สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าปราสาทญี่ปุ่นที่เราเห็นส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นปราสาทที่สร้างหลังยุคสงครามเซ็งโงะกุ (Sengoku period) แปลว่าปราสาทพวกนี้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นศูนย์การปกครองในแต่ละหัวเมือง ปราสาทพวกนี้เน้นความสวยงามมากกว่าครับ เหมือนนอยชวัลสไตน์
เข้าเรื่องประสิทธภ่าพยุทธปราการ
ปราสาทญี่ปุ่นกับปราสาทยุโรปแตกต่างกันที่ปรัญญาครับ ปราสาทญี่ปุ่นสร้างสำหรับ Defense-in-Depth หรือการตั้งรับทางลึก
ปราสาทญี่ปุ่นที่ใช้ในสงครามจริงๆจะสร้างบนภูเขาที่สามารถป้องกันได้ง่าย โดยจะสร้างปราสาทหลักบนยอดเขากับป้อมเล็กๆตามทางขี้นเขาเพื่อชลอข้าคึก เราจะสังเกตได้ว่าเวลาเรานึกถึงซามูไรรบกันจะไม่มีพวกอาวุธหนักพวกเครื่องยิงก้อนหินต่างๆนาๆที่ทางยุโรปใช้กันเยอะเพราะอาวุธหนักพวกนี้ไม่สามารถเอาขันเขาที่ญี่ปุ่นได้ง่าย และกำแพงปราสาทญี่ปุ่นจะเตี้ยกว่าทางยุโรปแต่จะสร้างด้วยดินส่วนใหญ่และจะทนทานต่ออาวุธหนักมากรวมไปถึงอาวุธปืนในยุคหลังๆ เครื่องยิงก้อนหินเลยไม่มีประโยชน์อะไร
ดังนั้นที่ญี่ปุ่นเวลาตีปราสาทกันเขาใช้กำลังคนล้วนๆครับ และจะเน้นการปิดล้อมจนกว่าฝั่งตั้งรับจะยอมแพ้มากกว่าจะบุกตีกำแพงกันแบบในยุโรป
ตัวปราสาทญี่ปุ่นเองนั้นก็สร้างตามการตั้งรับทางลึก ดูจากรอบนอกอาจจะไม่รู้แต่กำแพงปราสาทญี่ปุ่นมีหลายชั้นมากสร้างมาให้เป็นวงกตให้ข้าคึกสับสนและเข้าถึงตัวที่มั่นตรงกลางได้ยากถึงแม้จะตีกำแพงนอกแตกแล้วก็ตาม
ต่างกับปราสาทยุโรปที่จะมีกำแพงรอบนอกอย่างเดียว ถ้ายึดตีตรงนั้นได้ก็จบเลย เพราะแบบนี้เราจะเห็นว่ากำแพงยุโรปจะดูสูงใหญ่น่าเกรงขามกว่าเพราะเขามีแค่กำแพงเดียว แบบปราสาทโบเดียมที่ไม่มีแม้แต่ที่มั่นตรงกลาง
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าของญี่ปุ่นจะดีกว่า ปราสาทยุโรปบนภูเขาที่สร้างสำหรับการตั้งรับทางลึกก็มีแต่น้อยครับ เพราะทวีปยุโรปส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบลุ่มมากกว่าไม่มีเขาเยอะเหมือนญี่ปุ่น และจุดประสงค์ของปราสาทคือการปกป้องดินแดนและประชาชนซึ่งจะอยู่ตามที่ราบลุ่ม ปราสาทยุโรปส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันเลยจะไปอยู่แถวนั้นด้วย เพราะถ้าไปสร้างบนภูเขาไกลๆแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรปกป้องใครไม่ได้
ญี่ปุ่นเป็นประเทศเล็กๆที่มีราบลุ่มกับภูเขาอยู่ใกล้กัน เวลาใครยกทัพมาชาวบ้านก็หนีขึ้นเขาได้ในวันเดียว ดังนั้นปราสาทญี่ปุ่นที่ใช้ในการรบจริงๆจะอยู่บนภูเขาหมด
ยุคหลังๆสมัยใหม่ปราสาทยุโรปได้พัฒนามาเป็นป้อมประการแทนที่มีลักษณะคล้ายญี่ปุ่นเช่นกำแพงเตี้ยๆไว้รับมือกับอาวุธปืน การสร้างตามการตั้งรับทางลึกโดยมีกำแพงหลายๆชั้น ฯลฯ
ญี่ปุ่นหลังยุคเซ็งโงะกุได้รวมกันเป็นประเทศเดียวและบ้านเมืองค่อนข้างสงบ ปราสาทญี่ปุ่นก็เลยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากจนตอนเปิดประเทศติดต่อกับตะวันตก ป้อมประการญี่ปุ่นสมัยนั้นก็จะเป็นแนวยุโรปหมดเช่นการสร้างกำแพงเป็นรูปดาว
