
สวัสดีค่ะ
สืบเนื่องจากในสองสามกระทู้เมื่อนานมาเคยมารีวิวเกี่ยวกับการสอบแอร์ไว้ เลยอยากจะมาอัพเดต และขออนุญาตเผยแพร่การทำงาน เพื่อให้เป็นความรู้หรือข้อมูลการตัดสินใจ เผื่อมีใครสนใจอยากสอบแอร์ แต่ไม่รู้ว่าอยากเป็นจริงไหม อืมมมม ความจริงก็จะมีส่วนของการเทรนก่อนเริ่มทำงานด้วย
แต่ในวันนี้ขอสกิปข้ามไปก่อนนะคะ มาเน้นเรื่องการทำงานกันเลย ส่วนใครที่แบบว่าตั้งใจมุ่งมั่นแน่วแน่ และคิดว่ากระทู้หรือการเผยแพร่ข้อมูลของเรา ช่วยได้
ไว้คราวหน้าเราจะเขียนแบ่งปันข้อมูลให้น้า
ส่วนตอนนี้เอารูปบางส่วนตอนเทรนไปดูก่อนละกันนะคะ
นี่คือแมนนวลปราบเซียน

ส่วนนี้คือเลคเชอร์ที่จดอ่านก่อนสอบ TT^TT
เอาล่ะที่นี้เราก็มาเข้าเรื่องกันได้ 5555555555
ว่าด้วยเรื่องของการทำงานเป็นแอร์นั้น ดิฉันก็เพิ่งจะบินจริงๆได้เดือนกว่าๆค่ะ
แต่ก็นะ ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับการทำงานได้บ้างแล้ว เริ่มประสบปัญหาเรื่องการนอนบ้างแล้ว เริ่มทำงานได้คำชมบ้างแล้ว เริ่มทำงานแล้วโดนดุบ้างแล้ว ชีวิตกับการทำงานเริ่มส่งผลกับชีวิตของเราแล้วนั่นเอง
+ ก่อนออกไปบิน +
เราก็ต้องตื่นก่อนเวลาค่ะ สามสี่ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องออก เพื่ออะไร ก็เพื่อออกไปเชคอิน เข้าห้องบรีฟ เชคทุกอย่างว่าเราพร้อมไปทำงานรึเปล่า ตรงนี้ก็สร้างความเบลอมานักต่อนักเนอะ พรุ่งนี้บินกี่โมง อีเวลากลางวันเนี่ยนะ มันก็ไม่เท่าไหร่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ บิน21/04/2016 เวลา 01.00 เอาแล้วไง อ่านรอบแรกไม่งง อ่านรอบสองเอ๊ะ อ่านแล้วคิดตามรอบสาม เออสรุปไปวันไหนวะ 55555555555 ปวดใจเนอะ แล้วยังค่ะยังมีมากกว่านั้น สมมติบินตีหนึ่ง ก็ต้องถึงเฮดห้าทุ่มก็ต้องไปดูตารางเวลา ต้องออกจากบ้านกี่โมง ให้ไปถึงก่อนเวลาเกตปิด ปัญหาตรงนี้ก็คือบ้านนี่เป็นป้ายสุดท้าย รถก็จะมาเลต พอรถมาเลตเราก็จะพะวง เพราะถ้าไปไม่ทันเกตปิด บอกเลยว่า บรรลัยเกิด
หน้าตารถลูกเรือก็จะเป็นแบบนี้ นี่เองงง /ภาพจากกูเกิ้ลนะคะ
+ ก่อนผู้โดยสารจะขึ้นเครื่อง +
คุณผู้ชมคะ เวลาที่เราทำงานตรงนี้นี่มันแย่มาก แย่มากตรงที่ทำงานกันจนหัวหลุดอะค่ะ ผมเผิมที่เซตมานี่คือฟูกระเจิงหมด เกลียดงานผมมีน้ำหนักของตัวเองก็วันนี้เลย สงสารสุดคือคนทำแกลลี่ คุณพระคุณเจ้า ต้องยกคอนเทนเนอร์ที่สูงท่วมหัวเปิดออกมาเชคให้เรียบร้อย ปีนป่ายปิดแฮทแรค ตีลังกาเตรียมผ้าห่มและหูฟัง ซึ่งทันทีที่ผู้โดยสารขึ้นมาจะปัดมันออกอย่างรำคาญ ทั้งที่เราวางมันอย่างรักใคร่ 5555555555555555 น้ำตาดาวจะไหลค่ะ ถ้าทำแบบนี้คราวหลังดาวขอไม่วางได้ไหมคะ (ไม่ได้ค่ะ ตอบตัวเอง)
ไม่ว่าจะเซตผมมาแน่นเบอร์ไหน งานสบายๆอย่างเป็นแอร์ ก็มีหัวสภาพนี้ล่ะค่ะ คุณผู้ชม 555555555
+ เมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่อง +
