ใครที่มีลูกเป็นโรคสมาธิสั้นบ้างคะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเราขอเกริ่นก่อนว่า เรามีลูกสาวอายุ2ขวบ4เดือนค่ะ น้องพูดช้าตอนนี้ยังพูดเป็นคำนามเป็นคำๆ2พยางค์บ้าง3พยางค์บ้าง แต่จะไม่พูดสื่อสารค่ะ คือไม่สามารถบอกความต้องการได้ ถ้าอยากได้อะไรก็จะร้องเอาอย่างเดียว ไม่มองสบตา  และชอบคุยคนเดียวค่ะ คือพูดภาษาต่างดาว หรือไม่ก็พูดแต่เมมโมรี่ที่เค้ามี เช่นร้องเพลงคนเดียว เอาคำศัพท์ที่รู้จักมาพูดต่อๆกัน รวมๆกับภาษาต่างดาวค่ะ และบางทีชอบนั่งเหม่อ ตอนแรกกลัวว่าน้องจะเป็นออทิสติกค่ะ แต่พอพาไปหาคุณหมอพัฒนาการเด็กให้เค้าช่วยประเมิน เค้าบอกว่าน้องไม่น่าจะเป็นออทิสติกค่ะ เพราะน้องไม่มีอาการหมกมุ่นเล่นของซ้ำๆ ไม่ติดดูอะไรหมุนๆ ยอมรับว่าตอนนั้นเบาใจไปเปราะนึงค่ะ แต่ปัญหาของน้องคือเป็นเพราะการรับประสาทสัมผัสทางตาและทางหูไวมากค่ะ ทำให้เค้าไม่สามารถรักษาสมาธิในการทำกิจกรรมหนึ่งให้เสร็จลุล่วงได้ถ้ามีสิ่งเร้าทางตาและทางหูเข้ามา ปกติน้องไม่ใช่เด็กที่ซนมากนะคะ แต่ถ้าเค้าต้องไปอยู่ในที่ๆคนมากๆ เสียงดังมากๆ เค้าจะมีอาการตื่นตัวมากค่ะ จะร้องกรี้ดๆๆๆ วิ่งไปมา เหมือนคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ ถ้าเจอเด็กเยอะๆจะชอบมากค่ะ อยากวิ่งไปรวมกลุ่มกับเค้า แต่เล่นกับใครไม่เป็นนะคะ เพราะสื่อสารไม่ได้ แต่เวลาที่เค้าเจอกิจกรรมอะไรที่เค้าชอบมากๆเค้าจะมีสมาธิมากๆๆค่ะ มากเกินไป คุณหมอบอกเป็นอาการSuper focus คือเค้าจะเหมือนอยู่ในภวังค์ ใครเรียกก็ไม่ได้ยิน นอกจากเป็นเสียงที่ดังมากๆ จึงทำให้เวลาแม่เรียกเค้าถึงไม่ได้ยิน TT แต่เค้ามีความจำดีชั่วพริบตาดีมากๆค่ะ สอนครั้งเดียว หรือเห็นแวบเดียวเค้าจะจำได้เลย อันนี้ทั้งหมอทั้งครูพูดเหมือนกันค่ะ เพราะเค้ามีประสาทรับรู้ทางตาที่ไวมาก นั่นคือข้อดีอย่างเดียว ตอนนี้เค้ายังไม่มีปัญหาเรื่องอารมณ์ร้ายค่ะ เวลาดุ เวลาห้ามเค้าก็หยุดค่ะ
คุณหมอให้รอดูอาการไปก่อนค่ะ ว่าจะเป็นสมาธิสั้นหรือไม่ แล้วส่งน้องให้ไปฝึกกับนักกิจกรรมบำบัด3ครั้ง/สัปดาห์ ตอนนี้เพิ่งเข้าสัปดาห์ที่2ค่ะ

