นอกจากรถไฟแล้ว มีอีกอย่างที่แทบไม่เปลี่ยน...เรือด่วนคลองแสนแสบ

เราเคยขึ้นเรือด่วนคลองแสนแสบตอนเรียนบ้างเป็นบางครั้งค่ะ เป็นอะไรที่ระทึกใจดีมาก และช่วงนี้กลับมาใช้บริการอีกรอบ เพราะสถานที่ทำงานอยู่แถวสยาม ถ้าใช้เรือจะใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้ารถเมล์น่าจะสองชั่วโมงขึ้นค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเรือด่วนคลองแสนแสบแทบไม่เปลี่ยนเลยค่ะ ตัวเรือยังเหมือนเดิม และปัญหาที่เคยเจอก็ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็น

1. การขึ้นลงเรือที่ไม่สะดวก
- เราเคยเจอว่าบางครั้งไม่มีการพันเชือกตอนเทียบท่า คนเก็บเงินบอกให้กระโดดเลย หืม ตอนนั้นอยากจะตะโกนบอกมากว่าถึงจะพัฒนา skill การขึ้นลงเรือมาแล้ว แต่ยังไม่ strong ขนาดนั้น
- บางทีเรือเทียบท่าแล้ว แต่ยังระยะยังห่างไป ก็แอบโดนคนเก็บเงินกดดันเบาๆ ให้รีบๆ
- ช่วงนี้น้ำในคลองลดระดับลงมากค่ะ คิดว่าคงระบายน้ำเตรียมรอฝนตก ทำให้ระดับของกราบเรือกับท่าต่างกันสุดๆ ตอนลงยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนขึ้นนี่สิคะ ยากมากกว่าจะปีนขึ้นไปได้

2. ลุ้นระทึกกับน้ำสาด
เรียกได้ว่าเป็นการวัดดวงกันเลยว่าจะเปียกมั้ย เปียกมากเปียกน้อย แบบเดี่ยวหรือกลุ่ม จริงๆด้านข้างเรือจะมีผ้าใบไว้ให้ผู้โดยสารช่วยกันดึงเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นนะคะ แต่บางครั้งมันก็ลอดผ่านช่องด้านบนมาได้ ล่าสุดนี่เปียกทั้งตัวตอนขาไปทำงานค่ะ ซวยมาก

บางทีเราก็ไม่ค่อยเข้าใจคนขับเรือค่ะ เห็นอยู่แล้วว่ามีเรือสวนมาก็ไม่เบาเครื่องเลย ขับแบบเร็วมากจนน้ำเป็นคลื่นสูง เข้าใจว่าเป็นเรือด่วนแต่แบบว่าอยากถึงปลายทางแบบสภาพปกติด้วยค่ะ

อ้อ เราเคยพยายามป้องกันตัวเองด้วยการใส่เสื้อคลุมผ้าร่มแบบมีฮู๊ด แต่มันร้อนมากเลย ไม่ไหวค่ะ

3. รมควัน และมลพิษทางเสียง
ถ้าคนที่ขึ้นประจำคงรู้ดีว่าถ้ายืนตรงกลางเรือนี่แทบไม่ต้องคุยอะไรกับใครเลย เพราะเสียงดังมาก ใส่หูฟังเปิดเสียงดังสุดก็ยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์ และถ้านั่งช่วงหลังจะโดนรมควัน จากไอเสียที่เรือปล่อยออกมาแล้วย้อนกลับมาในเรือ มึนกันไปเลย บางทีนั่งหน้าๆ ก็ไม่รอดควันค่ะ

4. คนแย่งและเบียด
บอกเลยว่าการลงเรือนี่ไม่สามารถต่อคิวได้นะคะ ช่วงคนเยอะๆ ถ้าอยากไปนี่ต้องแย่งกันจริงๆ มีมารยาทนี่รอไปเถอะ เพราะไม่รู้เลยว่าเรือจะจอดตรงไหนของท่า ไม่เหมือน MRT, BTS ที่รู้จุดประตูเปิดแน่นอน เข้าคิวได้ แต่เรือนี่เหมือนรถเมล์ค่ะ กะๆ เอา

