ก่อนเข้าคุกผมก็เคยดูหนังคุกหลายเรื่อง พอเข้าไปจริงไม่ตรงซักข้อ หลังออกมาผมก็ได้ดูหนังคุกสมัยใหม่สร้างดีกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่ตรงอีก ในคุกไม่มีศัพท์คำว่าหนมน้า ไม่มีธรรมเนียมเอาคนหน้าใหม่มาให้ตุ๋ย ไม่ได้นั่งเฉยๆจ้องจะตีกันเป็นแก๊ง ต้องเล่าก่อนว่าผมนักโทษคดียา โทษ 25 ปี 7 เดือน แต่อยู่ประมาณ 10 ปีเพราะได้อภัยมาหลายลูก ปล่อยออกมาปี 67 ในเรือนจำเราไม่ได้นั่งอยู่กันไม่กี่คนในห้องที่โรงขังอะไรทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ เรามีงานทำทุกคนต้องมีกองงานมีหน้าที่ เขาว่าไม่ยอมให้ใครกินข้าวฟรีต้องทำงานตามที่มีการดูตัวคัดตัวจำแนกไว้ อย่างผมก็เข้าไปใช้แรงงานเย็บรองเท้า นานไปก็มีการจำแนกใหม่ไปอยู่สูทกรรมทำอาหารนักโทษ พอเจ้าหน้าที่รู้จักเรามานานรู้ว่าพอมีความรู้บ้างเล็กน้อยก็มาช่วยทำงานเอกสาร มีงานทุกวันยกเว้นบางคนจะหยุดเสาอาทิตย์ พอ 3 โมงอาบน้ำขึ้นห้องขังคือนอนอัดกันรอดูทีวีตั้งแต่เย็นถึง 3-4 ทุ่มแล้วก็นอน เมื่อก่อนห้องนึงนอน 50-70 คนอัดกันตัวติดกันหัวเท้าสลับกัน บางคนต้องนั่งชิดกำแพงหลับ มีผลัดกันเข้าเวรเพราะดันมีคนผูกคอตายบ่อยๆเลยออกกฎให้นักโทษเฝ้ากันเอง พอปล่อยตัวมาเจ้าหน้าที่คนนึงมาบอกว่า รู้ป่าวจริงๆไม่ใช่หน้าที่เอ็งต้องเข้าเวรนะมันหน้าที่เจ้าหน้าที่เวรต้องเดินเวรเฝ้าพวกเอ็ง ในคุกลงชื่อหาหมอยากมาก ป่วยวันนี้อาจรอเจอพยาบาลอาทิตย์หน้าหรือไม่ได้หาเลย มีแค่ อสรจ.ที่คอยคัดรับเรื่องเวลาเราแจ้งป่วย ในคุกป่วยคือป่วยตายคือตาย ถ้าตายในห้องจะไขขังไม่ได้ต้องรอจนกว่าจะเช้าถึงจะให้ตำรวจกับญาติเข้าไปตรวจศพ เมื่อก่อนของบันเทิงคือได้สูบบุหรี่สูบยาเส้น แต่ตอนปี 62 เขามีคำสั่งงดเด็ดขาด แต่ชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าเดิมถึงจะไม่มียาเส้น เพราะปี 63 มีเบาะยางปูนอนเบาะละ 2 คนติดกัน คือมันมีพักโทษพิเศษระบายนักโทษจากสมัยโควิดไปหลายหมื่นคน เป็นช่วงสรยุทธติดคุกเลยมีรายการเรือนจำ สรยุทธนี่เป็นชุดแรกเลยที่ได้ระบายพักโทษพิเศษ ตอนนั้นมีเอาท่านสมศักดิ์มาพูดนโยบายออกทีวี ก็มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ก่อนผมปล่อยมาตั้งแต่ 66-67 เปลี่ยนมานอนคนละเบาะ ในคุกไม่มีธรรมเนียมตุ๊ยคนหน้าใหม่ แต่มีตุ๊ดมีกะเทยเลยมีชายคบหากัน มีลักลอบกันแต่ถ้าจับได้โดนย้ายแดนโดนวินัย ไม่ได้มีธรรมเนียมแบบแก๊งนั่งจ้องจะตีกันเหมือนในหนัง แต่มีการทะเลาะชกต่อยตีกันเพราะคนมันเยอะร้อยพ่อพันแม่แค่แย่งข้าวกันตักข้าวมากข้าวน้อยมันก็ทะเลาะกันได้ จริงๆมันคือต่างคนต่างอยู่ อยู่กับกลุ่มตัวเองบ้านตัวเองใช้ชีวิตวนไปวนมาแบบเครียดๆจนเป็นกิจวัตร ไม่มีใครกล้าซ่าเพราะเจ้าหน้าที่กระทืบได้เสมอ แล้วเวลาทะเลากันแค่ตบหน้าก็โดนขังเดี่ยวแล้ว โดนย้ายไปแดนลำบากโดนบันทึกวินัยลดชั้นงดการเลื่อนชั้นเอาอภัย ทุกคนคิดว่าเมื่อไหร่จะปล่อย เข้าเกณฑ์ลดโทษพักโทษหรือยังจะมีอภัยรึเปล่าปีนี้ มีวลีว่าจะอยู่รอดได้ต้องอยู่แบบ กินอิ่มนอนอุ่นลุ้นอภัย สิ่งบันเทิงคลายเครียดที่สำคัญมีแค่ทีวีก่อนนอน ถ้าได้ดูหนังฟังเพลงก็พอคลายทุกข์ แต่ถ้าดูหนังซ้ำเรื่องเดิมๆวนไปวนมาดูรายการน่าเบื่อยัดเยียดให้ดูก็จะยิ่งเครียด ออกมางงมากหนังใหม่ซีรี่ใหม่ออกเดือนละหลายเรื่องทำไมไม่เปิด บทเรียนที่คนเราทุกคนควรรู้คือ ความทุกข์ที่สุดในชีวิตคือคุก ความทุกข์ในคุกไม่ใช่ความลำบากแต่มันคือความไม่อิสระ ใช้ชีวิตข้างนอกลำบากไม่มีกินไม่มีที่นอน นอนใต้สะพานแต่อิสระยังมีความสุขกว่า โชคดีแค่ไหนที่เราได้อยู่นอกคุก
เล่าเรื่องจริงของชีวิตคุก 10 ปี คุกไม่เหมือนในหนัง