ตอนนี้จิตผมไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมเริ่มรู้ตัวประมาณ4ปีได้ เมื่อ4ปีที่แล้วอาการไม่หนักมาก แต่ตอนนี้ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว อาการตอนนี้คือ
ผมชอบจิตนาการคิดฟุ้งซ่างไปเรื่อย จิตการว่าผมเป็นอีกคนในความฝันซึ่งผมมีทุกอย่าง มีเพื่อน มีแฟน ซึ่งในปัจุบัณผมไม่มี ผมมีความสุขมากที่ได้คิดถึงมัน ผมประติดประต่อเรื่องในจิตนาการมาตลอด4ปี เนื่องจากผมเป็นคนที่ว่างงาน ผมช่วยงานครอบครัววันละไม่กี่ชั่วโมงเลยทำให้ผมว่างทั้งวัน ส่วนมากผมจะอยู่แต่หน้าคอม ฟังเพลงแล้วจิตนาการไปด้วย ซึ่งมันทำให้ผมมีความสุขดี
แต่..
เมื่อเจอปัญหาอะไรเข้ามาในชีวิต ผมกลับประสาทหลอนมาก ผมกลัว ผมหลอนไปทุกเรื่อง ผมจะคิดละเอียดมาก ถ้ามันเป็นแบบนั้น ถ้ามันเป็นแบบนี้ ส่วนมากจะคิดแง่ร้ายเสมอ แล้วผมจะคิดหาทางออก แล้วจะลงมือแก้ใข้ พอแก้ใข้ไปแล้วผมกลับหลอน ผมทำถูกมั้ย มันจะมีปัญหาไหม ผมแก้ไปแล้วมันจะยิ่งแย่มั้ย ยกตัวอย่างตอนนี้เลยคือ
ผมระแวงว่าจะมีคนมาแฮกอีเมล์ของผม ซึ่งในอีเมล์นั้นมันก็มีข้อมูลสำคัญ เมื่อไม่กี่วันมีคนส่งข้อมูลสำคัญมาให้ผม ผมกลัวจะมีคนแฮกเอาไปทำในสิ่งไม่ดี ผมประสาทหลอนมาก กลัวว่าเครื่องผมมีไวรัส มัลแวร์ ผมเลยจัดการลบทึ้งเลย แต่ยังไม่จบ ผมก็คิดเรื่องนั้นมาตลอด3วันเต็ม ก็อย่างที่บอกผมจิตนาการเก่งมากผมอยู่กับมันมาประมาณ4ปี ผมก็จิตนาการถ้ามีคนแฮกไปเอาไปทำไม่ดีละ เราจะเตรียมการแก้ยังไงดี จะแก้ยังไง ผมจะคิดล่วงหน้าแก้ไว้ก่อน ผมคิดทุกทาง คิดจนผมปวดหัวต้องกินยาแก้ปวดหัว
บางเรื่องมันไม่มีอะไรแต่ผมหยุดคิดไม่ได้ ถ้าผมไม่คิดมันจะบ้าคลั่งให้ได้ มันจะตัวสั่นมาก กลัว จนต้องคิดว่าเราแก้ไปแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมาก็คิดต่อเมื่ออาการกำเริบคือกลัว พอคิดก็หาย ผมคิดแล้วคิดอีกติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน กว่าอาการจะหายดี ตัวอย่างเช่น
ผมแอบมองผู้หญิงสวยๆน่ารัก พอเขาหันมามองตอบ ผมกลับประสาทหลอน กลัวว่าเขาจะคิดว่าเราโรคจิต ไม่เจียมตัว ผมก็ระแวงว่าจะมีคนรู้จักผมอยู่แถวนั้นไหม เห็นว่าผมมองผู้หญิงมั้ย กลัวเขาจะเอาไปแซว เอาไปนินทา ผมเกลียดที่สุดคือคำพูดประชดประชันซึ่งมันทำให้ผมเป็นตัวตลก
คือบ้านผมขายของใช่ไหมครับ แล้วจะมีคนมาซื้อของพอผมเห็นผู้หญิงสวยๆน่ารัก ผมก็จะมอง แล้วถ้าเขาไม่มาซื้อของผมอีกเลย ผมก็จะเครียด ทำไมเขาไม่มา เขารู้แน่เลยเรามอง เขาจะคิดว่าเราเป็นโรคจิตไหม หรือเกลียดเราหรือเปล่า เราทำอะไรไม่พอใจมั้ย
