สวัสดีครับ
ช่วงเวลาของคนเรา มีเรื่องที่ไม่สบายใจอย่างมากหรือทุกข์และความผาสุกอันเป็นผลมาจากความพึ่งพาใจ เข้ามาในชีวิตนานับประการมากมายทั้งดีและชั่วตามแต่ละบุคคลใคจะนิยามว่าความดีและชั่วที่เข้ามาเหล่านั้นเป็นอย่างไร แน่นอนที่ว่าสิ่งเร้าภายนอกเหล่านี้จะไปกระตุกจิตใจและจิตใต้สำนึกอันบริสุทธิ์ของเราได้มากแค่ไหน
แน่นอนที่ว่าปัจจุบันผมอายุ 21 ปีเต็มได้เคยศึกษาสาขาทั้งวิชาชีพครู และ วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับแพทย์ แต่ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะเอาให้ได้ปริญญาดังความนิยมของสังคมและระบบการศึกษาแบบสากลเพราะด้วยปัจจัยหลายๆประการทั้งเรื่องเงินทองและปัญหาความสงบสุขภายในครอบครัวของกระผมและความเป็นบุคคลที่โง่รวมไปถึงไร้ซึ่งความขยัน
สิ่งเร้าเหล้านี้เคยฆ่าตัวตายแล้วจริงแต่ก็ไม่ตาย ได้ทำให้ผมต้องพึ่งพายานอนหลับและยาระงับประสาทจากโรงพยาบาลจิตเวตแห่งหนึ่งอันเรื่องชื่อรือชาในจ.เชียงใหม่ จนถือว่าได้เป็นลูกค้าระดับที่ยิ่งกว่าวีไอพี หรือ ยิ่งกว่านั้นทางโรงพยาบาลยังต้องเอารถมารับผมถึงที่เลยก็ว่าได้
จนวันหนึ่งนี้ผมได้ออกจากรพ.ที่ยินดีตอนรับผมด้วยรอยยิ้มและยารับประทานอันมหาสาร มากกว่าคนที่ไกล้จะตายจากมหาโรคทั้ง10มารวมกัน พร้อมต้องจ่ายเงินในระดับที่ชนชั้นครอบครัวผมพอจะมีปัญญาจ่าย(ผมไม่มีบัตรทองในเชียงใหม่เพราะถูกส่งมาต่อๆอีก)
ผมก็ได้พบกับวัดแห่งหนึ่งที่มีท่านเจ้าอาวาสที่คำพูดคำจาเที่ยงตรงดังตราชั้งโบราณที่ถูกทำด้วยทองคำแต่ท่าทางกิริยามารยาทการจับจีบอ่อนไหวและงามดังกุลสตรีสยาม(คนที่อ่านอย่าว่าผมนะผมอธิบายตามที่พอเห็นจริง)หรือเข้าใจง่ายคือพระวักกลิในพุทธกาล ท่านสั่งสอนตามหลักพุทธวจนที่ท่านชอบอ้างถึง จนผมรู้สึกเป็นบุคคลที่พอจะมีจุดยืนในสังคมหรือเป็นผงธุลีในแห่งนี้จักรวาล ทำให้ผมมีความสึกนึกรู้สึกถึงความเป็นสัตว์โลกอีกครั้งที่ต้องกินต้องอยู่เพื่อพรุ่งนี้
ผมก็ได้เข้าศึกษาต่ออีกครั้งในระดับอุดมศึกษาเพื่อหวังว่าได้นำเอาใบปริญญาสักใบไปอ้างเพื่อใช้เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของตนและให้เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของสังคมในอุดมคติตามที่ ท่านพระองค์นั้นได้สั่งสอนไว้ตามเจตนารมณ์แห่งกงล้อธรรมจักรเพื่อให้ได้กลับมาสั่งสอนบุคคลอื่นๆในอนาคตอันแสนไกล จึงศึกษาต่อในมหาลัยเปิดอันมีชื่อเสียงของไทย
แต่แน่นอนชีวิตเมื่อมีสิ่งที่พึ่งพาใจในสิ่งหนึ่งแต่แล้วสิ่งที่ไม่ประสงค์ก็ตามมาเช่นสายธารที่วนเวียน นั้นคือเรื่องครอบครัว จากปัญหาเหล่านี้แน่นอนเราต้องสู้กับมันคือการทำงานหาเงินพยายามไม่ใช้เงินจากครอบครัวคงเป็นอีกทางหนึ่ง ดังคำขวัญที่ว่า งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข ของอดีตนายกทหารประเทศเขตแดนไทยท่านหนึ่ง
