ออทิสติก high function เมื่อเติบโตขึ้นจะเป็นยังไง ? อยากขอข้อมูลจากท่านที่มีภาวะออทิสติกและผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นค่ะ

สวัสดีค่ะ เราเป็นคุณแม่ที่มีลูกอายุ 3.6 ขวบ น้องเพิ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก หลังจากเพิ่งพบคุณหมอพัฒนาการเป็นครั้งที่2
ครั้งแรกคือ 4 เดือนก่อน แม่พาไปประเมิน 2 แห่ง ความเห็นตรงกันว่าไม่ใช่ 100% เพราะน้องสบตาดี ปฏิสัมพันธ์ดี ชี้ชวนดู ทำตามคำสั่ง2ขั้นตอนได้

แต่ 4 เดือนต่อมา คุณหมอคนเดียวกันบอกว่าน้องเป็นออทิสติกแบบฟันธงค่ะ แม่ช็อคมากๆ เพราะที่ไปแค่ไปติดตามเรื่องพัฒนาการช้า (พูดช้า น้องพูดตอน 2 ขวบ กว่าค่ะ ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เริ่มพูดช้าแม่ก็พาไปพบนักกระตุ้นพัฒนาการมาตลอด)

โดย 4 เดือนก่อนที่แม่พาไปพบหมอพัฒนาการเพราะอยากให้ประเมินความพร้อมก่อนเข้าเรียนเฉยๆ ซึ่งเมื่อเข้าเรียนน้องปรับตัวกับโรงเรียนได้ดีมากทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องกินยากแม่ต้องทำอาหารไปให้เอง แต่แม่ถามครูว่าน้องเล่นกับเพื่อนไหมเพราะโตมาแบบไม่เคยเข้าสังคมและไม่เคยเล่นกับเด็กวัยเดียวกันเลย เคยเล่นกับลูกพี่ลูกน้องที่โตกว่าแค่ 3-4 ครั้ง น้องก็เล่นได้ดี

คุณครูบอกว่า น้องมักจะเข้าหาครูก่อนเพื่อนๆ แต่เมื่อครูพาน้องเข้ากลุ่ม น้องก็สามารถเล่นตอบสนองเพื่อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งครูบอกว่าเป็นปกติของเด็กที่เคยอยู่แบบเลี้ยงเดี่ยวมาตลอด

แต่ปัญหาเรื่องการสบตาแม่มาสังเกตุช่วงตั้งแต่น้องไปโรงเรียน สบตาน้อยลงจริงๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นของเล่น แล้วแม่ก็เป็นคนบอกเรื่องนี้กับคุณหมอเองด้วย

เรื่องผลวินิจฉัยคุณหมอบอกว่า เป็นแบบ high function แต่ตั้งแต่วันที่ลูกโดนวินิจฉัยก็มีพฤติกรรมหลายอย่างที่เปลี่ยนไป เช่นสบตาน้อยลงอีก เวลาเล่นของเล่นที่ชอบจะเล่นคนเดียว ไม่ค่อยชวนคนอื่นเล่นเหมือนเมื่อก่อน ไม่ยอมให้หวีผมทำผมไปโรงเรียน กลับมาจุ๊บเต้าแม่จากที่ตอนแรกเลิกไปแล้ว ไม่ยอมให้จับนอนแปรงฟัน อาการเหล่านี้เป็นหลังจากวันที่โดนวินิจฉัย ซึ่งก็ผ่านมาประมาณ 10 วันเท่านั้น

เราไม่รู้ว่าลูกมีความเครียดหรือความกดดันหรือเปล่า หรือว่าเขาเห็นแม่ร้องไห้ในห้องหมอวันนั้น หรือเขาจับความเครียดของแม่ได้เลยพฤติกรรมเปลี่ยนไป แต่ที่แม่กังวลมากคือ มันจะเป็นการถดถอยหรือเปล่า กลัวว่าลูกจะเป็นระดับที้รุนแรงขึ้น

