ผู้​ไม่มี​ ย่อม​ไม่​ สูญเสีย​ ธรรม​ะโคบาล​สูตรของพระพุทธเจ้า​🙏

ผู้ไม่มี ย่อมไม่สูญเสีย ไม่เหตุให้อาลัย
#อุปกิเลส๑๖ ╰(´︶`)╯
พูดถึง ๑๖ เหตุปัจจัยให้จิตใจเศร้าหมอง
....................~(≧▽≦)/~........................
❝ ณ ครั้งพุทธกาล...
พระพุทธเจ้า เสด็จประทับอยู่ ณ กลางป่า
ช่วงปลายฝน ต้นหนาว
มีนายโคบาลคนหนึ่ง ( อาชีพคนเลี้ยงโค )
ได้พบเข้ากับพระพุทธเจ้าซึ่งไม่ทราบว่า...
เป็น พระพุทธองค์
🐄 นายโคบาล จึงเข้าไปถามพุทธะว่า
" ขอโทษขอรับ ท่านเป็นใคร "
พุทธะทรงตอบว่า " เรา ตถาคต "
🐄 นายโคบาลถามว่า
" พระองค์ มานั่งอยู่กลางป่าได้อย่างไร ?
พระองค์ มีความสุขไหม? "
พุทธะทรงตอบว่า
" เธอทราบไหม ในบรรดามนุษย์ทั้งหมด
ที่มีความสุขที่สุดในโลก มีเราหนึ่งในนั้น "
นายโคบาลได้ยินพระดำรัส จนอิ่มเอมใจ
ถึงกับตัวชา และมีความปิติ ด้วยพุมธคุณ
พุทธะตรัสถามว่า " เธอกำลังทำอะไร "
🐄 นายโคบาลว่า
" กระหม่อมกำลังตามหาวัว ขอรับ "
พุทธะตรัสถามว่า " วัวมีกี่ตัว "
🐄 นายโคบาลว่า " วัว ๑๖ ตัว ขอรับ "
พุทธะตรัสว่า " แล้วตอนนี้ วัว อยู่ไหน "
🐄 นายโคบาลว่า
" วัวหายทั้งหมดเลยขอรับ "
พุทธะตรัสว่า " เธอคิดว่า ฉันมีวัวไหม "
🐄 นายโคบาลว่า " ไม่มี ขอรับ "
พุทธะตรัสว่า " แล้วคน ไม่มีวัวอย่างฉัน
จะมีโอกาสเป็นทุกข์ เพราะไม่มีวัวไหม "
🐄 นายโคบาลว่า " ไม่มี ขอรับ "
พุทธะตรัสว่า " เห็นไหมว่า คนมีวัว
เป็นทุกข์เพราะวัว คนไม่มีวัว ไม่เป็นทุกข์ "
" เมืองนี้ ใครมีอำนาจ มีเงินทองมากที่สุด "
🐄 นายโคบาลว่า
" พระเจ้าพิมพิสาร ขอรับ "
พุทธะตรัสว่า
" พระเจ้าพิมพิสาร มีอำนาจ เงินทองที่สุด
ในเมืองนี้ มานั่งเล่นๆ อยู่กลางป่าอย่างฉัน
จะได้ไหม "
🐄 นายโคบาลว่า
" มานั่งเล่นไม่หรอกได้ ขอรับ "
พุทธะตรัสว่า
" ใช่แแล้ว ก็อำนาจ เงินทองมากขนาดนั้น
ทำไมมานั่งเล่นอย่างฉันไม่ได้ "
🐄 นายโคบาลว่า
" ถ้าพระเจ้าพิมพิสาร เสร็จออกมานั่งเล่น
ชายป่าอย่างพระองค์ ก็บ้านเมืองอาจจะ
เสียหายได้ขอรับ "
พุทธตรัสว่า
" เห็นไหมระหว่างเรากับพระเจ้าพิมพิสาร
ใคร มีความสุขกว่ากัน "
🐄 นายโคบาลว่า
" พระองค์ ขอรับ " ❞
....................~(≧▽≦)/~........................
พระพุทธศาสนา สอนว่า
❝ วิถีแห่งความสุข ไม่ได้อยู่ที่ความมีมาก
หรือ ความยากจน
วิถีแห่งความสุขขึ้นอยู่ที่เรายินดีในสิ่งที่มี
หรือ รู้จักพอใจ กับสิ่งที่ได้เท่านี้ ที่เป็นอยู่
ก็มีวิถีแห่งความสุขแล้ว " ❞ (๑ơ ₃ ơ)♥
....................~(≧▽≦)/~........................
อุปมา ❝ โค ๑๖ ตัว ที่ทุกคนเลี้ยงไว้อยู่
มีตั้งแต่พระราชา เศรษฐี ประชาชนทั่วไป
พ่อค้า ชาวนา ยาจก ฯลฯ
♤ พระพุทธเจ้า ไม่มี
♤ พระปัจเจกพุทธเจ้า ไม่มี
♤ พระอรหันต์ ไม่มี
○ พระอนาคามี มีน้อย
○ พระสกิทาคามี มีน้อย
○ พระโสดาบัน มีน้อย
● ปุถุชนทั่วไป มีมาก และมีหนาแน่น
เรียกว่า " อุปกิเลส ๑๖ " ❞
อุปกิเลส ๑๖
แปลว่า ❝ ธรรมชาติที่ทำให้ใจเศร้าหมอง
มีลักษณะ เป็นเหตุปัจจัยให้ใจเศร้าหมอง
@};—สิ่งที่ทำให้ใจขุ่นมัว ไม่แจ่มใส
@};—สิ่งที่ทำให้ใจหม่นไหม้ เป็นทุกข์
@};—สิ่งที่ทำให้ใจเสื่อมทราม ติดข้อง
@};—สิ่งที่ทำให้ใจสกปรก ใจไม่บริสุทธิ์
อุปกิเลส แสดงไว้ ๑๖ ประการเป็นไฉน?
