อยากเปลี่ยนที่ดินจำนวนหนึ่ง ให้กลายเป็นหุ้นจะทำอย่างไรดี

สวัสดีครับ ปัจจุบันผมอายุ17ปี เป็นเจ้าของที่ดิน ที่มีมูลค่าประมาณหนึ่ง ซึ่งได้ตกทอดมาจากครอบครัวครับ ทีนี้ผมได้ศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องหุ้นมาอย่างจริงจังมาตลอด2เดือนที่ผ่านมาครับ แต่คำถามที่ผมสงสัยคือ หากเรามี Asset  ตัวนึงที่ทำเงินให้เราก็ยังได้ ถ้าหากเราคิดจะขาย แต่ในอีกหนึ่งมุมมองที่ผมกำลังจับตามองและศึกษาคือ การ Move Asset(ที่ดิน) นึงไปเป็น Asset (หุ้น) อีกตัวหนึ่ง เราจะมีแนวทางการเคลื่อนย้ายอย่างไรได้บ้าง ถ้าหากไม่ขายที่ดินส่วนนั้น เพราะ ณ ตอนนี้ การเครื่อนไหวของตลาดที่ดินในภาพรวมของประเทศ ถือว่าอยู่ในช่วงฉะลอตัว แต่เติบโตไปอย่างช้าๆ ซึ่งหากผมขายที่ดินที่มามูลค่าสูง ก็ย่อมขายออกได้ยากมากจริงๆ ซึ่งหลายๆคนคงจะเข้าใจว่า การขายที่ดินไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ต้องใช้เวลาอย่างมาก เลยกำลังหาแนวทางว่า ที่ดินที่มีอยู่จะนำเปลี่ยนเป็นหุ้นอย่างไรได้บ้างครับ

ส่วนตัวที่กำลังมองๆดูอยู่ คือหุ้นกลุ่ม อสังหาครับ เช่น เรานำที่ดินของเราไปเสนอกับเขาแล้วทำสัญญากันว่า เราขอไม่เอาเป็นเงินสดแต่ขอเป็นหุ้นนั้นจะได้หรือไม่ อันนี้แต่ละท่านมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ

ส่วนหากได้หุ้นอสังหามาแล้วหนึ่งตัว ไม่ว่าจะตัวไหนจาก บ. ไหนก็ตาม เราสามารถที่จะโยกย้ายหุ้นบางส่วนเช่น 60-80% เพื่อกระจายไปลงตัวอื่นบ้างจะได้หรือไม่ครับ (สงสัยว่า มันมีข้อผูกมัดหรือไม่ หากเป็นหุ้นส่วนกันแล้วอยู่แปปเดียว แล้วก้อหายไปเฉยๆไปอยู่กับตัวอื่น60-80%ของหุ้นที่ถือ จะได้ไหมครับ กลัวมีปัญหา^^)

ขอบคุณพี่ๆชาวพันทิปมากๆครับ จริงผมยังไม่เคยลงตลาดจริงเลย แต่อยากให้คุณแม่ผมเปิดให้หน่ะครับ ส่วนตัวผมเคยแค่ click2win แล้วก็ ไปถึงหัดอ่านกราฟ+Technical จากกราฟต่างๆ แล้วก็ค่าต่างๆที่สำคัญๆครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
อายุ 17 ปี ศึกษามา 2 เดือน สนใจหุ้น
หาทำประโยชน์อย่างอื่นกับที่ไม่เป็น
แต่จะมาเสี่ยงในตลาดหุ้น
ผมว่าคุณคิดง่ายเกินไปหรือเปล่า
++++++++
หาทำอาชีพอื่นหรือเรียนให้จบ
แล้วทำงานมีเงินเดือนแบ่งมาเล่น
เป็นนักมวยก็ต้องฝึกร่างกายหาประสบการณ์ก่อนดีกว่า
ต่อยกระสอบทรายเป็นแค่นี้ก็คิดที่จะขึ้นเวที
อายุยังน้อยใจเย็นครับ เสียดายที
แต่คุณอาจเป็นอัฉริยะทางการลงทุนก็ได้ ใครจะไปรู้
ส่วนตัวแนะนำ แค่ 2 เดือนไม่ควรเสี่ยงครับ
โลกที่แท้จริงมันโหดนะครับ เวลาจนไม่มีเงิน...
ความคิดเห็นที่ 10
หนูจ้าอายุเท่านี้ช่างเก่งและน่ารักจริงๆคิดคำนวณถึงอนาคตของคุณแม่และตัวเอง ป้าย้ายจากกทม.มาภูเก็ต ทะยอยซื้อที่ทีละห้องเมื่อ10ปีก่อน จากห้องละ350,000-1,300,000บาท ตอนนี้ขึ้นเป็นห้องละ 1,500,000-10,000,000บาท อิจฉาจังได้ที่ไม่มีต้นทุน หนูเอาให้เขาเช่าระยะยาวดีกว่านะ ประกาศตามเน็ต หรือหานายหน้า ถ้าเดือดร้อนเงินจริงๆตัดขายบางส่วนที่ดินภูเก็ต ขายง่าย
ป้าไม่แนะนำเอาที่มาแลกกับหุ้นซักเท่าไร จากประสบการณ์6ปี หาหุ้นถูกๆ ดีๆ ยากมาก หนูรู้ไหมพวกกองทุนต่างๆ เช่น กบข. ประกันสังคม กองทุนรวม AIA หรือ บมจ. บ.ต่างๆ เขาทุนเยอะ มีคนคอยหาหุ้นดีเหมือนกัน เขามีทั้งทีมงานวิเคราะห์ บางครั้งเข้าประชุมเยี่ยมกิจการ ทุนเขาต่ำมากมาย มีเครื่องไม้เครื่องมือทางการเงินมากมาย การให้ยืมหุ้นไปช็อคบางละ การซื้อfutureบางละ
ส่วนพวกอสังหา เช่นโรงแรมต้นทุนต่อห้องสูงมาก บางกองหมดประกันรายได้ชั้นต่ำแล้ว บางกองที่ดินมีปัญหาทางเข้าออก ต้องจดภาระจำยอมให้ใช้ทาง พวกผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่รู้เขาจ่ายซื้อหน่วยลงทุนเท่าเราหรือไม่
หนูค่อยๆศึกษาเรื่องลงทุนในหุ้นไปเรื่อยๆดีกว่า หรือทดลองCliktowinของตลาดหลักทรัพย์ ไม่ก็ลองซื้อพวกกองทุนดู หรือลงทุนเองลงเงินไปซัก 100,000-200,000 ก่อน ไปสัมมนาที่ต่าง อายุน้อย เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไป ป้ารู้วัยรุ่นมันใจร้อน แต่ถ้าเราพลาดในวันนี้มันจะเสียใจในวันข้างหน้านะจะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่