จริงๆแล้วเมื่อวานเราจะตั้งกระทู้ถามว่า อาการของลูกมันใช่ออทิสติกจริงๆหรือเปล่า เราใช้เวลาพิมพ์อยู่ชั่วโมงครึ่ง แต่ก็ตัดสินใจไม่โพสต์ เราพยายามควบคุมจิตใจตัวเองเลิกคิดเลิกหาข้อมูลว่าเป็นหรือไม่เป็น แต่พยายามหาว่าเราจะทำยังไงให้ลูกกลับมาเป็นปกติและสามารถดูแลตัวเองในอนาคต แม้ว่าเวลาลูกไปเรียนเรายังนึกโทษตัวเองและร้องไห้อยู่เรื่อยๆ เรามีการทักไปหาขอคุยกับหลายๆท่านที่บอกว่าตัวเองก็เป็นออทิสติก ได้ข้อมูลมาบ้างบางส่วน แต่เราก็อยากจะรู้ข้อมูลมากกว่านี้ เรากับสามีสุขภาพไม่ค่อยดี ก็กลัวว่าจะดูแลลูกไปนานๆไม่ได้

เราคิดโทษตัวเองมาตลอดเพราะเราไปเจอข้อมูลมาว่า หากเด็กที่เป็นออทิสติก แต่ถ้ายังไม่แสดงอาการ แล้วเราพาเข้าสังคมและได้รับการกระตุ้นที่ถูกต้องและสม่ำเสมอตั้งแต่ 1-2 ขวบ ก็อาจจะไม่แสดงอาการ สามารถกลมกลืนกับเด็กปกติไปเลยก็ได้
และอีกอย่างคือตั้งแต่เราป่วยเมื่อช่วงปลายปีก่อน เรามีอาการคลื่นไส้ทั้งวัน แล้วตอนนั้นเรายังเลี้ยงลูกเต็มเวลา สามีบอกให้พาลูกไปเนอสเซอรี่ เราก็ไม่พาไปเพราะยังอยากเลี้ยงลูกเอง ดูข่าวต่างๆนาๆก็กลัว ถึงขนาดเคยมีความคิดจะทำโฮมสคูลด้วยซ้ำ ซึ่งตอนที่เราไม่สบายแรกๆ ช่วงเย็นเรามีอาการมาก ตอบสนองเอเนอจี้ในการเล่นของลูกไม่ไหว เราก็เปิดคลิปสั้นดูกับลูก คิดแบบมักง่ายว่าลูกเกิน2ขวบแล้ว ดูจอได้ อีกอย่างเราก็ดูไปพร้อมกับลูกด้วย เพิ่งมาเลิกดูหลีงลูกไปโรงเรียนเพราะเราได้พักกลางวันเราแทบไม่พาลูกไปสวนสาธารณะ ไม่เคยเข้าสวนสนุก บ้านบอล เพราะกลัวลูกไม่สบาย กลัวเชื้อโรค กลัวโควิด หลงคิดว่าตัวเองเป็นแม่ที่ประเสริฐเฝ้าทะนุถนอมลูก แต่จริงๆเป็นแม่ที่ทำร้ายลูก

เรื่องที่ทำให้เราเศร้าใจที่สุดคือเรื่องการสบตา เพราะน้องไม่มีสัญญาณอะไรเลย เรื่องที่เคยทำได้ดีเป็นปกติเมื่อ 2 เดือนก่อนไปโรงเรียน จู่ๆก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องมาฝึก แม่ทำใจไม่ได้เลย เมื่อนึกถึงลูกที่เคยดูดเต้าแม่ไปด้วยมองหน้าแม่ไปด้วย มันไวมาก ตั้งตัวไม่ทันจริงๆ

เลยอยากถามว่าเมื่อฝึกไปต้องใช้เวลานานแค่ไหนลูกถึงจะกลับมาสบตาได้เหมือนปกติหรืออย่างน้อยคือสบตาดีขึ้น เพราะพอลูกไม่สบตามันเหมือนสายใยของเรามันจางลง

