พ่อเสียชีวิต มีหนี้บ้าน+บัตรกดเงิน รวมๆ 2ล้าน ธนาคารจะให้ไปเซ็นรับสภาพหนี้

พ่อเสียไปเมื่อ ม.ค. ค่ะ เครียดมาก ขอปรึกษาหน่อยค่ะ
ทายาทคือ เราอายุ 32 และน้องสาว อายุ 25 - เราเป็นผู้จัดการมรดก

พ่อมีหนี้ TTB
1.บ้าน 1,500,000 (ราคาตลาด 4.8ล้าน)
2.เงินกู้อเนกประสงค์ 900,000
   ประกันเงินกู้เคลมได้แค่ 370,000 (ธ.เอาไปโปะบัญชีอเนกประสงค์เพราะดอกแพงกว่า)
   เหลือหนี้ประมาณ 2.1ล้าน
ปกติผ่อนบ้าน+บช.อเนกประสงค์ เดือนละ 27,000

3.ไฟแนนซ์รถ 110,000 (ขายแล้ว) เหลือส่วนต่าง 40,000
4.บัตรเครดิต 5,000 (ปิดแล้ว)
5.บัตรกดเงินสด 80,000 ธ.เสนอให้ปิดยอด 38,000 (ยังไม่ได้ปิด)

- หักเงินที่สำรองจ่ายไปตอนงานศพ+ค่าทนายตอนทำเรื่องผู้จัดการมรดก = กองมรดกไม่มีเงินเหลือแล้ว
- ตั้งแต่พ่อเสียยังไม่ได้ผ่อนบ้านต่อ
ปัญหาคือ ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ตอนนี้ ธ.แจ้งให้เข้าไปเซ็นรับสภาพหนี้ / ปรับโครงสร้างหนี้
ถ้าไม่ไปเซ็นจะฟ้อง ต่อให้เราผ่อนต่อไปหากยังมียอดค้างชำระก็จะฟ้องอยู่ดี
ลองคุยดูแล้ว หากจะรับหนี้บ้าน+รีไฟแนนซ์ ธ.จะให้เราไปเซ็นรับสภาพหนี้+จ่ายยอดค้างทั้งหมด ประมาณ 140,000 และผ่อนค่างวดตรงเวลาต่อไปอีก 6 เดือน ถึงจะให้รีไฟแนนซ์ได้ (ซึ่งหนักเกินไปค่ะ ไม่สามารถหาเงินมาโปะได้) / ไปลองคุยกับ SCB มา เขาก็แจ้งว่าบัญชีต้องปกติ ถึงจะรีไฟแนนซ์ได้

ตอนนี้เลยคุยกับน้องสาวว่าประกาศขายบ้านพ่อ 5 ล้าน เพื่อเอาเงินโปะหนี้บ้าน หลังขายก็ยังได้ส่วนต่าง 3 ล้าน
พร้อมกับยื่นกู้บ้านหลังใหม่อยู่ค่ะ ราคาพอๆ กับบ้านที่อยู่ตอนนี้ค่ะ เรากู้ร่วมกับน้องสาว ผ่อนตกเดือนละ 17,000

คำถาม
แบบนี้เราในฐานะผู้จัดการมรดกจะมีผลอะไรกับการกู้ซื้อบ้านใหม่มั้ยคะ
เราไม่ควรเซ็นรับสภาพหนี้อะไรทั้งนั้นถูกมั้ยคะ
บัตรที่ธ.เสนอให้ปิด 38,000 ต้องจ่ายเลยมั้ย
เขาบอกให้จ่ายในเดือนนี้ เจรจาจนได้ยอดนี้ ตอนแรกเขาให้จ่ายปิด 42,000 มันสูงเกินไป
ตอนนี้กองมรดกไม่มีเงินเหลือแล้วค่ะ หรือรอให้ขายบ้านได้ค่อยจ่ายหนี้บัตรทีหลัง
ระหว่างประกาศขายบ้านพ่อ ค่างวด 27,000 เราสามารถขอผ่อนขั้นต่ำไปก่อนได้มั้ยคะ ไม่เกิน 15,000 ธ.จะยอมมั้ย

