[CR] เที่ยวภูกระดึงหน้าร้อนนนนนกับแฟน เที่ยวยังไงไม่ให้เลิกกัน (คนโสดก็อ่านได้)

สวัสดีค่ะ  เราเขียนกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลยค่ะ  ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้และน้อมรับคำแนะนำเสมอค่ะ
เราพึ่งเริ่มถ่ายรูปนะคะ  ไม่สวยบ้าง องค์ประกอบไม่ดีบ้าง คอมเม้นได้นะคะ  ถ่ายด้วย Olympus E-PL7 กับ iPhone6
เราไม่เนอะ ตอนแรกไม่ได้คิดจะมาเขียนหรอกค่ะ  พอแฟนทักตอนเราคิดค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปอย่างละเอียดมากกกก ว่า  “ละเอียดขนาดนี้จะเอาไปลงพันทิปหรอ”   เท่านั้นแหละค่ะ ความคิดมาเลยยย
เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปบางตรง เช่น ลานกางเต้นท์ ตัวเต้นท์  กระทู้อื่นๆน่าจะลงไว้กันหมดแล้ว

การไปเที่ยวครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกันซักพักแล้วค่ะว่า “จะไปเที่ยวไหนดี” ด้วยความที่ว่าเราอยากไปพวกภูเขา  ก็มีอะไรดลใจก็ไม่ทราบค่ะแล้วบอกกับแฟนว่า “ตัวเอง ไปภูกระดึงกันมะ?”  แฟนก็ตามใจเรา  แต่จะคอยแซวคอยล้อเรื่องการไปภูกระดึงตลอดๆ  บางทีก็เหมือนว่าเขาตกลงจะไปอย่างไม่เต็มใจ  จนเราเกือบจะถอดใจไม่ไปแล้วด้วยซ้ำ  ก็รู้อยู่นะคะว่าการขึ้นภูที่นี่โหดมาก แต่ไม่คิดว่าโหดขนาดเดินขึ้น 5.5กิโล เดินรวมเกือบ 9 กิโลกว่าจะถึงจุดกางเต้นท์ (เรากะแฟนเคยไปดอยผ้าห่มปกที่เชียงใหม่กับกลุ่มเพื่อนๆมาแล้ว ก็ว่าอันนั้นโหดเหมือนกันแต่เรารับได้)

เคยได้ยินมานะคะว่า ใครเป็นแฟนกันแล้วไปภูกระดึง ถ้าไม่รักกันจริงจะเลิกกัน  เราสนที่ไหนล่ะ  แต่เดี๋ยวนี้ก็มีคนแชร์เยอะนะว่าภูกระดึงเป็นสถานที่นึงที่คนเป็นแฟนกันควรไป
>>> เราว่าการไปเที่ยว มันทำให้เราอยู่นอกจากสถานการณ์ปกติ  ทำให้รู้จักกันในหลายๆด้านมากขึ้น  ไม่ใช่แค่แฟนนะ  เรื่องเพื่อนก็เหมือนกันค่ะ (เห็นมั้ย คนโสดก็อ่านได้) มันขึ้นกับว่าเรารับพฤติกรรมที่แสดงออกมาของเขาได้หรือเปล่า แล้วเรากับเขาจะปรับตัวเข้าหากันได้มั้ย



--- กลับมาสู่เรื่องของการเดินทางนะคะ ---

เราไม่ได้มีการจองอะไรไว้ล่วงหน้าเลย (ปกติไปไหนจะจองก่อนตลอด) เพราะช่วงเดือนมีนาคมไม่น่ามีนักท่องเที่ยวเยอะ  แต่ก็ดูพวกเวลารถออก สิ่งของที่ต้องเตรียมไป


