เมื่อความฟินบังเกิดกับหนุ่มมาร์เก็ตติ่ง แต่ก็ต้องจบลงภายใน 1 เดือน TT

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท. นะค่ะ (จขกท. ของใช้นามว่า KT) 1 เดือนที่แล้ว KT อกหัก รักพัง ตังค์ไม่มี (ขำขำ) แล้วความเซ็งก็บังเกิดขึ้น KT เหงาเซ็งอยากมีคนคุย ก็เลยทักเพื่อนเก่าๆ แล้วเราก็ดันไปทักเพื่อนเก่าในเฟส ชื่อ I แล้วกันนะค่ะ I ทำงานแล้วค่ะเป็นมาร์เก็ตติ่ง โปรไฟล์ดูจากภายนอก ถือว่าโอเครทีเดียวค่ะ เราเคยคุยกันมานานมาก ตั้งแต่สมัย KT อยู่ปี 1 แล้วก็ได้เลิกคุยกันเพราะ KT ไม่ชอบคนที่เด็กกว่า (เราเรียนพร้อมกันค่ะ แต่แค่ I เกิดทีหลังเฉยๆ) KT ส่งรูปหน้ายิ้มไป แล้ว I ก็ดันตอบกลับซะงั้น ตอนนั้น KT ไม่ได้หวังอะไรจาก I เราก็คุยกันตามปกติตามประสาคนเคยคุยกัน แต่เค้าจำชื่อ KT ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะในแชท KT ไม่ได้บอกชื่อเอาไว้ อยู่ๆเค้าก็โทรเฟสมา เราก็เลยรับ จากนั้นเราก็คุยกัน I บอก KT ว่าเราคุยถูกคอกัน เราพูดภาษาเดียวกันได้ เพราะพ่อกับแม่ของพวกเราเป็นครูเหมือนกัน ลักษณะจะคล้ายๆกัน (ตามที่ I บอก KT นะค่ะ) เค้าจะพูดประมาณมาจีบตลอด แต่เราเป็นคนปัดตลอด เพราะคิดว่าอกหักครั้งนี้ของพักยาวๆ เราคุยกันได้แค่ 1 สัปดาห์ เค้าก็อยากเจอหน้าเราซะงั้น แต่ที่หนักกว่าคือ เค้าอยากมาบ้านเรา มาเจอคนที่บ้านเราเลยค่ะ KT ก็เลยบอกพ่อกับแม่ว่า I อยากมาบ้าน ให้ตายสิ !! โดนด่าเป็นชุดเลย ว่าเอาผู้ชายที่ไม่เคยเจอหน้า เจอกันในเน็ตเข้าบ้านได้ไง สุดท้ายก็ยอมค่ะ ^^ เค้ามาบ้านเราจริงๆค่ะ นี่คือการพบกันครั้งแรกของเรา เราก็อายนะ กลัวเค้ารับที่บ้านเราไม่ได้ กลัวกินนู้นกินนี่ไม่เป็น แต่เค้าก็ไม่ได้แสดงออกว่ารังเกียจเลยค่ะ วันนั้นมันโอเครค่ะ พ่อแม่ตายาย ยอมรับโอเคร ผ่านเลยค่ะ แต่ตอนนั้น KT ก็ยังไม่ได้หลงรัก I นะค่ะ เพราะ KT ไม่อยากรีบ เราก็คุยกันไปเรื่อย แต่เค้าบอกว่าเค้าคุยกับพ่อเรื่องเราตลอดเลย เราก็พยายามทำตัวดีๆ KT กับ I ไม่เคยทะเลาะกันเลยค่ะ เราให้กำลังใจกันตลอด I ก็เป็นกำลังให้ KT อ่านหนังสือ (KT ยังไม่มีงานทำนะค่ะ รอสอบอยู่ค่ะ) KT ก็ให้กำลังกันในการทำงานตลอด แรกๆ I จะพยายามบอก คิดถึงเราตลอด I พยายามถามตลอดว่า KT คิดถึงเค้ามั้ย แต่เราก็ไม่ตอบค่ะ กลัวตกหลุมรักเค้า หลังๆมา I ก็กลายเป็นบอกรัก KT คือมันฟินอ่ะ ไม่มีตอนไหนที่ KT คุยกับ I แล้วไม่ยิ้มเลย ผ่านมา 2 สัปดาห์ เค้าก็มาบ้านเราอีกครั้ง ครั้งนี้เจอเยอะเลยค่ะ เจอทั้งครอบครัว ญาติพี่น้อง คนข้างบ้าน ทุกคนโอเครหมดค่ะ (ก็ธรรมดาล่ะน้อ โปรไฟล์เค้าดี ใครจะไม่ชอบล่ะ )