แหม่ ดูทรงว่าพาร์ทนี้จะยาวยืด ยาวเฟื้อย ยาวจนเลื้อยตัวขดกันไปมา 5555555 เพราะมันมีหลายงานค่ะ งั้นเรามาแบ่งเป็นสามเฟส before takeoff - cruise - before landing สามเฟสหลักๆของเรามันก็จะเป็นการทำงานที่ต่างกันเนอะ
- ก่อนเทคออฟ -
เราก็จะเชคบอร์ดดิ้งพาส พาผู้โดยสารไปนั่งที่นั่งที่ถูกต้อง ซึ่งมันก็จะมีปัญหาคือบางที่พอไฟลต์โอเวอร์บุคเนี่ย จะชอบมีอาการที่นั่งซ้ำกัน ซึ่งอารมณ์นี้แก้ไม่ยาก ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นให้มารับผิดชอบงานตัวเอง (งานโบ้ยขี้นั่นเอง 55555555) หรือในอีกกรณีหนึ่งที่เราเดินทางไปดินแดนตะวันออกที่ไม่ใช่ซ้ายไม่ใช่ขวาไม่บนและไม่ล่าง (นี่พยายามอ้อมแล้วคิดเองนะ ว่าที่ไหนของโลก)พวกนางจะมากันแบบฟูลเฮาส์ฟูลแฟมิลี่ เยอะราวกลับแพนกวิ้นอพยพ นางจะชอบนั่งติดกัน ต้องได้นั่งด้วยกัน คือจะให้เข้าใจเค้าเราก็เข้าใจ แต่เค้าไม่เข้าใจดาวบ้างเลย TT^TT ดาวบอกให้รอบอดดิ้งเสร็จ แล้วดาวจะพยายามมูฟให้ พวกนางก็เกรี้ยวกราด ดาวก็อยากจะร้องไห้ และด่าเป็นภาษาไทยในใจตัวเองคนเดียวเงียบๆ 555555555 ทีนี้พอมีพวกมากนางจะมีความก๋ากั่นเพิ่มขึ้นสี่หมื่นห้าพันแปดร้อยสี่สิบเจ็ดเท่า เมื่อเตรียมเทคออฟ หลังวิดีโอเซฟตี้จบ เราก็ต้อง secure cabin ขอให้นั่งหลังตรง ปิดถาด และคาดเข็มขัดเนาะ นางก็จะส่ายหน้า ล้าลา ประสาทแดรก ไม่ทำตาม แต่นี่จะใช้ลูกอ้อน และเดินวนไปมาจนกว่านางจะทำ ก็ยังไม่เคยต้องรุนแรงไม่ว่าทางกายหรือวาจา ส่วนใจนั้นก่นด่าตั้งแต่ห้าวินาทีแรก 5555555555555555
ที่นั่งก็หน้าตาประมาณนี้ค่ะ ในeconomy class //ขอบคุณรูปจากกูเกิ้ลนะคะ
- ระยะ cruise -
นี่คืองานบริการที่แท้จริงค่ะคุณขา ขนาดที่นี่ที่ว่าคัดคนกันมาแบบโหดๆ เพราะคงรู้อ้ะ ว่าจะมาเจอกับอะไร 55555555555 แต่เราก็เอ็นจอยนะ คือแบบงานสร้างภาพเป็นคนใจดี ใครขออะไรก็ให้หาให้ได้ก็ให้หาให้ไม่ได้ก็พยายาม(?)หาให้ แล้วมันปริ่มแก น้ำตานี่แล่ะปริ่ม ปริ่มด้วยความอดทน ผิด! คือมันเหนื่อยแล้วก็น่ารำคาญสำหรับหลายๆคนที่เราเจอ เค้าจะแบบโอ๊ย จะเอาอะไรกันนักหนา กดคอลเบลอีกแล้ว หยิบถาดออกไปทีก็กลอกตาที ดาวก็สงสารเค้า ดาวก็อยากแนะนำให้เค้าลาออกไปเถอะ แต่ดาวไม่กล้า เค้าตัวใหญ่ 55555555555555 บางครั้งปัญหาก็จะแบบตอนเสิร์ฟนางหลับ พอเสิร์ฟเสร็จนางตื่นละโวยวาย อ้าว สติ้กเก้ออะให้ไปในถุงหูฟังอ้ะ แปะสิแปะ เพราะบางทีเวลาเราเสิร์ฟมื้อย่อยๆเนาะ เราก็จะไม่ปลุก เพราะเราไม่อยากทำเยอะ 5555555555 ไม่ใช่ๆ เราไม่อยากกวนต่างหากล่ะ ส่วนตอนเสิร์ฟมื้อหลักนี่ก็มีความฮาและงานอธิบายงานอะไรเอ่ยกันเยอะมาก เพราะบางทีผู้โดยสารไม่ใช่ english speaker ทำไงหรอ บางทีก็ถามแค่ว่าจะรับอาหารมั้ยคะ ถ้านางเปิดถาดออกมา ก็ยื่นให้เลย ขออนุญาตไม่ให้เลือกนะคะ เราคุยกันไม่เข้าใจจริงๆ ยิ่งฝืนยิ่งเจ็บ 555555555 นี่ล่าสุดที่ไปลูอันด้า มีสองชอยส์ไก่หรือเนื้อ คุณลุงที่นั่ง f ก็ช่วยให้คุณลุงที่นั่ง g เข้าใจว่าเรามีอะไรให้เค้า และเค้าจะทานอะไร โอเคนางก็ได้ไก่ไป ทีนี้พอถามลุง f ว่าลุง f จะรับอะไร ลุงบอก fish หน้านี่เกือบออกว่าแบบ อ้าวลุง กวนทรีนป้ะเนี่ย เมื่อกี้ลุงยังบอกเพื่อนลุงอยู่เลยว่ามีไก่กับเนื้อ แล้วฟิชลุงมาไง ดาวไม่ตลก อย่ากวนทรีนดาว ขอร้อง 555555555 พอจบแล้วเราก็จะเดินวนไปมาในเคบิ้น(เมื่อหัวหน้าสั่ง) และนั่งเม้านั่งฝอยนั่งนินทาผู้โดยสารกันในแกลลี่(โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง) แต่ถามว่าได้นั่งอะไรมากมายมั้ยก็คือถ้าไฟลต์ผู้โดยสารน้อยก็ได้นั่ง ถ้าโหลดเต็มก็นะคะ เดินวนไปค่ะ ! นี่ยืนเยอะเดินเยอะจนแบบจะไปซื้อถุงน่องกันเส้นเลือดขอดแล้วอะ กลัว 555555
นอกจากนี้ในความเป็นจริงยังไม่เป็นอย่างภาพในเน็ตด้วยค่ะ คือผู้โดยสารจะไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรแบบนี้ ไม่มีใครแฮปปี้ได้เบอร์นั้น
เนื่องจาก มีสองชอยส์แล้วโชคร้ายวันนั้นท่านอาจจะเป็นคนท้ายๆของการเสิร์ฟอาหารจากคาร์ทของเรา
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตัวเลือกที่ท่านต้องการนั้น หมด งานงอก จะเดินไปหยิบจากในครัวก็ผิด ครั้นจะแทรกตัวแซงเพื่อนระหว่างเบาะไปก็ไม่ได้
สิ่งที่แก้ไขได้คือ ให้ตัวเลือกใหม่ว่าจะรับอีกชอยส์นึง หรือถาดเปล่าไปก่อนแล้วถ้าเราเสร็จคาร์ทนี้ ซึ่งก็ต้องไปเทคคาร์ทอื่นต่ออีก เราจะไปเชคให้ว่ามันเหลือมั้ย ถ้าเหลือก็คือโชคดีมว้ากกก ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เหลือ ก็ต้องมาจิตวิทยา ออดอ้อนออเซาะ ขอให้ท่านรับตัวเลือกที่เราเหลืออยู่ได้มั้ย
ในจุดนี้ก็ยังโชคดีที่การเสนอชอยส์เดิมที่ท่านไม่อยากได้นั้นยังได้ผลอยู่ ซึ่งขอให้ได้ผลตลอดไป 555555
หรือถ้าโชคดียิ่งกว่านั้นอีกคือเจอผู้โดยสารน่ารัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆค่ะ ทำงานสายแบบนี้ก็ได้เจอเด็กทุกๆชาติ แต่เด็กฝรั่งนี่ต้องยอมรับเลยว่าน่ารักมากจริงๆ และก็ซนมากเช่นกัน แต่ด้วยความหน้าตาน่ารักอะค่ะ ก็ให้อภัย 555555 อย่างเช่นน้องคนนี้ก็เจอกันตอนไฟลต์ไปปารีส น้องลุกออกจากที่นั่งมาคุยเล่นกับแอร์เพราะชอบและอยากทำงานบนเครื่องบินก็ถามนู่นนี่ สังเกต และมองแอร์ทำงานด้วยแววตาที่เราเคยมองแอร์ก่อนที่เราจะมาเป็น เห็นแบบนี้แล้วมันปลื้มมมมม จนอดขอถ่ายรูปกลับมาไม่ได้
ส่วนหนุ่มน้อยคนนี้เจอกันเมื่อไฟลต์กลับจากลอนดอน เป็นเด็กน้อยน่ารักและพลังงานเหลือตั้งแต่หน้าเกต และน้องน่ารักมาก ไม่พูดภาษาอังกฤษแต่ฟังเราเข้าใจ เห็นเด็กน่ารักเราก็ต้องไปล่อลวง 555555 หลอกล่อว่าจะให้ชอคโกแลตน้องก็รับไปแล้วพูดอะไรไม่รู้แล้วเดินจากเราไป พ่อน้องเลยบอกว่าน้องพูดว่าขอบคุณ และขอเอาอีกอันที่เราให้ไปไปแบ่งพี่ชายที่มาด้วยกัน (เราให้น้องไปสองอัน) ก็แบบ งื้ออ เด็กน่ารักกกก ขอกลับบ้าน 55555 ในรูปคือยิ้มแบบเห็นฟันครบทุกซี่ น้าน่ารักมากจริงๆค่ะ