น้องเป็นลูกคนเดียว เป็นเด็กร่าเริง ยิ้มเก่ง ช่างพูด ขี้เล่น ไม่ค่อยป่วย ที่ตั้งแต่ท้องเราไม่เคยคาดหวังให้เขาเรียนเก่ง ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย หรือมีชื่อเสียง เราแค่หวังให้เขาเติบโตและดูแลตัวเองได้ ทำงาน มีครอบครัว ใช้ชีวิตปกติ แต่พอเป็นออทิสติกที่จะมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมโดยตรง เหมือนความหวังของเรามันเลือนไป

เราอยากจะถามผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นออทิสติกว่า ท่านผ่านเรื่องพวกนี้มาได้ยังไง และน้องๆเมื่อได้รับการฝึก การกระตุ้น และการบำบัด น้องๆมีอาการดีขึ้นไหม จะสามารถเรียนโรงเรียนปกติร่วมกับเด็กปกติได้ไหม มีอะไรที่เราต้องเสริมให้เป็นพิเศษ เมื่อโตขึ้นยังมีปัญหาอะไรที่ต้องคอยแก้ไข

และอยากทราบข้อมูลในด้านต่างๆจากท่านที่มีภาวะออทิสติกว่า อะไรคือเรื่องยากในการใช้ชีวิตและการเติบโตมาของท่าน อยากให้ผู้ปกครองช่วยด้านไหน อะไรที่ทำให้ท่านสบายใจ และเมื่อเปรียบเทียบวัยเด็กกับตอนโต ท่านคิดว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมากไหม


ส่วนแนวทางที่เราพยายามทำให้ดีที่สุดตอนนี้คือ
1. เราจะพาลูกไปตามนัดที่หมอนัดให้ ไม่แน่ใจว่าถี่แค่ไหนเพราะยังไม่เคยไป
มีนักกระตุ้นพัฒนาการ นักฝึกพูด และนักกิจกรรมบำบัด
2. เราสมัครคอร์สกระตุ้นพัฒนาการให้ลูกอีกสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งเป็นกระตุ้นผ่านการเล่น ลูกน่าจะไม่เครียดมากเกินไป
3. พาลูกไปสวนสาธารณะทุกเย็น
4. เมื่อลูกอยู่บ้าน มองหน้าลูกทุกครั้งที่ลูกคุยด้วย
5. เรื่องโรงเรียน เราพยายามหาโรงเรียนเอกชนที่น่าจะดูแลดี ป้องกันการโดนแกล้งและล้อเลียน ที่ดูมาตอนนี้มี 3 ที่ ที่รับคือ อนุบาลเด่นหล้า เพลินพัฒนา และสาธิตละอออุทิศ
ในส่วนของเด่นหล้าและเพลินพัฒนา เราไม่น่าจะไหวเพราะสามีทำงานคนเดียว เราเลี้ยงลูกอย่างเดียวไม่ได้ทำงานมาหลายปี เงินเก็บไม่มีเพราะค่าใช้จ่ายของลูก วัคซีน ประกันสุขภาพ
ซึ่งละอออุทิศน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแต่ติดปัญหาการเดินทาง เราอาจจะต้องไปเช่าห้องอยู่ แต่สภาพจิตใจเราคงไม่สามารถอยู่กับลูกแค่ 2 คนได้ ถ้าที่บ้านก็ยังมีญาติพอให้คลายกังวลบ้าง

เมื่อวานครูที่โรงเรียนพูดกับเราว่า อย่ามัวแต่โฟกัสว่าลูกเป็นอะไร เพราะตัวเขาเองถ้าเราไม่บอก ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกเราเป็นออทิสติก เพราะลูกเราปรับตัวได้ดี ไม่เคยเดินไปเดินมา กรีดร้องโวยวายรบกวนคนอื่น ดูเป็นเด็กเรียบร้อย เชื่อฟังครู เข้าร่วมกิจกรรมได้ทุกกิจกรรม ดูแลตัวเองได้ กินข้าวเอง ไปฉี่เองได้
เขาบอกให้เน้นที่ความสุขของลูกเราเป็นหลัก

สุดท้ายขอความกรุณาให้ข้อมูลด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่