วันแรกทำ 6 เบอร์ดี้ และ 3 โบกี้ ส่วนวันที่สองทำ 3 เบอร์ดี้ กับ 1 โบกี้ จบ 2 วันอยู่ที่ -5
นั่นเป็นเรื่องของการจบสกอร์ แต่ที่อยากชวนคุย คือเรื่องของผลงานก่อนจบสกอร์ ตามภาพ
1. วันแรกตีไกลมากเฉลี่ย 296 หลา แต่อยู่ในแฟร์เวย์แค่ 6 จาก 13 สรุปว่าไกลแต่ขาดความแม่นยำ ในขณะที่วันที่สอง ความไกลลดลง 20 หลา อยู่ที่ 276 หลา แต่แม่นกว่าเดิมมาก หลุดแฟร์เวย์ไปเพียง 2 ครั้ง (ไม่เห็นภาพแต่คิดว่า ในวันที่สองน่าจะกลับมาใช้เหล็ก 2 แทนหัวไม้ 1 เหมือนกับ 2-3 รายการที่ผ่านมา เพราะเธอคือราชินีเหล็กสอง
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A12%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C )
2. วันแรกขึ้นกรีน 12/18 พัต 27 ครั้ง ได้ 6 เบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ และเซฟพาร์ไป 9 แสดงว่าวันแรกพัตดี แต่การทีออฟที่ไม่อยู่ในแฟร์เวย์ทำให้ขึ้นกรีนยากหรือหลุดกรีนไปถึง 6 หลุม แต่พัตดีเลยเสียไปแค่ 3 โบกี้ ส่วนในวันที่สองขึ้นกรีนแม่นยำขึ้น 14/18 ทำ 30 พัต แต่เสียไปเพียง 1 โบกี้ เก็บได้ 3 เบอร์ดี้ และเซฟพาร์ไป 14 แสดงว่ามีโอกาสลุ้นเบอร์ดี้เยอะมาก แต่เก็บได้เพียง 3 เบอร์ดี้ หลุดกรีนไป 4 ครั้งและเสียไปเพียง 1 โบกี้ สรุปว่า วันนี้แก้ไขปัญหาการหลุดแฟร์เวย์ได้ดีขึ้นแม่นยำขึ้นมาก แต่ยังหลุดกรีนเยอะไปนิดนึง แต่การพัตถือว่าเป็นปัญหามาก ทำ 30 พัต ยังเสียแค่โบกี้เดียว กลับกันถ้าทำ 27 เหมือนวันแรกก็จะได้ถึง 6 เบอร์ดี้ขึ้นไปที่ -8 เลยที่เดียว
3. แต่ภาพรวม วันที่สองถือว่าดีขึ้นกว่าวันแรกมาก เรียกว่าแทบจะไม่หลุดแฟร์เวย์ สร้างโอกาสในการเก็บเบอร์ดี้เยอะขึ้น ผลพวงจากพัฒนาการที่ดีขึ้นในวันที่สอง คิดอย่างเข้าข้างตัวเอง คาดว่า ในวันที่สามนี้ น้องเม น่าจะจบที่ -11 หรือ -12 ส่วน เล็กซี่ ธอมสัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะไปจบที่เท่าไร เพราะเธอเป็นแชมป์เก่าที่ฟอร์มดีมากจริงๆ อันนี้ต้องยอมรับเธอ
2 วันที่แตกต่างของ เอรียา จุฑานุกาล
นั่นเป็นเรื่องของการจบสกอร์ แต่ที่อยากชวนคุย คือเรื่องของผลงานก่อนจบสกอร์ ตามภาพ
1. วันแรกตีไกลมากเฉลี่ย 296 หลา แต่อยู่ในแฟร์เวย์แค่ 6 จาก 13 สรุปว่าไกลแต่ขาดความแม่นยำ ในขณะที่วันที่สอง ความไกลลดลง 20 หลา อยู่ที่ 276 หลา แต่แม่นกว่าเดิมมาก หลุดแฟร์เวย์ไปเพียง 2 ครั้ง (ไม่เห็นภาพแต่คิดว่า ในวันที่สองน่าจะกลับมาใช้เหล็ก 2 แทนหัวไม้ 1 เหมือนกับ 2-3 รายการที่ผ่านมา เพราะเธอคือราชินีเหล็กสอง http://www.thaipost.net/?q=%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A12%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C )
2. วันแรกขึ้นกรีน 12/18 พัต 27 ครั้ง ได้ 6 เบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ และเซฟพาร์ไป 9 แสดงว่าวันแรกพัตดี แต่การทีออฟที่ไม่อยู่ในแฟร์เวย์ทำให้ขึ้นกรีนยากหรือหลุดกรีนไปถึง 6 หลุม แต่พัตดีเลยเสียไปแค่ 3 โบกี้ ส่วนในวันที่สองขึ้นกรีนแม่นยำขึ้น 14/18 ทำ 30 พัต แต่เสียไปเพียง 1 โบกี้ เก็บได้ 3 เบอร์ดี้ และเซฟพาร์ไป 14 แสดงว่ามีโอกาสลุ้นเบอร์ดี้เยอะมาก แต่เก็บได้เพียง 3 เบอร์ดี้ หลุดกรีนไป 4 ครั้งและเสียไปเพียง 1 โบกี้ สรุปว่า วันนี้แก้ไขปัญหาการหลุดแฟร์เวย์ได้ดีขึ้นแม่นยำขึ้นมาก แต่ยังหลุดกรีนเยอะไปนิดนึง แต่การพัตถือว่าเป็นปัญหามาก ทำ 30 พัต ยังเสียแค่โบกี้เดียว กลับกันถ้าทำ 27 เหมือนวันแรกก็จะได้ถึง 6 เบอร์ดี้ขึ้นไปที่ -8 เลยที่เดียว
3. แต่ภาพรวม วันที่สองถือว่าดีขึ้นกว่าวันแรกมาก เรียกว่าแทบจะไม่หลุดแฟร์เวย์ สร้างโอกาสในการเก็บเบอร์ดี้เยอะขึ้น ผลพวงจากพัฒนาการที่ดีขึ้นในวันที่สอง คิดอย่างเข้าข้างตัวเอง คาดว่า ในวันที่สามนี้ น้องเม น่าจะจบที่ -11 หรือ -12 ส่วน เล็กซี่ ธอมสัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะไปจบที่เท่าไร เพราะเธอเป็นแชมป์เก่าที่ฟอร์มดีมากจริงๆ อันนี้ต้องยอมรับเธอ