ผมชอบคิดถึงปัญหาในอดีตที่มันยังสะส่างไม่เสร็จ ผมกลัวจนประสาทหลอน กลัวมันจะมาทำร้ายเรา ถ้ามันเป็นแบบนี้ แบบนั้น คือผมไม่ไหวจริงๆ ผมหยุดความคิดตัวเองไม่ได้ ถ้าผมไม่คิด ผมจะตัวสั่นมาก ผมจะกลัว อารมย์จะหงุดหงิด แต่ถ้าผมคิดไปเรื่อยๆ ผมจะปวดหัวหนัก
ผมก็เคยคิดเรื่องฆ่าตัวตายนะครับ ผมคิดว่าถ้าผมตาย ผมจะได้อยู่แต่ในความฝัน ผมเคยจิตนาการแล้วบอกคนที่ผมฝันขึ้นว่า รอก่อนนะเด๋วก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ผมคิดว่าถ้าตายไปก็คงเหมือนฝันละ เราจะเข้าไปอยู่ในนั้น เราจะมีความสุข แต่ผมไม่ทำแน่นอน เพราะผมมีครอบครัว มีแม่ มีพี่ มีน้อง ผมเคยเกือบทำแต่ตอนนั้นผมคิดถึงครอบครัว ถ้าเราตายไปจะเป็นไง ครอบครัวเราจะเดือดร้อน แต่มันก็มีฉุดคิดอีกว่า ตอนนี้ผมอายุ26 ผมเป็นภาระครอบครัว ผมไม่มีงานทำ เรียนน้อย ผมเลยดูท่าทีครอบครัว ถ้าเขาไม่เอาผมแล้ว เขาไม่รักผมแล้ว ตอนนั้นจะเป็นยังไงกันนะ
ผมเป็นคนไม่มีเพื่อนเลย วันๆอยู่แต่หน้าคอม ฟังเพลง จิตนาการไปเรื่อย ผมพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ผมรู้ว่าอะไรมันทำให้ผมเป็นแบบนี้ สุดท้ายเมื่อเจอปัญหา ผมตะบะแตก ผมเคยคิดจะเลิกบูหรี่ เลิกกับการกระทำเดิมๆ ผมทำไม่สำเร็จ เมื่อผมตะบะแตก อะไรก็เอาผมไม่อยู่ ผมทึ้งทุกอย่าง ช่างมัน ไม่เอาแล้ว พอผมสงบสติได้ซึ่งใช้เวลาอยู่หลายวัน ผมเสียดายมาก มันเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง
ผมเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยคุยกับใคร ใครมาซื้อของผมก็ไม่ค่อยคุย รับเงิน ทอนเงิน ใครคุยด้วยก็ ครับ ครับ ผมทำอะไรผิดไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผมจะขอโทษ ขอโทษ แม้จะเรื่องที่ไม่ควรขอโทษ ใครทำไม่ดีต่อผม ผมก็จะขอโทษ เพื่อให้เรื่องมันจบ ผมยอมผิดทุกอย่าง ผมไม่อยากมีปัญหา ตอนนี้ผมไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ ผมกลัวมีปัญหา ผมก็รู้ปัญหาผมอยู่ที่สมอง ผมบอกกับตัวเองไว้ตอนคลั่งว่ามันไม่มีอยู่จริง มันไม่ใช่ความจริง เราคิดไปเอง แต่ผมควบคุมไม่ได้ ผมหยุดไม่ได้ ถ้าผมไม่คิดผมจะคลั่ง ผมจะกลัว แล้วสุดท้ายพอคิดเยอะๆ ผมจะปวดหัว
ผมเคยมีความฝันอยู่3อย่าง
ความรัก เป็นสิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุด ผมอยากมีคนโทรหา ผมอยากมีคนให้กำลังใจ ไปดูหนัง หัวเราะ ร่าเริง มันคงมีความสุขมาก แต่ผมก็ดันวาดสเป็คผู้หญิงของผมไว้ซะสวย ผมก็รู้นะ ถ้าผมอยากได้ผู้หญิงสวย ผมต้องหล่อสะอาด ต้องมีเงิน ผมพยายามเปลี่ยนตัวเอง แต่ผมทำไม่ไหว ร่างกายผมไม่ไหว ผมไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวลำบาก แต่สมองจิตใจของผมมันไปไม่ไหว