++ สิ่งที่ควรเตรียมไป ++
- ไฟฉาย  ซื้อแบบที่เปิดใช้ในเต้นท์ได้สะดวก
- ยากันยุง (เราแพ้ยุงเลยจำเป็นต้องพก)
- ทิชชู่
- ทิชชู่เปียก  ถ้าเป็นไปได้หาแบบที่ทิ้งลงส้วมได้เลย เพราะที่โน่นห้องน้ำไม่มีถังขยะในห้อง
power bank  ที่โน่นไม่มีที่เสียบไฟนะ ชาจ์ทแบตไม่ได้ ต้องเสียเงินเป็นครั้งไป ชาจ์ทมือถือครั้งละ 20 บาท ชาจ์ทpowerbankครั้งละ 40 บาท ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนภู
- ครีมกันแดด  ห้ามลืมนะ
- เสื้อกันหนาว  ไม่ต้องหนามากก็ได้ เพราะอากาศเย็นๆเหมือนเปิดแอร์ตั้งแต่ตอนเย็นถึงเช้า
- หมวก
- ร่ม  เอาไว้กางบนภูตอนเดินจาก หลังแป ไปยัง ที่กางเต้นท์ ก็ 3 กิโลนะ แดดเปรี้ยงเลย  อันนี้แล้วแต่นะ
- พลาสเตอร์ยาแบบผ้าที่ติดเหนียวๆ  เผื่อเป็นแผล หรือเดินจนเจ็บนิ้วเท้า เจ้านี่อาจช่วยบรรเทาได้
- รองเท้า  เรากับแฟนใส่นันยางค่ะ เห็นลูกหาบใส่กันหลายคน เลยมั่นใจว่าเราเลือกมาถูกคู่แล้ว ข้อดีคือพื้นรองเท้าเหนียว ไม่ลื่นง่าย ข้อเสียคือพื้นมันบางแบน ไม่มีsupportเท้า เดินนานๆก็เจ็บปวดได้ค่ะ
- ถุงเท้า  เอามาหลายๆคู่หน่อยนะคะ เพราะใส่อยู่นี่แล้วจะเลอะ+เหม็นมาก
- แว่นตากันแดด  มีก็ดีค่ะ
- ที่ปิดตาตอนอน  อันนี้แล้วแต่คนนะคะ เราเป็นคนที่นอนไม่หลับถ้าไม่ห้องไม่มืดสนิท พอขึ้นรถทัวร์ยังไงก็มีไฟแยงตาเราค่ะ หลับไม่ค่อยสนิท ใช้ที่ปิดตาช่วยได้มากค่ะ เราต้องนอนเยอะที่สุดและหลับสนิทที่สุดเพื่อพร้อมสำหรับการเดินในวันรุ่งขึ้น
- ของใช้ส่วนตัว  แนะนำว่าไม่ต้องนำไปเยอะมาก เดี๋ยวเสียเงินค่าลูกหาบเยอะนะ
- ยาประจำตัว เราเอายาคลายกล้ามเนื้อไปด้วย ช่วยได้มากเลย
- เงินสด  เตรียมให้พร้อมนะคะ กดเงินที่ตีนภูได้ ข้างบนไม่เห็นมีนะ
**ของกินไม่ต้องเตรียมไปเยอะ ไปซื้อบนโน่นเอา ไม่แพงอย่างที่คิด
**เรื่องค่าใช้จ่ายจะแจกแจงให้ทราบกันค่ะ   บอกใบ้ให้ว่า ขนาดกินเยอะมากกก ยังใช้คนละไม่ถึง 3,000 เลย


+++การเดินทาง+++

เราเดินทางจากกทม.  หมอชิต2  คืนวันที่ 7 มีนาคม  ไปลงที่ผานกเค้าในเช้าวันที่ 8 ไปกับภูกระดึงทัวร์ ปอ.1 ที่ขายตั๋วอยู่ชั้น3(ชั้นที่ไปภาคอีสาน)  ออกเวลา 21.30  (เราไม่ถึงหมอชิต20.00  ป.1ของบขส.เต็มแล้ว)  ราคาแพงว่าบขส.เล็กน้อย  มีจอดแวะทานข้าวตอนเที่ยงคืน  ใช้คูปองที่ตั๋วแลกได้เลย   ที่นั่งกำลังดีค่ะ  เราได้นั่งบนรถใกล้ห้องน้ำชั้นล่าง  ยังดีที่มีประตูกั้น  มีที่วางขา(room leg)กว้างดีค่ะ  แฟนเราสูงเกือบ180ซม. ขาไม่ติดเบาะข้างหน้าค่ะ ส่วนเราขาสั้น สบายทุกสถานการณ์ค่ะ




ถึงที่ผานกเค้า รถจอดตรงข้ามร้านเจ๊กิม  เกือบๆ5.30  เราต้องขึ้นรถสองแถวไปที่ตีนภูที่ตรงนี้  แต่กว่าอุทยานจะเปิดให้เราเดินขึ้นก็ 7.00  เลยนั่งรอเวลา  เข้าห้องน้ำ  ทานข้าวเช้าเป็นข้าวราดแกงได้ที่นี่ค่ะ  มีที่ขายตั๋วรถที่นี่ด้วย  สามารถซื้อตั๋วขากลับตรงนี้ได้เลย  สบายล่ะ  หมดห่วง




มีคนจะไปที่ภูรวมเราด้วยก็ 9 คนค่ะ เลยเหมารถสองแถวไปเลยในราคา 300 บาท แล้วหารเงินกัน  ถ้ารอให้คนครบ10คน เสียคนละ25บาท  นั่งไปก็ประมาณ 15 นาที


