ปกติแล้วตัวฉันเองจะไม่เคยตั้งกระทู้แนวนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก และคงเป็นครั้งแรกที่ยอมยืนยันตัวตัวมาเพื่อตั้งกระทู้โดยเฉพาะ... อยากจะถามว่าทีมงานพันติ๊บยอมรับตัวตนของดิฉันยากไปไหนกันคะ
เอาล่ะ เข้าเรื่อง นี่เป็นเหตุจากวันที่ 2 มีนาคม... เย็นนี้เองนี่เเหละค่ะ ดิฉันขอเล่าโดยละเอียด
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ฉันกับน้องชายได้ตกลงกับพ่อไว้ว่าคุณพ่อจะไปส่งที่ร้าน โดยร้านหมูกะทะร้านนี้เปิดเวลา 5 โมงเย็นของวัน คุณพ่อที่ไม่ทานจะไปเดินที่ถนนคนเดินรอจนถึงเวลาสองทุ่ม (เพราะเป็นวันเสาร์พอดี) ให้เราสองคนนั่งอยู่ที่ร้านนั่นจนกว่าพ่อจะมารับ ...อันที่จริงนั่งจนร้านปิดก็ได้ถ้าบ้านไม่เลี้ยงแมว... พวกเราตกลง
เวลาประมาณห้าโมงครึ่ง ฉันกับน้องได้ไปที่ร้านเป็นลูกค้า ‘กลุ่มแรก’ ของวัน และเลือกนั่งที่โต๊ะด้านในติดเสา ‘โต๊ะ 20’ ขณะนั้นมีพนักงานลูกจ้างอาจจะชาวต่างชาติหรือคนไทยอยู่ที่หน้าร้านสองคนเป็นผู้ชาย คนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงย้อมผมทองมาเปิดเตาและอีกคนมาเติมน้ำซุปให้พวกเรา ฉันกล่าวขอบคุณ หลังจากนั้นฉันกับน้องจึงแยกย้ายกับไปเลือกตักเอาพวกวัตถุดิบมาย่างบนเตา สักพักก็มีคนอีกกลุ่มตามมานั่งโต๊ะข้างๆ มาเป็นคู่ชายหญิงคล้ายเป็นแฟนกัน ฉันก็ไม่ได้สนใจเท่าใดนัก
ขอบอกตรงนี้เลยนะคะ ร้านนี้ฉันมากิน ‘บ่อยมาก’ ทั้งที่ย่านนี้ก็มีร้านอื่นให้เลือกมากมาย ไม่ใช่เพราะราคาถูก เพราะร้านฝั่งตรงข้ามแค่ฟากถนนสองเลนก็ราคาเท่ากัน แต่ฉันไม่เลือกไปร้านนั้น ห่างไปจากนี้ไม่กี่บล็อกก็มีร้านใหญ่กว่านี้อีกมาก ราคาใกล้เคียงกัน ฉันก็เลือกมาทานร้านนี้บ่อยครั้ง
ฉันเคยอ่านรีวิวในอินเตอร์เน็ตมาก่อน มีทั้งดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ฉันก็ไม่เลือกเก็บรีวิวด้านไม่ดีของร้านนี้มาใส่ใจเช่นกัน จนกระทั่งมาประสบพบเจอด้วยตัวเอง ที่คาดไม่คิดคือการที่เห็นรีวิวแบบนี้มาประมาณปีถึงสองปีผ่านมาแล้ว
โอ้วซาร่าห์ !! ฉันเจอสิ่งนี้ในเนื้อหมูหมักน้ำมันงามันมีหน้าตาประมาณนี้ เหมือนหนอนไหม ของโปรดอิชั้นม๊ากมาก (แต่ในรูปมันคือไข่หนอนแมลงวันหัวเขียว