ข้อสำคัญ
เราคิดถูกมั้ยที่เลือกกู้บ้านใหม่กับน้องสาวแทน เราและน้องสาวโสดค่ะ และในอนาคตไม่ได้คิดจะแต่งงาน
น้องสาวเงินเดือน 25,000 จ่ายบัตร 10,000 ไม่มีเงินเก็บ
เราฟรีแลนซ์+ธุรกิจส่วนตัว รายได้ 50,000-100,000 งวดรถ 5000+จ่ายบัตรเครดิต10,000
เงินเก็บเรา 180K + กองทุนอีก 150K

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ทำไมเรางง กับความคิดแบบนี้ (คิดเหมือน คห.7)  ดันทุรัง หาเรื่องใส่ตัว
1)บ้านมีอยู่แล้ว  ดันทุรังซื้อบ้านใหม่
หนี้บ้านเหลือ 1.5ล้าน  หนี้เอนกประสงค์(กุ้ทำไม)0.53ล้าน
...บ้าน4.8ล้านสูงกว่าหนี้เยอะ แต่หาเรื่องกับแบงก์ที่ยังไงก็แพ้และปวดหัว  
... แล้วเจือกจะหากู้บ้านใหม่เพื่อ2สาวจะอยู่ด้วยกัน  

3.ไฟแนนซ์รถ 110,000 (ขายแล้ว) เหลือส่วนต่าง 40,000
5.บัตรกดเงินสด 80,000 ธ.เสนอให้ปิดยอด 38,000
(ซึ่งก็โชคดีที่เค้าแฮร์คัท ยังโยกโย้  เดี๋ยวก็บังคับยึดทรัพย์คือบ้านพ่อ  หาเรื่องใหญ่ใส่ตัว)

...คิดประกาศขายบ้านพ่อ 5 ล้าน ... โลกสวย   ไทยอยู่ในจุดเศรษฐกิจดี๊ดีขาขึ้นเหรอคะ
(หวังว่า คุณไม่ได้อยู่บ้านนี้เนอะ     เพราะกู้บ้านใหม่ก็คงไม่ได้    คนซื้อเค้าไม่ซื้อบ้านที่มีคนอยุ่หรอก)

....ยื่นกู้บ้านหลังใหม่อยู่ค่ะ ราคาพอๆ กับบ้านที่อยู่ตอนนี้ค่ะ เรากู้ร่วมกับน้องสาว ผ่อนตกเดือนละ 17,000
ปกติพ่อผ่อนบ้าน+บช.อเนกประสงค์ เดือนละ 27,000 (ซึ่งหนี้เอนกฯลดลง คงเหลือ22,000)

น้องสาวเงินเดือน 25,000 จ่ายบัตร 10,000 ไม่มีเงินเก็บ   (ใช้ชีวิตยังไง ผ่อนบัตรเดือนละ10,000)
คุณเองก็ฟรีแลนซ์  (แถมจ่ายบัตร 10,000 คือผ่อนบัตรหรือ0%6เดือน ?)
.... คุณสองคนคิดว่ากู้บ้านใหม่ในเศรษฐกิจตอนนี้ได้จริงเหรอ??
---------------------------------
แม้เราไม่เคยกุ้เงินเลย   แต่เราคิดภาพจุดจบว่า   "บ้านคือทรัพย์มรดกค่ะ"  
บ้าน5ล้านและทรัพย์พ่ออื่นจะถูกยึด เพื่อจ่ายหนี้แค่ 1.5+0.53+0.04+0.038=2.108ล้าน
เสียน้อยเสียยาก   เสียมากเสียง่าย   .... เล่นกับแบงก์ คิดว่าง่าย , ขายบ้านคิดว่าง่าย  ,โลกสวยเกิ๊น
tripnote008
ความคิดเห็นที่ 7
งง คุณมีเงิน ปิดปัญหาได้ แต่ไม่ยอมปิด เลือกจะไปผ่อนบ้านใหม่