เขามีป้ายก็ดูกันบ้าง  ขึ้นภูได้ 7โมงเช้า ถึง บ่าย2 นะ  รีบๆขึ้นแต่เช้านี่ดีแล้ว  ยังไม่ค่อยร้อน


พอถึงซื้อตั๋วค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท
ถ้านอนเต้นท์  ต้องจองแล้วจ่ายค่าเต้นท์ที่นี่เลย  คืนละ 225 บาท
เดินไปที่ทำการเบอร์4  เพื่อจ้างลูกหาบ  เราต้องจ่ายค่าตั๋วใบละ 5 บาทให้อุทยานต่อกระเป๋า 1 ใบ  ค่าลูกหาบคิดตามน้ำหนักของสัมภาระ คิดกิโลละ 30 บาท ดูเหมือนจะเยอะ  แต่เราว่าก็คุ้ม  ของเราสองคนรวมกัน 11 กิโลค่ะ 5+5+(30x11) = 340 บาท

ก่อนเดินขึ้นทางอุทยานมีให้เซ็นชื่อก่อนขึ้น  พอขาลงก็ต้องมาเซ็นออกนะคะ  เพื่อเช็คว่าไม่มีคนหาย  ก่อนขึ้นยังยิ้มระรื่นอยู่ค่ะ


ที่พักระหว่างทางขึ้นค่ะ


และแล้วช่วงเวลาของการออกกำลังขาก็ได้เริ่มขึ้น
สีหน้าเปลี่ยนแล้วค่ะ

**สาวๆคนไหนที่เป็นฝ่ายชวนหนุ่มๆไป(โดยเฉพาะฝ่ายชายไม่เต็มใจไป) อย่าได้บ่นโอดครวนจนเกินงามนะคะ  ไม่งั้นเขาจะคิดว่าเรางี่เง่าค่ะ  เราต้องสตรองค่ะ!!!  ยึดมั่นความตั้งใจของเราไว้  ไม่งั้นคุณชายอาจจะชวนหันหลังกลับก็เป็นได้
แม้ว่าสาวๆจะเป็นฝ่ายถูกชวน ก็ควรบ่นน้อยๆได้ค่ะ ให้เขาเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับเขา มากับเขาเพราะรักเขางี้ เลิศศศ นางงามได้อีก
ที่สำคัญคือต้องใส่ใจกันและกันค่ะ  แล้วจะรู้สึกว่ารักกันมากขึ้น  เขินนนน


เราเริ่มเดินขึ้นตอน 7.40 ยังเช้าอยู่ อากาศก็เย็นบ้าง เดินไปซักพักก็หายเย็นละ ต้นไม้แถวข้างล่างจะผลัดใบ  แห้งแล้ง  เกิดไฟป่าได้ง่าย  เดินไปก็ได้กลิ่นควันเรื่อยๆ  ในช่วงนี้อดทนหน่อยนะคะโดยเฉพาะสาวๆ  มันทั้งเหนื่อย  ทั้งร้อน  ทั้งกระหายน้ำ  อดทนช่วงนี้ไป”เพียง” 1 กิโล ก็ถึงที่พักที่เรียกว่า ซำแฮก


ร้านแต่ละซำจะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ



ผ่านซำแฮกไปก็สบายหน่อยละค่ะ  คหสต. ก่อนซำแฮกทางจะชันและยาวไกล  บวกกับอากาศที่ร้อนแห้งๆ  ยิ่งขึ้นสูงขึ้น ต้นไม้จะเริ่มเขียวมากขึ้น มีความเย็นสบายและชื้นมากขึ้น  แค่ระวังไม่ต้องหยีบใบไม้ที่ร่วงๆนะคะ   เพราะมันจะลื่น

**ระวังเดินขึ้นนี้ ก็หมั่นเติมความรักให้กันนะคะ หลอกล้อกันสนุกๆบ้าง (ของเรานี่สนุกเกินค่ะ แฟนจะจับโดนลงจากภูหลายรอบเลย 55555)  แล้วไม่ต้องคอยถามว่าเหนื่อยมั้ย เพราะมันเหนื่อยมากอยู่แล้วค่ะ 55555 อย่าบั่นทอนกันด้วยคำนี้เลย

เจอน้องหมาตัวผอม คุณแฟนที่น่ารักก็แบ่งหมูทอดของเราให้มันกินค่ะ  ดีนะตอนนั้นเราไม่หิว  ไม่งั้นแย่งหมากินแน่เลย 555


