ญี่ปุ่น เยอรมัน เขาทำอย่างไรเพื่อการพัฒนาฟุตบอลอย่างยั่งยืน

แม่แบบการพัฒนาฟุตบอลเยาชน ดูเอเชีย มองไปที่ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น http://www.jfa.jp/eng/youth_development/
สำหรับ Motto ของการพัฒนาผู้เล่นของญี่ปุ่นคือ "Player first หรือ ผู้เล่นมาก่อน" หรือแปลง่ายๆ คือ ทุกความคิด ทุกสิ่งที่จะทำ ขอให้มั่นใจว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดหรับเยาวชน!

โดย JFA มีคณะกรรมหนึ่งชื่อ JFA's Technical Committee มีหน้าที่รับผิดชอบส่งเสริมแผนพัฒนาความแข็งแกร่ง (คุ้นๆ เหมือนที่โค้ชเฮงกล่าวเลย) โดยมีเป้าหมายคือ การติด 1 ใน 10 ของโลก และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฝันกลางวัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนและดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งญี่ปุ่นมีการดำเนินการ คราวๆ คือ
1. ต้องมีการประเมินทางเทคนิค ของทีมชาติทุกชุด ทุกรายการที่แข่ง และจัดทำเป็นรายงานด้วย
2. สร้างศูนย์พัฒนาเยาวชนแห่งชาติ
3. เพื่อป้องกันไม่ให้สไตร์การเล่นบอลล้าหลัง ญี่ปุ่นจึงจัดตั้ง Technical Study Group (TSG) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์รูปแบบการเล่นของทีมชั้นนำของโลก และจัดทำรายงานกลับมาเสนอแก่ JFA's Technical Committee (เริ่มปฎิบัติงานมาแต่ปี 1966 นี่ก็ 50 กว่าปีแล้ว)

และการนำแผนไปปฏิบัติ มี 3 ระยะ คือ ระยะสั้น กลาง ยาว


โดยแผนระยะสั้นก็ เน้นไปที่ทีมชาติและการพัฒนาทีมเยาวชน
แผนระยะกลาง ก็เน้นที่การพัฒนาทีมเยาวชนและโค้ช
แผนะระยะไกล ก็เน้นที่การพัฒนาทีมเยาวชนและโค้ช และลงไปถึงระดับรากหญ้า (ที่เท่ารู้คือ ญี่ปุ่นมีโค้ชอาสาสมัคร ไปสอนฟุตบอลตามชุมชน โรงเรียนต่างๆ ให้เด็กมีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาก่อนส่งต่อให้สโมสร ซึ่งจริงๆ แมวมองของแต่ละสโมสร ควรไปนั่งดูเกมของเด็กๆ พวกนี้เตะ ไม่ใช่การเรียกเด็กมาคัดตัว เพราะระยะเวลาที่ได้เห็นเด็กเล่นน้อยกว่า อาจจะมองไม่เห็นอะไรในหลายๆ มุมที่เด็กบางคนมีอยู่)

เพื่อป้องกันไม่ให้โค้ชแต่ละคน สอนสไตร์ใคร สไตร์มัน ไร้มาตรฐาน ญี่ปุ่นจึงได้กำหนดมาตรฐาน สำหรับเด็กต้องแต่ U6 - U16 ปีขึ้นมาด้วย

คือสรุปง่ายๆ นโยบายและแนวทางต่างๆ ที่โค้ชเฮงเสนอ คือ แบบที่ญี่ปุ่นทำเลยครับ แต่ญี่ปุ่นเขาโฟกัสที่ระดับรากหญ้ามาก และมีการขั้นตอนการดำเนินการที่โคตรจะชัดเจน มีแผน การรายงาน มีการตรวจสอบ และที่สำคัญคือ ต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าจุดอ่อนของทีมชาติอยู่ที่ไหน เช่น ญี่ปุ่นมีศูนย์ฝึกผู้รับษาประตูโดยเฉพาะ คิดว่าโกลอาจจะเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของญี่ปุ่นก็เป็นได้

ที่นี่ย้ายไปที่ยุโรป เรามาดูของเยอรมันกันบ้าง
เยอรมัน
ของเยอรมัน ทำแผนเป็น 4 ขั้นตอนทั้งหมด คือ
1 พัฒนาพื้นฐาน  โดยมีกรอบความคิดคือ
การพัฒนาพรสวรรค์ต้องควบคู่ไปกับทีมเวิร์ค - เหมือนของญี่ปุ่น คือ การพัฒนาหลายๆ ส่วนไปด้วยกัน ทั้งทีมชาติ สโมสร โรงเรียน ชุมชน
สมรรถภาพคือสิ่งสำคัญ - คือต้องทำให้เด็กรู้สึกสนุก รักฟุตบอล แต่ก็ไม่ทิ้งพื้นฐาน ทักษะ และความสุขภาพ (รวมถึงการได้รับค่าตอบแทนด้วย)
ต้องกำหนดเป้าที่ชัดเจน มีแผน มีไกด์ไลด์
พัฒนาความแข็งแกร่งทางด้านการกีฬา และรวมถึงทางจิตใจ - เยอรมันกำหนดวัฒนธรรมที่เขาต้องการคือ มุ่งมั่นเอาชนะ กระตือรือร้น ความอเนกประสงค์ เล่นบอลฉลาด การเล่นภายใต้ความกดดัน
การพัฒนาการฝึกซ้อม และโครงสร้างการฝึกซ้อม ตามรูปด้านล่าง