)

หน้าตาใกล้เคียงแบบนี้เบย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ม.ม. คงไม่มีใครอุตริเอาหนอนไหมไปกินระหว่างหั่นหมูหรอกชิมิเคอะ

ทีแรกที่มันฝังเป็นจุดดำๆอยู่ในเนื้อหมูก็เดาไม่ถูกว่ามันคือตัวอะไร จนกระทั่งฉันใช้ตะเกียบของตัวเองลองเขี่ยออกมา ทีนี้ก็เริ่มสันนิษฐานแล้วว่ามันคือไข่ของแมลงอะไรสักตัวหนึ่งพร้อมกับอาการช็อก จึงยื่นให้น้องดู
เรา : เอ็ง ตัวอะไรวะ
น้องเราก็หยิบไปดูแป๊บหนึ่งแล้วทำหน้าสะพรึงออกมาอย่างกับเจอของสยอง
น้อง : แมร่ง ไข่แมงสาบป่ะวะ (ไข่แมงสาบ ภาษาชาวบ้าน) (น้องกับเราอายุใกล้เคียงกันมากเลยพูดด้วยกันอย่างที่เห็น)
เรา : ทำไงดีวะเอ็ง
น้อง : (วางตะเกียบ แล้วกวักมือเรียกพนักงานที่หน้าร้าน) ไม่กินแมร่ง (หัวเสีย) พี่ มาทางนี้หน่อย
พนักงานที่เห็นเป็นชายร่างท้วมคนที่มาเติมน้ำซุปให้เรานั่นเอง เขาเดินมาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ เมื่อน้องฉันยื่นจานให้ดูเขาก็รับไป
น้อง : พี่ มันมีตัวอะไรในเนื้อหมู ไข่แมลงสาบรึเปล่า
พนักงานเริ่มทำหน้าลอกแลกแล้วหาทางแก้ตัวโดยชี้ขึ้นไปทางพัดลมติดผนัง มองหน้ามาทางฉันที่กำลังทำหน้าแหยงๆเช็ดตะเกียบ ไม่กล้าแตะหมูในถ้วยอีกเลยแล้วหันกับพูดกับน้องฉันใหม่
พนง. : ตกลงมาจากพัดลมรึเปล่า (พัดลมตายสนิทไม่ได้เปิด คิดในใจ : แถ)
เรา : พี่คะ มันมาจากเนื้อหมู หนูเขี่ยออกมาเลย มันเป็นไข่ตัวอะไรรึเปล่าคะ
ด้วยความที่อยู่กลางร้าน เรากับน้องพยายามพูดเสียงเบาแล้วไม่ให้ลูกค้าคนอื่นตกใจจนเตลิดแม้ว่าจะอยากตะโกนบอกให้ระวังหมูหมักงาก็เถอะ (ลืมบอกว่าตอนนี้ลูกค้าเกือบแน่นร้าน) แล้วพนักงานคนนั้นก็ทำหน้าเครียดเหมือนกับโกรธเราสองคนและเดินไปทางประตูหลังร้านที่มีพนักงานหลายคน แล้วชี้มาทางเรา (ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดว่าอะไร)
อยากจะบอกไว้เลยว่า ณ จุดๆนั้น พนักงานคนนั้นหลังจากเดินเอาจานไปเก็บก็เดินออกมาเหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนอื่นๆก็เช่นกัน !!
