ภาพด้านบนที่ใส่ชุดลูกเสือ คือ ลูกชาย ส่วนผู้หญิงสูงวัยแต่ยังสดใสปิ๊ง คือ ขุ่นแม่ผมหรือคุณย่าของลูกชาย
ส่วน "ป้าหนึ่งเดียวคนนี้"<ไม่มีภาพ ไม่ใช่ ป้าปุ๊ หรือ ป้าอัญชลี แต่หมายว่า ป้าคนนี้คนเดียว มิได้พาดพิงถึงคนรุ่นป้าคนอื่นๆ
...ลูกเล่าให้ฟังว่า ป้าบอก "จะไม่คืนแบตฯ ให้ แต่จะทำการส่งพัสดุไปรษณีย์ไปให้แทน" ทั้งๆ ที่ตกปากรับคำกับคุณย่า ผู้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนตัวจริงซึ่งได้มอบเป็นของขวัญให้หลานไปใช้
...สืบเนื่องมาจาก คำบอกเล่าจากปากของลูกชาย โทรศัพท์มาหาผม ผู้เป็นพ่อ เมื่อเวลา 17:00 น. โดยประมาณ
พ่อ ป้า...โยนโทรศัพท์หนูเข้าพุ่มไม้
สรุปย่อ1. จากคำบอกเล่าของลูกชาย
เหมือนป้าจะติววิชาเรียนให้ แต่ลูกชายไม่อยากติว เพราะติวไปแล้ว แต่ป้าอยากให้ติวอีก ป้าไม่พึงพอใจที่หลานห่วงแต่เล่นเกม เลยเข้ายึดโทรศัพท์ แต่ลูกชายไม่ให้ ลูกชายพยายามปกป้องโทรศัพท์ ด้วยการหาอะไรสักอย่างมาป้องกัน จนขณะที่ลูกชายกำลังเล่นคอมฯ ป้าก็เข้ามายึดมือถือได้ เกิดการยื้อยุดฉุดกระชาก ป้าเขวี้ยงสมาร์ทโฟนเข้าพุ่มไม้พร้อมตามไปเหยียบซ้ำ ลูกชายเข้าป้องกัน เกิดการพัลวันพันตูตรงพุ่มไม้ ลูกชายได้รับบาดเจ็บที่หัวฟกช้ำ และรอยขีดข่วนตามร่างกาย ส่วนฝั่งป้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ลูกชายไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ในที่สุด ป้าก็ได้สมาร์โฟนของหลานไว้ในครอบครอง
สรุปย่อ2. จากคำบอกเล่าของลูกชาย
พ่อ ..ป้าคืนโทรศัพท์ให้หนูแล้ว แต่ป้าถอดแบเตอรี่ออก ไม่คืนแบตฯ มาให้หนู หากอยากได้คืน มี 2 วิธี วิธีแรก ทำเกรดเฉลี่ยให้ได้ 4 ทุกวิชา หรือ ได้อะไรนี่แหละ 85 ขึ้นไป (ผมก็ฟังลูกเล่าไม่ค่อยเข้าใจ) วิธีที่สอง กลับบ้านไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัด(แม่ของลูกไม่ยอมแน่ๆ) 2 วิธีนี้เท่านั้น ป้าถึงจะคืนแบตฯ ให้
หลังจากนั้น เลือดผู้เป็นพ่อก็สูบฉีดหนักหน่วงในร่างกายของผม โดยเริ่มจาก
1. ผมโทร. คุยกับแม่ของลูกชาย บอกว่า หากป้าเขาจะยึดก็ยึดไป แต่ขอได้ไหม ให้ แบตเตอรี่กับสมาร์ทโฟนอยู่ด้วยกัน พ่อกลัวมือถือมันจะพัง พ่อเคยอ่านเจอว่า มือถือสมัยนี้ต้องมีไฟเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา
2. ให้แม่ของลูกชาย คุยกับย่า ย่าก็บอกว่า ให้ป้าเก็บไว้ทั้งมือถือนั่นแหละ ไม่ต้องแยกแบตฯกับมือถือ ออกจากกัน