คิดว่าบ้านหลังเดิมจะขายได้เมื่อไหร่

เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
ความคิดเห็นที่ 13
ไม่ต้องเซ็นรับสภาพหนี้ครับ คุณจะเสียเปรียบทันที

ให้ธนาคารฟ้องกองมรดกครับ เอาบ้านไปขายทอดตลาด แล้วเงินเหลือจะตกมาที่คุณ ถ้าค่าปรับไม่เยอะ

ตอนนี้ถึงคุณจะขายบ้านได้ ก็ยุ่งยากอยู่ดีครับ บ้านไม่ใช่ชื่อคุณ
คนซื้อคงไม่เอาเงินมาปิดหนี้ให้คุณก่อนแน่ๆ

ดังนั้น  ถ้าธนาคารโทรมาเร่งรัด บอก  ธ ไปว่า อยากฟ้องก็ฟ้องไป  ฟ้องเอาจากกองมรดกนั่นแหละ  บอกไปว่า หนูทราบกฏหมายดี
ความคิดเห็นที่ 9
หลักการ
1.หนี้สินของพ่อ เสียชีวิตแล้ว
1.1 ถ้าสมบัติพ่อมีมากกว่าหนี้ สมบัติที่เหลือตกถึงลูก
1.2 ถ้าหนี้มากกว่า ไม่ต้องไปเซ็นรับสภาพหนี้ ปล่อยจบ สมบัติพ่อหมดแล้ว (เว้นแต่เจ้าหนี้สืบทรัพย์พบส่วนไหนของพ่ออีก)

2.หนี้สินพ่อ
2.1 บ้าน ใกล้ปิดแล้ว ถ้าปล่อยธนาคารยึดขายทอดตลาด จะได้ราคาต่ำกว่าขายเองเผลอ ๆ อาจจะไม่พอเงินต้น จะไม่มีเงินไปปิดบัตรเครดิตอีก แต่ขายบ้านเองไม่ได้ขายง่าย ๆ ต้องยอมลดราคาให้เยอะ ๆ  ดังนั้นขายบ้านได้ส่วนเกินก็มาปิดที่เหลือ ถ้าทัน
2.2 บัตรเครดิต
2.3 กู้เอกประสงค์จากธนาคาร

3. สมบัติพ่อ
3.1 บ้าน
ถ้าบ้านพ่อขายได้มากกว่าหนี้สิน รีบขายเอาไปปิดหนี้พ่อให้หมด ที่เหลือเป็นมรดก

ทางออก ลูกจะขาย 5 ล้าน ถ้ามั่นใจว่าขายได้ แต่ไม่รุ้ว่านานแค่ไหน ถ้ารอได้ แล้วตัวลูกเองสามารถจ่ายหนี้ให้พ่อไปได้เรื่อย ๆ  
ก็ยอมรับสภาพหนี้ แล้วก็เอามรดกพ่อพร้อมหนี้ไปเลย

แต่ถ้าไม่อยากรับสภาพหนี้ ก็ปล่อยให้เขายึดบ้าน จ่ายหนี้บ้าน หนี้ต่าง ๆ จนสมบัติพ่อหมด จบไป  ลูกก็ไม่ต้องไปรับผิดขอบสภาพหนี้ใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ยุ่งสมบัติของพ่อที่ตกเป็นของเจ้าหนี้
ความคิดเห็นที่ 5
แนะนำรีบขาบบ้านผ่านโบรคเกอร์ อย่างไว ต่ำกว่าตลาดนิดหน่อยต้องยอม

ต่อรองธนาคารใช้หนี้ hair cut อาจได้ส่วนลดบ้าง

อย่าเซ็นต์อะไร ดึงไปก่อน

ขอให้สำเร็จไวไว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่