[CR] My first marathon รีวิว Seoul International Marathon 2016



ทำไมถึงเป็นโซลมาราธอน ไม่ใช่โตเกียว ไม่ใช่บอสตัน
อ๊ะ เราไม่ใช่ติ่งเกาหลีด้วยนะ

(กรุงเทพมาราธอนข้ามไปนะ ไม่ต้องอธิบาย)

โซลมาราธอนไม่ใช่บิ๊กเนมมาราธอน
แต่ก็พอมีมนต์ขลังที่อยากจะให้เป็นมาราธอนแรกของเรา
จะได้เป็นที่จดจำ เพราะคนเรามีมาราธอนแรกแค่ครั้งเดียว
แต่จริงๆคือ แค่มีเหตุจำเป็นที่ต้องไปเกาหลีเกือบทุกเดือน
ก็ถ้าต้องไปอยู่แล้ว เราก็เลือกไปให้ตรงมาราธอนเลยดีไหม
คิดแค่นั้นแหละ แล้วก็บอกใครต่อใครว่า
โอเค ปีหน้าเราจะไปมาราธอนแรกที่โซลมาราธอน
แต่พอใกล้ๆวันรับสมัครก็ไม่มั่นใจขึ้นมาว่า
อุ้ย จะไหวมั้ยอะ ซ้อมทันมั้ยอะ ยังไงดีอะ แบบว่ากลัวไปหมด
เพราะข้อหนึ่งของโซลมาราธอนคือ cut off 5 ชั่วโมง
อ่านรีวิวคนอื่นก็มีทั้งดีทั้งไม่ดีเต็มไปหมด
โดยเฉพาะบ่นเรื่องภาษาเกาหลีกับอากาศหนาว
ลังเลไปลังเลมา เค้าเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนธันวา 2015
วันวิ่งคือ 20 มีนา 2016 เราก็ลองกดสมัครดูตั้งแต่ธันวา
ในเวบโซลมาราธอนนั้น มีภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาเกาหลี
มีภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี

http://seoul-marathon.com/

แต่พอสมัครดูจริงๆ บางช่องกดขึ้นมามีแต่ภาษาเกาหลีล้วน
pop up อะไรก็ขึ้นแต่ภาษาเกาหลี กดเข้าช่อง register ก็มีแต่ภาษาเกาหลีซะงั้น
เช่น ช่องที่อยู่ที่ติดต่อ ... เอิ่ม ... ถ้าไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยจะยังไง
โอเค ตรงนั้นผ่านไปได้ เค้าเขียนว่า จะจ่ายเงินด้วยการโอนเงินหรือบัตรเครดิต
ด้วยความที่อยู่เมืองไทยใช่มั้ย ก็กดจ่ายด้วยบัตรเครดิต โป๊ะ ขึ้นโปรแกรมอะไรก็ไม่รู้ให้ลง



อ่ะ ลงๆ คงเป็นโปรแกรมตัดบัตรเครดิต



โหลดมาเสร็จ เปิดดู ห้ะ ภาษาอัลไล
เอ๊ะ หรือเครื่องเรายังไม่ install ภาษาเกาหลี
ลองลงดู ก็ไม่หาย เลยไม่รู้จะทำยังไงต่อดี อ่านไม่ออกอย่างรุนแรง



เดือนธันวาเลยค้างอยู่แบบนี้ เพราะจ่ายเงินไม่ได้
ระหว่างนั้นก็ลังเล อ่านรีวิวก็แบบว่า วิ่งกันที่อุณหภูมิ 1 องศา หนาวง่า
เราจะไหวมั้ย cut off 5 ชั่วโมง 0 องศา จะไหวมั้ย ยังไงดี จะลงมั้ย
แฟนก็ถามว่าจะลงมั้ยตกลง