บางทีโชคดี ที่นั่งว่างตรงหน้าพอดี กะระยะกำลังโดด มีคนข้างๆ ไวกว่า โดดลงไปเสียบแทนแล้วค่ะ fail กันไป แต่เคยเจอบางคนเค้าไม่ยอมนะคะ โดนแย่งไปแล้ว ก็เบียดตัวลงไปนั่งด้วยค่ะ บางแถวก็นั่ง 9 คนแน่นเป็นปลากระป๋องไปเลย (คนเก็บเงินชอบบอกว่าแถวนึงให้นั่ง 8 คนค่ะ ซึ่งเราว่าก็แน่นแล้วนะ) หรือถ้าไม่มีที่นั่งแล้วต้องยืน นี่ก็แทบจะได้เสียกันเลย

อ้อ เสริมอีกนิดคือ บางทีท่าที่คนรอลงเรือเยอะๆ นี่แทบขึ้นท่าไม่ได้เลยค่ะ เพราะคนบนท่าไม่หลีกทางให้เลย จะลงอย่างเดียว เฮ้อ การคมนาคมในกรุงเทพฯ นี่ก็ Strong ไปนะคะ

5. ความปลอดภัย
ต่อเนื่องมาจากข้อเมื่อกี้ค่ะ คนในเรือเยอะมากบางทีเราก็กลัวเรือล่มเหมือนกันค่ะ เราว่ามันแน่นมากแล้ว แต่คนบนท่าก็ยังลงมาอีก มองจำนวนชูชีพแล้วไม่พอแน่ๆ แต่เห็นน้ำในคลองแล้วก็ไม่รู้ว่าควรกลัวเชื้อโรคในคลองก่อนหรือกลัวจมน้ำก่อนดี กลัวทุกวัน อ่อ แอบกลัวเรื่องระเบิดด้วยเหมือนกันค่ะ

6. ฝนนนนนนน
จะเข้าหน้าฝนแล้ว ถ้าฝนตกนี่ ตอนขึ้นลงเรือเปียกแน่ๆ ค่ะ คนที่นั่งหรือยืนริมกราบเรือนี่ก็เปียกชัวร์ๆ ไม่รอด เคยคิดนะคะว่าตอนฝนตกใส่เสื้อกันฝนไปเลยได้มั้ย แต่ก็กลัวเพื่อนร่วมทางจะด่าค่ะ เพราะมันคงเทอะทะและเปียกเค้าด้วยแน่ๆ

7. เรือหยุดวิ่ง
อันนี้กรณีที่หยุดวิ่ง เพราะน้ำในคลองสูงจนเรือลอดผ่านสะพานไม่ได้นะคะ มักจะเจอวันฝนตกหนัก ซึ่งแสดงว่ารถต้องติดมากอยู่แล้ว ถ้าหันไปใช้รถเมล์นี่ ทำใจสายกันเลยค่ะ

ขอแอบบ่นนอกเรื่องหน่อยว่าเมื่อไหร่โซนแถวรามคำแหง บางกะปิ มีนบุรี จะได้ใช้รถไฟฟ้ากันซักทีคะ นี่รอมาเป็นสิบปี ศึกษาเส้นทางแล้วก็ยุบ แล้วก็เอามาศึกษาใหม่ เง้อ จะได้ใช้เมื่อไหร่ ที่ประกาศล่าสุดคือจะสร้างแล้วจริงๆ ใช่มั้ย อยากย้ายบ้านไปติดรถไฟฟ้าเหมือนกันนะคะ แต่งบไม่พอค่ะ เศร้า

จริงๆ กระทู้นี้ออกแนวบ่นๆ ค่ะ เราไม่รู้ว่าปัญหาที่เราเจอมาจะแก้ยังไง (เปลี่ยนเรือได้มั้ย ที่เครื่องยนต์ไม่มีเสียงดัง ไม่ปล่อยไอเสีย กันน้ำกันฝนได้ด้วย) จะแก้ได้มั้ย (มีผู้ให้บริการเจ้าเดียว เลือกไม่ได้ และต้องยอมรับว่าการเดินทางจากรามคำแหง บางกะปิ มีนบุรี จุดที่ไม่ติดรถไฟฟ้าไปสยาม ใช้เรือเร็วสุดแล้ว)

ถ้าใครมีวิธีเอาตัวรอดจากสารพัดปัญหาด้านบน ช่วยแนะนำวิธีด้วยค่ะ เผื่อเราจะได้เอามาใช้ด้วยเพราะคงยังต้องใช้เรือต่อไปปปป ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่