อนิจจัง ทุกข์ขัง อนันตา ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เที่ยงแท้ มีแต่ความทุกข์ ไม่คงทนหรือไม่เป็นอมตะ งานที่เราใช้วุฒิการศึกษาอันน้อยนิดคือ ม.6 ก็คงไร้ค่าไร้ราคาหมดราศี ตามสภาวะตามเศรษฐกิจที่แย่(คนมีเงินเดือนประจำกรุณาเงียบด้วยเรื่องแบบนี้ต้องถามคนค้าขายถึงจะทราบดี)
มันก็ทำให้ผมคิดอยากจะบวชและหันมาเรื่องทางธรรมจากแรงบันดาลใจที่เคยได้ฟังธรรมแบบนั้นและอีกอย่างผม ณ พ.ศ.นี้ก็เรียนมหาวิทยาลัยเปิด(เกี่ยวกับภาษาบาลี ประวัติศาสตร์ )และผมก็อยากจะเรียนเกี่ยวกับภาษาบาลี สันสกฤต ในม.สงฆ์ หลังจากที่ได้มาลองเรียนแล้วมันสนุกและพาเบิกบานสำราณจิตกว่าที่คิด
แต่ถ้าตัดสินใจบวชเลยมันก็คงจะเป็นนวนิยายที่แสนธรรมดาและไร้รสชาติยิงกว่าแกงจืดหรือน้ำเปล่า ของชีวิตสัตว์โลกหนึ่งตัว คือความลังเลและส่งสัย ประกอบกับสังคมครอบครัวและญาติพี่น้อง
1. ที่บวชนี้คือการหนี้ปัญหาใช้ไม
2. ต้นตระกูลผมถึงจะถือพุทธแต่ยังไงก็ไม่อยากให้ลูกบวช (หลานคนเดียวมังและคนที่บ้านมองว่าไม่ได้นำความเจริญอะไรเลย)ดังนั้นตั้งแต่เด็กจนโต ผู้ใหญ่ในบ้านหลายคนตายไป บวชหน้าไฟยังไม้คยเลย
3.ค่าใช้จ่ายอันเยอะมากกับการบวช1ครั้งตามความเห็นของผู้ใหญ่(นั้นนี้ผมว่าบวชแบบง่ายๆก็มีเยอะ)
4.บวชไปหาตังหาเงิน (อันผมไม่รู้จะพูดไง ด้วยสภาพของสังคมมันเปลี่ยนมองคนบวชแบบนี้)
และมันก็จะมีคำถามแบบนี้ขึ้นมามากมายหลายประการจากประวัติการศึกษาที่ไม่ดี เคยนอนรพ. จนตอนนี้ทางคนโพลต์จะบอกว่าปวดหัวมากมายแทบจะกระอักเลือด
ฉะนั้นแล้ว การที่อยากออกบวชนั้นมันถึงเวลาที่ควรหรือไมสำหรับผม และ กับคำถามต่างๆที่ตามท้ายมาผมควรและหรือเปล่าที่บวช เพราะถ้าบวชไปตัวผมนั้นยอมที่โดนนินทาได้ แต่ผมไม่อยากจะเอาศาสนาพุทธหรือผ้าเหลืองมาบังตัวผมจนศาสนาแห่งพระพุทธเจ้าโคตมะต้องเสือมไปอีก ถ้าเป็นท่านทั้งหลายจะทำเช่นไร ปล. เจ้าของกระทู้นี้ถ้าได้บวชแล้วผมตั้งใจจะไม่สึกด้วย ผมรู้สึกว่ามานมากแล้วว่าแสงสีที่เคยพบ สิ่งเสพสุรา ผมไม่อยากกับเรื่องแบบนี้อีก
ปิดท้ายอีกว่าถ้าผมได้บวชเป็ยพระจริงๆภายในเมษายน2559 ถ้าได้บวชจริงตามประสงค์ ผมคิดจะเข้าศึกษาต่อ ใน มจร.อยุธยา หรือ มมส. และจะเรียนเกี่ยวกับสำนักบาลีแบบคนบ้านเรียกว่าบาลีศึกษา อาจจะขอผู้รู้ช่วยตอบที ว่า ระหว่างมจร.และมมส.ที่ได้โอเครกว่าอยากทราบได้เรื่องค่าเทอม และ ที่พักหรือช่วยแนะนำวัดที่สามารถพักได้ ด้วยครับ จะเป็นกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ หรือแนะนำที่เรียนที่ใดช่วบแนะนำทีครับ
