สิ่งเร้นลับที่หาคำตอบไม่ได้ที่เมืองเหนือ

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งใจมาตั้ง เป็นเรื่องที่เจอมากับตัวเอง แท็คแต่งเรื่องสั้นไปจะได้ไม่ดราม่าเนอะ เอาล่ะเข้าเรื่องกันเลย อันตัวเรานี้ชื่อปุ้มเมื่อหลายปีก่อนเมื่อสมัยเป็นสาววัยขบเผาะ ช่วงเรียนมหาลัยได้พบรักกับรุ่นพี่สถาปัต ชื่อพี่กร้อ หนุ่มหน้ามน นิสัยดี จนเราทั้งคู่เรียนจบ ก็เข้าไปทำงานในเมืองหลวงทั้งคู่ และสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆรอคอยคือ วันหยุดยาว และพี่กร้อของฉ้านนน นางก็วางแผนว่าจะชวนเราไปเที่ยวบ้านเกิดที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ด้วยความเป็นกุลสตรีแอ๊บแบ๊วก็โทรไปขอคุณพ่อคุณแม่เพื่อความสบายใจ เมื่อท่านเชย์เยสก็เก็บกระเป๋าโดยพลัน
    เมื่อถึงวันหยุดที่รอคอยก็ขึ้นรถที่ท่าอากาศยานหมอชิตกับพี่กร้อ หลับบ้างอะไรบ้างก็มาถึงในเช้าตรู่วันต่อมา คุณพ่อและน้องชายของพี่กร้อมารับที่บ.ข.ส. และเมื่อถึงบ้านพี่กร้อก็ทำให้ฉันใจชื่นมากเพราะตัวเรากังวลมาตลอดทางเลยว่าที่บ้านเค้าจะชอบเรามั้ย จะน่ากลัวรึเปล่า นั่น โน่น นี่ บลา บลา บลาาาา คุณพ่อคุณแม่น่ารักมาก น้องเกมก็เป็นเด็กน่ารัก บ้านหลังเล็กๆที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น คือดีมากกับการมาทริปนี้
     เมืองเหนือเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆแต่มีทุกอย่างครบครันแต่ยังคงมีความเป็นเมืองเก่าที่ไม่วุ่นวายนัก ตอนเช้าไปหาของกินอร่อยตลาดเช้า ถ้าจำไม่ผิดเค้าเรียกกาด สายไปถวายเพลพระ บ่ายๆไปนั่งจบกาแฟชิวๆ ตอนเย็นพ่อกับแม่พี่กร้อก็ทำกับข้าวอร่อยๆไว้ให้กิน เป็นแบบนี้ไปทุกวันมันชิวไม่มีเบื่อสมกับเป็นวันพักผ่อน บอกเลยชีวิตดี๊ดี แพลนมาเที่ยวของเราคือ 5วัน และแล้ววันที่เราต้องจำไปตลอดชีวิตก็มาถึง คืนวันที่สาม หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จพี่กร้อก็ได้นัดเพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยมมาดื่มที่บ้าน เพราะไม่อยากขับรถไปที่อื่น เพื่อนพี่กร้อมากันสองสามคน คุณแม่ก็ใจดีทำกับแกล้มนั่งนู่นนี่มาให้กินมิได้ขาด เราก็นั่งแอ๊บๆเป็นสาวไม่ดื่มไป เกรงที่บ้านพี่กร้อ แต่เราก็เสียใจนะที่ไม่ดื่ม เอ๊ะยังไง ยายคนนี้นี่ เมื่อสุราเข้าปากก็เริ่มคุยกันออกรสออกชาติสนุกสนาน พี่กร้อก็เล่ารำลึกถึงความหลังสมัยเรียนกันกับเพื่อนๆ คุณแม่ด้วยความเอาใจใส่ลูกก็ถามลูกชายว่า เอาอะไรเพิ่มมั้ยเดี๋ยวแม่ทำให้ ทุกคนคงทราบดีว่าเวลาที่เราดื่มเรามักจะควบคุมระดับโทนเสียงตัวเองไม่ได้ พี่กร้อจริงได้ตอบคุณแม่ไปว่า ไม่เอาหรอกแม่เยอะแล้ว แม่ไปอาบน้ำนอนเถอะ ด้วยโทนเสียงที่ดังกว่าเก่ามากจนเราตกใจ แต่ดูจากสีหน้าพี่กร้อคือไม่ได้รับรู้เลยว่าตัวเองเสียงดังและไม่ได้มีเจตนาที่พูดไม่ดีกับแม่ แต่ด้วยความเป็นแม่ เรารู้เลยว่าแม่แอบน้อยใจเพราะพี่กร้อเสียงดังเพราะแม่แสดงออกจากแววตา และแม่ก็มานั่งบนแคร่ไม้เยื้องๆกับม้าหินอ่อนที่พี่กร้อนั่งดื่มกับเพื่อน และแล้วเวลานั้นก็มาถึง
