(สืบเนื่องมาจากกระทู้)
http://pantip.com/topic/34878832/
แนวปฎิบัติในการ ติดตามเอาคืน โดยไม่ใช้ข้อกฎหมายเข้าฟาดฟันกัน
ทั้งๆ ที่ผมบอกคุณย่าว่า หากสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นทรัพย์สินในชื่อของผม ป่านฉะนี้ ผมไปแจ้งความว่า "ป้านี้" ทำผิดฐานทำให้ผมเสียทรัพย์(เปิดไม่ติด ใช้งานสมาร์ทโฟนไม่ได้)
ผมตั้งข้อสังเกต ให้คุณย่าฟัง
1. "ป้านี้" เป็นผู้เอาแบตฯ ออกจากสมาร์ทโฟนด้วยความไม่เต็มใจของทั้งลูกชาย ผม และคุณย่า ให้ตำรวจร้อยเวรสอบสวน507ช่วย "ติดตามเอาคืน" ก็แล้ว "ป้านี้" ก็ยังไม่ให้ ผมจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ร้อยเวรสอบสวนก็บอกว่า ยังไม่เข้าเจตนา เพราะ สมาร์ทโฟนกับแบตฯ ยังอยู่ในสถานที่เดียวกัน คือในบ้าน "ป้านี้" แต่ ตอนนี้ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ ได้กลับมาอยู่ที่บ้านชลบุรี ในมือของย่าแล้ว แต่ "ป้านี้" ก็ยังไม่ตระหนักรู้ว่า ต้องติดตามเอามาคืนให้คุณย่า
2. "ป้านี้" อ้างว่า ยังไม่มีใครบอกที่อยู่ ทั้งๆ ที่ "ป้านี้" เรียนจบการศึกษาขั้นสูงกว่า ปริญญาตรี แต่ไม่สามารถหาที่อยู่ หรือพยายามที่จะค้นหาที่อยู่ เช่น ถาม น้องสาว(แม่ของลูกชาย) เพราะอดีตเมียผมก็เคยอยู่บ้านที่ชลบุรีมาก่อน หรือถาม หลานชาย ให้ช่วยโทร. ขอชื่อที่อยู่ของคุณย่า
3. คุณย่ามีเบอร์ "ป้านี้" โทร. คุยกับ "ป้านี้" ตั้งหลายรอบ แต่ "ป้านี้" ไม่คิดจะโทร. กลับมาหาคุณย่า เพื่อสอบถามชื่อที่อยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า เรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของตน ก็จะรีบโทรศัพท์มาหาคุณย่า
คุณย่าได้ฟังที่ผมตั้งข้อสังเกต ก็ยกมือขึ้นสบัดให้ผมไปทำอะไรก็ทำ ย่าไม่อยากให้หลานมีปัญหา
นี่แหละ!!! คือ
พรหมวิหาร 4 ที่คุณย่ามีให้หลานชายและ "ป้านี้"
ป.ล. ผมได้แต่หวังใจว่า "ป้านี้" จะตระหนักรู้ถึง
พรหมวิหาร 4 ที่คุณย่ามีให้ แล้วรีบส่ง แบตเตอรรี่สมาร์ทโฟน คืนให้เร่งด่วนในสภาพเหมือนก่อนที่แบตฯ จะถูกแกะออกจากสมา์ทโฟน
*อัพเดต
แม่ของลูกชายเล่าให้คุณย่าฟัง เมื่อคุณย่าถามว่า พาหลานไปขอขมา "ป้านี้" แล้วหรือยัง?
