การขยายตัวของตลาด Cactus
ก่อนอื่นผมขอยอมรับเลยว่า สำหรับผมแล้ว Cactus คือเรื่องใหม่สำหรับผมมาก ผมเริ่มปลูก Cactus ได้เพียงไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดการค้า Cactus กำลังขยายตัว การขยายตัวของตลาด Cactus นั้นเกิดจากปัจจัยหลายๆปัจจัยทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และสังคม วันนี้ผมจึงจะมาพูดถึงตลาดการค้า Cactus ในมุมมองของผม แต่ความรู้ทางด้านเศรษฐกิจของผมก็มีเพียงน้อยนิด ดังนั้นผมจึงจะพูดถึงเพียงด้านสังคมเป็นหลักนะครับ
การขยายตัวของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยนั้นเกิดจากการที่สังคมไทยได้เกิดการแตกตัวเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ซึ่งหลายๆท่านคงพอทราบดีว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงปี 2500 นั้นได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อสังคมไทยเป็นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือการขยายตัวของชนชั้นกลาง โดยชนชั้นกลางเหล่านี้ คือกลุ่มคนที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการหาเลี้ยงชีพ ได้แก่ พ่อค้าแม่ค้า ข้าราชการ พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา คนกลุ่มนี้คือกลุ่มลูกค้ากลุ่มสำคัญของตลาดการค้า Cactus แผนพัฒนาเศรษฐกิจยังได้ทำให้ระบบความสัมพันธ์ทางครอบครัวในสังคมไทยเปลี่ยนไปจากเดิม ที่จะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ เพื่อผลประโยชน์ในด้านการใช้แรงงานทางการเกษตร แต่เมื่อเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปก็ได้ทำให้คนในสังคมเกิดการเชื่อมโยงกับสังคมภายนอก การเชื่อมโยงกับสังคมภายนอกนี้ได้ทำให้คนเริ่มมองเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพใหม่ รวมทั้งวิถีชีวิตใหม่นั่นคือวิถีชีวิตที่เราเป็นในแบบทุกวันนี้ ตั้งแต่ตื่นเช้าไปโรงเรียนที่อยู่ในเมือง ไปจนถึงการออกจากบ้านไปหางานทำตามเมืองใหญ่ๆ สิ่งตามมาจากการเชื่อมโยงนี้คือการเกิดขึ้นของครอบครัวเดี่ยว ซึ่งจำนวนครอบครัวเดี่ยวที่มากขึ้นก็ได้ทำให้ตลาดการสินค้าอุปโภค บริโภค รวมไปถึงสินค้าฟุ่มเฟือยขยายตัวตามไปด้วย โดยไม้ดอกไม้ประดับเหล่านี้ก็จัดอยู่ในสินค้าฟุ่มเฟือย ครับ
ภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 กลุ่มชนชั้นกลางก็ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่ตนเองต้องเผชิญในสังคมที่ช่วงเวลาครึ่งหนึ่งของวันหมดไปกับการทำงานที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของ ดังนั้นกลุ่มชนชั้นกลางจึงเริ่มโหยหาวิถีชีวิต และวัฒนธรรมดั้งเดิม นั่นก็คือความเป็นชนบท หรือที่เราเรียกกันว่าวิถีชีวิตแบบ Slow life นั่นแหละครับ สิ่งที่ตามมาจากการโหยหาความเป็นชนบทของชนชั้นกลาง คือ การทำสวนตกแต่งบ้าน ตลาดการค้าไม้ดอกไม้ประดับจึงเกิดการขยายตัวขึ้น แต่ภายใต้วิถีชีวิตที่เร่งรีบ และครึ่งหนึ่งของวันหมดไปกับการทำงาน Cactus จึงเป็นพืชที่ตอบโจทย์แก่กลุ่มชนชั้นกลางเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นพืชที่ค่อนข้างทน อีกทั้งยังเป็นทั้งไม้ดอก และไม้ประดับได้ในเวลาเดียวกัน ตลาดการค้า Cactus จึงเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ
ติ ชม ได้เลยนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับเพิ่งเขียนครั้งแรกเลย
Cactus Diary Ep.1
ก่อนอื่นผมขอยอมรับเลยว่า สำหรับผมแล้ว Cactus คือเรื่องใหม่สำหรับผมมาก ผมเริ่มปลูก Cactus ได้เพียงไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดการค้า Cactus กำลังขยายตัว การขยายตัวของตลาด Cactus นั้นเกิดจากปัจจัยหลายๆปัจจัยทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และสังคม วันนี้ผมจึงจะมาพูดถึงตลาดการค้า Cactus ในมุมมองของผม แต่ความรู้ทางด้านเศรษฐกิจของผมก็มีเพียงน้อยนิด ดังนั้นผมจึงจะพูดถึงเพียงด้านสังคมเป็นหลักนะครับ
การขยายตัวของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยนั้นเกิดจากการที่สังคมไทยได้เกิดการแตกตัวเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ซึ่งหลายๆท่านคงพอทราบดีว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงปี 2500 นั้นได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อสังคมไทยเป็นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือการขยายตัวของชนชั้นกลาง โดยชนชั้นกลางเหล่านี้ คือกลุ่มคนที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการหาเลี้ยงชีพ ได้แก่ พ่อค้าแม่ค้า ข้าราชการ พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา คนกลุ่มนี้คือกลุ่มลูกค้ากลุ่มสำคัญของตลาดการค้า Cactus แผนพัฒนาเศรษฐกิจยังได้ทำให้ระบบความสัมพันธ์ทางครอบครัวในสังคมไทยเปลี่ยนไปจากเดิม ที่จะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ เพื่อผลประโยชน์ในด้านการใช้แรงงานทางการเกษตร แต่เมื่อเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปก็ได้ทำให้คนในสังคมเกิดการเชื่อมโยงกับสังคมภายนอก การเชื่อมโยงกับสังคมภายนอกนี้ได้ทำให้คนเริ่มมองเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพใหม่ รวมทั้งวิถีชีวิตใหม่นั่นคือวิถีชีวิตที่เราเป็นในแบบทุกวันนี้ ตั้งแต่ตื่นเช้าไปโรงเรียนที่อยู่ในเมือง ไปจนถึงการออกจากบ้านไปหางานทำตามเมืองใหญ่ๆ สิ่งตามมาจากการเชื่อมโยงนี้คือการเกิดขึ้นของครอบครัวเดี่ยว ซึ่งจำนวนครอบครัวเดี่ยวที่มากขึ้นก็ได้ทำให้ตลาดการสินค้าอุปโภค บริโภค รวมไปถึงสินค้าฟุ่มเฟือยขยายตัวตามไปด้วย โดยไม้ดอกไม้ประดับเหล่านี้ก็จัดอยู่ในสินค้าฟุ่มเฟือย ครับ
ภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 กลุ่มชนชั้นกลางก็ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่ตนเองต้องเผชิญในสังคมที่ช่วงเวลาครึ่งหนึ่งของวันหมดไปกับการทำงานที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของ ดังนั้นกลุ่มชนชั้นกลางจึงเริ่มโหยหาวิถีชีวิต และวัฒนธรรมดั้งเดิม นั่นก็คือความเป็นชนบท หรือที่เราเรียกกันว่าวิถีชีวิตแบบ Slow life นั่นแหละครับ สิ่งที่ตามมาจากการโหยหาความเป็นชนบทของชนชั้นกลาง คือ การทำสวนตกแต่งบ้าน ตลาดการค้าไม้ดอกไม้ประดับจึงเกิดการขยายตัวขึ้น แต่ภายใต้วิถีชีวิตที่เร่งรีบ และครึ่งหนึ่งของวันหมดไปกับการทำงาน Cactus จึงเป็นพืชที่ตอบโจทย์แก่กลุ่มชนชั้นกลางเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นพืชที่ค่อนข้างทน อีกทั้งยังเป็นทั้งไม้ดอก และไม้ประดับได้ในเวลาเดียวกัน ตลาดการค้า Cactus จึงเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ
ติ ชม ได้เลยนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับเพิ่งเขียนครั้งแรกเลย