- ก่อน landing -
เฟสนี้เชื่อเลยว่าเป็นส่วนที่น่ารำคาญสุดของผู้โดยสาร และพอนางรำคาญ คนทำงานอย่างเราก็ซวยค่ะ รองรับอารมณ์เต็มๆ โดนทุกอย่าง อะไรอะไรก็ดาว ดาวทุกที ดาวโดนทุกงาน น้ำตาจะไหล ถามว่าทำไรบ้าง ก็เก็บผ้าห่ม เก็บหูฟัง เคลียร์เศษขยะที่พวกนางยัดไว้ตามพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งบางคนหาวิธีทิ้งขยะได้สร้างสรรค์เหลือเกิน ดาวก็ยอมใจในจุดนี้ค่ะนอกจากนั้น เราก็ต้องปลุกเค้าให้นั่งหลงตรง ปิดถาด คาดเข็มขัดอีกรอบ ทีนี้ไงคะ เพิ่งตื่น หิวน้ำ ความอิ๊บอ๋ายก็มาเยือนดาวเต็มๆ เพราะในแกลลี่เราเทน้ำทุกน้ำที่ถูกเปิดทิ้งไปหมดแล้ว อะขอย้อน นี่ล่าสุดกลับมาจากลอนดอน เดินเอาเหยือกชา กาแฟ ไปเททิ้งในห้องน้ำ ขากลับเดินผ่านผู้โดยสาร นางก็ขอกาแฟ ดาวแบบช็อค คุณคะ ทำไมเมื่อกี๊ไม่พูด เพราะนี่ก็พยามส่งสายตาให้แล้วเผื่อว่าใครจะขอก่อนจะเท ดาวขี้เกียจชง ดาวไม่ใช่บาริสต้า อะกลับไปที่เรื่องน้ำ เราก็รู้เนอะว่าในครัวเราไม่มีน้ำแล้ว เราก็ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ นี่ยังซวยอีก มาฟาดงวงฟางาใส่ดาว บอกขอคนนั้น คนนั้นก็ให้รอ บอกคนโน้นคนโน้ก็บอกเดี๋ยวกลับมา อ้าววว แล้วใช่นี่ไหมล่ะ ไม่ใช่ไง ไม่ช้ายยย แล้วมาลงกับนี่ทำม๊ายยย แต่วันนั้นโชคดีบิน380 แล้วในพื้นที่เรามันมีที่กดน้ำดื่มหน้าห้องน้ำ นี่ก็เลยกดน้ำจากตรงนั้นมาให้ ซึ่งแก้วก็บั่บ ทำให้ไว้ให้นกแก้วจิกเหรอคะ เล็กน่ารักยังกับแก้วบาร์บี้ (เบ้ค่ะเบ้ มันเล็กเกินจริงๆอะ)
นี่ก็คือจำนวนคนคร่าวๆที่เราต้องขออนุญาตเก็บที่นอนหมอนมุ้งให้พวกท่านค่ะ ซึ่งท่านก็จะหนาวสั่นบ้าง เอ็นจอยมูฟวี่บ้าง ก็จะให้ความร่วมมือบ้าง ไม่ให้บ้างตามอัธยาศัยน่ะค่ะ 55555
+ เมื่อผู้โดยสารที่รักได้ออกจากเครื่องของเราไปแล้ว +
ก็ตัวใครตัวมันค่ะ แยก! เฮ่! 5555555555555 บางทีก็ถ้าเป็นไฟลต์เทินก็กลับบ้านค่ะตัวใครตัวมัน ถ้าเจอใครน่ารักนิสัยดี ทำงานดี อัธยาศัยดี ก็อาจจะแลกคอนแทคกันเอาไว้และคบกันต่อไป ส่วนถ้าเป็นไฟลต์เลย์ก็อาจมีการนัดแนะกันออกไปข้างนอก ซึ่งนี่ก็โดนเทบ้าง เทเค้าบ้าง สมน้ำสมเนื้อค่ะ
ก็ขอจบกระทู้ที่ยาวยืดและยืดยาวไว้เท่านี้นะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อใครซักคน หรือให้อะไรกับใครได้บ้าง
ในความคิดของตัวเราเอง สำหรับงานทุกวันนี้ ก็มีทั้งความรู้สึกดีแล้วก็แย่ปนกันไป แต่ก็ยังมั่นใจว่าเราเลือกงานไม่ผิด
ดังนั้นก็ขอให้เด็กจบใหม่ทุกคน คนที่อยากจะเปลี่ยนงานทุกคน ได้ก้าวต่อไปบนเส้นทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมค่ะ
สุดท้ายนี้ แยกค่ะ! พักผ่อน!!
