ควรจะไปหาจิตเเพทย์ต่อหรือไม่คะ จากอาการต่อไปนี้

ก่อนหน้านี้เกิดอาการนอนไม่หลับ ปากเเห้ง ปวดหัวตุบๆ หายใจไม่ค่อยสดวก เเละก็อารมณ์แปลกๆที่เริ่มรุนเเรงขึ้น  รู้สึกไม่มีค่า อยากหลับ
ไม่อยากรับรู้อะไร เลยกินยาแก้เเพ้ไปประมาณ 10 เม็ด หายซ่าคะ มันหลับไปเเค่เเปปเดียวเเต่หลังจากนั้นคือ รู้สึกตัวเเต่ยกมือไม่ขึ้น  หิวน้ำมากๆเเต่ลุกเดินไม่ได้  <<<< นั้นคงเป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุดเเล้ว   * ปัญหาส่วนมาก มาจากที่ทะเลาะกับเเฟนคะ คบกันมาได้สามปี ทะเลาะกันบ่อย ด้วยช่วงวัยที่ต่างกัน วัยเรียนกับวัยทำงาน ค่อนข้างทุลักทุเลเเละลำบากมากคะ เลิกกันมากกว่า 10 ครั้ง เเต่ก็ยังไม่ขาดกันสักที  

  อาการต่างๆมันเริ่มกระทบกับการเรียนคะ ปวดหัวจนไม่มีอารมณ์จะทำอะไร เสียสมาธิมาก เลยไปหาจิตเเพทย์ ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย กรอกประวัติเเล้วคุยกับหมอ หมอก็ส่งไปที่นักจิตวิทยาคลินิกเพื่อพูดคุย ถึงปัญหาเเละทางออก
จากที่ได้คุยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นกับตัวเองมากๆ หมอจ่ายยา amitriptyline 10 mg แค่ สิบเม็ด ให้กินเฉพาะตอนที่นอนไม่หลับ หลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์หมอก็นัดให้มาอีก  ...ถึงวันนัด ช่วงที่หมอนัด ทุกๆอย่างมันก็ดีขึ้น หมอคะหนูโอเค ยังมีบ้างบางครั้งที่รู้สึกเศร้าไปเเต่ก็ดึงกลับขึ้นมาได้ ไม่ได้หนักเหมือนเเต่ก่อน งั้นหมอไม่นัดนะ เเต่ถ้ามีปัญหาก็ให้มาอีก หมอก็ส่งไปคุยกับนักจิตวิทยาคลินิกอีกครั้ง(ไม่เเน่ใจว่าเรียกถูกไหม) ก็บอกไปว่า โอเคคะ หนูโอเค ทุกอย่างดีขึ้น....

เเต่หลังจากนั้นไม่นาน  ก็กลับมารู้สึกเเย่อีก มันเศร้าแบบ ดึงไม่ขึ้น กลับมาจากเรียน ถึงหอพักน้ำตามันก็ไหลมาดื้อๆ แบบที่ควบคุมยากมาก
สับสนกับอารมณ์ตัวเองมาก ค่อนข้างน่ากลัว อยู่กับเพื่อน เฮฮา ปกติดีค่ะ พูดมาก สนุกสนาน เเต่พอกลับมาอยู่คนเดียวมันรู้สึกเเย่ยังไงไม่รู้  ปัญหาส่วนมาก ก็เหมือนเดิมคะ เเต่ครั้งนี้ไม่คิดสั้นๆอีกเเน่นอน เรารู้ตัวหมดทุกอย่างว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรดีไม่ดี เเต่อารมณ์ที่ควบคุมยากเเบบนี้ สมควรที่จะต้องไปหาจิตเเพทย์อีกครั้งไหมคะ ...
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แบบนี้ควรกลับไปปรึกษาแพทย์อีกครับ

การใช้ยา จะช่วยคลายเครียดและปรับสมดุลทางอารมณ์จนอยู่ในระดับที่สามารถมีสติกลับมา
และใช้ความคิดตรึกตรองได้ก็จริง และรากลึกของปัญหาหรือคือสาเหตุ ก็ต้องอาศัยวิธีคิดและ
การพิจารณาถึงตัวปัญหาได้อย่างชัดเจนแตกฉานและเหมาะสมด้วย คุณหมออาจจะอาศัยการ
ใช้ยาเป็นหลักในการรักษา แต่เรื่องตัวปัญหาก็ต้องอาศัยสังคมรอบตัว ประกอบกับการคิดไตร่
ตรองของเราเอง ซึ่งตรงนี้ก็คงต้องอาศัยคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหา
ชีวิตและสังคมมาประกอบกันด้วยนะครับ จึงจะแก้ไขต้นตอของปัญหาลงได้อย่างเด็ดขาด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่