   เราด้วยความเป็นห่วงแม่เลยเดินเข้าไปหาแล้วไปจับมือแม่กำลังจะอธิบายให้แม่ฟังว่าพี่กร้อคงไม่ได้ตั้งใจ ทันใดนั้น สายตาของคุณแม่ผู้อ่อนโยนก็เปลี่ยนเป็นสายตาแข็งกร้าว สายตาขึงขังและดุมาก แต่ที่ช็อคไปกว่านั้นคือ เสียงที่ออกจากปากของแม่ เราแน่ใจที่สุดในชีวิตว่าคือเสียงผู้ชายแน่นอน น้ำเสียงเหมือนเป็นผู้ชายสูงอายุ แห่บๆพล่าๆหน่อย และภาษาที่เค้าพูด เป็นภาษาอะไรไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่อง ทุกคนเงียบและหันไปมองที่แม่ แม่กำลังนั่งชันเข่าข้างหนึ่งและเอนตัวเหมือนพิงหมอนสามเหลี่ยมแต่ที่จริงตรงนั้นไม่มีหมอน ทันใดนั้นน้องชายพี่กร้อก็คลานเข้าไปใกล้ๆแม่ แล้วพนมมือตรงกลางอก แล้วพูดโต้ตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกัน ด้วยความอยากรู้อะไรเบอร์นั้นของเรา ก็เลยถามเพื่อนพี่กร้อไปว่า เค้าพูดภาษาอะไรกัน พี่เค้าตอบมาว่า"ภาษาเทพ" น้องเกม น้องพี่กร้อเคยบวชเรียนที่วัดป่าบนเขาแล้วได้วิชามาอะไรประมาณนี้ น้องเกมจะคอยเป็นคนแปลให้ทุกคนได้เข้าใจว่าท่านต้องการจะสื่ออะไร ตอนนั้นจากที่ทุกคนเมาๆกรึ่มๆกันอยู่ก็สร่างเลยทีเดียว จังหวะนั้นสถานการณ์ตรึงเครียดมากผสมกับความกลัวและสะพรึงในเหตุการณต่อหน้า สีหน้าทุกคนนี่ซีดเป็นไก่ต้ม โดยเฉพาะพี่กร้อ บทสนทนาก็ประมาณว่า
ท่านเทพ:นี่รู้มั้ยว่าแม่รักเอ็งแค่ไหน ทำไมพูดขึ้นเสียงกับแม่แบบนั้น รู้มั้ยว่าแม่น้อยใจแค่ไหน ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะ
พี่กร้อ:ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีครับ สงสัยดื่มเลยเสียงดังโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมอยากให้แม่ได้พักผ่อนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว
ท่านเทพ:แม่รักเอ็งมาก ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเอ็ง อย่าทำให้แม่เสียใจ อย่าทำให้แม่โกรธ เป็นเด็กอย่าขึ้นเสียงกับผู้ใหญ่ แม่เอ็งโกรธ ข้าก็โกรธ
พี่กร้อ:ผมขอโทษครับ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยทำให้แม่กับท่านเพื่อเป็นการไถ่โทษได้มั้ยครับ
ท่านเทพ:กับแม่เอ็งก็ต้องไปขอโทษเอง แต่กับข้าก็พอมีทางอยู่บ้าง เอ็งมียาเส้นกับเหล้ามั้ยว่ะเอามาให้ข้าซิ
พี่กร้อ:ยาเส้นเห็นทียามนี้คงหายาก เป็นบุหรี่ธรรมดาได้มั้ยครับ พลางยื่นบุหรี่และจุดไฟให้ ส่วนเหล้าเดี๋ยวพวกผมจะไปหามา
