เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียน เป็นพนักงานแบงค์ มันโก้หรูจนดูถูกคนอื่นได้เลยหรอคะ

ออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้ว่าพนักงานแบงค์ต้องมีนิสัยแบบนี้ทุกคนนะคะ

เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาเรานัดเจอเพื่อนค่ะ เรามีปัญหาส่วนตัวเรื่องหนี้สินพ่อเราค่ะ .. เราคิดว่าเพื่อนเราทำแบงค์คงต้องรู้เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินดีกว่าเรา เลยตกลงเรียกมาคุยกัน เราก็นัดเอาที่เพื่อนเราสะดวก ก็ตกลงนัดเจอบนห้างสรรพสินค้า

บอกตามตรง ... ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะมากจริงๆ เรื่องการเที่ยวนี่ตัดไปได้เลย อาจเป็นเพราะเราตัวคนเดียวด้วย จำเป็นต้องเผื่อเงินไว้ใช้อนาคต เรื่องการแต่งตัวตามแฟชั่น หรือ อาหารการกินบนห้าง บอกเลยเราไม่เคยซื้อหรือเดินเฉียด ส่วนใหญ่เราจะซื้อกับข้าวถุงเข้าไปกินบนหอพัก เซเว่นก็ไม่เข้า น้ำเปล่าก็กดใต้หอเอา เสื้อผ้านี่บอกตรงๆตลาดนัดค่ะ ชอบอุดหนุนรายย่อยด้วยกัน อาจเพราะเราทำมาค้าขายแต่เด็กด้วย เลยไม่ชอบใช้เงินเปลือง ทำแบบนี้มาเป็นสิบๆปี เราคงชินเกินกว่าจะไปกินบนห้าง

พอเจอกันครั้งแรกบนห้าง หลังจากที่ไม่เคยเจอกันเลยเป็นสิบๆปีได้ ... เค้ามองเราตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วบอกว่านี่เราจะไปกินฟู้ดคอร์ทกันใช่ไหม แต่เค้าจองโต๊ะไว้ร้านนึงแล้วนะ เคยกินไหม จะถูกปากหรือเปล่า (เราก็คิดในใจ ละก่อนจองทำไมไม่ถามเราก่อนล่ะคะ)

บรรยากาศดูชักไม่เป็นกันเองละค่ะ เราเป็นกระเทยปอนๆ แต่งตัวถูกๆมา ส่วนเค้าดูเป็นเกย์ผู้ดี๊ ผู้ดี แต่งตัวมาเต็ม เนี๊ยบมาก เรานี่หัวฟู เพราะรีบนั่งวินมา กลัวไม่ทันนัด พึ่งเลิกจากขายของแถวตลาดนัดมาอีก อาจดูแย่มั้ง ไม่มีเฟิร์สอิมเพรสชั่นอย่างที่เค้าว่ากัน

เพื่อนเราก็เดินนำหน้าลิ่วๆๆๆๆ ไม่คุย ไม่ทักไรเราอีก เดินไปร้านที่เค้าจองไว้ นั่งลงกะโต๊ะ บรรจง ละก็สั่งๆๆๆๆๆ ไอ้เราก็งงๆ เมนูนี้มันคืออะไร นี่มันเนื้ออะไร กินยังไง บอกตรงๆเราก็อายๆนะ เราไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลย มันแพง ... กว่าจะเกริ่นนำเรื่องรีไฟแนนซ์ให้พ่อได้ ก็กินกันจนเกือบหมดละค่ะ เราก็กินไม่อร่อยหรอก เหมือนไม่ถูกปากเรา ส้มตำ +หมูย่างน้ำตก+ข้าวเหนียว อร่อยกว่า

เค้าก็บอกจะขอดูหลักฐานการเงินเรา นี่เค้าเป็นระดับรองผู้จัดการสาขาแล้วนะ เงินเดือนหลายหมื่น มีลูกน้อง แต่ก็อาจช่วยอะไรไม่ได้มาก บอกตรงๆดูเราแล้วคงไม่น่ามีเครดิตอะไรให้ผ่าน เดี๋ยวพอดีคืนนี้เค้าติดธุระ ยังไงขอบคุณมากที่เลี้ยงเค้ามื้อนี้ ..... เราก็อึ้งซิคะ น้องพนักงานหยิบใบเสร็จมาให้ปาไปเกือบสองพัน !!!  แต่ๆๆๆๆ เราไม่ยอมค่ะ เราคิดว่ายังไงรายได้เราน่าจะผ่าน เค้าก็บอกคืนนี้เค้ามีธุระจริงๆต้องรีบไป ยังไงพรุ่งนี้ตามเค้ามาที่สาขาเองละกัน (แล้วคืนนี้จะนัดดิชั้นมาเพื่ออะไรคะ เพื่อนรัก)

พอไปวันรุ่งขึ้นเราก็เอาสมุดบัญชีเราไป ปกติเราก็ฝากเงินกับทางธนาคารเค้าอยู่แล้ว ก็โทรไปเบอร์เค้า ... แต่เค้าไม่รับสาย เราเองก็คิดว่าเค้าคงยุ่งๆ เพราะระดับรองผู้จัดการแล้ว แต่ในใจเราก็อยากให้เค้าช่วยจริงๆ เราเองก็อยากปลดหนี้ให้พ่อไป

พอไปถึงที่ธนาคาร เราเห็นเค้านั่งกินกาแฟอยู่ ก็ทักทายไป แต่เจอหน้าเราเค้าก็ไม่ทัก ทำเหมือนไม่รู้จัก เราก็เลยรับบัตรคิวไป ก็นั่งรอๆๆๆ กว่าจะได้คุยกับพนักงานก็ซักพัก หิวข้าวเหมือนกัน เรารีบมาก่อนเวลา

พนักงานก็สอบรายได้เรา ดูสินทรัพย์เรา เค้าก็บอกว่าเรามีรายได้เยอะอยู่ อาจเรางานประจำด้วย แต่งานเสริมพ่วงเยอะค่ะ มีพวกร้านซักรีด ร้านทำผม ร้านขายอาหารที่ตลาดนัดด้วย มีเงินหมุน แล้วอาชีพประจำเรามันไม่ใช่แบบเงินเดือนตายตัว ก็มีค่าคอมมิชชั่นให้ มีโอที มีอินเทนซีฟ โบนัส ละเราไม่เคยถอนเงินมานานแล้ว เรามีแต่ฝากอย่างเดียว เงินสดเราหาได้ทุกวันอยู่แล้ว เราเลยไม่จำเป็นต้องถอนเงิน คือ บัญชีดูสวยมากว่างั้น ซักพักเราก็ได้คุยกับผู้จัดการสาขาเองเลย เค้าบอกไม่สนใจออมกับตัวนี้บ้างหรอ จริงๆไม่ต้องกู้เพิ่มอะไรแล้ว ถ้าฝากกับตัวนี้เท่านี้เดือนนะ พอได้ดอกเบี้ยมามันก็คุ้มค่ากว่ามาจ่ายดอกเสียอีก เงินก้อนก็ยังอยู่ แต่ยังไงก็ช่วยๆทางสาขาหน่อย แล้วก็สนใจธุรกิจ SME ไหมมีปล่อยกู้ มีบัตรหมุนเวียนให้หมุน ฯลฯ (เราจำไม่หมด)

สรุปเราก็ขอให้ผู้จัดการเค้าจดข้อมูลมาให้หมด เดี๋ยวเราเอาไปปรึกษาทางผู้ใหญ่เราอีกทีนึง แล้วเราก็ขอตัวกลับ ..... ซักพักเพื่อนเราที่เป็นรองผู้จัดการโทรมาหาค่ะ คราวนี้คุยดีเลยค่ะ คุยดีกว่าเดิมมากกกกก เติมกอไก่ล้านตัวเลยค่ะ  มีการบอกคืนนี้ว่างจะนัดเจออีก แต่เราบอกไม่เอาแล้วค่ะ เราได้คำตอบเราเรียบร้อยแล้ว ก็วางสายสวัสดีลาก่อนเลยค่ะ  

คือ อยากบอกว่าอย่าดูถูกคนที่เค้าแต่งตัวเป็นพ่อค้าแม่ค้าเลยค่ะ บางทีบัญชีเลขสวยมากค่ะ ไม่เคยถอนใช้เลย แต่เราอาจแต่งตัวไม่ดีด้วยค่ะ พูดง่ายๆเยินค่ะ ยอมรับ แต่อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้นเลยค่ะ คนทำมาหากินด้วยกัน น่าจะเห็นใจกันมากกว่านี้ค่ะ

ขอระบายนิดนึงนะคะ อึดอัดมากค่ะ ปกติไม่ค่อยเจอแบบนี้ค่ะ นานๆเจอทีนึง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่