อภิชฌาวิสมโลภะ
๑. ความโลภมากเกินขอบเขต
เพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่น โดยที่ผิดศีล
โดยไม่ชอบธรรม, โดยที่ผิดธรรมวินัย
❝ ทำให้คนอื่นมอบเงิน มอบทรัพย์นั้นๆ
ให้แก่ตน โดยผิดศีล, ผิดธรรมต่างๆ ❞
๒. ความพยาบาท
ความคิดมุ่งร้ายที่หมายจะทำลายผู้อื่น
ให้เสียหาย หรือความพินาศ
๓. ความโกรธ
ความพลุ่งพล่านเดือดดาลอันไม่พอใจ
๔. ความผูกโกรธ
ความเก็บกด กดดันความโกรธไว้ในใจ
ความผูกเจ็บใจไม่ลืม
๕. ความลบหลู่บุญคุณ
คนอกตัญญู ความเนรคุณผู้ที่อุปการะ
ความอกตัญญูพระศาสดา (พระวินัย)
ความทรยศประเทศชาติ เป็นต้น
๖. ความตีเสมอ
ความเอาตนเอง เทียบเสมอกับคนอื่นๆ
เอาตัวบุคคลหนึ่ง เทียบเสมออีกบุคคล
ที่ร้ายแรง คือ ❝ อลัชชีตีเสมอ สงฆ์ ❞
อลัชชีตีเสมอ พระอรหันต์ ร้ายแรงกว่า
๗. ความอิจฉาริษยา
ความกระวนกระวายที่เห็นคนได้ดีกว่า
เช่น "กระวนกระวายใจต่ออริยธรรม"
๘. ความตระหนี่หวงแหน
ความไม่ยอมเสียสละ มีแล้วไม่แบ่งปัน
ความเสียดาย ตัวกูของกูไม่อยากสละ
๙. ความปกปิดความจริง
อำพรางความผิด, อำพรางความอกุศล
เจ้าเล่ห์แกมโกง ทำให้ผิดกลายเป็นถูก
ทำให้ถูกกลายเป็นผิด ทำให้ดูเสมอกัน
ทำให้เข้าใจผิดว่า "ไม่มีถูก-ไม่มีผิด"
หรือว่า ❝ ความกลบเกลื่อนความผิด ❞
๑๐. ความโอ้อวด
ความคุยโม้ยกตนโอ้อวดโกหกเกินจริง
ยกตัวอย่าง คำพูดหาว่า
❝ พระอรหันต์ยังพูดเท็จบ้าง โกรธบ้าง
ยังผิดศีลยุ้งเกี่ยวกับเงินทองบ้าง ❞
พูดให้เข้าใจผิดว่า
❝ ตนเองเป็นพระอรหันต์บ้าง,
หรือ พระอรหันต์เหมือนตนเองบ้าง
หรือ พระอรหันต์ยังผิดศีลบ้าง ❞
๑๑. ความดื้อรั้น
ความดันทุรัง จิตแข็งกระด้าง ไม่รับฟัง
ที่คนเหนือว่า ❝ คิงถูก! ฮา ก็ต้องถูก ❞
แปลว่า ❝ หากผู้ใดถูก เรา ก็ต้องถูก ❞
เป็นอาการไม่สนใจเหคุผล
๑๒. ความแข่งดี, แก่งแย่งชิงดี
หลงดีสุดโต่ง ปราศจากความยุติธรรม
บางพวกจะเอาอัตตา ให้ผูว๋แอื่นยืดตาม
ยกตัวอย่าง ❝ ตนชอบสิ่งนี้ ก็หาว่า สิ่งดี
บางที สิ่งทั้งปวงที่ว่า  สิ่งนั้นไม่ดี, ไม่ถูก
หน้ามืดตามัว หลงหาว่า ดี ❞
๑๓. ความมานะ, ความถือตัว
ความสำคัญตนว่า ตนเองเหนือกว่าเขา
ตนเสมอกับเขา หรือตนเองต่ำกว่าเขา
๑๔. อติมานะ, ความดูหมิ่นดูแคลน
ความเหยียดหยาม, ความดูถหมิ่นผู้อื่น
ที่ร้ายแรง คือ ความดูหมิ่นธรรมพุทธะ
เช่น ทำสิ่งที่พุทธะห้ามทำ (ก็ปรามาส)
๑๕. ความมัวเมา
ความหลงเพลิดเพลินในสิ่งที่มิใช่สาระ
เช่น ความเมาในทรัพย์, เมาในเงินทอง
ความมัวเมาในตัวตนของตนเป็นนั้นนี้
๑๖. ความประมาทเลินเล่อ
ความหลงขาดสติ ความไม่ยับยั้งชั่งใจ
อุปกิเลส ๑๖ ประการ ดังกล่าวมานี้แล ❞
....................~(≧▽≦)/~........................
📗 โคบาลสูตร
❝ ผู้ใดเป็นอยู่อย่างไม่มี ย่อมไม่สูญเสีย
ผู้ใดไม่สูญเสีย ย่อมไม่มีความอาลัย
ผู้ใดไม่มีความอาลัย ย่อมไม่เศร้าหมอง
ผู้ใดไม่เศร้าหมอง ย่อมเป็นสุขที่แท้จริง ❞
~♥~ #หัวใจพระโพธิสัตว์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่