จะเห็นว่าเยอรมันพัฒนาเด็กตั้งแต่อายุ 3 ขวบเลยทีเดียว


อันนี้เป็นผู้รับผิดชอบ ในแต่ละขั้น จะเห็นว่าโรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาพื้นฐานฟุตบอล

2 พัฒนาพรสวรรค์ ซึ่งเยอรมันเขาก็มีศูนย์พัฒนาพรสวรรค์ของเด็ก เมื่อปี 2014 ก็มีทั้งหมด 366 ศูนย์ โค้ชมากกว่า 1000 คน และดูแลเด็กมากกว่า 600000 คน
ซึ่งในการพัฒนาขั้นนี่ก็จะเพิ่มความเข้มข้นกว่าชั้นพื้นฐาน เริ่มมีรายละเอียดการฝึกเยอะขึ้น มีเป้าหมายชัดขึ้น เด็กๆ จะมีแผนพัฒนาของตัวเอง
โดยศูนย์ฝึกนี่ก็ต้องได้มาตรฐานด้วยนะ เยอรมันเลยกำหนดมาตรฐานคราวๆ ดังนี้
- ต้องมีที่เป็นหลักแหล่ง จะโรงเรียน ข้างทาง สนามหญ้าเทียมก็ว่าไป
- มีระบบการรักษาพยาบาลรองรับในพื้นที่นั้นๆ (แพทย์ทางด้านกีฬาด้วย)
- มีโค้ชรับผิดชอบแบบ full time
- มีระบบการฝึกซ้อม
- มีการประยุคต์การฝึกซ้อมทางจิตใจและทางวิทยาศาสตร์กีฬา

3 พัฒนาผู้เล่นชั้นยอด - คำว่าผู้เล่นชั้นยอด พูดง่ายๆ ก็คือเด็กๆ ที่ติดทีมชาติชุด U ต่างๆ นั้นเอง ซึ่งเด็กพวกนี้ก็จะได้รับการดูแลที่มากเป็นพิเศษ มีโปรแกรมฝึกซ้อมของตนเอง ต้องเล่นตามปรัญชาฟุตบอลของทีมชุดใหญ่ มีการพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกาย

4 ระดับขั้นสุดยอดฟุตบอล - กลุ่มพวกนี้ก็คือพวกทีมชาติชุดใหญ่

ดังนั้น ขอสรุปแบบคราวๆ ก็คือ สิ่งที่เยอรมันกับญี่ปุ่นทำ ก็คือสิ่งที่โค้ชเฮง บอกว่ากำลังจะทำ ซึ่งในเมื่อโค้ชเฮงตั้งใจจะทำ ก็อยากให้ก็อปปี้สิ่งดีๆ มาให้หมด
แต่ ปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนตอนนี้คือ การที่จะพัฒนาเยาวชนที่ระดับรากหญ้านั้น ต้องได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ ส่วนมาก สมาคมฟุตบอลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอแน่นอน
ส่วนตัวผมเอง ที่อยากเห็นภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี่คือ อยากเห็นศูนย์พัฒนาเยาวชนแห่งชาติ ทั่งประเทศ เอาแค่ภาคละ 2 แห่งก็พอ ทั้งประเทศก็สัก 14 ศูนย์ก็พอ ซึ่งถ้าดูรายละเอียดของเยอรมันและญี่ปุ่นแล้ว ศูนย์นี่นอกจากจะสร้างเยาวชนแล้ว ศูนย์นี่ยังเป็นศูนย์สร้างโค้ชอีกด้วย โดยญี่ปุ่นกำหนดเลย โค้ชจะต้องผ่านมาจากศูนย์พัฒนาแห่งชาตินี่ก่อนเลย

และโรงเรียนประถม แต่ละอำเภอ มีการสอนและปลูกฝังพื้นฐานฟุตบอลจากถูกต้อง ครูผู้สอนผ่านการอบรม มีคู่มือ และถูกตรวจสอบเป็นระยะ เมืองไทยมี 800 - 900 อำเภอ คิดหยาบๆ 1 โรงเรียนประถม สอนพื้นฐานเด็กได้สัก 50 คนต่อปี ปีๆ หนึ่งเราจะมีเด็กที่ถูกปลูกฝังพื้นฐานฟุตบอลที่ถูกต้อง 45000 คน เพื่อส่งต่อให้กับ สโมสรอาชีพ ที่จะมารับช่วงต่อ ตอนเด็กอายุประมาณ 12 ปี หรือถ้าระดับอำเภอไกลเกินไป ก็ขอระดับจังหวัดก่อน ซึ่งรวม กทม ก็คงราวๆ 100 กว่าโรงเรียน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่