[CR] ทริปสิงคโปร์ กับมุมที่แตกต่าง By ชะนีน้อย


        สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้ว วันนี้ชะนีน้อยคนเดิม จะพาไปสตรองกันค่ะ ชะนียุคใหม่ต้องทำได้ทุกอย่างจริงๆ ซินะ  ขอเกริ่นก่อนว่า ชะนีไปสิงคโปร์แล้วเคยใช้ชีวิตการเรียนภาษาอยู่ที่นี้อยู่หลายครั้ง อาจจะไม่ได้พาไปเที่ยวครบในทริปนี้นะคะ ทริปนี้ไม่ได้เน้นช็อปปิ้ง หรือเดินชิคๆเก๋ๆ ตามห้าง เพราะเราอยากให้มองมุมที่แตกต่างกว่าทุกครั้ง บอกเลยเที่ยวรอบนี้ ไม่ได้อ่าน ไม่ได้เตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ สืบเนื่องมาจากเพื่อนสนิทจะไปอยู่แล้ว นางจะไปกับพี่ เราก็เลยไม่ได้อะไร พอดีงานมีปัญหาแล้วเหนื่อยๆ เหมือนไม่มีพลังเลย อะๆตามนางไปก็แล้วกัน

        สรุป ได้ตั๋วมาในราคากรี๊ดลั่นอีกแล้วฮะงานนี้ บินเช้า กลับมืด รอบนี้เดินทางกับ ทางสายการบิน Thai Lion Air ไทยไลอ้อนแอร์ เป็นครั้งแรกที่เดินทางออกนอกประเทศ กับสายการบินนี้  ปล.ต้องบอกก่อนว่า สนามบินที่สิงคโปร์มี3 Terminal แล้วแต่ละสายการบินจะลงคนละที่นะคะ




        21-03-59 พร้อมแล้วเดินทางกันเลย เอาจริงๆบินเช้าทีไรตื่นเต้นตลอด แปลกมากว่าตม.ขาออกนอกประเทศคนเยอะมาก สงสัยจะปิดเทอมแล้วไปเที่ยวกันซินะ คนวิ่งกันเต็มเพราะจะตกเครื่องส่วนชะนีอย่างเรามาก่อนเวลาก็เก๋ๆตามสไตล์ ไม่รีบ ไปเรื่อยๆ เดินไปแวะซื้อมอคค่าร้อน1แก้วซะหน่อย ถ้าไม่ได้มอคค่าร้อนสงสัยจะไม่ไหวเพราะยังไม่ได้นอน ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้ว






        ตามสไตล์ขึ้นเครื่องคนแรกเพราะจะได้ไปงีบเอาแรงก่อน บนเครื่องเปิดเพลงพี่โรสกล่อม แอร์ก็เย็นหลับไปไม่รู้เรื่องเลย ปกติขึ้นเครื่องจะต้องเสียบหูฟังนะ แต่รอบนี้บนเครื่องมีเพลงไทยให้ฟังสบายเลยเรา ตื่นอีกทีตอนเครื่องจะลง เห็นทะเลอยู่ข้างล่าง เรือส่งสินค้าเพียบเลย ใกล้ถึงแล้ว







        เครื่องลงรีบไปก่อนเลยพี่รีบเครื่องลงที่Terminal3 เพราะปวดฉี่ ลงเครื่องต่อรถไฟไป จะเห็น arrival มีรูปกระเป๋าอยู่ เดินตามป้ายไปเลยค่ะไม่ต้องกลัวหลง รถไฟมาก็ขึ้นเสร็จก็จะมาอีกอาคารนึงลงบันไดเลื่อนไปที่ตม.กันเลย (immigration) ตอนแถวก็แอบเกร็งนิดหน่อย เพราะอย่างที่บอก ไปประเทศไหนทักจะโดนเข้าห้องเย็นตลอดเลย ตม.ถามเกร็งมากตอนแรกแถมลูกอมก็ไม่มีให้กินอีก ปาดเหงื่อกันเลย แต่ก็ถามมาได้รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำก่อนเลยเพราะอั้นมานานละ


        รับกระเป๋าเสร็จก็เดินออกไปที่UOBเพื่อไปซื้อซิมกันค่ะ เลือกซื้อของSingtel ราคาแพคเกจสำหรับ5วัน อยู่ที่15เหรียญค่ะ ถือว่าคุ้มอยู่ เน็ต4GB โทรในสิงคโปร์ 500นาที ข้อความ100 และโทรกลับไทยได้30นาที ต้องกด019 66 ตัด0และตามด้วยเบอร์ ตัวอย่าง 0196681234567