บวชพระ ผมอยากบวชตลอดชีวิต ผมอยากปล่อยวาง ทุกอย่างมันหนักเหลือเกิน ผมเคยวาดฝันเอาไว้ผมอยากไปบวชไกลๆ เป็นวัดที่ไม่ต้องมีอะไร และเป็นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ตอนเด็กๆ ผมเคยไปเป็นเด็กวัดก่อนที่จะบวช สุดท้ายมีปัญหาทำให้ผมไม่สามารถบวชได้ แต่พระที่นั้นเขาพูดดี เขาบอกถ้าคิดถึงมาหาได้นะ ผมอยากไปหาเขาสักครั้ง อยากไปกราบท่าน แต่ผมกลัวเขาลืมผม เพราะมันตั้ง10กว่าปีแล้ว
ความตาย ผมอยากปล่อยวาง ผมเหนื่อยกับชีวิตที่เป็นแบบนี้ ผมทรมารมากเวลาที่ผมมีปัญหา เคยมีครั้งหนึ่งผมคิดจนผมบอกตัวเอง ''เราไม่ไหวแล้วพอได้แล้ว ผมต้องขอร้องตัวผมเอง แต่เชื่อไหม ไม่สำเร็จ ผมยังคิดต่อไป'' แต่ผมมีครอบครัว ผมไม่กล้าทำ ผมบอกตรงๆเลย ผมไม่ได้กลัวเจ็บกลัวไรหรอก ประโยชน์เดียวเลยคือ ''ครอบครัว''
ผมเคยไปหาหมอเพราะผมปวดหัวมาก กินยาก็ไม่หาย ไปคลีนิค ผมคุยกับหมอน้ำตาผมจะล่วง ผมบอกผมอาจะเป็นโรคซึมเศร้า หมอเขาพูดดีมากให้ผมไปโรงบาลใช้สิทธิ์แล้วเขาให้ยาคลายเครียด ตอนไปรับยา คนจ่ายยาพูดว่า ''ทำงานหรือเปล่า'' เขาจะรู้มั้ย ว่าผมไม่ปรกติ คำพูดเขาทำให้ผมคิด ทำให้ผมไม่ชอบหมอ ผมแต่งตัวไม่ดี สกปรกด้วย เขาจะหาว่าผมไม่มีงานทำ เป็นกุ๊ย ไร้การศึกษา ผมคิดไปเองมั้งว่า เขาคงดูถูกผม
หลังจากนั้นผมก็มาบอกครอบครัวแกล้งบอกว่า ''ผมอาจป่วยเป็นโรคซึมเศร้า'' เพื่อจะให้เขารู้ตัวว่าผมป่วย ในใจผมอยากให้ท่านพาผมไปโรงบาลที ผมไม่กล้าไปคนเดียว ผมแต่งตัวไม่ดี สกปรก ผมกลัวคนดูถูก แต่ดูท่าทางเขานิ่งเฉย ผมก็ช่างมันละ เออดี ตอนนั้นผมคิด ยังไงก็ได้ ผมก็ไม่เอาอะไรกับชีวิตนี้แล้ว ตอนนี้เขาคงลืมไปแล้วมั้งว่าผมเคยพูด
ผมต้องการหาพื้นที่ระบาย ผมต้องการขอคำปรึกษา ผมไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ถ้าไม่พอใจใครผมขอโทษ
คนที่ป่วยทางจิตแล้วไม่ไปพบจิตแพทย์ มีวิธีรักษาตัวเองยังไงได้บ้างครับ อย่างผมควรทำยังไง
ผมชอบจิตนาการคิดฟุ้งซ่างไปเรื่อย จิตการว่าผมเป็นอีกคนในความฝันซึ่งผมมีทุกอย่าง มีเพื่อน มีแฟน ซึ่งในปัจุบัณผมไม่มี ผมมีความสุขมากที่ได้คิดถึงมัน ผมประติดประต่อเรื่องในจิตนาการมาตลอด4ปี เนื่องจากผมเป็นคนที่ว่างงาน ผมช่วยงานครอบครัววันละไม่กี่ชั่วโมงเลยทำให้ผมว่างทั้งวัน ส่วนมากผมจะอยู่แต่หน้าคอม ฟังเพลงแล้วจิตนาการไปด้วย ซึ่งมันทำให้ผมมีความสุขดี
แต่..
