แต่ก่อนตอนยังไม่โตเท่านี้ เป็นคนที่สนใจคนอื่นมากเลยค่ะ
อย่างเช่น ถ้าเวลาเข้ากลุ่ม แล้วไม่ค่อยมีคนสนใจ จะรู้สึกเฟลมาก น้อยใจอยู่ในใจ บางทีก็เผลอทำอะไรเรียกร้องความสนใจให้คนมาสนใจโดยอัตโนมัติ
หรือจะเรียกได้ว่า มีนิสัยคุณหนู คือต้องมีคนมาคอยสนอกสนใจ พะเน้าพะนอให้ความสำคัญตลอดเวลา พอเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกไม่มีความสุข รู้สึกเหมือนเราเอาความสุขของเราไปผูกติดกับคนอื่น ถ้าคนไม่เห็นค่าเราเมื่อไหร่ เรารู้สึกแย่ทันที
เหมือนคนที่ต้องรอคอยความสุขจากคนอื่น รอคอยคนมาป้อนความสุขให้ตลอดเวลา
แต่พอโตขึ้น เข้าสังคมมากขึ้น เราคงเจ็บปวดจากความรู้สึกเจ็บที่ไม่มีคนให้ความสำคัญบ่อยจนชินไปเอง
มันทำให้เรารู้สึกว่า ถ้ามัวแต่รอความสุขจากคนอื่นคอยหยิบยื่นให้ ก็คงแทบไม่มีความสุขเลย เราต้องสร้างความสุขด้วยตัวเราเอง
ตอนนี้ความสุขเราไม่ผูกติดกับคนอื่นแล้ว อย่างเช่น เวลาคนไม่สนอกสนใจเรา เราก็ไม่เจ็บเท่าแต่ก่อนแล้ว รู้สึก อืม ช่างมันเหอะ
แต่ก่อนเราไม่เคยเข้าใจคนที่ชอบอ่านหนังสือคนเดียวตามที่เงียบๆเช่นร้านกาแฟ ห้องสมุด แต่เดี๋ยวนี้เราเข้าใจพวกเค้ามากขึ้น
พวกเค้าก็แค่หาทางสร้างความสุขของตัวเองด้วยตัวเอง หนังสือก็อาจเป็นคำตอบ
เดี๋ยวนี้ เรารู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปมาก แต่ก่อนเราพิมพ์ไปในไลน์กลุ่มแล้วไม่มีคนตอบ เรานี่เสียใจแรง แต่เดี๋ยวนี้คนเมินเรา "เราก็รู้สึกอืม ไม่เป็นไร ไปสร้างความสุขด้วยตัวเราเองดีกว่า แล้วเราก็ไปหานู่นนี่ทำของเราเพลิดเพลินไป" แล้วเราก็เลิกพูดจากเรียกร้องความสนใจแล้ว เรารู้สึกไม่ค่อยแคร์มากขึ้น แบบใครจะไม่เห็นค่าเราก็ช่างเค้า เราสร้างความสุขด้วยตัวเราเองดีกว่า ใช้ชีวิตของเรา
แล้วยังมีเรื่องนินทาอีกค่ะ เราเฉยๆกับการนินทามากขึ้น ถ้าเราไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงแบบสมควรโดนประนามจริงๆ เช่น นินทาว่าเราหน้าตาไม่สวยอะไรงี้ แต่ก่อนเราเจ็บมาก แต่เดี๋ยวนี้เราก็ อยากพูดอะไรก็พูดไป ช่างมันเหอะ คนเรามันก็พูดนินทากันเป็นเรื่องปกติ
เรารู้สึกกลายเป็นคนโลกส่วนตัวสูงไปโดยสมบูรณ์แล้วค่ะ
เราอยากรู้ว่า มันเป็นการเปลี่ยนผ่านของวัยรึเปล่าคะ ที่ทำให้เราคิดได้แบบนี้ เซนซิทิฟกับคนอื่นน้อยลง
เพราะเราเห็นเพื่อนเราบางคน ก็ยังยึดติดกับบุคคลอื่นอยู่ แบบโดนแขวะทีร้องไห้อะไรงี้
ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ช่วยมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ
พอโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็เลิกสนใจคนอื่น สนใจคนอื่นน้อยลงใช่มั้ยคะ ?
