สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าจะให้แนะนำโดยที่ไม่รู้ข้อมูลเลยนะคะ อยากจะบอกว่า อะไรที่ไม่แน่ใจในผลลัพท์ หรือ ยังไม่ได้ทำใจรับผลลัพท์ทั้งดีที่สุด (ได้คบกัน) และแย่ที่สุด (มองหน้ากันไม่ติด) ได้ ก็อย่าเพิ่งบอกออกไป
ส่วนมากถ้ายังลังเล ก็แสดงว่ามันมีปัญหาอะไรอยู่ในนั้น จากประสบการณ์ของเรา เวลาเรารู้สึก 50/50 ว่าเค้าจะรับรักเราไหม ที่ผ่านมา เราไม่เคยได้คบเลยค่ะ (เราเลยมาคิดได้ว่า ที่เราไม่มั่นใจ ครึ่งๆกลางๆแบบนั้น มันก็มีเหตุผลของมัน) แต่คนที่เราได้คบ กลับเป็นคนที่เรามั่นใจว่าเค้าสนใจเราแน่
ถ้ามองอีกมุมนึง ให้ปล่อยเรื่องนี้ (ว่าจะบอกรักดีหรือไม่บอกรักดี) ให้เป็นไปตามธรรมชาติ แล้วคิดว่า ถ้าเป็นคู่กันจริงๆ จะบอกพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า ก็ไม่แตกต่างกันมาก เพราะ ถ้าเราคู่กัน ยังไงเราก็จะได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไปตลอดอยู่แล้ว จะรีบเร่งไปทำไม เรายังมีเวลาทั้งชีวิตด้วยกัน แต่ถ้าเราสองคนไม่ใช่คู่กัน การบอกหรือไม่บอกรักก็ไม่มีความหมายอยู่ดี เพราะเราไม่ใช่คู่กัน
ง่ายๆก็คือ ให้ใจเย็นๆ คิดให้รอบคอบ ถ้าไม่มั่นใจก็ให้นิ่งๆไว้ก่อน โยนหินถามทางไป มั่นใจแล้วค่อยบอก อีกอย่าง ถ้าเค้าชอบเรามากๆ เค้าจะรู้สึกอยากเป็นคนบอกรักเราเองเพราะไม่อยากเสียเราไปโดยที่เราไม่เห็นต้องไปกระวนกนะวายใจเลยค่ะ
ส่วนมากถ้ายังลังเล ก็แสดงว่ามันมีปัญหาอะไรอยู่ในนั้น จากประสบการณ์ของเรา เวลาเรารู้สึก 50/50 ว่าเค้าจะรับรักเราไหม ที่ผ่านมา เราไม่เคยได้คบเลยค่ะ (เราเลยมาคิดได้ว่า ที่เราไม่มั่นใจ ครึ่งๆกลางๆแบบนั้น มันก็มีเหตุผลของมัน) แต่คนที่เราได้คบ กลับเป็นคนที่เรามั่นใจว่าเค้าสนใจเราแน่
ถ้ามองอีกมุมนึง ให้ปล่อยเรื่องนี้ (ว่าจะบอกรักดีหรือไม่บอกรักดี) ให้เป็นไปตามธรรมชาติ แล้วคิดว่า ถ้าเป็นคู่กันจริงๆ จะบอกพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า ก็ไม่แตกต่างกันมาก เพราะ ถ้าเราคู่กัน ยังไงเราก็จะได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไปตลอดอยู่แล้ว จะรีบเร่งไปทำไม เรายังมีเวลาทั้งชีวิตด้วยกัน แต่ถ้าเราสองคนไม่ใช่คู่กัน การบอกหรือไม่บอกรักก็ไม่มีความหมายอยู่ดี เพราะเราไม่ใช่คู่กัน
ง่ายๆก็คือ ให้ใจเย็นๆ คิดให้รอบคอบ ถ้าไม่มั่นใจก็ให้นิ่งๆไว้ก่อน โยนหินถามทางไป มั่นใจแล้วค่อยบอก อีกอย่าง ถ้าเค้าชอบเรามากๆ เค้าจะรู้สึกอยากเป็นคนบอกรักเราเองเพราะไม่อยากเสียเราไปโดยที่เราไม่เห็นต้องไปกระวนกนะวายใจเลยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
คนที่คิดว่าเราชอบมาก ตรงสเปกเรามาก ไม่ได้มีคนเดียวในชีวิต
ข้อนี้ผมใช้เป็นคติประจำใจผมเลย
อย่าทำตัวhopeless romantic ไม่ต้องคอยวิ่งตามหารักแท้ ไม่ต้องทำให้ชีวิตเป็นเหมือนนิยายที่เวลารักใครต้องรักคนเดียวรักไปตลอด โลกนี้ไม่ได้มีเธอคนเดียว ออกไปพบไปเจอคนให้มันหลากหลาย เผลอๆจะเจอคนที่ดีกว่าคนที่เราแอบชอบอีก ถ้ายังไม่เจอก็ไม่เป็นไร ระหว่างทางก็ได้เพื่อนเพิ่มไปอีกดีจะตาย
ข้อนี้ผมใช้เป็นคติประจำใจผมเลย
อย่าทำตัวhopeless romantic ไม่ต้องคอยวิ่งตามหารักแท้ ไม่ต้องทำให้ชีวิตเป็นเหมือนนิยายที่เวลารักใครต้องรักคนเดียวรักไปตลอด โลกนี้ไม่ได้มีเธอคนเดียว ออกไปพบไปเจอคนให้มันหลากหลาย เผลอๆจะเจอคนที่ดีกว่าคนที่เราแอบชอบอีก ถ้ายังไม่เจอก็ไม่เป็นไร ระหว่างทางก็ได้เพื่อนเพิ่มไปอีกดีจะตาย
แสดงความคิดเห็น
ถ้าคุณแอบรักใครแล้วไม่สมหวัง เข้ามาอ่านเถอะ แล้วคุณจะตัดใจได้
เวลาคนเรามีความรักและมีความสุข หรือ อกหักและมีความทุกข์ มันคือความรู้สึกที่รุนแรงทั้งสองด้าน
ซึ่งถ้าเราใช้อารมณ์เวลาที่เราเสียใจ เราจะยิ่งทุกข์ขึ้นไปใหญ่ แต่ถ้าเราใช้เหตุผล มันจะช่วยลบล้างความรู้สึกได้ไม่มากก็น้อย
เวลาเราไปชอบหรือแอบรักใคร ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนเสมอไป
พอเราไปแอบชอบใคร เราจะมีความคาดหวังว่า อยากเป็นแฟนกับคนนี้จัง ซึ่งความชอบไม่จำเป็นต้องจบด้วยการเป็นแฟน
บางคนเราชอบเค้าแค่ในบางมุม ซึ่งมุมนั้นอาจจะเหมาะกับเราในฐานะเพื่อนพี่น้องเท่านั้น ไม่จำเป็นว่า ชอบใครแล้วต้องเป็นแฟนเสมอไป
การเก็บคนบางคนไว้เป็นเพื่อนพี่น้องบางทีจะคบกันได้นานไปตลอดชีวิต แต่ถ้าคบแล้วไม่รอด อาจจะมองหน้ากันไม่ติดไปเลยก็ได้
คนที่คิดว่าเราชอบมาก ตรงสเปกเรามาก ไม่ได้มีคนเดียวในชีวิต
สมมุติผู้ชายบอกว่า ชอบผู้หญิงที่สวย น่ารัก นิสัยดี หรือ ผู้หญิงบอกว่าชอบผู้ชายที่สูง อบอุ่น เสมอต้นเสมอปลาย ฯลฯ
เวลาเจอคนที่ตรงสเปก เชื่อเถอะ ทุกคนก็คิดว่า นี่แหละคนที่ใช่ ต้องเป็นแฟนเค้าให้ได้
อย่างเราตอนมัธยมเจอคนที่เราคิดว่าใช่ พอเข้ามหาลัยก็เจออีก พอเรียนจบก็เจออีก คือเค้าไม่ได้นิสัยเหมือนกัน
แต่เค้าให้ความรู้สึกที่อบอุ่นกับเราได้ ซึ่งก็แสดงว่า เราชอบคนที่อบอุ่น แต่ไม่ใช่ว่าคนที่อบอุ่นจะมีคนเดียวในโลก
อยากบอกว่า คนที่ตรงสเปกน่ะ มีเยอะมาก ไม่ใช่คนนี้ก็เป็นคนอื่น อย่าไปยึดติดว่า คนนี้คนเดียวเท่านั้นที่ใช่
ที่จริงแล้ว คนที่ใช่ ไม่ใช่แค่คนที่ตรงตามสเปกคุณ แต่คือคนที่รักคุณด้วย นั่นถึงจะถือว่าใช่ ถ้าเค้าไม่รักเรา ก็ให้ถือว่า เค้ายังไม่ใช่
เวลาไปแอบรักใครแล้วผิดหวัง ให้คิดว่า...
เวลาที่คุณแอบรักใคร แล้วบอกรักไปแล้วเค้าปฏิเสธมา อยากจะบอกว่า ให้วิเคราะห์ดูว่า เราชอบอะไรในตัวเค้า
เช่น ชอบที่เค้าหน้าตาตรงสเปก นิสัยแบบนั้น บุคลิกแบบนี้ แล้วให้คิดกับตัวเองว่า
ที่จริงแล้ว สิ่งที่เราชอบ ไม่ใช่คนๆนี้น แต่คือ เราชอบคนแบบนี้
เช่น อย่างเราชอบเพื่อน ซึ่งเป็นคนที่หน้าตาน่ารัก และ เป็นคนอบอุ่น ก็ให้เรามองว่า ที่จริงแล้ว เราอาจจะไม่ได้ชอบเพื่อนคนนี้ขนาดนั้น
แต่สิ่งที่เราชอบคือ หน้าตาที่น่ารักของเค้า และ ความเป็นคนอบอุ่นของเค้า นั่นหมายความว่า ต่อให้เราไม่สมหวังกับ เพื่อนคนนี้
แต่ในอนาคตเราก็อาจจะได้เจอกับคนอื่นที่ หน้าตาน่ารักและเป็นคนอบอุ่นคนอื่น ซึ่งเป็นคนแบบที่เราชอบเช่นกัน
เอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจ ยอมรับมัน และ ปล่อยมันไป
เวลาเราชอบใคร เราก็อยากเป็นแฟนเค้า พอเค้าปฏิเสธ บางคนก็เลือกที่จะตามตื๊อ ไปพยายามเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนใจเค้า
ซึ่งสิ่งที่เราควรทำคือ เคารพในความรู้สึกและหัวใจของคนๆนั้น ถ้าเค้ามั่นใจว่า เค้าไม่ได้ชอบเรา ก็ต้องยอมรับมัน ก็ปล่อยเค้าไป
เพราะลองคิดดู ถ้ามีคนมาบังคับให้คุณฟังเพลงหรือดูหนังแนวที่คุณไม่ชอบ คุณยังฝืนใจเลย
แต่นี่คือคนทั้งคน ถ้าคุณไม่รักเค้า คงไม่อยากให้ใครมาบังคับให้คุณต้องรัก คนๆนั้นก็เช่นกัน
สุดท้าย มองให้ออกว่า ความรักคืออะไร เวลาคุณเห็นคนที่คุณรักมีความสุข คุณก็สุขตาม
ถ้าความสุขของเค้าไม่ใช่คุณ แต่คุณไปพยายามยัดเยียดให้เค้ารับรักคุณ ลองคิดดูว่า ที่คุณทำอยู่นั้น เพื่อใคร เพื่อเค้า หรือ เพื่อตัวเอง
ถ้าคุณไม่ใช่ความสุขของเค้า การมีคุณป็นแฟนก็ไม่ได้ทำให้เค้ามีความสุข แต่การมีเค้าเป็นแฟนจะทำให้คุณสมหวังมีความสุข
แสดงว่า คุณรักตัวเอง ไม่ได้รักเค้า เพราะฉะนั้นต้องแยกให้ออกว่า คุณกำลังสนองตัณหาตัวเอง หรือ รักเค้าจริงๆกันแน่
ถ้าให้สรุปสั้นๆก็คือ เวลาผิดหวังจากการแอบรัก
- คนที่เราแอบชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนเสมอไป
- อย่ามัวไปยึดติดว่า คนนี้คือคนที่ใช่ที่สุด ไม่ใช่คนนี้แล้วจะรักใครไม่ได้อีก
- อย่าไปมองว่าเราชอบคนนี้ แต่ให้มองว่า เราชอบอะไรในตัวเค้าแทน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราชอบจริงๆ
- เคารพในการตัดสินใจของเค้า เอาใจเขามาใส่ใจเรา
สุดท้าย เหตุผล ความเข้าใจชีวิต ประสบการณ์ และ เวลา จะเป็นตัวช่วยเยียวยาตัวคุณเอง เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