เมื่อเจอปัญหาอะไรเข้ามาในชีวิต ผมกลับประสาทหลอนมาก ผมกลัว ผมหลอนไปทุกเรื่อง ผมจะคิดละเอียดมาก ถ้ามันเป็นแบบนั้น ถ้ามันเป็นแบบนี้ ส่วนมากจะคิดแง่ร้ายเสมอ แล้วผมจะคิดหาทางออก แล้วจะลงมือแก้ใข้ พอแก้ใข้ไปแล้วผมกลับหลอน ผมทำถูกมั้ย มันจะมีปัญหาไหม ผมแก้ไปแล้วมันจะยิ่งแย่มั้ย ยกตัวอย่างตอนนี้เลยคือ
ผมระแวงว่าจะมีคนมาแฮกอีเมล์ของผม ซึ่งในอีเมล์นั้นมันก็มีข้อมูลสำคัญ เมื่อไม่กี่วันมีคนส่งข้อมูลสำคัญมาให้ผม ผมกลัวจะมีคนแฮกเอาไปทำในสิ่งไม่ดี ผมประสาทหลอนมาก กลัวว่าเครื่องผมมีไวรัส มัลแวร์ ผมเลยจัดการลบทึ้งเลย แต่ยังไม่จบ ผมก็คิดเรื่องนั้นมาตลอด3วันเต็ม ก็อย่างที่บอกผมจิตนาการเก่งมากผมอยู่กับมันมาประมาณ4ปี ผมก็จิตนาการถ้ามีคนแฮกไปเอาไปทำไม่ดีละ เราจะเตรียมการแก้ยังไงดี จะแก้ยังไง ผมจะคิดล่วงหน้าแก้ไว้ก่อน ผมคิดทุกทาง คิดจนผมปวดหัวต้องกินยาแก้ปวดหัว
บางเรื่องมันไม่มีอะไรแต่ผมหยุดคิดไม่ได้ ถ้าผมไม่คิดมันจะบ้าคลั่งให้ได้ มันจะตัวสั่นมาก กลัว จนต้องคิดว่าเราแก้ไปแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมาก็คิดต่อเมื่ออาการกำเริบคือกลัว พอคิดก็หาย ผมคิดแล้วคิดอีกติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน กว่าอาการจะหายดี ตัวอย่างเช่น
ผมแอบมองผู้หญิงสวยๆน่ารัก พอเขาหันมามองตอบ ผมกลับประสาทหลอน กลัวว่าเขาจะคิดว่าเราโรคจิต ไม่เจียมตัว ผมก็ระแวงว่าจะมีคนรู้จักผมอยู่แถวนั้นไหม เห็นว่าผมมองผู้หญิงมั้ย กลัวเขาจะเอาไปแซว เอาไปนินทา ผมเกลียดที่สุดคือคำพูดประชดประชันซึ่งมันทำให้ผมเป็นตัวตลก
คือบ้านผมขายของใช่ไหมครับ แล้วจะมีคนมาซื้อของพอผมเห็นผู้หญิงสวยๆน่ารัก ผมก็จะมอง แล้วถ้าเขาไม่มาซื้อของผมอีกเลย ผมก็จะเครียด ทำไมเขาไม่มา เขารู้แน่เลยเรามอง เขาจะคิดว่าเราเป็นโรคจิตไหม หรือเกลียดเราหรือเปล่า เราทำอะไรไม่พอใจมั้ย
ผมชอบคิดถึงปัญหาในอดีตที่มันยังสะส่างไม่เสร็จ ผมกลัวจนประสาทหลอน กลัวมันจะมาทำร้ายเรา ถ้ามันเป็นแบบนี้ แบบนั้น คือผมไม่ไหวจริงๆ ผมหยุดความคิดตัวเองไม่ได้ ถ้าผมไม่คิด ผมจะตัวสั่นมาก ผมจะกลัว อารมย์จะหงุดหงิด แต่ถ้าผมคิดไปเรื่อยๆ ผมจะปวดหัวหนัก