        หลังจากได้ซิมแล้ว เราก็หาป้าย Train to city กันค่ะ

        เราสามารถไปซื้อบัตรEz-link หรือ Tourist pass(ตั๋วเหมาสำหรับท่องเที่ยว) ได้ที่สถานีเลยค่ะ สถานีChangi Airport
หลายคนจะสงสัยว่าบัตรต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่า
1.Ez-link เป็นบัตรเติมเงินค่ะ มีค่ามัดจำแค่ถ้าคืนตอนกลับไทยก็ได้ค่ามัดจำคืน และบัตรนี้สามารถใช้ขึ้นรถเมล์ หรือจ่ายเวลาซื้อของตามร้าน เซเว่นหรือบางร้านได้ค่ะ สะดวกอยู่เหมือนกัน
2.ส่วนบัตรนี้จะเป็นบัตรเหมาวันเอาค่ะ มันจะคุ้มสำหรับคนไปหลายที่ค่ะ

         สำหรับบางคนที่อาจจะสับสนเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เพราะเค้ามีหลายสายและสายสีมากๆ แนะนำให้ขอแผนที่พนักงานที่ตู้ขายตั๋วได้เลยนะคะเค้าแจกฟรี หรือจะโหลดแอพในมือถือมาใช้ก็สะดวกค่ะ

          และสำหรับรถบัสหรือรถเมล์บ้านเค้าก็สะดวกมาก แอร์เย็นช่ำ สามารถโหลดแอพมาใช้ได้สะดวกมากเหมือนกันค่ะ แถมราคาถูกกว่าอีกด้วย ถ้าขึ้นรถเมล์เป็นนะสะดวกกว่ารถไฟฟ้าใต้ดินเยอะค่ะ เพราะจอดใกล้กว่าและไม่ต้องเดินไกลมากด้วย

        หลังจากมีEz-linkกันแล้ว ก็แตะผ่านเข้าไปรอรถไฟกันเลย สถานีที่สนามบินจะเป็นสถานีต้นทางค่ะ รอฝั่งไหนก็ได้รถมาฝั่งไหนก็รอขึ้นฝั่งนั้นเลย
ทริปนี้เลือกนอนที่ Fragrance Ruby Hotel จากสถานี Changi Airport นั่งไป2สถานีส่วนใหญ่จะต้องลงกันหมดแต่เราเข้าเมืองเราต้องลง เพื่อไปต่อรถขบวบต่อไปค่ะ ที่สถานีTanah Merah พอรถขบวนใหม่มาก็นั่งสีเชียวต่อไป ลงที่สถานี Alijunied กันค่ะ หลังจากนั้น ต่อรถเมล์ก่อนขึ้นรถเมล์ผ่านร้านข้าวแกงเลยซื้อในห่อหน่อยละกันเพราะเที่ยงแล้วเริ่มหิว แถมฝนก็ตกซะด้วย เลยยืนรอให้ฝนหยุดแปปนึง หลังจากนั้นก็เดินไปรอขึ้นรถ รถที่ผ่านโรงแรมมี สาย 62 ,63,80,100,158 หรือจะเดินมาก็ได้

        โรงแรมอยู่Geylang 20 ในเครือFragrance มีอยู่หลายที่ แต่Rubyนั้น ถือว่าเหมาะสมราคาแล้วห้องก็โอเคเลย พอดีชะนีนอนคนเดียวเลยสบายหน่อย แต่ในห้องไม่มีตู้เย็นให้นะคะ เก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา กินข้าวห่อที่ซื้อมาซักพัก ก็ขอนอนเอาแรงซะหน่อยละกัน




        หลังจากนอนเอาแรงได้ซัก1ชม. ฝนก็หยุดตกแล้วด้วย ก็ได้เวลาตะลุยกันแล้วซินะ


        วันนี้ขอเบาๆก่อนแล้วกันเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Ajunied  ที่เดิม นั่งมาลง City Hallเพื่อไปต่อสายสีแดงไปOrchard เลือกมาที่นี้ก่อนละกันเอาใจสาวๆซักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าเราเอาแต่ลุยอย่างเดียว พอถึงก็ออกทาง ION ก็เดินเล่นดูโน้นดูนี้ เข้า Sephora ,Prada,Louis vitton และที่นานสุดก็เห็นจะเป็น Tory bruch สุดท้ายไม่รอด อุตส่าห์รอดมาได้ตั้งหลายร้านแล้วนะ
      
         เสียตังเสร็จแล้วอากาศร้อนนิดหน่อย หาไอติมกินให้คลายร้อนกันหน่อย มีหลายแบบให้เลือก และมีไอติมหลายรสชาติ ราคา 2เหรียญ



        เดินเรื่อยๆไปทางSomerset ดีหน่อยว่าไม่ค่อยมีแดดแล้วมันเลยเดินแบบสบายๆ


       เดินเข้าห้าง 313 Somerset เจอป็อปคอน กาเรต ที่ตื่นเต้นคือ Matcha รสชาตินี้ที่ไทยไม่มีนะแก เลยไปขอเค้าชิมก็เลยซื้อซะหน่อยละกัน ก็อร่อยดี