แม่เด็กตอบว่า: พาไปขอขมาแล้ว "ป้านี้" กับ ลูกชาย คุยดีกันเหมือนเดิม (พ่อหนึ่งเดียวคนนี้ ภาคภูมิใจฝุดๆ ที่ลูกชายรู้จักบทเรียนนอกห้องเรียนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเรื่องๆ การขอขมาผู้ใหญ่)
ขอตามกระแสไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ (GDH 559) หน่อยนะครับ หวังว่า "ป้านี้" จะมองเป็นเรื่อง ขำขำ
ชวนมาร่วมกันเอาใจช่วยให้คุณย่าติดตามเอาคืนแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนจาก"ป้านี้" ได้ภายในกี่วัน-ร่วมลุ้น แบตเตอรี่จะมีสภาพอย่างไร
แนวปฎิบัติในการ ติดตามเอาคืน โดยไม่ใช้ข้อกฎหมายเข้าฟาดฟันกัน
ทั้งๆ ที่ผมบอกคุณย่าว่า หากสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นทรัพย์สินในชื่อของผม ป่านฉะนี้ ผมไปแจ้งความว่า "ป้านี้" ทำผิดฐานทำให้ผมเสียทรัพย์(เปิดไม่ติด ใช้งานสมาร์ทโฟนไม่ได้)
ผมตั้งข้อสังเกต ให้คุณย่าฟัง
1. "ป้านี้" เป็นผู้เอาแบตฯ ออกจากสมาร์ทโฟนด้วยความไม่เต็มใจของทั้งลูกชาย ผม และคุณย่า ให้ตำรวจร้อยเวรสอบสวน507ช่วย "ติดตามเอาคืน" ก็แล้ว "ป้านี้" ก็ยังไม่ให้ ผมจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ร้อยเวรสอบสวนก็บอกว่า ยังไม่เข้าเจตนา เพราะ สมาร์ทโฟนกับแบตฯ ยังอยู่ในสถานที่เดียวกัน คือในบ้าน "ป้านี้" แต่ ตอนนี้ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ ได้กลับมาอยู่ที่บ้านชลบุรี ในมือของย่าแล้ว แต่ "ป้านี้" ก็ยังไม่ตระหนักรู้ว่า ต้องติดตามเอามาคืนให้คุณย่า
2. "ป้านี้" อ้างว่า ยังไม่มีใครบอกที่อยู่ ทั้งๆ ที่ "ป้านี้" เรียนจบการศึกษาขั้นสูงกว่า ปริญญาตรี แต่ไม่สามารถหาที่อยู่ หรือพยายามที่จะค้นหาที่อยู่ เช่น ถาม น้องสาว(แม่ของลูกชาย) เพราะอดีตเมียผมก็เคยอยู่บ้านที่ชลบุรีมาก่อน หรือถาม หลานชาย ให้ช่วยโทร. ขอชื่อที่อยู่ของคุณย่า
3. คุณย่ามีเบอร์ "ป้านี้" โทร. คุยกับ "ป้านี้" ตั้งหลายรอบ แต่ "ป้านี้" ไม่คิดจะโทร. กลับมาหาคุณย่า เพื่อสอบถามชื่อที่อยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า เรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของตน ก็จะรีบโทรศัพท์มาหาคุณย่า
คุณย่าได้ฟังที่ผมตั้งข้อสังเกต ก็ยกมือขึ้นสบัดให้ผมไปทำอะไรก็ทำ ย่าไม่อยากให้หลานมีปัญหา
นี่แหละ!!! คือ พรหมวิหาร 4 ที่คุณย่ามีให้หลานชายและ "ป้านี้"
ป.ล. ผมได้แต่หวังใจว่า "ป้านี้" จะตระหนักรู้ถึง พรหมวิหาร 4 ที่คุณย่ามีให้ แล้วรีบส่ง แบตเตอรรี่สมาร์ทโฟน คืนให้เร่งด่วนในสภาพเหมือนก่อนที่แบตฯ จะถูกแกะออกจากสมา์ทโฟน
*อัพเดต
แม่ของลูกชายเล่าให้คุณย่าฟัง เมื่อคุณย่าถามว่า พาหลานไปขอขมา "ป้านี้" แล้วหรือยัง?
แม่เด็กตอบว่า: พาไปขอขมาแล้ว "ป้านี้" กับ ลูกชาย คุยดีกันเหมือนเดิม (พ่อหนึ่งเดียวคนนี้ ภาคภูมิใจฝุดๆ ที่ลูกชายรู้จักบทเรียนนอกห้องเรียนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเรื่องๆ การขอขมาผู้ใหญ่)
ขอตามกระแสไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ (GDH 559) หน่อยนะครับ หวังว่า "ป้านี้" จะมองเป็นเรื่อง ขำขำ