ผมก็เคยคิดเรื่องฆ่าตัวตายนะครับ ผมคิดว่าถ้าผมตาย ผมจะได้อยู่แต่ในความฝัน ผมเคยจิตนาการแล้วบอกคนที่ผมฝันขึ้นว่า รอก่อนนะเด๋วก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ผมคิดว่าถ้าตายไปก็คงเหมือนฝันละ เราจะเข้าไปอยู่ในนั้น เราจะมีความสุข แต่ผมไม่ทำแน่นอน เพราะผมมีครอบครัว มีแม่ มีพี่ มีน้อง ผมเคยเกือบทำแต่ตอนนั้นผมคิดถึงครอบครัว ถ้าเราตายไปจะเป็นไง ครอบครัวเราจะเดือดร้อน แต่มันก็มีฉุดคิดอีกว่า ตอนนี้ผมอายุ26 ผมเป็นภาระครอบครัว ผมไม่มีงานทำ เรียนน้อย ผมเลยดูท่าทีครอบครัว ถ้าเขาไม่เอาผมแล้ว เขาไม่รักผมแล้ว ตอนนั้นจะเป็นยังไงกันนะ
ผมเป็นคนไม่มีเพื่อนเลย วันๆอยู่แต่หน้าคอม ฟังเพลง จิตนาการไปเรื่อย ผมพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ผมรู้ว่าอะไรมันทำให้ผมเป็นแบบนี้ สุดท้ายเมื่อเจอปัญหา ผมตะบะแตก ผมเคยคิดจะเลิกบูหรี่ เลิกกับการกระทำเดิมๆ ผมทำไม่สำเร็จ เมื่อผมตะบะแตก อะไรก็เอาผมไม่อยู่ ผมทึ้งทุกอย่าง ช่างมัน ไม่เอาแล้ว พอผมสงบสติได้ซึ่งใช้เวลาอยู่หลายวัน ผมเสียดายมาก มันเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง
ผมเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยคุยกับใคร ใครมาซื้อของผมก็ไม่ค่อยคุย รับเงิน ทอนเงิน ใครคุยด้วยก็ ครับ ครับ ผมทำอะไรผิดไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผมจะขอโทษ ขอโทษ แม้จะเรื่องที่ไม่ควรขอโทษ ใครทำไม่ดีต่อผม ผมก็จะขอโทษ เพื่อให้เรื่องมันจบ ผมยอมผิดทุกอย่าง ผมไม่อยากมีปัญหา ตอนนี้ผมไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ ผมกลัวมีปัญหา ผมก็รู้ปัญหาผมอยู่ที่สมอง ผมบอกกับตัวเองไว้ตอนคลั่งว่ามันไม่มีอยู่จริง มันไม่ใช่ความจริง เราคิดไปเอง แต่ผมควบคุมไม่ได้ ผมหยุดไม่ได้ ถ้าผมไม่คิดผมจะคลั่ง ผมจะกลัว แล้วสุดท้ายพอคิดเยอะๆ ผมจะปวดหัว
ผมเคยมีความฝันอยู่3อย่าง