ไม่มีแม้แต่คิดจะเปลี่ยนถาดหมูถาดนั้นที่มันมีปัญหาอยู่ ไม่มีคำขอโทษ (ไม่มีกินฟรีให้ด้วย อันนี้สำคัญมาก) ซึ่งฉันกับน้องกินต่อไม่ได้อีกต่อไป อาการอยากขย้อนมันไล่ขึ้นมาทันที
ฉันเดินออกมาจากร้านมาในเวลา 18.25 นาทีพร้อมกับอาการพะอืดพะอมในท้อง และเงินที่เสียไปเป็นจำนวน 348 บาท ทั้งที่ หัวละ 169 บาท มันควรจะ 338 บาท... ค่าน้ำแข็งเหรอ ? หรือว่าค่าโปรตีนเสริมในเนื้อหมู... เอาเถอะ ขอขอบคุณประสบการณ์น่าชื่นใจในครั้งนี้กับร้านหมูกะทะร้านหนึ่งในจังหวัดเชียงรายตรงข้ามร้านคุณอุ๋ย ที่พนักงานเก็บจานไปไวเวอร์จนถ่ายรูปไม่ทัน ขอขอบคุณค่าหมูกะทะที่เก็บแพงขึ้นอีกสิบบาท ขอขอบคุณโปรตีนที่เสริมมาโดยไม่ได้ร้องขอ ขอขอบคุณรอยยิ้มพนักงานที่สวยงาม มากกกกกก ขอขอบคุณจานข้าวของพนักงานที่เคาท์เตอร์เก็บตัง ขอขอบคุณลูกค้าร่วมชะตากรรมโต๊ะข้างๆที่ยังยกจานขึ้นดูเพราะเห็นและได้ยินเหตุการณ์ด้วยใบหน้าสยดสยองแต่ก็ยังกินต่อ แผล่บ

ในที่นี้ฉันจะขอไม่บอกนะคะว่าไข่ของแมลงนี้มันคืออะไรกันแน่ เพราะฉันก็ไม่ทราบพอกัน เท่าที่เปิดดูแล้วค้นมันไม่ใช่แมลงสาบอย่างที่น้องของฉันเข้าใจ อาจจะเป็นไข่แมลงวัน แต่มันก็เล็กเกินจะเป็นไข่แมลงวันอยู่ดี สุดท้ายนี้ก็ได้แต่ภาวนาขออย่างเดียวว่าผู้ที่กินเข้าไปอย่าเป็นอันตราย หรืออย่าให้มีลูกๆของมันงอกอยู่ในท้องดิฉันก็เพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะปีเตอร์อาร์เอ็กซ์ ไอ้แมลงวันหัวเขียววีสาม สาวน้อยเวทย์มนตร์ตัวตืดพิงค์ แส้ม้าไรเดอร์ หรือเม็ดสาคูคุงก็ตาม (พูดไปแล้วน้ำตามันก็ไหลพรากๆ)
แต่ต่อไปนี้ ดิฉันขอปฏิญาณตนว่าจะไม่ไปกินหมูกะทะร้านของท่านอีกแล้ว... สวัสดีค่ะ
[CR]ระวัง! โปรตีนเสริมในเนื้อจากร้านหมูกะทะ
เอาล่ะ เข้าเรื่อง นี่เป็นเหตุจากวันที่ 2 มีนาคม... เย็นนี้เองนี่เเหละค่ะ ดิฉันขอเล่าโดยละเอียด
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ฉันกับน้องชายได้ตกลงกับพ่อไว้ว่าคุณพ่อจะไปส่งที่ร้าน โดยร้านหมูกะทะร้านนี้เปิดเวลา 5 โมงเย็นของวัน คุณพ่อที่ไม่ทานจะไปเดินที่ถนนคนเดินรอจนถึงเวลาสองทุ่ม (เพราะเป็นวันเสาร์พอดี) ให้เราสองคนนั่งอยู่ที่ร้านนั่นจนกว่าพ่อจะมารับ ...อันที่จริงนั่งจนร้านปิดก็ได้ถ้าบ้านไม่เลี้ยงแมว... พวกเราตกลง
เวลาประมาณห้าโมงครึ่ง ฉันกับน้องได้ไปที่ร้านเป็นลูกค้า ‘กลุ่มแรก’ ของวัน และเลือกนั่งที่โต๊ะด้านในติดเสา ‘โต๊ะ 20’ ขณะนั้นมีพนักงานลูกจ้างอาจจะชาวต่างชาติหรือคนไทยอยู่ที่หน้าร้านสองคนเป็นผู้ชาย คนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงย้อมผมทองมาเปิดเตาและอีกคนมาเติมน้ำซุปให้พวกเรา ฉันกล่าวขอบคุณ หลังจากนั้นฉันกับน้องจึงแยกย้ายกับไปเลือกตักเอาพวกวัตถุดิบมาย่างบนเตา สักพักก็มีคนอีกกลุ่มตามมานั่งโต๊ะข้างๆ มาเป็นคู่ชายหญิงคล้ายเป็นแฟนกัน ฉันก็ไม่ได้สนใจเท่าใดนัก