จากนั้นพี่กร้อกับเพื่อนก็วิ่งไปหาซื้อเหล้า ท่านเทพก็สูบบุหรี่ไปพลางหมดมวนต่อมวนประมาณ3-4ตัว พี่กร้อก็กลับมาพร้อมกับเหล้า1ขวด รีบรินให้ท่านอย่างพินอบพิเทา ท่านกินไปได้ประมาณซักครึ่งขวด คือกินแบบกระดกรวดเดียวหมด2-3รอบ จากนั้นก็ชี้มาที่เรา นี่พูดเลยว่าเข้าใจคำว่าตกใจแทบฉี่ราดว่าเป็นยังไงก็วันนั้น ท่านถามว่านางนี่เป็นใคร น้องเกมก็รีบบอกว่าเป็นแฟนพี่กร้อพามาเที่ยวบ้าน เดี๋ยวกลับแล้ว ท่านก็พยักหน้าแล้วบอกว่าจะกลับแล้วพาไปส่งทีให้เรากับพี่กร้อพยุงไปส่งที่ป่าหลังบ้าง เราก็พยุงแม่ซึ่งเป็นท่านในขณะนั้น ที่แปลกคือ แม่ยืนก้มหลังคร่อมๆเหมือนคนแก่ที่ต้องใช้ไม้เท้าพยุง ค่อยๆเดินไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง และแม่ก็สลบและทิ้งตัวลงเรากับพี่กร้อช่วยกันอุ้มแม่มาที่แคร่ไม้หายาดม ยาลมมาให้แม่ ระหว่างนั้นด้วยความสงสัยของเรา เราดมที่มือแม่ว่ามีกลิ่นบุหรี่มั้ย สะพรึงมากเพราะไม่มีแม้แต่น้อย ดมที่ปากไม่มีกลิ่นเหล้าเลยทั้งที่เป็นเหล้าขาว40ดีกรี ไม่นานแม่ก็พื้นขึ้นมา และถามว่าแม่เป็นอะไร รู้สึกตัวครั้งสุดท้าย กำลังจะไปอาบน้ำ พวกเราก็เลยเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็พลางร้องอ้อขึ้นมา บอกว่า บ้านที่เราอยู่นี่ตั้งอยู่บนกำแพงเมืองเก่าเมื่อนานมาแล้ว และแม่มักจะฝันอยู่เสมอว่ามีเทพมาขอให้แม่เป็นร่างทรงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอยู่บ่อยๆ แต่แม่ก็ปฏิเสธไปเพราะสุขภาพของแม่ไม่ค่อยดีนัก แม่อยากอยู่แบบคนปกติมากกว่า พอทุกคนได้ฟังที่แม่พูดทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจ เพื่อนพี่กร้อขอตัวกลับบ้านอย่างไว แม่ก็ไปอาบน้ำ พี่กร้อก็ดื่มเบียร์อีกสามขวดที่เหลืออย่างไว น้องเกมเข้าไปนอน พี่กร้อบอกเราไปนอน แต่ใครจะนอนหลับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนี่ ไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องเจอ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย แต่ตอนนี้พูดเลยว่าเชื่อแบบสุดๆ พี่กร้อก็ชิงหลับแบบไม่ให้เราอุธรณ์ใดๆ และที่สำคัญห้องที่เรานอนนั้นอยู่ติดกับต้นไม้ต้นนั้นเลย ในหัวมีเรื่องให้คิดเยอะไปหมด กลัวก็กลัว จะทำยังไงให้นอนหลับ สวดมนต์ก็แล้ว นับแกะก็แล้ว จะทำยังไงกันทันใดนั้น แม่เปิดประตูเข้ามาถามว่านอนไม่หลับหรอ บอกเลยว่าตอนนั้นกลัวจนน้ำตาคลอเบ้า แม่ถามอีกว่ากลัวแม่หรอ เราตอบไปว่าไม่ได้กลัวแม่แต่กลัวท่าน แม่บอกเราเป็นคนดีท่านไม่ทำไรหรอกมีแต่จะคุ้มครอง ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นนะ แต่เราก็นอนไม่หลับอยู่ดี เราอยู่จนเช้า จนพี่กร้อตื่น เราบอกพี่กร้อว่าขอกลับวันนี้ได้มั้ยเรากลัวจริงๆ เราไม่ไหวจริงๆ แม่กับพี่กร้อก็เข้าใจ และให้เรากลับกรุงตามต้องการ แต่ทริปนี้เรื่องดีๆก็มีนะ เรื่องสะพรึงก็มีเยอะไม่น้อย เป็นทริปที่จะจำไม่ลืมตลอดชีวิตเลยทีเดียว เพื่อนๆมาแชร์กันบ้างนะ เรื่องเร้นลับที่หาคำตอบไม่ได้ รึบางทีก็กลัวคำตอบจะเป็นแบบเราคิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่