ความรัก เป็นสิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุด ผมอยากมีคนโทรหา ผมอยากมีคนให้กำลังใจ ไปดูหนัง หัวเราะ ร่าเริง มันคงมีความสุขมาก แต่ผมก็ดันวาดสเป็คผู้หญิงของผมไว้ซะสวย ผมก็รู้นะ ถ้าผมอยากได้ผู้หญิงสวย ผมต้องหล่อสะอาด ต้องมีเงิน ผมพยายามเปลี่ยนตัวเอง แต่ผมทำไม่ไหว ร่างกายผมไม่ไหว ผมไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวลำบาก แต่สมองจิตใจของผมมันไปไม่ไหว
บวชพระ ผมอยากบวชตลอดชีวิต ผมอยากปล่อยวาง ทุกอย่างมันหนักเหลือเกิน ผมเคยวาดฝันเอาไว้ผมอยากไปบวชไกลๆ เป็นวัดที่ไม่ต้องมีอะไร และเป็นสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ตอนเด็กๆ ผมเคยไปเป็นเด็กวัดก่อนที่จะบวช สุดท้ายมีปัญหาทำให้ผมไม่สามารถบวชได้ แต่พระที่นั้นเขาพูดดี เขาบอกถ้าคิดถึงมาหาได้นะ ผมอยากไปหาเขาสักครั้ง อยากไปกราบท่าน แต่ผมกลัวเขาลืมผม เพราะมันตั้ง10กว่าปีแล้ว
ความตาย ผมอยากปล่อยวาง ผมเหนื่อยกับชีวิตที่เป็นแบบนี้ ผมทรมารมากเวลาที่ผมมีปัญหา เคยมีครั้งหนึ่งผมคิดจนผมบอกตัวเอง ''เราไม่ไหวแล้วพอได้แล้ว ผมต้องขอร้องตัวผมเอง แต่เชื่อไหม ไม่สำเร็จ ผมยังคิดต่อไป'' แต่ผมมีครอบครัว ผมไม่กล้าทำ ผมบอกตรงๆเลย ผมไม่ได้กลัวเจ็บกลัวไรหรอก ประโยชน์เดียวเลยคือ ''ครอบครัว''
ผมเคยไปหาหมอเพราะผมปวดหัวมาก กินยาก็ไม่หาย ไปคลีนิค ผมคุยกับหมอน้ำตาผมจะล่วง ผมบอกผมอาจะเป็นโรคซึมเศร้า หมอเขาพูดดีมากให้ผมไปโรงบาลใช้สิทธิ์แล้วเขาให้ยาคลายเครียด ตอนไปรับยา คนจ่ายยาพูดว่า ''ทำงานหรือเปล่า'' เขาจะรู้มั้ย ว่าผมไม่ปรกติ คำพูดเขาทำให้ผมคิด ทำให้ผมไม่ชอบหมอ ผมแต่งตัวไม่ดี สกปรกด้วย เขาจะหาว่าผมไม่มีงานทำ เป็นกุ๊ย ไร้การศึกษา ผมคิดไปเองมั้งว่า เขาคงดูถูกผม
หลังจากนั้นผมก็มาบอกครอบครัวแกล้งบอกว่า ''ผมอาจป่วยเป็นโรคซึมเศร้า'' เพื่อจะให้เขารู้ตัวว่าผมป่วย ในใจผมอยากให้ท่านพาผมไปโรงบาลที ผมไม่กล้าไปคนเดียว ผมแต่งตัวไม่ดี สกปรก ผมกลัวคนดูถูก แต่ดูท่าทางเขานิ่งเฉย ผมก็ช่างมันละ เออดี ตอนนั้นผมคิด ยังไงก็ได้ ผมก็ไม่เอาอะไรกับชีวิตนี้แล้ว ตอนนี้เขาคงลืมไปแล้วมั้งว่าผมเคยพูด
ผมต้องการหาพื้นที่ระบาย ผมต้องการขอคำปรึกษา ผมไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ถ้าไม่พอใจใครผมขอโทษ