ขอบอกตรงนี้เลยนะคะ ร้านนี้ฉันมากิน ‘บ่อยมาก’ ทั้งที่ย่านนี้ก็มีร้านอื่นให้เลือกมากมาย ไม่ใช่เพราะราคาถูก เพราะร้านฝั่งตรงข้ามแค่ฟากถนนสองเลนก็ราคาเท่ากัน แต่ฉันไม่เลือกไปร้านนั้น ห่างไปจากนี้ไม่กี่บล็อกก็มีร้านใหญ่กว่านี้อีกมาก ราคาใกล้เคียงกัน ฉันก็เลือกมาทานร้านนี้บ่อยครั้ง
ฉันเคยอ่านรีวิวในอินเตอร์เน็ตมาก่อน มีทั้งดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ฉันก็ไม่เลือกเก็บรีวิวด้านไม่ดีของร้านนี้มาใส่ใจเช่นกัน จนกระทั่งมาประสบพบเจอด้วยตัวเอง ที่คาดไม่คิดคือการที่เห็นรีวิวแบบนี้มาประมาณปีถึงสองปีผ่านมาแล้ว
โอ้วซาร่าห์ !! ฉันเจอสิ่งนี้ในเนื้อหมูหมักน้ำมันงามันมีหน้าตาประมาณนี้ เหมือนหนอนไหม ของโปรดอิชั้นม๊ากมาก (แต่ในรูปมันคือไข่หนอนแมลงวันหัวเขียว
หน้าตาใกล้เคียงแบบนี้เบย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ม.ม. คงไม่มีใครอุตริเอาหนอนไหมไปกินระหว่างหั่นหมูหรอกชิมิเคอะ
ทีแรกที่มันฝังเป็นจุดดำๆอยู่ในเนื้อหมูก็เดาไม่ถูกว่ามันคือตัวอะไร จนกระทั่งฉันใช้ตะเกียบของตัวเองลองเขี่ยออกมา ทีนี้ก็เริ่มสันนิษฐานแล้วว่ามันคือไข่ของแมลงอะไรสักตัวหนึ่งพร้อมกับอาการช็อก จึงยื่นให้น้องดู
เรา : เอ็ง ตัวอะไรวะ
น้องเราก็หยิบไปดูแป๊บหนึ่งแล้วทำหน้าสะพรึงออกมาอย่างกับเจอของสยอง
น้อง : แมร่ง ไข่แมงสาบป่ะวะ (ไข่แมงสาบ ภาษาชาวบ้าน) (น้องกับเราอายุใกล้เคียงกันมากเลยพูดด้วยกันอย่างที่เห็น)
เรา : ทำไงดีวะเอ็ง
น้อง : (วางตะเกียบ แล้วกวักมือเรียกพนักงานที่หน้าร้าน) ไม่กินแมร่ง (หัวเสีย) พี่ มาทางนี้หน่อย
พนักงานที่เห็นเป็นชายร่างท้วมคนที่มาเติมน้ำซุปให้เรานั่นเอง เขาเดินมาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ เมื่อน้องฉันยื่นจานให้ดูเขาก็รับไป
น้อง : พี่ มันมีตัวอะไรในเนื้อหมู ไข่แมลงสาบรึเปล่า
พนักงานเริ่มทำหน้าลอกแลกแล้วหาทางแก้ตัวโดยชี้ขึ้นไปทางพัดลมติดผนัง มองหน้ามาทางฉันที่กำลังทำหน้าแหยงๆเช็ดตะเกียบ ไม่กล้าแตะหมูในถ้วยอีกเลยแล้วหันกับพูดกับน้องฉันใหม่
พนง. : ตกลงมาจากพัดลมรึเปล่า (พัดลมตายสนิทไม่ได้เปิด คิดในใจ : แถ)
เรา : พี่คะ มันมาจากเนื้อหมู หนูเขี่ยออกมาเลย มันเป็นไข่ตัวอะไรรึเปล่าคะ
ด้วยความที่อยู่กลางร้าน เรากับน้องพยายามพูดเสียงเบาแล้วไม่ให้ลูกค้าคนอื่นตกใจจนเตลิดแม้ว่าจะอยากตะโกนบอกให้ระวังหมูหมักงาก็เถอะ (ลืมบอกว่าตอนนี้ลูกค้าเกือบแน่นร้าน) แล้วพนักงานคนนั้นก็ทำหน้าเครียดเหมือนกับโกรธเราสองคนและเดินไปทางประตูหลังร้านที่มีพนักงานหลายคน แล้วชี้มาทางเรา (ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดว่าอะไร)
อยากจะบอกไว้เลยว่า ณ จุดๆนั้น พนักงานคนนั้นหลังจากเดินเอาจานไปเก็บก็เดินออกมาเหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนอื่นๆก็เช่นกัน !!