เราแวะทุกซำที่มีเลยค่ะ ช่วงนี้ Low season ซำที่มีแม่ค้าขายของวันนี้มีแค่ซำแฮกกับซำกอซาง  เลยต้องซื้อน้ำขวดใหญ่กับข้าวที่ซำกอซางถือขึ้นไปด้วย
ราคาของแต่ละร้านเท่ากันหมดค่ะ  ซื้อน้ำก็ขอน้ำแข็งได้ฟรี  พวกน้ำอัดลม สปอนเซอร์ขวดละ 25 บาท

เราใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 5 ชั่วโมงในการเดินขึ้น  พอถึงตรงหลังแป แวะถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตภูกระดึงซักนิด  แล้วค่อยเดินไปที่ศูนย์บริการที่มีจุดกางเต้นท์อีก 3 กิโล ร้อน ไม่ค่อยมีเงาจากร่มไม้ เดินยากเพราะพื้นเป็นทรายเนื้อละเอียด นึกว่าไปทะเลเลยค่ะ  พอเดินถึงศูนย์บริการนี่ดีใจมากค่ะ รอดตายแล้ว

แผนที่ข้างบนภู ทางเดินและระยะทาง


ที่ศูนย์บริการ  มีคำแนะนำในการเที่ยวค่ะ  ตามนี้เลย  แต่ช่วงนี้น้ำแล้ง  ถ้าเวลาน้อยน้ำตกไม่ต้องไปก็ได้ค่ะ  ไม่มีน้ำ


ผู้ที่ติดต่อเช่าเต้นท์  นำใบเสร็จไปยื่น  จนท.บอกว่าให้เลือกเต้นท์ที่กางไว้แล้วได้เลย  บริเวณข้างหลังอาคารจะร่มดี  เรายังต้องเช่าที่รองนอน ถุงนอน หมอน ที่ประชาสัมพันธ์ ราคาไม่แพงค่ะ  ตรงนี้แหละค่ะที่มีที่ให้เสียบชาจ์ทแบต แล้วค่อยไปรับเครื่องนอนที่สุดจ่ายเต้นท์เมื่อกี้  ช่วงนี้คนน้อยจริงๆค่ะ  เลือกเต้นท์ตามใจชอบจริงๆ  เต้นท์นอน 2 คนกำลังสบายๆ  3 คนก็น่าจะได้  มีกันสาดเล็กๆหน้าเต้นท์  ใครนำเต้นท์มาเองก็ได้นะคะ  ไม่แน่ใจว่าต้องเสียเงินมั้ย

วันนี้มาถึงก็เหนื่อย ไม่อยากเดินไปไหนเลย  นอนพักที่เต้นท์  หาอะไรกินให้อิ่มท้อง  นั่งเล่น  มีกวางที่จุดกางเต้นท์ด้วยค่ะ  แถวนี้เลยเรียกว่า วังกวาง
กวางน่ารักดีนะคะ  บางตัวก็ให้จับ  บางตัวก็ไม่ให้นะ

ตัวนี้อยู่ตรงร้านข้าว  ชื่อ เตเต้  เขาไม่ให้จับนะคะบอกไว้ก่อน


  มันจะมีกิจกรรมที่น่าไปคือ  ดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก  ซึ่งเดินไป 2 กิโลได้ แต่จากที่คุยกับป้าที่ร้านข้าว  เขาแนะนำให้ไปดูที่ลานพระพุทธเมตตาดีกว่า  เพราะพระอาทิตย์ช่วงหน้าร้อนค่อนมาด้านนี้แล้ว  ดีเลย  เดินน้อย  แค่ 700 เมตร  ก็สวยไปอีกแบบ
ช่วงนี้มีพระมาhave field tripด้วยค่ะ  (หาคำภาษาไทยที่เหมาะสมไม่ได้ค่ะ  ขออภัย)  คงมาทำวัตรเย็นล่ะค่ะ



บริเวณนี้มีสายไฟฟ้าที่เปิดช่วง 17.00-7.00 เพื่อกันไม่ให้ช้างป่าเข้ามาบริเวณที่พัก

มาทานข้าวเย็น  เราเปลี่ยนร้านกินไปเรื่อยๆนะคะ ช่วยๆกระจายรายได้  ร้านก็เปิดน้อย
ราคาข้าวตามสั่ง 60  บาทต่อจาน  กับข้าว 100 บาท  ส้มตำ 50 บาท  ราคาถูกกว่าที่กทม.อีก  ให้เยอะมากด้วย  รู้สึกว่าคุ้มนะ  ว่าเขาจะจ้างลูกหาบเอาวัตถุดิบขึ้นมา

มีน้องกวางน้อยมาส่งเราเข้านอน


เดี๋ยวมาต่อค่ะ  พบกันวันใหม่
ชื่อสินค้า:   ภูกระดึง จ.เลย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่