และแล้ว KT ก็เห็นเค้าเปิดรับสมัครงานที่จังหวัดเค้าค่ะ เข้าทางเลยมั้ยล่ะ เรากำลังฟินกับเค้า ใครจะไม่อยากไปอยู่ใกล้ล่ะ KT ตัดสินใจไปสมัครค่ะ ถามว่าอยากได้มั้ย ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ มันไม่ตรงเอกเรา แต่คืออยากไปให้มันอยู่ใกล้ๆเค้าพร้อมกับอยากมีงานทำด้วยแหละ เผื่อมันจะโอกว่านี้ เพราะตอนนี้ KT คิดตลอดค่ะว่าเรามีอะไรให้เค้าชอบ มองๆแล้วก็ไม่มีสักอย่างค่ะ วันเราไปสมัครเค้าก็อยากมาหาเราค่ะ แล้วเค้าก็ได้เข้ามาจังหวัดจริงๆด้วย แต่ที่เซ็งคือ ผจก เค้าดันมาด้วย เค้าก็เลยบอกเราว่าคงไม่ได้ไปหานะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เราเข้าใจว่าเค้ามีงาน
พอไปถึงที่สมัคร...เราก็ยื่นใบสมัครตรวจสอบความเรียบร้อยค่ะ
จนท. : เอ๋า หนูจบเอก มาหรอค่ะ ทำไมไม่ไปลองสมัคร ดูละ
เรา : เค้าเปิดรับสมัครด้วยหรอค่ะ ทำไมหนูไม่เห็นประกาศเลย
จนท. : ไปลองดูเลย จะได้ไม่มีเสียเที่ยว มีใบรับรองแพทย์มา 2 แผ่นรึป่าว
เรา : เอามาค่ะ
จนท. : หนูฉลาดจังเลย
เรา : (เขิลสิค่ะ คนชมว่าฉลาดครั้งแรก ปกติจะดูโง่ๆ ซื่อๆค่ะ)
ออกจากห้องรับสมัครเท่านั้นแหละ อย่างฟินค่ะ เหมือนมันเป็นโชค 2 ชั้นเลย ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คนแรกที่เราอยากบอกคือเค้าค่ะ อยากให้เค้าดีใจว่าเราสอบได้ เราจะได้มาอยู่ใกล้กันแล้วนะ I จะต้องไม่ได้ไปหา KT ไกล (เราอยู่คนละจังหวัดค่ะ) แต่โทรไปเค้าดันไม่รับโทรศัพท์ซะงั้น เราก็เลยไปตามหาประกาศในเน็ตค่ะ เจอสิค่ะ เกือบพลาดมั้ยล่ะ อ่านไปอ่านมา โอ๊ะม่ายยยย เหมือนโชคชั้นที่ 3 ค่ะ คือ ถ้าเราสอบได้เราต้องได้ไปทำงานที่อำเภอเค้าค่ะ กรี๊ดสิค่ะ มีแรงขึ้นมาทันทีค่ะ ในความคิดนิคิดว่ามันเป็นพรหมลิขิตค่ะ มันบังเอิญเกินไปรึป่าว ตัดสินใจสมัครค่ะ แต่ประเด็นคือ รูปหมดซะงั้น แล้วเวลานั้นมันก็เที่ยงแล้ว หิวมากเลย เราไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรในจังหวัดเค้าเลยค่ะ รู้แค่ว่ามีบิ๊กซี เอ๋า งั้นก็ทานข้าวที่นี่ล่ะกัน (อืมลืมบอก KT ไปกับน้องค่ะ) เราก็เลยเห็น kfc ก็เลยตัดสินใจกินนี่แหละง่ายดี เราก็ทานกันไปธรรมดาค่ะ  เราพี่น้องก็คุยตามประสาสาวๆ อยู่ๆ เค้าจะเดินมา เรากำลังกัดไก่อยู่อย่างเอร็ดอร่อย เงยหน้ามองแทบไม่ทัน เราสตัสพร้อมกับไก่ที่จับอยู่หลุดออกจากมือแบบไม่รู้ตัว
เรา : เฮ้ยยย มาได้ไง
เค้า : ตาม GPS มา
เรา : เชื่อซะงั้น (ช่วงตกใจ พูดอะไรก็เชื่อไปหมด)
น้องเรา : บอกแล้วให้ปิด GPS บ้าง