       แล้วก็นั่งใต้ดินจาก Somerset ไปที่สถานีRaffles Place เพื่อไปชมวิว Marina Bay กัน ทางออก ออกได้หลายทางแล้วต่อจะเลือกกันเลย จะเดินชมวิวข้างบนก็ได้ หรือเดินจากทางใต้ดินก็ได้ โผล่จากใต้ดินขึ้นมา ก็จะตะลึงกับตึกสูงและแสง เพราะมันเหมือนตัวเราเล็กนิดเดียวเอง วันนี้เมฆค่อนข้างเยอะหน่อย เพราะเหมือนฝนจะตกอีกรอบ แล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ มารอบนี้ทำไมมีความรู้สึกว่าMarina Bayโรงแรมไฟไม่สวยเหมือนกัน สงสัยคนพักน้อยไฟห้องยังเปิดไม่เยอะ หรืออาจจะเป็นเพราะมาบ่อยแล้วมากกว่ามั้ง แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ตอนแรกว่าจะแวะนั่งกินStarbuckแต่คิวยาวมาก






        เลยเดินต่อไปที่ เมอร์ไลออน (Merlion) เจ้าเมอร์ไลออนกลายเป็นสัญลักษณ์ประเทศสิงค์โปร์ไปแล้ว ยังไงก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยให้ได้นะทุกคน ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง ฝั่งตรงข้ามกันก็จะเป็น โรงแรม Marina Bay Sand พอได้เวลาก็จะมีการแสดงแสงสี จากฝั่งโรงแรม ก็สวยดีนะไฟอลังดี แต่คนเยอะมากเลยถ่ายรูปไม่ค่อยได้เท่าไหร่





        คนด้านหน้าแน่นหมด เลยติดเงาคนแบบนี้



        มาดูการแสดงกันต่อเลยค่ะ แสง สี เสียง จัดเต็ม




        
        มาดูฝั่งนี้กันบ้างซิ หันหน้าเข้าหาพี่สิงโตพ่นน้ำกันหน่อย




       หลังจากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานก็ไปเดินเล่น Esplanade กันต่อ





       โรงละครที่เป็นทรงหนามทุเรียน แปลกดีเนอะ เดินเล่นไปเรื่อยแอร์เย็น เค้าแบ่งเป็นโซนๆ มีที่ขายของ โรงละคร รถไฟใต้ดินต้องขึ้นไปชั้นบน และเดินตามป้าย แล้วลงบันไดเลื่อนอีก คือเหมือนเล่นเขาวงกตอยู่ยังไงอย่างงั้น ลึกลับซับซ้อนมากกว่าจะถึง เดินไปเดินมาเห่ย มาโผล่มาโผล่City Hallได้ไงอีกเนี่ย ใต้ดินี้ก็ไม่ธรรมดามีร้านให้เสียตังอีก เข้าไปก่อนเลยร้านแรก Miniso เคยเห็นแต่ที่จีน ไม่รู้ว่าที่สิงจะมีด้วย ร้านคล้ายไดโซะบ้านเรา ข้างๆก็มีป็อปคอนขายด้วย
        ฝั่งตรงข้ามก็เป็นร้านรองเท้าแตะยอดฮิตของสาวๆ Havaianas แถมลด50%อีกตั้งหาก


        เดินไปอีกนิดก็จะเจอร้าน DOT outlet storeเป็นร้านขายของญี่ปุ่นมั้ง เห็นมีกระเป๋าเป้ที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้ขายด้วย แต่ราคาพอๆกับราคาพรีเลย แบรนด์Anello



       เดินไปซักพักก็จะเจอ Charles&Keith ก่อนลงใต้ดิน (ปล.ขอบคุณเพื่อนสนิทที่ช่วยแบกของ เพราะชะนีน้อยแบกขาตั้งกล้องอยู่)


        หลังจากนั้นก็นั่งใต้ดินกลับโรงแรมกัน รอบนี้เดินไปหาอะไรกินข้างๆสถานีรถไฟกันก่อนค่อยกับ ฟู๊ดคอสสไตล์คนสิง ถูกด้วย ข้าวแกงของโปรด 3อย่างราดข้าว 3.40เหรียญ ดูเหมือนไม่น่ากิน แต่บอกเลยของโปรด อร่อยโครต



แล้วก็ซื้อผลไม้แช่เย็นกลับโรงแรมอีกตั้งหาก หมดไปอีกวันแล้วซินะ รีบนอนเอาแรงไว้ลุยสำหรับวันพรุ่งนี้กัน
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่