เบื่อมากกับการเคลมประกัน ทำไม ไม่ยอมให้มีการตัดจบกับลูกค้าเป็นกรณีๆไป

รถจอดติดไฟแดง แล้วโดนชน รถคู่กรณีป.1 วิริยะ  ส่วนรถผมป.3  ป.1 รถคู่กรณี ยอมซ่อมให้ผม
รถผมรถเก่า 18 ปี ไม่ใช้ยี้ห้อตลาด  
เข้าอู่ประกัน อู่ก็บอกว่า รุ่นนี้ทำใจ รอนานแน่นอน ดูจากรายการที่ ประกันเขียนจะต้องเปลี่ยน เยอะมาก
มีกันชน ฝาท้าย ไฟเบรค บราๆๆ ประมาณคราวๆ ถ้าสั่งอะไหล่นอกมาก มูลค่าอะไหล่ที่สั่งมาคิดเป็น 50% ของราคาตัวรถในตลาดแล้ว
ร่วมๆราคาของประมาณ 30000-
ด้วยความที่เราเป็นช่าง และมีความรู้ด้านนี้ และมีเพื่อนทำอู่สี เลยเอารถไปพิจารณากับเพื่อน ก็พบว่า อะไหล่บางชิ้น ไม่ได้เสียมากมายยังสามารถใช้งานได้ ด้วยเพราะรถเราเก่าแล้ว และเราไม่ได้ต้องการมาตราฐานสูงส่งเท่ารถใหม่ สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเวลาที่เราจะเสียไปมากกว่า  
สรุปกับเพื่อนและ ความต้องการของเรา ซ่อมด้วยการเคาะโป้ว จบ เรารับได้ เพื่อนบอก ประมาณ(ประมาณ)ราคามา20000- จบ  เราแจ้งไป ป.1 ของคู่กรณี อธิบายไปว่า ถ้าเข้าอู่ของคุณเปลี่ยนตามรายการที่คุณบอกมูลค่ามันสูง และนาน เพราะผมจะเรียกค่าเสียประโยชน์นะ  ผมขอซ่อมอู่นอก แบบตัดจบเลยได้ใหม่  คือทำเรื่องรับเงินก้อนมากแล้วจบเลย ปราฏกว่า เข้าก็ตอบมาว่าได้ แต่ขออู่เสนอราคามา เราก็ให้เพื่อนเสนอราคาตีเหมาไป 25000- เผือต่อ5000- ปรากฏว่า พนักงาน บอกต้องชี้แจ้งว่าทำอะไรไปบ้าง เช่นค่าแรง ค่าสี ค่าอะไหล่ตัวที่ เปลี่ยน บลาๆๆ  โอโหเราก็อึ่งไปตกลง บ.คุณอยากจ่ายเยอะว่างั้น เลยปล่อยเลยตามเลย
ประเด็นคือ
1.ถ้าผมซ่อมตามมาตราฐานคุณ คุณต้องจ่ายมากกว่า 30000- แน่นอน เพราะผมจะเรียกค่าเสียผลประโยนช์ เพราะผมไม่มีรถใช้ และลูกค้าคุณก็ไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย เขาให้คุยกับคุณ(ประกัน)อย่างเดียว มันจ่ายค่าปรับ 400- แล้วชิ่งเลย......-*-
2.ถ้าคุณให้ผมตัดจบ 25000- คุณประหยัดไป หลายหมื่น  และผมก็รับกับงานซ่อมได้
ไปๆมาๆ กลับกลายเป็น ว่า มันอยากจ่ายเยอะ เพื่อรักษามาตราฐาน แต่คนลำบากกลับกลายเป็นเราซะงั้น คนที่เป็นเจ้าทุกข์

เครียดครับ