ส่วนถามถึงสาเหตุ ก็มาจากไอแพดนี่ล่ะค่ะ บทเรียนราคาแพงเลย ตอนน้องอายุขวบกว่าๆ ต้องทิ้งไว้ให้ปู่ย่าเลี้ยงค่ะ เค้าก็เลี้ยงด้วยไอแพดนี่แหละ เคยเตือนแล้วว่าอย่าให้ดู แต่ปู่ย่าเค้าก็ไม่เชื่อค่ะ พ่อแม่พูดอะไรไม่ได้เลย ย่าจะบอกว่าก็ปู่ย่าตามจับไม่ไหว ถ้าไม่อยากให้ดูก็มาเลี้ยงเอง TT ก็เลยต้องเลยตามเลยค่ะ จนน้องเข้า2ขวบ แม่เริ่มเห็นอาการผิดปกติค่ะ เลยพาไปหาหมอ พ่อเค้าเบยตัดสินใจว่าให้แม่ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกเองดีกว่า ตอนนี้แม่ก็เลี้ยงอย่างใกล้ชิดเองคนเดียวค่ะ แต่ก็ยังคงรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิดที่เหมือนเราช้าไปน่ะค่ะ ถ้าตัดสินใจมาเลี้ยงเองเร็วกว่านี้ ลูกคงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้ แฟนก็ปลอบใจค่ะว่าไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งเสียใจหรือโทษใครแล้ว ตอนนี้ต้องเดินหน้าช่วยลูกอย่างเดียว ตอนนี้เริ่มบำบัดมาได้เข้าอาทิตย์ที่2 ก็ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ
คือ
1.เลิกดูจอทุกชนิด รวมไปถึงสิ่งที่มีไฟแว่บๆ เสียงดังๆ
2.เลิกไปห้าง หรือในที่เสียงดังๆคนเยอะๆ
3.อย่าให้น้องเล่นคนเดียว พยายามเข้าไปเล่นด้วยตลอด พยายามมีปฏิสัมพันกับเค้าเยอะๆค่ะ
4.เก็บของเล่นทุกชิ้น แล้วหยิบเอาออกมาให้เล่นทีละชิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้องวอกแวก
5.พยายามกระตุ้นให้น้องทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นเวลา ช่วยเหลือตัวเองให้มากๆ
6.นวดตามข้อบ่อยๆรวมถึงออกกำลังกายเยอะๆ กระโดดtrampolineบ่อยๆ
7.พยายามให้น้องทำกิจกรรมให้เสร็จเป็นอย่างๆ

ตอนนี้ผ่านมาเข้าสัปดาห์ที่2แล้ว น้องมีอาการดีขึ้นบ้าง คือเริ่มสนใจสิ่งรอบตัว ไปเดินเล่นเจอผีเสื้อก็จะบอกว่า butterflyๆๆๆแล้วก็วิ่งตาม เห็นบ่อน้ำก็จะบอกว่า "น้ำ...ไปดูปลา" จากที่เมื่อก่อนถ้าไปเดินเล่นจะไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างเลยค่ะ เอาแต่ร้องเพลงอย่างเดียว หรือพูดคนเดียว (หมอบอกว่าเค้าจะเล่นกับmemoryที่มีในสมองค่ะ) เริ่มสบตามากขึ้นค่ะ เช่นเวลาแม่เรียกก็เริ่มหันตามเสียงมาสบตาบ้าง(แต่สบตาแค่1-2วินะคะ แวบนึง) หรือเวลาเล่นต่อบล็อคกับแม่เสร็จ เค้าจะปรบมือดีใจ"เย้ๆ" แล้วาเค้าจะหันไปมองพ่อ คือเหมือนให้พ่อดูเค้าหน่อยว่าต่อเสร็จแล้ว อยากให้พ่อชมค่ะ

ตอนนี้สำหรับตัวแม่เองยอมรับว่าเครียดค่ะ ลูกจะดีขึ้นมั้ย?? ปีหน้าจะเข้ารร.แล้วจะหายทันมั้ย?? จะเป็นอาการถาวรรึป่าว??
ตอนนี้คือเริ่มมองหารร.เรียนร่วมแล้วค่ะ เพื่อว่ารร.ที่เล็งไว้เค้าไม่รับ TT

ใครมีปสก.แบบนี้บ้างคะ อยากให้มาแชร์กันหน่อยนะคะ แม่ร้อนใจอยากรู้ว่ามีลูกใครอาการเป็นแบบนี้แล้วจะมีโอกาสหายมั้ยคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่