ไม่มีแม้แต่คิดจะเปลี่ยนถาดหมูถาดนั้นที่มันมีปัญหาอยู่ ไม่มีคำขอโทษ (ไม่มีกินฟรีให้ด้วย อันนี้สำคัญมาก) ซึ่งฉันกับน้องกินต่อไม่ได้อีกต่อไป อาการอยากขย้อนมันไล่ขึ้นมาทันที
ฉันเดินออกมาจากร้านมาในเวลา 18.25 นาทีพร้อมกับอาการพะอืดพะอมในท้อง และเงินที่เสียไปเป็นจำนวน 348 บาท ทั้งที่ หัวละ 169 บาท มันควรจะ 338 บาท... ค่าน้ำแข็งเหรอ ? หรือว่าค่าโปรตีนเสริมในเนื้อหมู... เอาเถอะ ขอขอบคุณประสบการณ์น่าชื่นใจในครั้งนี้กับร้านหมูกะทะร้านหนึ่งในจังหวัดเชียงรายตรงข้ามร้านคุณอุ๋ย ที่พนักงานเก็บจานไปไวเวอร์จนถ่ายรูปไม่ทัน ขอขอบคุณค่าหมูกะทะที่เก็บแพงขึ้นอีกสิบบาท ขอขอบคุณโปรตีนที่เสริมมาโดยไม่ได้ร้องขอ ขอขอบคุณรอยยิ้มพนักงานที่สวยงาม มากกกกกก ขอขอบคุณจานข้าวของพนักงานที่เคาท์เตอร์เก็บตัง ขอขอบคุณลูกค้าร่วมชะตากรรมโต๊ะข้างๆที่ยังยกจานขึ้นดูเพราะเห็นและได้ยินเหตุการณ์ด้วยใบหน้าสยดสยองแต่ก็ยังกินต่อ แผล่บ
ในที่นี้ฉันจะขอไม่บอกนะคะว่าไข่ของแมลงนี้มันคืออะไรกันแน่ เพราะฉันก็ไม่ทราบพอกัน เท่าที่เปิดดูแล้วค้นมันไม่ใช่แมลงสาบอย่างที่น้องของฉันเข้าใจ อาจจะเป็นไข่แมลงวัน แต่มันก็เล็กเกินจะเป็นไข่แมลงวันอยู่ดี สุดท้ายนี้ก็ได้แต่ภาวนาขออย่างเดียวว่าผู้ที่กินเข้าไปอย่าเป็นอันตราย หรืออย่าให้มีลูกๆของมันงอกอยู่ในท้องดิฉันก็เพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะปีเตอร์อาร์เอ็กซ์ ไอ้แมลงวันหัวเขียววีสาม สาวน้อยเวทย์มนตร์ตัวตืดพิงค์ แส้ม้าไรเดอร์ หรือเม็ดสาคูคุงก็ตาม (พูดไปแล้วน้ำตามันก็ไหลพรากๆ)
แต่ต่อไปนี้ ดิฉันขอปฏิญาณตนว่าจะไม่ไปกินหมูกะทะร้านของท่านอีกแล้ว... สวัสดีค่ะ