บ่นแบบนี้ก็เถอะ แต่เราซ้อมเข้าโปรแกรมมาราธอนมาตั้งแต่เดือนธันวาแล้ว
พอเข้ามกราโปรแกรมมันเข้มข้นขึ้น ก็ให้เสียดายว่า เออ ซ้อมมาแล้วอะ
ไม่ลงก็ซ้อมมาเสียเปล่านะ ลองหาโปรแกรมมาราธอนในเมืองไทยช่วงมีนาก็ไม่มีอีก
เอาวะ เอาไงก็เอา เลยบอกแฟนว่า เออ ลงเถอะ
ทีนี้พอตัดสินใจว่า ลงเถอะ อ้าว แล้วหนก่อนยังติดที่จ่ายเงินเลยอะ
แล้วจะจ่ายเงินยังไง

อะ ไม่เป็นไร ลองสมัครดูก่อน ก็ภาวนาว่าอย่าให้มันเต็มก่อนแล้วกัน
โชคดีที่ยังไม่เต็ม แม้จะคิดช้าขนาดนี้ก็ตาม เลยสมัครกันได้ทั้ง 2 คน แล้วจ่ายเงินยังไงดี
ในเมือลงโปรแกรมแล้วอ่านไม่ออก ก็ต้องโอนเงินละกัน
คุณแฟนอยู่เกาหลีอยู่แล้ว เลยบอกให้คุณเค้าโอนให้

สำหรับชาวต่างชาตินั้น เค้าจะขึ้นให้เราโอนเงินค่าสมัครที่ 50 ดอลลาห์
50x36 = 1,800 บาท แพงมั้ย ก็แบบแพงนะ แต่ว่าถือว่าวิ่งเมืองนอก
(เดี๋ยวนี้เมืองไทยก็เฉียดๆราคานี้ละ)
อีเมลไปด้วยความไม่ค่อยหวังว่าเค้าจะอ่านรู้เรื่องแล้วตอบ
ว่า เราจะโอนเงินยังไง มีสองคน โอนพร้อมกันได้มั้ย
ปรากฏเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาเร็วมากว่า โอนพร้อมกันได้เลย
และถ้าแฟนอยู่เกาหลีอยู่แล้วสองคนให้โอนมา 100,000 วอน
ถึงแม้จะเป็นภาษาอังกฤษงงๆ แต่ก็พอเข้าใจว่าแบบนี้
พอราคา 50,000 วอนแล้วมันเลยเหลือแค่ 50,000x30 = 1,500
ประหยัดไปอีกคนละ 300 เลยล่ะ คิดว่าน่าจะมีค่าธรรมเนียมเวลาโอนข้ามประเทศมา
หรือว่าทางผู้จัดไม่ต้องการความเสี่ยงเรื่องค่าเงินก็เป็นได้

พอคุณแฟนโอนไป 100,000 วอน เราก็อีเมลไปบอก
อ้าว คราวนี้กลับเงียบหายไปเลย ไม่ตอบ
ระหว่างกำลังแพนิคนั้น คุณแฟนก็บอกว่า
มีคนอีเมลมาหาเค้าว่าโอนทำไมมาตั้งแสนวอน
งงสิคะว่ารู้ได้ยังไงว่าใครโอนไป แล้วยังถามถูกคนอีก
คุณแฟนก็เลยตอบไปว่า เป็นของเราด้วย
เท่านั้นเอง ในใบสมัครในเวบของเราก็ขึ้น status payment ว่า completed
ส่วนรู้ได้อย่างไรนั้น คิดว่าเป็นเพราะระบบธนาคารของเกาหลีเค้า
ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้ารู้กันได้ยังไง
โอ้ จบไปอย่างสบายใจ ได้ที่วิ่งละ