กำลังคิดที่จะบวชขอคำชี้แนะ
ช่วงเวลาของคนเรา มีเรื่องที่ไม่สบายใจอย่างมากหรือทุกข์และความผาสุกอันเป็นผลมาจากความพึ่งพาใจ เข้ามาในชีวิตนานับประการมากมายทั้งดีและชั่วตามแต่ละบุคคลใคจะนิยามว่าความดีและชั่วที่เข้ามาเหล่านั้นเป็นอย่างไร แน่นอนที่ว่าสิ่งเร้าภายนอกเหล่านี้จะไปกระตุกจิตใจและจิตใต้สำนึกอันบริสุทธิ์ของเราได้มากแค่ไหน
แน่นอนที่ว่าปัจจุบันผมอายุ 21 ปีเต็มได้เคยศึกษาสาขาทั้งวิชาชีพครู และ วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับแพทย์ แต่ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะเอาให้ได้ปริญญาดังความนิยมของสังคมและระบบการศึกษาแบบสากลเพราะด้วยปัจจัยหลายๆประการทั้งเรื่องเงินทองและปัญหาความสงบสุขภายในครอบครัวของกระผมและความเป็นบุคคลที่โง่รวมไปถึงไร้ซึ่งความขยัน
สิ่งเร้าเหล้านี้เคยฆ่าตัวตายแล้วจริงแต่ก็ไม่ตาย ได้ทำให้ผมต้องพึ่งพายานอนหลับและยาระงับประสาทจากโรงพยาบาลจิตเวตแห่งหนึ่งอันเรื่องชื่อรือชาในจ.เชียงใหม่ จนถือว่าได้เป็นลูกค้าระดับที่ยิ่งกว่าวีไอพี หรือ ยิ่งกว่านั้นทางโรงพยาบาลยังต้องเอารถมารับผมถึงที่เลยก็ว่าได้
จนวันหนึ่งนี้ผมได้ออกจากรพ.ที่ยินดีตอนรับผมด้วยรอยยิ้มและยารับประทานอันมหาสาร มากกว่าคนที่ไกล้จะตายจากมหาโรคทั้ง10มารวมกัน พร้อมต้องจ่ายเงินในระดับที่ชนชั้นครอบครัวผมพอจะมีปัญญาจ่าย(ผมไม่มีบัตรทองในเชียงใหม่เพราะถูกส่งมาต่อๆอีก)
ผมก็ได้พบกับวัดแห่งหนึ่งที่มีท่านเจ้าอาวาสที่คำพูดคำจาเที่ยงตรงดังตราชั้งโบราณที่ถูกทำด้วยทองคำแต่ท่าทางกิริยามารยาทการจับจีบอ่อนไหวและงามดังกุลสตรีสยาม(คนที่อ่านอย่าว่าผมนะผมอธิบายตามที่พอเห็นจริง)หรือเข้าใจง่ายคือพระวักกลิในพุทธกาล ท่านสั่งสอนตามหลักพุทธวจนที่ท่านชอบอ้างถึง จนผมรู้สึกเป็นบุคคลที่พอจะมีจุดยืนในสังคมหรือเป็นผงธุลีในแห่งนี้จักรวาล ทำให้ผมมีความสึกนึกรู้สึกถึงความเป็นสัตว์โลกอีกครั้งที่ต้องกินต้องอยู่เพื่อพรุ่งนี้
ผมก็ได้เข้าศึกษาต่ออีกครั้งในระดับอุดมศึกษาเพื่อหวังว่าได้นำเอาใบปริญญาสักใบไปอ้างเพื่อใช้เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของตนและให้เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของสังคมในอุดมคติตามที่ ท่านพระองค์นั้นได้สั่งสอนไว้ตามเจตนารมณ์แห่งกงล้อธรรมจักรเพื่อให้ได้กลับมาสั่งสอนบุคคลอื่นๆในอนาคตอันแสนไกล จึงศึกษาต่อในมหาลัยเปิดอันมีชื่อเสียงของไทย
แต่แน่นอนชีวิตเมื่อมีสิ่งที่พึ่งพาใจในสิ่งหนึ่งแต่แล้วสิ่งที่ไม่ประสงค์ก็ตามมาเช่นสายธารที่วนเวียน นั้นคือเรื่องครอบครัว จากปัญหาเหล่านี้แน่นอนเราต้องสู้กับมันคือการทำงานหาเงินพยายามไม่ใช้เงินจากครอบครัวคงเป็นอีกทางหนึ่ง ดังคำขวัญที่ว่า งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข ของอดีตนายกทหารประเทศเขตแดนไทยท่านหนึ่ง