เมื่องานแรกในชีวิต คือการเป็นแอร์แขก!
สวัสดีค่ะ
สืบเนื่องจากในสองสามกระทู้เมื่อนานมาเคยมารีวิวเกี่ยวกับการสอบแอร์ไว้ เลยอยากจะมาอัพเดต และขออนุญาตเผยแพร่การทำงาน เพื่อให้เป็นความรู้หรือข้อมูลการตัดสินใจ เผื่อมีใครสนใจอยากสอบแอร์ แต่ไม่รู้ว่าอยากเป็นจริงไหม อืมมมม ความจริงก็จะมีส่วนของการเทรนก่อนเริ่มทำงานด้วย
แต่ในวันนี้ขอสกิปข้ามไปก่อนนะคะ มาเน้นเรื่องการทำงานกันเลย ส่วนใครที่แบบว่าตั้งใจมุ่งมั่นแน่วแน่ และคิดว่ากระทู้หรือการเผยแพร่ข้อมูลของเรา ช่วยได้
ไว้คราวหน้าเราจะเขียนแบ่งปันข้อมูลให้น้า
ส่วนตอนนี้เอารูปบางส่วนตอนเทรนไปดูก่อนละกันนะคะ
นี่คือแมนนวลปราบเซียน
ส่วนนี้คือเลคเชอร์ที่จดอ่านก่อนสอบ TT^TT
เอาล่ะที่นี้เราก็มาเข้าเรื่องกันได้ 5555555555
ว่าด้วยเรื่องของการทำงานเป็นแอร์นั้น ดิฉันก็เพิ่งจะบินจริงๆได้เดือนกว่าๆค่ะ
แต่ก็นะ ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับการทำงานได้บ้างแล้ว เริ่มประสบปัญหาเรื่องการนอนบ้างแล้ว เริ่มทำงานได้คำชมบ้างแล้ว เริ่มทำงานแล้วโดนดุบ้างแล้ว ชีวิตกับการทำงานเริ่มส่งผลกับชีวิตของเราแล้วนั่นเอง
+ ก่อนออกไปบิน +
เราก็ต้องตื่นก่อนเวลาค่ะ สามสี่ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องออก เพื่ออะไร ก็เพื่อออกไปเชคอิน เข้าห้องบรีฟ เชคทุกอย่างว่าเราพร้อมไปทำงานรึเปล่า ตรงนี้ก็สร้างความเบลอมานักต่อนักเนอะ พรุ่งนี้บินกี่โมง อีเวลากลางวันเนี่ยนะ มันก็ไม่เท่าไหร่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ บิน21/04/2016 เวลา 01.00 เอาแล้วไง อ่านรอบแรกไม่งง อ่านรอบสองเอ๊ะ อ่านแล้วคิดตามรอบสาม เออสรุปไปวันไหนวะ 55555555555 ปวดใจเนอะ แล้วยังค่ะยังมีมากกว่านั้น สมมติบินตีหนึ่ง ก็ต้องถึงเฮดห้าทุ่มก็ต้องไปดูตารางเวลา ต้องออกจากบ้านกี่โมง ให้ไปถึงก่อนเวลาเกตปิด ปัญหาตรงนี้ก็คือบ้านนี่เป็นป้ายสุดท้าย รถก็จะมาเลต พอรถมาเลตเราก็จะพะวง เพราะถ้าไปไม่ทันเกตปิด บอกเลยว่า บรรลัยเกิด
หน้าตารถลูกเรือก็จะเป็นแบบนี้ นี่เองงง /ภาพจากกูเกิ้ลนะคะ
+ ก่อนผู้โดยสารจะขึ้นเครื่อง +
คุณผู้ชมคะ เวลาที่เราทำงานตรงนี้นี่มันแย่มาก แย่มากตรงที่ทำงานกันจนหัวหลุดอะค่ะ ผมเผิมที่เซตมานี่คือฟูกระเจิงหมด เกลียดงานผมมีน้ำหนักของตัวเองก็วันนี้เลย สงสารสุดคือคนทำแกลลี่ คุณพระคุณเจ้า ต้องยกคอนเทนเนอร์ที่สูงท่วมหัวเปิดออกมาเชคให้เรียบร้อย ปีนป่ายปิดแฮทแรค ตีลังกาเตรียมผ้าห่มและหูฟัง ซึ่งทันทีที่ผู้โดยสารขึ้นมาจะปัดมันออกอย่างรำคาญ ทั้งที่เราวางมันอย่างรักใคร่ 5555555555555555 น้ำตาดาวจะไหลค่ะ ถ้าทำแบบนี้คราวหลังดาวขอไม่วางได้ไหมคะ (ไม่ได้ค่ะ ตอบตัวเอง)
ไม่ว่าจะเซตผมมาแน่นเบอร์ไหน งานสบายๆอย่างเป็นแอร์ ก็มีหัวสภาพนี้ล่ะค่ะ คุณผู้ชม 555555555
+ เมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่อง +
แหม่ ดูทรงว่าพาร์ทนี้จะยาวยืด ยาวเฟื้อย ยาวจนเลื้อยตัวขดกันไปมา 5555555 เพราะมันมีหลายงานค่ะ งั้นเรามาแบ่งเป็นสามเฟส before takeoff - cruise - before landing สามเฟสหลักๆของเรามันก็จะเป็นการทำงานที่ต่างกันเนอะ
- ก่อนเทคออฟ -
เราก็จะเชคบอร์ดดิ้งพาส พาผู้โดยสารไปนั่งที่นั่งที่ถูกต้อง ซึ่งมันก็จะมีปัญหาคือบางที่พอไฟลต์โอเวอร์บุคเนี่ย จะชอบมีอาการที่นั่งซ้ำกัน ซึ่งอารมณ์นี้แก้ไม่ยาก ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นให้มารับผิดชอบงานตัวเอง (งานโบ้ยขี้นั่นเอง 55555555) หรือในอีกกรณีหนึ่งที่เราเดินทางไปดินแดนตะวันออกที่ไม่ใช่ซ้ายไม่ใช่ขวาไม่บนและไม่ล่าง (นี่พยายามอ้อมแล้วคิดเองนะ ว่าที่ไหนของโลก)พวกนางจะมากันแบบฟูลเฮาส์ฟูลแฟมิลี่ เยอะราวกลับแพนกวิ้นอพยพ นางจะชอบนั่งติดกัน ต้องได้นั่งด้วยกัน คือจะให้เข้าใจเค้าเราก็เข้าใจ แต่เค้าไม่เข้าใจดาวบ้างเลย TT^TT ดาวบอกให้รอบอดดิ้งเสร็จ แล้วดาวจะพยายามมูฟให้ พวกนางก็เกรี้ยวกราด ดาวก็อยากจะร้องไห้ และด่าเป็นภาษาไทยในใจตัวเองคนเดียวเงียบๆ 555555555 ทีนี้พอมีพวกมากนางจะมีความก๋ากั่นเพิ่มขึ้นสี่หมื่นห้าพันแปดร้อยสี่สิบเจ็ดเท่า เมื่อเตรียมเทคออฟ หลังวิดีโอเซฟตี้จบ เราก็ต้อง secure cabin ขอให้นั่งหลังตรง ปิดถาด และคาดเข็มขัดเนาะ นางก็จะส่ายหน้า ล้าลา ประสาทแดรก ไม่ทำตาม แต่นี่จะใช้ลูกอ้อน และเดินวนไปมาจนกว่านางจะทำ ก็ยังไม่เคยต้องรุนแรงไม่ว่าทางกายหรือวาจา ส่วนใจนั้นก่นด่าตั้งแต่ห้าวินาทีแรก 5555555555555555
ที่นั่งก็หน้าตาประมาณนี้ค่ะ ในeconomy class //ขอบคุณรูปจากกูเกิ้ลนะคะ
- ระยะ cruise -
นี่คืองานบริการที่แท้จริงค่ะคุณขา ขนาดที่นี่ที่ว่าคัดคนกันมาแบบโหดๆ เพราะคงรู้อ้ะ ว่าจะมาเจอกับอะไร 55555555555 แต่เราก็เอ็นจอยนะ คือแบบงานสร้างภาพเป็นคนใจดี ใครขออะไรก็ให้หาให้ได้ก็ให้หาให้ไม่ได้ก็พยายาม(?)หาให้ แล้วมันปริ่มแก น้ำตานี่แล่ะปริ่ม ปริ่มด้วยความอดทน ผิด! คือมันเหนื่อยแล้วก็น่ารำคาญสำหรับหลายๆคนที่เราเจอ เค้าจะแบบโอ๊ย จะเอาอะไรกันนักหนา กดคอลเบลอีกแล้ว หยิบถาดออกไปทีก็กลอกตาที ดาวก็สงสารเค้า ดาวก็อยากแนะนำให้เค้าลาออกไปเถอะ แต่ดาวไม่กล้า เค้าตัวใหญ่ 55555555555555 บางครั้งปัญหาก็จะแบบตอนเสิร์ฟนางหลับ พอเสิร์ฟเสร็จนางตื่นละโวยวาย อ้าว สติ้กเก้ออะให้ไปในถุงหูฟังอ้ะ แปะสิแปะ เพราะบางทีเวลาเราเสิร์ฟมื้อย่อยๆเนาะ เราก็จะไม่ปลุก เพราะเราไม่อยากทำเยอะ 5555555555 ไม่ใช่ๆ เราไม่อยากกวนต่างหากล่ะ ส่วนตอนเสิร์ฟมื้อหลักนี่ก็มีความฮาและงานอธิบายงานอะไรเอ่ยกันเยอะมาก เพราะบางทีผู้โดยสารไม่ใช่ english speaker ทำไงหรอ บางทีก็ถามแค่ว่าจะรับอาหารมั้ยคะ ถ้านางเปิดถาดออกมา ก็ยื่นให้เลย ขออนุญาตไม่ให้เลือกนะคะ เราคุยกันไม่เข้าใจจริงๆ ยิ่งฝืนยิ่งเจ็บ 555555555 นี่ล่าสุดที่ไปลูอันด้า มีสองชอยส์ไก่หรือเนื้อ คุณลุงที่นั่ง f ก็ช่วยให้คุณลุงที่นั่ง g เข้าใจว่าเรามีอะไรให้เค้า และเค้าจะทานอะไร โอเคนางก็ได้ไก่ไป ทีนี้พอถามลุง f ว่าลุง f จะรับอะไร ลุงบอก fish หน้านี่เกือบออกว่าแบบ อ้าวลุง กวนทรีนป้ะเนี่ย เมื่อกี้ลุงยังบอกเพื่อนลุงอยู่เลยว่ามีไก่กับเนื้อ แล้วฟิชลุงมาไง ดาวไม่ตลก อย่ากวนทรีนดาว ขอร้อง 555555555 พอจบแล้วเราก็จะเดินวนไปมาในเคบิ้น(เมื่อหัวหน้าสั่ง) และนั่งเม้านั่งฝอยนั่งนินทาผู้โดยสารกันในแกลลี่(โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง) แต่ถามว่าได้นั่งอะไรมากมายมั้ยก็คือถ้าไฟลต์ผู้โดยสารน้อยก็ได้นั่ง ถ้าโหลดเต็มก็นะคะ เดินวนไปค่ะ ! นี่ยืนเยอะเดินเยอะจนแบบจะไปซื้อถุงน่องกันเส้นเลือดขอดแล้วอะ กลัว 555555
นอกจากนี้ในความเป็นจริงยังไม่เป็นอย่างภาพในเน็ตด้วยค่ะ คือผู้โดยสารจะไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรแบบนี้ ไม่มีใครแฮปปี้ได้เบอร์นั้น
เนื่องจาก มีสองชอยส์แล้วโชคร้ายวันนั้นท่านอาจจะเป็นคนท้ายๆของการเสิร์ฟอาหารจากคาร์ทของเรา
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตัวเลือกที่ท่านต้องการนั้น หมด งานงอก จะเดินไปหยิบจากในครัวก็ผิด ครั้นจะแทรกตัวแซงเพื่อนระหว่างเบาะไปก็ไม่ได้
สิ่งที่แก้ไขได้คือ ให้ตัวเลือกใหม่ว่าจะรับอีกชอยส์นึง หรือถาดเปล่าไปก่อนแล้วถ้าเราเสร็จคาร์ทนี้ ซึ่งก็ต้องไปเทคคาร์ทอื่นต่ออีก เราจะไปเชคให้ว่ามันเหลือมั้ย ถ้าเหลือก็คือโชคดีมว้ากกก ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เหลือ ก็ต้องมาจิตวิทยา ออดอ้อนออเซาะ ขอให้ท่านรับตัวเลือกที่เราเหลืออยู่ได้มั้ย
ในจุดนี้ก็ยังโชคดีที่การเสนอชอยส์เดิมที่ท่านไม่อยากได้นั้นยังได้ผลอยู่ ซึ่งขอให้ได้ผลตลอดไป 555555
หรือถ้าโชคดียิ่งกว่านั้นอีกคือเจอผู้โดยสารน่ารัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆค่ะ ทำงานสายแบบนี้ก็ได้เจอเด็กทุกๆชาติ แต่เด็กฝรั่งนี่ต้องยอมรับเลยว่าน่ารักมากจริงๆ และก็ซนมากเช่นกัน แต่ด้วยความหน้าตาน่ารักอะค่ะ ก็ให้อภัย 555555 อย่างเช่นน้องคนนี้ก็เจอกันตอนไฟลต์ไปปารีส น้องลุกออกจากที่นั่งมาคุยเล่นกับแอร์เพราะชอบและอยากทำงานบนเครื่องบินก็ถามนู่นนี่ สังเกต และมองแอร์ทำงานด้วยแววตาที่เราเคยมองแอร์ก่อนที่เราจะมาเป็น เห็นแบบนี้แล้วมันปลื้มมมมม จนอดขอถ่ายรูปกลับมาไม่ได้
ส่วนหนุ่มน้อยคนนี้เจอกันเมื่อไฟลต์กลับจากลอนดอน เป็นเด็กน้อยน่ารักและพลังงานเหลือตั้งแต่หน้าเกต และน้องน่ารักมาก ไม่พูดภาษาอังกฤษแต่ฟังเราเข้าใจ เห็นเด็กน่ารักเราก็ต้องไปล่อลวง 555555 หลอกล่อว่าจะให้ชอคโกแลตน้องก็รับไปแล้วพูดอะไรไม่รู้แล้วเดินจากเราไป พ่อน้องเลยบอกว่าน้องพูดว่าขอบคุณ และขอเอาอีกอันที่เราให้ไปไปแบ่งพี่ชายที่มาด้วยกัน (เราให้น้องไปสองอัน) ก็แบบ งื้ออ เด็กน่ารักกกก ขอกลับบ้าน 55555 ในรูปคือยิ้มแบบเห็นฟันครบทุกซี่ น้าน่ารักมากจริงๆค่ะ