เค้า : โกหก ไม่ได้ตามมาหรอก
เรา : นึกขึ้นได้ เออ เค้าไม่ได้สมัครเน็ตนิน๊า ดู GPS ได้ไง
เค้า : เค้ามากับผู้จัดการ ผู้จัดการแวะมาซื้อของ เห็นพอดี รีบวิ่งมาหาเลย
เรา : (แมร่งอย่างเขิล นิเรื่องจริงนะไม่ใช่ละคร บังเอิญเจอกันง่ายขนาดนั้นเลยหรอว่ะ โชคชั้นที่ 4 ของวันนี้เลย)
เราได้คุยกันนิดหน่อยค่ะ แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี ที่อย่างน้อยเราก็ได้เจอกันค่ะ หน้าเรานิเต็มไปด้วยรอยยิ้มเลย เขิลแทบจะลงไปกลิ้งกับพื้น
เค้า : อืม แต่งตัวดูดีนิวันนี้
เรา : จริงหรอ (เขิลแรงมากกกก )
เค้า : งั้นเค้าไปหาผู้จัดการก่อนนะ พร้อมกับจับขา แถมตีขาเบาๆ (โอ้ยฟิน)
เรา & น้อง : เม้าส์มอยถึงเรื่องที่มันไม่น่าเป็นไปได้
เรา : ฟินจิกหมอนเลยทีเดียว หน้าแดงเป็นตูดลิง ยิ้มไม่หุบ ถ้าลงไปกลิ้งที่พื้นได้คงทำไปแล้ว
~~~ เวลาผ่านไปสักพัก ~~~
เค้าต้องกลับสำนักงาน เค้าเดินผ่าน แอบส่งยิ้มให้พร้อมโบกมือลา (ต้องไม่ทำให้ผู้จัดการรู้)
เรา : เรานิเขิลหนักมาก ยิ้มจนแก้มจะฉีกถึงหู หน้าตาตอนนั้นมันช่างมีความสุขอะไรป่านนี้ นิมันพรหมลิขิตจริงๆหรอ #ฟินแรง

พอเรากลับมาบ้าน...เหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นก็เกิด
พ่อเค้าจะให้เค้าลองคุยกับลูกของเพื่อนพ่อ ประมาณคุมถุงชน เค้าคิดหนักมาก ถึงกับหายไปเลย รู้อีกทีเค้าเครียดมาก เค้าหนีไปร้องเพลง เค้าไปร้องไห้
ส่วนเราก็นั่งรอเค้าโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า เราก็เลยลองโทรไลน์ไป แต่ก็ไม่มีคนรับ อยู่ๆ เค้าก็วิดีโอคอลกลับมา แล้วก็บอกว่าเครียดมาก แต่เค้าไม่อยากบอกเราว่าเครียดเรื่องอะไร เค้ากลัวเราเสียใจ เราก็ขยั้นขยอเค้าจนได้
เรา : I เป็นอะไรบอกมาเถอะ เครียดเรื่องงานหรอ
เค้า : ไม่ใช่ เรื่อง KT นั้นแหละ
เรา : เค้าไปทำอะไรให้ I เครียดหรอ
เค้า : I รัก KT มากๆนะ (หน้าตาจริงจังมาก)
เรา : I เป็นอะไร
เค้า : KT รัก I มั้ย
เรา : (ความรู้สึกโคตรรัก แต่ไม่อยากบอก ไม่อยากเจ็บซ้ำ)
เค้า : KT รัก I มั้ย (ถามอยู่หลายรอบ)
เรา : อืมมมมมม เป็นอะไรหรอ
เค้า : เค้าไม่รู้จะพูดยังไง เค้ากลัว KT โกรธ KT รอ I ได้มั้ย อย่าพึ่งไปรักใครนะ
เรา : I มีอะไร I จะไปไหน ไม่เข้าใจ มีอะไรก็บอกกัน
เค้า : พ่อจะให้เค้าลองคุยกับลูกของเพื่อนพ่อดู เค้าเป็นรุ่นน้อง เรียนอยู่อาชีวะ มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เค้าคุยกันไว้ (ประมาณคุมถุงชน) แต่เค้ารัก KT มาก เค้าต้องทำตามที่ผู้ใหญ่ขอร้อง แต่เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิมนะ เค้าจะเป็นเหมือนเดิม