อย่างเช่น ถ้าเวลาเข้ากลุ่ม แล้วไม่ค่อยมีคนสนใจ จะรู้สึกเฟลมาก น้อยใจอยู่ในใจ บางทีก็เผลอทำอะไรเรียกร้องความสนใจให้คนมาสนใจโดยอัตโนมัติ
หรือจะเรียกได้ว่า มีนิสัยคุณหนู คือต้องมีคนมาคอยสนอกสนใจ พะเน้าพะนอให้ความสำคัญตลอดเวลา พอเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกไม่มีความสุข รู้สึกเหมือนเราเอาความสุขของเราไปผูกติดกับคนอื่น ถ้าคนไม่เห็นค่าเราเมื่อไหร่ เรารู้สึกแย่ทันที
เหมือนคนที่ต้องรอคอยความสุขจากคนอื่น รอคอยคนมาป้อนความสุขให้ตลอดเวลา
แต่พอโตขึ้น เข้าสังคมมากขึ้น เราคงเจ็บปวดจากความรู้สึกเจ็บที่ไม่มีคนให้ความสำคัญบ่อยจนชินไปเอง
มันทำให้เรารู้สึกว่า ถ้ามัวแต่รอความสุขจากคนอื่นคอยหยิบยื่นให้ ก็คงแทบไม่มีความสุขเลย เราต้องสร้างความสุขด้วยตัวเราเอง
ตอนนี้ความสุขเราไม่ผูกติดกับคนอื่นแล้ว อย่างเช่น เวลาคนไม่สนอกสนใจเรา เราก็ไม่เจ็บเท่าแต่ก่อนแล้ว รู้สึก อืม ช่างมันเหอะ
แต่ก่อนเราไม่เคยเข้าใจคนที่ชอบอ่านหนังสือคนเดียวตามที่เงียบๆเช่นร้านกาแฟ ห้องสมุด แต่เดี๋ยวนี้เราเข้าใจพวกเค้ามากขึ้น
พวกเค้าก็แค่หาทางสร้างความสุขของตัวเองด้วยตัวเอง หนังสือก็อาจเป็นคำตอบ
เดี๋ยวนี้ เรารู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปมาก แต่ก่อนเราพิมพ์ไปในไลน์กลุ่มแล้วไม่มีคนตอบ เรานี่เสียใจแรง แต่เดี๋ยวนี้คนเมินเรา "เราก็รู้สึกอืม ไม่เป็นไร ไปสร้างความสุขด้วยตัวเราเองดีกว่า แล้วเราก็ไปหานู่นนี่ทำของเราเพลิดเพลินไป" แล้วเราก็เลิกพูดจากเรียกร้องความสนใจแล้ว เรารู้สึกไม่ค่อยแคร์มากขึ้น แบบใครจะไม่เห็นค่าเราก็ช่างเค้า เราสร้างความสุขด้วยตัวเราเองดีกว่า ใช้ชีวิตของเรา
แล้วยังมีเรื่องนินทาอีกค่ะ เราเฉยๆกับการนินทามากขึ้น ถ้าเราไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงแบบสมควรโดนประนามจริงๆ เช่น นินทาว่าเราหน้าตาไม่สวยอะไรงี้ แต่ก่อนเราเจ็บมาก แต่เดี๋ยวนี้เราก็ อยากพูดอะไรก็พูดไป ช่างมันเหอะ คนเรามันก็พูดนินทากันเป็นเรื่องปกติ
เรารู้สึกกลายเป็นคนโลกส่วนตัวสูงไปโดยสมบูรณ์แล้วค่ะ
เราอยากรู้ว่า มันเป็นการเปลี่ยนผ่านของวัยรึเปล่าคะ ที่ทำให้เราคิดได้แบบนี้ เซนซิทิฟกับคนอื่นน้อยลง
เพราะเราเห็นเพื่อนเราบางคน ก็ยังยึดติดกับบุคคลอื่นอยู่ แบบโดนแขวะทีร้องไห้อะไรงี้
ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ช่วยมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