สรุปจริงๆแล้วผมว่าปราสาททั้งสองที่มีประสิทธภ่าพยุทธปราการเท่าเทียมกันครับ แต่กันแค่ที่ตั้งกับหลังการนิดหน่อย
เข้าเรื่องประสิทธภ่าพยุทธปราการ
ปราสาทญี่ปุ่นกับปราสาทยุโรปแตกต่างกันที่ปรัญญาครับ ปราสาทญี่ปุ่นสร้างสำหรับ Defense-in-Depth หรือการตั้งรับทางลึก
ปราสาทญี่ปุ่นที่ใช้ในสงครามจริงๆจะสร้างบนภูเขาที่สามารถป้องกันได้ง่าย โดยจะสร้างปราสาทหลักบนยอดเขากับป้อมเล็กๆตามทางขี้นเขาเพื่อชลอข้าคึก เราจะสังเกตได้ว่าเวลาเรานึกถึงซามูไรรบกันจะไม่มีพวกอาวุธหนักพวกเครื่องยิงก้อนหินต่างๆนาๆที่ทางยุโรปใช้กันเยอะเพราะอาวุธหนักพวกนี้ไม่สามารถเอาขันเขาที่ญี่ปุ่นได้ง่าย และกำแพงปราสาทญี่ปุ่นจะเตี้ยกว่าทางยุโรปแต่จะสร้างด้วยดินส่วนใหญ่และจะทนทานต่ออาวุธหนักมากรวมไปถึงอาวุธปืนในยุคหลังๆ เครื่องยิงก้อนหินเลยไม่มีประโยชน์อะไร
ดังนั้นที่ญี่ปุ่นเวลาตีปราสาทกันเขาใช้กำลังคนล้วนๆครับ และจะเน้นการปิดล้อมจนกว่าฝั่งตั้งรับจะยอมแพ้มากกว่าจะบุกตีกำแพงกันแบบในยุโรป
ตัวปราสาทญี่ปุ่นเองนั้นก็สร้างตามการตั้งรับทางลึก ดูจากรอบนอกอาจจะไม่รู้แต่กำแพงปราสาทญี่ปุ่นมีหลายชั้นมากสร้างมาให้เป็นวงกตให้ข้าคึกสับสนและเข้าถึงตัวที่มั่นตรงกลางได้ยากถึงแม้จะตีกำแพงนอกแตกแล้วก็ตาม
ต่างกับปราสาทยุโรปที่จะมีกำแพงรอบนอกอย่างเดียว ถ้ายึดตีตรงนั้นได้ก็จบเลย เพราะแบบนี้เราจะเห็นว่ากำแพงยุโรปจะดูสูงใหญ่น่าเกรงขามกว่าเพราะเขามีแค่กำแพงเดียว แบบปราสาทโบเดียมที่ไม่มีแม้แต่ที่มั่นตรงกลาง
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าของญี่ปุ่นจะดีกว่า ปราสาทยุโรปบนภูเขาที่สร้างสำหรับการตั้งรับทางลึกก็มีแต่น้อยครับ เพราะทวีปยุโรปส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบลุ่มมากกว่าไม่มีเขาเยอะเหมือนญี่ปุ่น และจุดประสงค์ของปราสาทคือการปกป้องดินแดนและประชาชนซึ่งจะอยู่ตามที่ราบลุ่ม ปราสาทยุโรปส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันเลยจะไปอยู่แถวนั้นด้วย เพราะถ้าไปสร้างบนภูเขาไกลๆแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรปกป้องใครไม่ได้
ญี่ปุ่นเป็นประเทศเล็กๆที่มีราบลุ่มกับภูเขาอยู่ใกล้กัน เวลาใครยกทัพมาชาวบ้านก็หนีขึ้นเขาได้ในวันเดียว ดังนั้นปราสาทญี่ปุ่นที่ใช้ในการรบจริงๆจะอยู่บนภูเขาหมด
ยุคหลังๆสมัยใหม่ปราสาทยุโรปได้พัฒนามาเป็นป้อมประการแทนที่มีลักษณะคล้ายญี่ปุ่นเช่นกำแพงเตี้ยๆไว้รับมือกับอาวุธปืน การสร้างตามการตั้งรับทางลึกโดยมีกำแพงหลายๆชั้น ฯลฯ
ญี่ปุ่นหลังยุคเซ็งโงะกุได้รวมกันเป็นประเทศเดียวและบ้านเมืองค่อนข้างสงบ ปราสาทญี่ปุ่นก็เลยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากจนตอนเปิดประเทศติดต่อกับตะวันตก ป้อมประการญี่ปุ่นสมัยนั้นก็จะเป็นแนวยุโรปหมดเช่นการสร้างกำแพงเป็นรูปดาว
สรุปจริงๆแล้วผมว่าปราสาททั้งสองที่มีประสิทธภ่าพยุทธปราการเท่าเทียมกันครับ แต่กันแค่ที่ตั้งกับหลังการนิดหน่อย
แสดงความคิดเห็น
ปราสาทแบบญี่ปุ่น ปราสาทแบบยุโรป ประสิทธภ่าพยุทธปราการอันไหนดีที่สุด