ส่วนตั๋วเครื่องบินนั้นจองไว้ตั้งแต่ยังไม่สมัครเลย 555
คือ ได้ตั๋วถูกพอดีเลยจองไป ตอนนั้นก็คิดว่าไม่วิ่งก็ไม่เป็นไร ไปเฉยๆนี่แหละ
แต่ว่าพอสมัครวิ่งแล้วก็ต้องมาจองโรงแรมต่อด้วย
เพราะบ้านของแฟนนั้นไม่ได้อยู่ในโซล
พอกด booking กับ agoda หาที่พักใกล้จุดสตาร์ทก็ปรากฏว่า
80% เต็มไปแล้ว ที่เหลือเยอะๆนั้นคือพวกแพงมากกๆๆๆ
เลยรีบจองก่อนเลย เดี๋ยวจะไม่เหลือที่พักราคาดีๆ
(ซึ่งที่จองมา คนไทยคนอื่นที่ไปเที่ยวเกาหลีก็บอกว่า เราชอบนอนแพง
แต่เราว่าราคานี้เรารับได้ แหะๆ ถูกกว่านี้เคยนอนแล้ว ไม่ไหวจะเคลียร์)

จองไปนอนที่ Nagne Guesthouse ห่างจุดสตาร์ทแค่เดิน 5 นาทีถึง
ใกล้มาก รีวิวคะแนนเต็ม service mind ดีมาก ห้องแคบไปนิด
แต่ไปเกาหลีห้องแคบเป็นเรื่องปกตินะคะ
เรายังฝากของไว้ที่เค้าแล้วพอวิ่งเสร็จกลับมาขอเปลี่ยนเสื้อผ้าได้อีกด้วย



จุดสตาร์ทอยู่ใกล้กลับพระราชวังเคียงบกกุง
ที่เกาหลีนี้ไม่ได้วิ่งวนกลับมาหาจุดสตาร์ทเหมือนที่เราคุ้นเคย
แต่เค้าวิ่งจากพระราชวังเคียงบกกุง แล้วไปจบที่ Jamsil Olympic Stadium
ดูแผนที่แล้วก็พบว่า เค้าวางระบบไว้ค่อนข้างมีมาตรฐานมาก
คือ จุดน้ำทุก 5 กิโล ระหว่าง 5 กิโลนั้น ทุกๆ 2.5 กิโลมีฟองน้ำ
มีผลไม้ให้ที่กิโลที่ 20, 30 และ 35 ในรูปคือกล้วยกับอะไรไม่รู้กลมๆสีดำๆ
เราก็ไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะเป็นกล้วยกับไอเทมสีกลมๆดำๆจริงๆ
คิดว่าเหมือนเมืองไทย คือ บอกๆไปว่า เออ แจกผลไม้ แล้วก็แจกอะไรก็ได้แล้วแต่ใจผู้จัด
แต่พอลงไปวิ่ง เค้าแจกกล้วยกับไอเทมนี้จริงๆ ซึ่งก็คือ ขนมปังชอกโกแลตไส้แป้งต๊กปกกี อึ้งเลยมั้ยล่ะ
แถมบอกอะไรไว้ที่กิโลไหนก็เป๊ะแบบนั้น ไม่มีขาด มีแต่เกิน



ก่อนแข่งประมาณ 2 สัปดาห์ แพคเกจมาราธอนก็ส่งมาถึงบ้าน
(เราเลือกได้นะคะ ว่าให้ส่งไปที่บ้านหรือไปรับก่อนงาน
แต่ถ้าจะให้ส่งไปที่บ้าน เค้ามีข้อแม้ว่า คนที่บ้านนั้นต้องพูดภาษาเกาหลีได้ ทำไม? ไม่รู้ค่ะ)



ในแพคเกจนี้มีเสื้อที่ไม่มีสกรีนอะไรเลยมาให้
หนังสือคู่มือการวิ่งมาราธอนในครั้งนี้ มีภาษาอังกฤษนะคะ โชคดีจริงๆ
มีผงเกลือแร่ มีลิปมัน (เพื่อ? แต่ยังดี ปีที่แล้วเค้าแจกยาสีฟัน งงกว่าเดิม)
แล้วก็มีถุงพลาสติกติดเบอร์บิบเราไว้

เดี๋ยวมาต่อวันเดินทางและวันวิ่งในคอมเมนท์นะคะ ยาวมาก เขียนไม่พอ
ชื่อสินค้า:   Seoul International Marathon 2016
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่