เรา : แต่ความรักมันจะมีมากกว่า 2 คนไม่ได้นะ
เค้า : เค้าจะทำบังหน้าผู้ใหญ่ไว้เฉยๆ KT อย่าพึ่งไปคุยกับใครนะ
เรา : งั้นเค้าก็ต้องโดนแบ่งเวลา แบ่งความสำคัญไปสิ I แล้วถ้าเกิดน้องเค้ารัก I ขึ้นมาจริงๆ จะทำไง
เค้า : ลืมคิด แต่เค้ารัก KT มาก เค้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ (เค้าน้ำตาไหลค่ะ ร้องไห้เหมือนกับรักเรามากค่ะ เรานิน่าอยู่ในโมเม้นหลงรักเค้าเข้าแล้วสิค่ะ) KT รอ I นะ
เรา : แต่คนรอมันเจ็บนะ I คุยได้กลับหลายคน I มีสิทธิ์เลือก เค้าเป็นคนรอ เค้าก็เสียเปรียบสิ แต่ถ้าพ่อขอร้อง I ก็ทำตามพ่อเถอะ อย่างน้อย เข้าก็พึ่งเข้ามาได้แค่เดือนเดียว แต่พ่อเลี้ยง I มาตั้งแต่เกิด เค้าก็ต้องเลือกหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเค้าอยู่แล้ว ถ้า I บอกไม่ชอบน้องเค้า เราก็คุยกันต่อได้ ยังไง KT ก็ไม่ได้รีบอะไรอยู่แล้ว
เค้า : เค้าตัดสินใจแล้ว เค้าจะไปคุยกับพ่อ
เรา : ไม่ได้นะ I เป็นเด็กดีของพ่อของแม่มาตลอด I จะมาทำให้พ่อแม่ผิดหวังเพราะเค้าได้ไง
เค้า : ก็ I ไม่ได้อยากคุยกับน้องเค้านิ
คือเราคุยกันจนตกลงกันได้ เค้าทำให้เราเชื่อว่าเค้าจะรักเราต่อไป เค้าร้องไห้ นั่นมันหมายถึงเค้ารักเรามาก (แอบคิดไปเองค่ะ) ตอนนั้นเราก็ยังเฉยๆ เพราะอนาคตเราจะได้ไปอยู่ที่ไหนมั้ยรู้ เราก็กลัวใจตัวเองค่ะ เราเป็นคนอยู่คนเดียวไม่ได้ จะเหงาทันทีค่ะ ซึ่งมันจะทำให้เราหาคนใหม่คุย ส่วนมากผู้ชายจะเข้าหาเราเองค่ะ เราก็คุยไว้แก้เหงา (ซึ่งมันเป็นข้อเสียของเรามากค่ะ ได้เลิกกันกับคนก่อนๆก็เพราะเหตุผลนี้แหละ) จะมีใครมั้ยละค่ะ คนที่เข้ามาคุยโดยไม่หวังผลอะไรเลย เราก็เลยตอบรับเค้าไปค่ะว่าจะรอ ในใจคิดว่าเดี๋ยวเวลาก็เป็นตัวตัดสินทุกอย่างเอง เราไม่รีบอยู่แล้ว เค้าอาบน้ำเสร็จ เราก็คุยกันต่อค่ะ
เค้า : เค้าคุยกับพ่อแล้วนะ
เรา : คุยอะไรหรอ
เค้า : จะฟังข่าวดีรึข่าวร้าย
เรา : ข่าวร้ายก่อนละกัน
เค้า : ข่าวร้ายคือ เค้าจะได้คุยกับ KT ต่อไป
เรา : นี่มันข่าวร้ายหรอ แล้วข่าวดีล่ะ
เค้า : เค้าจะได้คุยกับ KT ไปเรื่อยๆ
เรา : ยิ้มสิค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถามว่าจะเอายังไงกันน้องคนนั้น ไม่อยากให้เค้าเครียดค่ะ
เค้า : อนคตทั้งดีและร้ายนะคับ รองคิดดูดีๆสิ เราแต่งงานกัน I ก็ต้องเคารพเมียตัวเอง
เรา : เคารพเมียนิมันดีรึไม่ดี
เค้า : ดี แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ เมียต้องให้ตังค์ผัวใช้นะ