อนิจจัง ทุกข์ขัง อนันตา ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เที่ยงแท้ มีแต่ความทุกข์ ไม่คงทนหรือไม่เป็นอมตะ งานที่เราใช้วุฒิการศึกษาอันน้อยนิดคือ ม.6 ก็คงไร้ค่าไร้ราคาหมดราศี ตามสภาวะตามเศรษฐกิจที่แย่(คนมีเงินเดือนประจำกรุณาเงียบด้วยเรื่องแบบนี้ต้องถามคนค้าขายถึงจะทราบดี)
มันก็ทำให้ผมคิดอยากจะบวชและหันมาเรื่องทางธรรมจากแรงบันดาลใจที่เคยได้ฟังธรรมแบบนั้นและอีกอย่างผม ณ พ.ศ.นี้ก็เรียนมหาวิทยาลัยเปิด(เกี่ยวกับภาษาบาลี ประวัติศาสตร์ )และผมก็อยากจะเรียนเกี่ยวกับภาษาบาลี สันสกฤต ในม.สงฆ์ หลังจากที่ได้มาลองเรียนแล้วมันสนุกและพาเบิกบานสำราณจิตกว่าที่คิด
แต่ถ้าตัดสินใจบวชเลยมันก็คงจะเป็นนวนิยายที่แสนธรรมดาและไร้รสชาติยิงกว่าแกงจืดหรือน้ำเปล่า ของชีวิตสัตว์โลกหนึ่งตัว คือความลังเลและส่งสัย ประกอบกับสังคมครอบครัวและญาติพี่น้อง
1. ที่บวชนี้คือการหนี้ปัญหาใช้ไม
2. ต้นตระกูลผมถึงจะถือพุทธแต่ยังไงก็ไม่อยากให้ลูกบวช (หลานคนเดียวมังและคนที่บ้านมองว่าไม่ได้นำความเจริญอะไรเลย)ดังนั้นตั้งแต่เด็กจนโต ผู้ใหญ่ในบ้านหลายคนตายไป บวชหน้าไฟยังไม้คยเลย
3.ค่าใช้จ่ายอันเยอะมากกับการบวช1ครั้งตามความเห็นของผู้ใหญ่(นั้นนี้ผมว่าบวชแบบง่ายๆก็มีเยอะ)
4.บวชไปหาตังหาเงิน (อันผมไม่รู้จะพูดไง ด้วยสภาพของสังคมมันเปลี่ยนมองคนบวชแบบนี้)
และมันก็จะมีคำถามแบบนี้ขึ้นมามากมายหลายประการจากประวัติการศึกษาที่ไม่ดี เคยนอนรพ. จนตอนนี้ทางคนโพลต์จะบอกว่าปวดหัวมากมายแทบจะกระอักเลือด
ฉะนั้นแล้ว การที่อยากออกบวชนั้นมันถึงเวลาที่ควรหรือไมสำหรับผม และ กับคำถามต่างๆที่ตามท้ายมาผมควรและหรือเปล่าที่บวช เพราะถ้าบวชไปตัวผมนั้นยอมที่โดนนินทาได้ แต่ผมไม่อยากจะเอาศาสนาพุทธหรือผ้าเหลืองมาบังตัวผมจนศาสนาแห่งพระพุทธเจ้าโคตมะต้องเสือมไปอีก ถ้าเป็นท่านทั้งหลายจะทำเช่นไร ปล. เจ้าของกระทู้นี้ถ้าได้บวชแล้วผมตั้งใจจะไม่สึกด้วย ผมรู้สึกว่ามานมากแล้วว่าแสงสีที่เคยพบ สิ่งเสพสุรา ผมไม่อยากกับเรื่องแบบนี้อีก
ปิดท้ายอีกว่าถ้าผมได้บวชเป็ยพระจริงๆภายในเมษายน2559 ถ้าได้บวชจริงตามประสงค์ ผมคิดจะเข้าศึกษาต่อ ใน มจร.อยุธยา หรือ มมส. และจะเรียนเกี่ยวกับสำนักบาลีแบบคนบ้านเรียกว่าบาลีศึกษา อาจจะขอผู้รู้ช่วยตอบที ว่า ระหว่างมจร.และมมส.ที่ได้โอเครกว่าอยากทราบได้เรื่องค่าเทอม และ ที่พักหรือช่วยแนะนำวัดที่สามารถพักได้ ด้วยครับ จะเป็นกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ หรือแนะนำที่เรียนที่ใดช่วบแนะนำทีครับ