- ก่อน landing -
เฟสนี้เชื่อเลยว่าเป็นส่วนที่น่ารำคาญสุดของผู้โดยสาร และพอนางรำคาญ คนทำงานอย่างเราก็ซวยค่ะ รองรับอารมณ์เต็มๆ โดนทุกอย่าง อะไรอะไรก็ดาว ดาวทุกที ดาวโดนทุกงาน น้ำตาจะไหล ถามว่าทำไรบ้าง ก็เก็บผ้าห่ม เก็บหูฟัง เคลียร์เศษขยะที่พวกนางยัดไว้ตามพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งบางคนหาวิธีทิ้งขยะได้สร้างสรรค์เหลือเกิน ดาวก็ยอมใจในจุดนี้ค่ะนอกจากนั้น เราก็ต้องปลุกเค้าให้นั่งหลงตรง ปิดถาด คาดเข็มขัดอีกรอบ ทีนี้ไงคะ เพิ่งตื่น หิวน้ำ ความอิ๊บอ๋ายก็มาเยือนดาวเต็มๆ เพราะในแกลลี่เราเทน้ำทุกน้ำที่ถูกเปิดทิ้งไปหมดแล้ว อะขอย้อน นี่ล่าสุดกลับมาจากลอนดอน เดินเอาเหยือกชา กาแฟ ไปเททิ้งในห้องน้ำ ขากลับเดินผ่านผู้โดยสาร นางก็ขอกาแฟ ดาวแบบช็อค คุณคะ ทำไมเมื่อกี๊ไม่พูด เพราะนี่ก็พยามส่งสายตาให้แล้วเผื่อว่าใครจะขอก่อนจะเท ดาวขี้เกียจชง ดาวไม่ใช่บาริสต้า อะกลับไปที่เรื่องน้ำ เราก็รู้เนอะว่าในครัวเราไม่มีน้ำแล้ว เราก็ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ นี่ยังซวยอีก มาฟาดงวงฟางาใส่ดาว บอกขอคนนั้น คนนั้นก็ให้รอ บอกคนโน้นคนโน้ก็บอกเดี๋ยวกลับมา อ้าววว แล้วใช่นี่ไหมล่ะ ไม่ใช่ไง ไม่ช้ายยย แล้วมาลงกับนี่ทำม๊ายยย แต่วันนั้นโชคดีบิน380 แล้วในพื้นที่เรามันมีที่กดน้ำดื่มหน้าห้องน้ำ นี่ก็เลยกดน้ำจากตรงนั้นมาให้ ซึ่งแก้วก็บั่บ ทำให้ไว้ให้นกแก้วจิกเหรอคะ เล็กน่ารักยังกับแก้วบาร์บี้ (เบ้ค่ะเบ้ มันเล็กเกินจริงๆอะ)
นี่ก็คือจำนวนคนคร่าวๆที่เราต้องขออนุญาตเก็บที่นอนหมอนมุ้งให้พวกท่านค่ะ ซึ่งท่านก็จะหนาวสั่นบ้าง เอ็นจอยมูฟวี่บ้าง ก็จะให้ความร่วมมือบ้าง ไม่ให้บ้างตามอัธยาศัยน่ะค่ะ 55555
+ เมื่อผู้โดยสารที่รักได้ออกจากเครื่องของเราไปแล้ว +
ก็ตัวใครตัวมันค่ะ แยก! เฮ่! 5555555555555 บางทีก็ถ้าเป็นไฟลต์เทินก็กลับบ้านค่ะตัวใครตัวมัน ถ้าเจอใครน่ารักนิสัยดี ทำงานดี อัธยาศัยดี ก็อาจจะแลกคอนแทคกันเอาไว้และคบกันต่อไป ส่วนถ้าเป็นไฟลต์เลย์ก็อาจมีการนัดแนะกันออกไปข้างนอก ซึ่งนี่ก็โดนเทบ้าง เทเค้าบ้าง สมน้ำสมเนื้อค่ะ
ก็ขอจบกระทู้ที่ยาวยืดและยืดยาวไว้เท่านี้นะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อใครซักคน หรือให้อะไรกับใครได้บ้าง
ในความคิดของตัวเราเอง สำหรับงานทุกวันนี้ ก็มีทั้งความรู้สึกดีแล้วก็แย่ปนกันไป แต่ก็ยังมั่นใจว่าเราเลือกงานไม่ผิด
ดังนั้นก็ขอให้เด็กจบใหม่ทุกคน คนที่อยากจะเปลี่ยนงานทุกคน ได้ก้าวต่อไปบนเส้นทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมค่ะ
สุดท้ายนี้ แยกค่ะ! พักผ่อน!!