เรา : ได้ แต่เงินเดือนของผัว เมียต้องจัดการนะ แล้วผัวก็ใช้วันละ 20 ก็พอ เครน้อ ตามนี้ (เขิล ฟินถึงอนาคตเลยทีเดียว)
เราก็คุยกันตามปกติ เหมือนทุกวันค่ะ ก็มีคุยเรื่อง 18+ กันบ้าง แต่เราก็โตๆกันแล้วค่ะ คุยเพื่อความสนุก จะได้ไม่น่าเบื่อน้อ ฮ่าๆ แล้วเค้าก็ไปนอนค่ะ ส่วนเราก็อ่านหนังสือต่อ แล้วคือวันนี้มันมีความสุขมากไง เราก็เลยอยากบันทึกความทรงจำครั้งหนึ่งไว้ นั่งพิมพ์ในไอแพดจาก เที่ยงคืนถึงตี 2 กว่าค่ะ แต่เรื่องยังไม่จบเรานอนหลับ
พอเช้า เราสัญญากับเค้าว่าจะโทรปลุกค่ะ แต่เรานอนดึกเพลียมาก นอนเลยเวลาค่ะ แต่เค้าทักมาว่าเค้าตื่นแล้ว เรานิรีบโทรหาเลย เกือบบกพร่องในหน้าที่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ เพราะปกติเราจะโทรปลุกเค้าทุกวันค่ะ ตอนเช้าเราคุยกันตามปกติค่ะ ให้กำลังใจกัน แต่เราว่างไง คิดไรไม่รู้ ไปตามหาเฟสน้องคนนั้นดีกว่า จะสวยน่ารักพอที่เราจะสู้ได้มั้ยน๊า ก็เลยเอาเฟสอีกเฟสที่มีเฉพาะเค้าเป็นเพื่อนไปส่องดูค่ะ เพราะมันจะเด้งข้อมูลที่เค้าคอมเม้น ที่เค้ากดไลค์ทุกอย่าง แต่แล้วมันก็มีจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าใช่น้องคนนั้นรึป่าว เพราะคนนี้ทำงานแล้ว แต่มันไม่ใช่แค่กดไลค์ค่ะ กดเป็นรูปหัวใจ ทุกโพสต์ แล้วก็เลยไปดูที่เฟสเค้า ผู้หญิงคนนั้นก็กดไลค์เป็นรูปหัวใจเช่นกันค่ะ แล้วทำไมต้องกดให้แค่คนนี้ คนอื่นล่ะ เราสับสนมากค่ะ เพราะเค้าบอกเราว่า เค้าไม่ชอบโพสต์มันไร้สาระ ไม่ชอบไลค์ แต่นี่อะไรค่ะ มันกดลำบากกว่ากดไลค์ธรรมดาเลยนะค่ะ ส่วนของเราไลค์ให้ยังไม่มีเลย ผู้หญิงคนนั้นทำงานคล้ายๆกับเค้าค่ะ ดูเป็นสาว สวย เซ็กซี่ นมใหม่ ขายครีม ผิดจากเราโดยสิ้นเชิง โอ้ แม่เจ้า เวลานั้นสตั๊ลมากค่ะ เค้าเอาเวลาไหนไปคุยกัน เราคุยกันทั้งวันนิ ไหนเค้าบอกว่าหลังจากเลิกกับแฟนเก่า เค้าก็ไม่ได้สนใจใครอีกไง เค้าบอกเค้าเลิกสนใจผู้หญิงจนมีเราเข้าไป มันอะไรยังไง อยากถามเค้ามากค่ะ แต่กลัวรบกวนเวลาเค้าทำงาน กลัวเค้าว่าเรางี้เง้า ตักสินใจค่ะ แต่ถามอ้อมๆ
เรา : I เค้ามีไรจะถาม
เค้า : คับๆผม ว่ายังงัย
เรา : I มีรูปน้องที่พ่อ I จะให้คุยมั้ย
เค้า : ส่งรูปงานตัวเองมาค่ะ แล้วก็ว่า งง  
เราก็เลยถามย่ำอีกครั้งค่ะ แต่ตอบช้ามากค่ะ เราก็คิดว่าเค้าคงยุ่งกับงานค่ะ

เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ เรื่องใกล้จบแล้วค่ะ ความฟินกำลังจะหมดไป หัวใจเราก็เริ่มอ่อนแรง อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย นิเรากำลังมีความสุขแท้ [: