[SR] Yakizen ร้านอิซากายะ บรรยากาศ เรียบง่าย น่ารัก ได้กลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่น คอเบียร์ไม่ควรพลาด

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ได้กลับมาโครงการเล็ก ๆ ย่าน สะพานควาย อย่าง AQUA เป็นโครงการที่มีร้านอาหารอยู่เกือบทั้งโครงการ มีทั้งแนวปิ้งย่าง, ชาบู, ซูชิ, ขนม และไอศกรีม ซึ่งอีก 1 ร้านในนั้น ที่จะมารีวิวให้เห็นกันในวันนี้ คือร้านแนวอิซากายะ หรือว่าร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น ที่ตอนนี้ดูจะเป็นที่นิยมของเหล่าคนออฟฟิศ ร้านที่ว่านั้นก็คือร้าน Yakizen
Yakizen เป็นร้านสไตล์ Modern Izakaya ที่ตั้งอยู่ในโครงการ AQUA ย่านสะพานควาย บนถนนพหลโยธิน เน้นเรื่องความหลากหลายของเครื่องดื่ม รสชาติกับแกล้ม และบรรยากาศที่พยายามสะท้อนความเป็นญี่ปุ่นในมุมมองของทางเจ้าของร้าน ให้ทุกคนได้อิ่มเอม และได้ซึมซับบรรยากาศ ในการมานั่งกิน นั่งดื่ม นั่งคุยกัน
Yakizen มาจากคำว่า “Yaki” ที่แปลว่า “ปิ้งย่าง” และคำว่า “Zen” ที่หมายถึงลัทธิ “เซน” ซึ่งสะท้อนถึงความ สงบ และเรียบง่าย ทางร้านจึงเอาคอนเซ็ปของทั้ง 2 คำนี้ มาปรับใช้กับการตกแต่งบรรยากาศภายในร้าน คือจะเห็นได้ว่าเป็นร้านที่ไม่มีความซับซ้อนอะไร เป็นร้านเปิดโล่ง โต๊ะเก้าอี้ ก็เลือกใช้ไม้สีที่ให้ความอบอุ่นมาใช้ ผนังด้านนึงก็จะเปลือย ๆ ให้อารมณ์ดิบ ๆ บ้าน ๆ ดีครับ ด้านหน้าร้านก็มีห้องกระจกที่เค้าใช้ปรุงพวกคูชิยากิ ให้เห็น ๆ กันเลย
ร้าน Yakizen เปิดให้บริการมาตั้งแต่ มิถุนายน 58 ในร้านมีที่นั่ง 2 ชั้น ในอนาคตน่าจะมีชั้น 3 ด้วย ปัจจุบันรองรับลูกค้าได้ 50 ท่าน ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 16.00 – 24.00 น. หยุดวันอาทิตย์ ทุกวันจันทร์จะมีโปรโมชั่นพิเศษลด 40% สำหรับทุกเมนูที่เป็นแซลมอน ใครเป็นสาวกแซลมอนก็ไปจัดกันได้เลย
เรียกได้ว่าเพลิดเพลินในการเลือกดื่ม เลือกกิน กันเลยทีเดียว คูชิยากิที่รสชาติเข้มข้น ด้วยน้ำซอสโฮมเมดสูตรของทางร้านที่ป้ายลงบนวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เสียบไม้มา ทั้งอาหารที่เข้มข้นและเครื่องดื่มที่หลากหลายแค่นี้ก็น่าจะพอทำให้บรรยากาศการนั่งคุย สังสรรค์ มีอรรถรส ได้ไม่ยากครับ ราคาเมนูของที่ Yakizen ไม่มีการคิด Vat จะมีแค่ Service charge 10% เท่านั้น เมนูมีอะไรบ้างงั้นเราลองไปดูกันครับ


เป็นเซ็ทที่ถือว่าคุ้มค่าครับ เฉลี่ยตกไม้ละ 40 บาท ประกอบด้วย ไก่ยากิโทริ, ไก่ย่างมายองเนสโรยกระเทียม, เบคอนพันไส้กรอก, ไก่ย่างกับต้นหอมญี่ปุ่น และ เครื่องในย่าง แต่วันนี้ทางเจ้าของร้านอยากให้ลองไก่ย่างซอสวาซาบิ เลยเปลี่ยนเอาไก่ย่างซอสวาซาบิมาแทนเครื่องในย่าง
เนื้อสัมผัสของคูชิยากิของที่นี่ดีมาก เนื้อไก่มีความชุ่มฉ่ำ กัดเข้าไปนี่นุ่มมาก ผสานกับรสชาติของซอสที่เข้มข้น มีผิวที่เกรียม ๆ เล็กน้อย เพิ่มความหอมของเมนูนี้ได้อย่างดี กินตอนร้อน ๆ นี่อร่อยมาก และแต่ละไม้ก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างกัน แม้จะเป็นเนื้อไก่เหมือนกัน แต่กินแล้วความรู้สึกที่ได้ แต่ละไม้ก็ต่างกันไปตามส่วนผสมที่เพิ่มเข้าไป ใครมีโอกาสได้มาที่ Yakizen ก็อยากแนะนำให้ลองครับ
คั่นกันด้วยผัก เพิ่มเติมเรื่องความครบถ้วนทางโภชนาการกันสักนิด ชุดนี้เป็นชุดผักย่าง สาว ๆ ถ้ารู้สึกว่าเนื้อหนักไปก็มีผักย่างแบบนี้ให้เลือกกิน ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ หรือคุณผู้ชายจะกินแกล้มกับเนื้อก็ไม่ผิดอะไร ชุดนี้ประกอบด้วย เห็นเออรินจิ, เห็ดหอม, ต้นหอมญี่ปุ่น และ กระเทียม
ผมว่าจานนี้ต้องถูกใจใครหลายคน เพราะเค้าย่างผักมาได้กำลังดีมาก กระเทียมทั้งกลีบก็นุ่มกำลังดี, ต้นหอมก็นุ่ม ๆ กรุบ ๆ หวาน ๆ , เห็ดหอมก็ดูดซับน้ำซอสไว้กำลังอร่อยเลย ผิวจะเกรียมนิด ๆ หอมมาก, และเห็ดเออรินจิก็เนื้อเด้งกรุบ ๆ เลย ถือว่าอร่อยไม่แพ้พวกเนื้อสัตว์เลยครับ ซึ่งผมมองว่าพระเอกจริง ๆ ของเมนูคูชิยากิ น่าจะเป็นตัวน้ำซอสสูตรพิเศษของทางร้าน มันทำให้ทุกอย่างดูอร่อยหอมขึ้นมาทันที



เนื่องจากในเซ็ทที่ได้ลอง ปกติมันจะมีเครื่องในอยู่ด้วย แต่พอถูกเปลี่ยนไปเป็นไก่วาซาบิ ผมจึงต้องขอสั่งพวกเครื่องในมาลอง เพราะว่าเครื่องใน กับ คูชิยากิ มันขาดกันไม่ได้ครับ จริง ๆ อยากลองตับไก่ด้วย แต่พอดียังเป็นเมนูที่ทางร้านแพลนว่าจะเพิ่มในอนาคต เนื่องจากวัตถุดิบเก็บให้สดค่อนข้างยาก วันนี้เลยได้ลองแค่กึ๋นกับหัวใจไก่เท่านั้น

รสชาติก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นกัน แถมยังรู้สึกว่าเข้มข้นมากกว่าพวกเนื้อไก่และผักย่างที่ได้ลองด้วย เลยลองถามคนย่างดู เค้าบอกว่าใช้ซอสตัวเดียวกัน แต่เนื้อไก่และผักเวลาย่างจะมีน้ำออกมาปนด้วย รสชาติจึงอ่อนกว่า และในส่วนการย่างเครื่องในจะป้ายน้ำซอสในปริมาณที่เยอะกว่าด้วย เพื่อช่วยในการดับคาว สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นของเครื่องใน ผมว่ามาลองที่นี่แล้วก็จะเพลินเหมือนกับผม



ได้ลองของย่างที่ทาซอสหรือป้ายซอสมากันแล้ว ผมก็เริ่มอยากลองอะไรที่คืนสู่สามัญบ้าง เลยจัดหมูสามชั้นย่างมาเพิ่มอีกเมนู เพราะว่าเมนูนี้จะเป็นการย่างแบบโรยเกลือและพริกไทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หน้าตาก็ออกมาดังรูปครับ น่ากินมาก ไม่รอช้าครับ หยิบเข้าปากแล้วรูดออกมา มันอร่อยมากครับ เนื้อสัมผัสนุ่มและส่วนที่เป็นมันก็เซ็ทตัวมากำลังดี สามารถบีบมะนาวตัดเลี่ยนได้ครับ อร่อยดีครับ



ใช้เนื้อโคขุนมาเสียบไม้ย่าง มีประมาณ 4 คำ กินกับซอสที่เป็นมายองเนส และโรยวาซาบิลงไปเล็กน้อย เนื้อนุ่ม ๆ ได้ความมันจากมายองเนส และกลิ่นฉุน ๆ หอม ๆ ของวาซาบิ กินแล้วโล่งจมูกเลย อร่อยดี สำหรับคนที่ชอบเนื้อและวาซาบิน่าจะชอบ แต่ถ้าใครไม่กินวาซาบิก็เขี่ย ๆ ออกสักนิดก็น่าจะกินได้แล้วครับ




นอกจากของเสียบไม้ย่าง(คูชิยากิ)แล้ว เมนูอื่น ๆ ของทางร้านก็มีเหมือนกัน เมนูนี้เป็นตัวแทนของหมวดของสด จะเป็นสลัดแซลมอนที่ด้านล่างเป็นผักสลัดสด ๆ วางแซลมอนชิ้นหนา ๆ เต็มคำ ลงไปด้านบน แล้วก็ราดด้วยน้ำสลัดและไข่กุ้งแบบเน้น ๆ เลย
ผมว่าโดยรวมรสชาติดีนะ แซลมอนเนื้อแน่น ๆ ชิ้นหนาเข้ากับน้ำสลัดญี่ปุ่นได้ดี แต่ติดตรงเนื้อสัมผัสของผักที่เลือกใช้ มีพวกกะหล่ำปลีซึ่งเนื้อสัมผัสจะแข็งก่อย มันทำให้อรรถรสในการกินดูขัดกันกับความนุ่มของเนื้อปลาครับ




มาถึงของหนักกันบ้าง ใครที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ เลิกเย็นหิวข้าว กินกับแกล้มอย่างเดียวก็คงไม่อยู่ท้อง ต้องจัดข้าวกันให้อยู่ท้องก่อนดื่ม ร้านนี้เค้าก็มีเมนูข้าวเหมือนกันนะครับ วันนี้ได้ลองข้าวหมูผัดขิง หน้าตาดูไม่ค่อยสวดสดใส แต่รสชาติที่เข้มข้นของเนื้อหมูย่างและซอสกับมายองเนส มันช่างเหมาะกับการกินกับข้าวสวยร้อน ๆ เสียจริง ๆ




เมนูนี้หน้าตาสีสันสวยงามครับ มีความหอม มีความมันเงา และ มีความเข้นข้น เนื้อมีความนุ่มนิดหน่อย ถ้านุ่มได้กว่านี้น่าจะดี ผัดมากับหอมหัวใหญ่ ได้ความหวานหอมแบบธรรมชาติ เพิ่มกลิ่นรสด้วยซอสผัดและต้นหอมไทย ก็อร่อยเพลิดเพลินกันไป
ได้เห็นเมนูอาหารบางส่วนของ Yakizen กันไปแล้ว แน่นอนที่ขาดไม่ได้ของร้าน Izakaya ก็คือเรื่องของเครื่องดื่ม ที่นี่มีให้เลือกหลากหลายมากแค่เบียร์นี่ก็เลือกไม่หมดแล้ว เพราะมีทั้งเบียร์สดและเบียร์ขวดที่นำเข้ามาทั้งจากฝั่งตะวันตก(เบลเยี่ยม,เยอรมัน เป็นต้น) และที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นก็มีเหมือนกัน รสชาติและรสสัมผัสก็แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ว่าใครจะชอบเบียร์สัญชาติไหนก็เลือกได้ตามใจชอบครับ