ป.ล.
1 ไม่ขอกล่าวถึงความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-กะไดนะคะ เรื่องนี้มีนักมานุษยวิทยาศึกษากว้างขวาง และสามารถให้คำอธิบายเชิงลึก
2. เนื้อหานี้ว่าด้วย logical positivist นะคะ ส่วนประเด็น normative ที่พูดเรื่องความสามัคคี ความไม่แบ่งแยก การไม่ควรดูถูกกัน อันนั้นเป็นเรื่องเชิงนโยบาย
ดิฉันขอจำกัดขอบเขต แค่ปัญหาเชิงตรรกะในการสร้าง claim แบบมักง่ายเท่านั้นค่ะ
ข้อเสนอ:
ความเป็นไทยไม่มีจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Ref: http://www.sujitwongthes.com/2014/08/siam21082557/
ข้อโต้แย้ง:
1.
การสร้างขึ้นใหม่ ไม่ได้หมายความว่า รากฐานเดิม = 0*
2.
การกล่อมเกลา ไม่ได้หมายความว่า รากฐานเดิม = 0*
*ความน่าจะเป็นมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 1 ค่ะ การอ้างหลักฐานบางส่วน แล้วทึกทักสรุปว่า = 0 ถือว่า flawed ค่ะ
ดังนั้นการ derive ข้อสรุปว่า "ความเป็นไทยไม่มีจริง" โดย
จงใจกำหนดให้ รากฐานเดิม = 0 จึงเป็นความมักง่าย และตรรกะพิการค่ะ
[][][] "ความเป็นไทยไม่มีจริง" วาทะกรรมมักง่ายและตรรกะพิการของนักประวัติศาสตร์บางท่าน
1 ไม่ขอกล่าวถึงความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-กะไดนะคะ เรื่องนี้มีนักมานุษยวิทยาศึกษากว้างขวาง และสามารถให้คำอธิบายเชิงลึก
2. เนื้อหานี้ว่าด้วย logical positivist นะคะ ส่วนประเด็น normative ที่พูดเรื่องความสามัคคี ความไม่แบ่งแยก การไม่ควรดูถูกกัน อันนั้นเป็นเรื่องเชิงนโยบาย
ดิฉันขอจำกัดขอบเขต แค่ปัญหาเชิงตรรกะในการสร้าง claim แบบมักง่ายเท่านั้นค่ะ
ข้อเสนอ:
ความเป็นไทยไม่มีจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อโต้แย้ง:
1. การสร้างขึ้นใหม่ ไม่ได้หมายความว่า รากฐานเดิม = 0*
2. การกล่อมเกลา ไม่ได้หมายความว่า รากฐานเดิม = 0*
*ความน่าจะเป็นมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 1 ค่ะ การอ้างหลักฐานบางส่วน แล้วทึกทักสรุปว่า = 0 ถือว่า flawed ค่ะ
ดังนั้นการ derive ข้อสรุปว่า "ความเป็นไทยไม่มีจริง" โดยจงใจกำหนดให้ รากฐานเดิม = 0 จึงเป็นความมักง่าย และตรรกะพิการค่ะ