังแค่ทำให้เขาชอบก็ยากเกินพอแล้วนี่ยังจะไปหาเรื่องทำให้เขาเกลียดอีก ป่านนี้เขาจะตราหน้าเธอว่าเป็นผู้หญิงขี้เมาชอบทำร้ายร่างกายหรือเปล่าก็ไม่รู้ นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่เขาเป็นคนของบริษัทลูกค้าสำคัญระดับวีไอพีอีกนะ ขืนทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมา หล่อนไม่ตายงานนี้ก็ไม่รู้จะตายงานไหนแล้ว!



      หญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมากดข้อความส่งหาเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว ขณะที่เอาสัมภาระของตนเองไปวางกองไว้บนโต๊ะทำงาน โชคดีที่ดารกายังมาไม่ถึงเธอจึงยังไม่ต้องกังวลกับคำถามชวนกระอักกระอ่วนใจพวกนั้นในตอนนี้ นลินีกระแทกตัวลงบนเก้าอี้และนั่งรอให้ใครสักคนตอบกลับอย่างร้อนอกร้อนใจ ไม่นานนักตันหยงก็ส่งข้อความกลับมาหาเธอเป็นรายแรกตามมาด้วยพลอยชมพู นลินีตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทั้งคู่ฟังโดยไม่อ้อมค้อมและถูกตันหยงว้ากใส่ทันทีอย่างที่คาดเอาไว้แล้วไม่มีผิด


       ‘นี่แกบ้ารึเปล่า! คิดอะไรอยู่ถึงไปเมาใส่เขาห๊ะ!??’ ไม่พูดเปล่ายังมีการส่งสติกเกอร์ตัวการ์ตูนผู้หญิงกอดคอกันเมาไม่ได้สติมาตอกย้ำเธออย่างใจร้าย

       นลินีเถียงไม่ออกเลยสักคำเพราะหล่อนผิดจริงตามข้อกล่าวหา

       ‘ไม่เอาน่า หยง เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว พูดไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอก’

       ‘ขอบใจพลอย อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะแก ตั้งแต่เรียนจบมาเนี่ยก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้สังสรรค์แบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่เมื่อคืนนั่นมันสถานการณ์พาไปจริงๆ แล้วฉันก็แค่..หงุดหงิดนิดหน่อยเลยเผลอดื่มหนักไปนิด’
    
       ‘คงไม่นิดหน่อยล่ะม้าง ถ้าแกฟาดเค้าซะแรงขนาดนั้นน่ะ’

           ตันหยงพูดอย่างรู้ดี แถมยังล้อเลียนด้วยการส่งรูปตัวการ์ตูนตบตีกันชุลมุนมาให้อีก ไม่รู้ไปช่างสรรหามาจากไหนสิน่า!

       ‘โอ๊ย แกอย่าตอกย้ำเรื่องนั้นได้ไหม! แค่นี้ฉันก็กลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว นี่ยังไม่รู้จะถูกพี่เจนเรียกเข้าไปสวดโทษฐานเป็นภัยต่อภาพพจน์ของบริษัทตอนไหนเลยเนี่ย แล้วถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูคุณอีธานอีกคนนะ มีหวัง...’

       ‘คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง หนูลี เพราะยังไงก็ถือว่าไปสังสรรค์กันนอกเวลางานนะ มันควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวสิ’ พลอยชมพูปลอบใจถึงจะนึกขำตัวการ์ตูนหัวขาดกระเด็นที่เพื่อนรักส่งมาเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน

       ‘แกนี่ก็น้า หายหน้าหายตาไปทั้งคืน แต่ก็เห็นโพสรูปสังสรรค์ด้วยกันเสียดิบดี พวกฉันเลยอุตสาห์วางใจ ที่ไหนได้ดันไปหาเรื่องใส่ตัวซะนี่ ยัยหนูลีเอ๋ย ว่าแต่คุณทีเค้าว่ายังไงบ้างล่ะ’

       ‘ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยตั้งแต่เมื่อคืน’ นลินีพิมพ์ตอบกลับไปอย่างกลัดกลุ้ม ‘แต่รุ่นน้องที่ทำงานฉันบอกว่าเขาดูไม่พอใจอยู่เหมือนกัน’

       ‘ก็สมควรล่ะ เป็นฉัน ฉันก็โกรธ’

       ‘ไม่หรอกน่า ดูจากในรูปเขาก็ท่าทางใจดีอยู่นะ’

       หล่อนพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่หลุดปากออกไปว่าแววตาดุเหมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อที่เขาใช้มองเธอในคืนนั้น มันไม่ใกล้เคียงกับคำว่าใจดีของพลอยชมพูเลยสักนิดเดียว  

       ‘ไม่รู้สิ โอ๊ย จะทำยังไงดีเนี่ย พลอย หยง!?’

       ‘ไม่เห็นต้องถามเลย แกเองก็น่าจะรู้ดีว่าควรทำยังไง’

       จริงอย่างที่ตันหยงพูด ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าควรต้องทำเช่นไร เพียงแต่เธอยังนึกไม่ออกว่าควรจะเผชิญหน้าเพื่อขอโทษเขาได้อย่างไร หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้


         ‘ส่งกระเช้าผูกโบว์ไปที่บริษัทดีไหม?’

       ‘แกเป็นนักการเมืองหรือไงหะ ไอ้คุณหนูลี!’ ไอเดียบรรเจิดของหล่อนถูกตันหยงแว้ดใส่ตามเคย

       ‘งั้นส่งข้อความออนไลน์ไปแทนก็ได้ เอ๊ะ ไม่สิ ส่งอีเมล์ขอโทษดีกว่า อย่างน้อยๆ ก็มีโอกาสมากกว่าที่เขาจะไม่ตอบในทันที’ นลินียังไม่ยอมแพ้

       ‘ดูไม่เป็นมืออาชีพขั้นรุนแรงเลย หนูลี’


       หญิงสาวเม้มปากใส่คำวิจารณ์ของพลอยชมพู คิ้วที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามขณะนี้ขมวดยุ่งเป็นปมอย่างกำลังใช้ความคิด เธอรู้ดีว่ามันเสียมารยาทและไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยสักนิด หากเป็นคนอื่นเธอคงสามารเดินเข้าไปพูดคุยและกล่าวขอโทษได้อย่างไม่รู้สึกอะไร แต่ทำไมพอเป็นเรื่องของผู้ชายคนนี้ ทุกอย่างกลับดูยากเย็นไปหมดเสียอย่างนั้น


       ‘โธ่เอ๊ย อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ แล้วพวกแกจะให้ฉันทำยังไงกันฮึ! ตอนนี้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ เกิดเขาโกรธจนไม่อยากพูดกับฉันขึ้นมาจะทำยังไง!’

       ‘ก็ง้อสิ’ ตันหยงตอบหน้าตาย ‘อีกอย่าง เขามีสิทธิที่จะไม่พอใจแกอยู่แล้ว แกเป็นคนเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครแก้ให้แกได้หรอก’

       ‘จริงๆ ฉันว่าเขาคงไม่ได้โกรธอะไรมากมายหรอกนะ แต่มันก็ดูไม่ดีจริงๆ นั่นแหละถ้าหนูลีไม่ไปขอโทษเขาด้วยตนเองอย่างที่หยงมันว่า ถ้าไม่รู้จะขอโทษยังไงก็ซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ไปให้เค้าเป็นการไถ่โทษก็ได้’

       ‘ใช่ ถึงตอนนี้ไม่รู้จะพูดยังไงแต่เดี๋ยวแกเห็นหน้าเขาก็พูดออกเองแหละน่า เชื่อสิ’

          ตันหยงรีบเสริมต่ออย่างรวดเร็ว

         ‘ซื้อขนมไปเป็นสินบนอย่างที่ยัยพลอยบอกก็ได้ จะได้กู้คะแนนตัวเองกลับคืนมาบ้าง เออ พวกแก เดี๋ยวฉันมีงานแถลงข่าวต้องรีบไปก่อนแล้วนะ อย่าลืมล่ะ หนูลี ไปตามง้อให้สำเร็จแล้วส่งข่าวบอกพวกฉันด้วย ไม่อย่างงั้นไอ้ที่แกอุตสาห์สู้ทำมาทั้งหมดนี่ก็เปล่าประโยชน์สิ้นดี’


            ‘อ้อ..แล้วอย่าบ้าหิ้วกระเช้าไปให้เค้าล่ะ!’



           (มีต่อ)


            .....

            
            สวัสดีค่ำวันอาทิตย์ค่ะ เพื่อนๆ พี่น้องนักอ่านและนักเขียนที่น่ารักทุกท่าน สำหรับตอนนี้ก็เพิ่งพิมพ์ประโยคสุดท้ายเสร็จได้ไม่นานเลยอยากนำมาลงให้อ่านกันก่อนนะคะ ตีเหล็กต้องตีตอนกำลังร้อน แต่ไม่รู้ว่าตอนหน้าเหล็กจะร้อนเร็วแค่ไหนเหมือนกันค่ะ เพราะกำลังต่อสู้กับเวลาและอุปสรรคอันมากมีอยู่ 55 ช่วงนี้ก็กำลังติดตามผลงานของนักเขียนหลายๆ ท่านในนี้อยู่ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยนะคะ ช่วยๆ กันอ่าน ช่วยๆ กันเกลา จะได้พัฒนาไปพร้อมๆ กัน เป็นสังคมที่น่ารักดีค่ะ

            ขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับนักอ่านทุกท่านทั้งขาประจำและนักอ่านเงา ที่กดบวกจนกระทู้ได้มีโอกาสสัมผัสพื้นที่ของกระทู้แนะนำอยู่แค่เพียงชั่ววูบสายลมพัดผ่าน 555 แต่เท่านี้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ ครั้งแรกในชีวิตเชียว 55 ยินดีและขอบคุณจากใจจริงๆ นะคะ และไม่ลืมขอบคุณคุณเด็กดื้อหัวกลม, คุณลายลิขิต (พี่ลิ), คุณ GTW (อาจารย์จี) สำหรับกำลังใจที่สำคัญและคำแนะนำดีๆ ด้วยค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะโดนไม้เรียวบ่อยๆ นะคะ จะได้เก่งไวๆ 555

            ขอบคุณอีกครั้งค่ะ รักษาสุขภาพนะคะทุกคน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่