3. โทร. ไปขอความช่วยเหลือที่ ศูนย์ประชาบดี ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
4. ย่าโทร. ไปหาป้า แล้วบอกว่า "พรุ่งนี้ จะให้ผมไปรับมือถือเครื่องที่ก่อปัญหา กลับมา ให้ใส่แบตฯ ประกอบเข้าทุกอย่าง" ป้า... ตกปากรับคำ
5. พึ่งพาโซเชีล มีเดีย พันทิป.คอม
6. แจ้งความที่สถานีตำรวจ
อยากจะเรียนขอคำชี้แนะ จากการแสดงความคิดเห็นของชาวพันทิพทุกผู้ทุกนาม ว่า
"หากพรุ่งนี้ ผมไปรับแบตเตอรี่ที่ป้าหนึ่งเดียวคนนี้ แล้วเขาไม่ให้ ผมอยากแจ้งความร้องทุกข์กับข้าราชการตำรวจ ผมควรบอก ตำรวจว่าอย่างไรดี ผมถึงจะได้ แบตเตอรี่ คืน"
(เพิ่มเติม)
..ในระหว่างที่อ่านความคิดเห็นในกระทู้นี้ ผมเกิดคำถามขึ้นมาว่า ผมอยากร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ "ป้าหนึ่งเดียวคนนี้" กับตำรวจ ด้วยข้อกล่าวหา "..ข่มขืนใจ... ตามมาตรา 309" ตำรวจจะรับแจ้งความจากผม หรือเปล่าครับ? เพราะบางความเห็นบอกว่า เป็นเรื่อง "ขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง" ไปแจ้งความแล้วตำรวจอาจจะหัวร่อใส่
ปล. ผมกับแม่ของลูกชาย เราสองคน "หย่าร้าง" แม่กับลูกชายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่พี่น้องที่นนทบุรี ส่วนผมผู้เป็นพ่ออยู่ชลบุรี
ปล.ล. ขอขอบพระคุณคำชี้แนะจากการแสดงความคิดเห็นของชาวพันทิพทุกผู้ทุกนามอย่างถึงที่สุด
----[อัพเดต]----
*ขออภัยที่เข้ามาเล่าให้ฟังล่าช้า พึ่งกลับถึงบ้านที่ชลบุรี สดๆ ร้อนๆ ณ นาทีนี้ ครับ
..หลังจากพยายามติดต่อกับ "ป้านี้" (ย่อจาก ป้าหนึ่งเดียวคนนี้) โดยผ่านคุณย่า ให้คืนแบตฯ ย่าโมโห ย่าบอกว่า ให้ผมขับรถมารอเอาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้ผมไปเลย จะจัดส่งทางไปรษณีย์ทำไม "ป้านี้" ยืนยันหนักแน่นว่าจะคืนให้ทางไปรษณีย์ จนย่าด่า ว่า พูดไม่เป็นคำพูด เมื่อวานบอกอย่างหนึ่ง วันนี้บอกอีกอย่างหนึ่ง ผมจึงเริ่มปฎิบัติการข้อที่ 6
ผมไปที่สถานีตำรวจใกล้บ้านแม่ของลูกชาย กดบัตรคิว แจ้งความ/ร้องทุกข์/ยื่นประกัน หมายเลข 507
ต่อไปนี้ผมขอเรียก "ร้อยเวรคนนี้" ว่า "ร้อยเวร507" นะครับ
ผมถาม: แจ้งความดำเนินคดีกับร้องทุกข์กล่าวโทษเหมือนกันไหมครับ
ร้อยเวร507: ว่าเหมือนกัน
ผม: ผมขอแจ้งความดำเนินคดีกับ "ป้านี้"
ร้อยเวร507: เรื่องอะไร
ผม: ข่มขืนใจลูกชายของผม(ชื่อนามสกุลจริง) ตามมาตรา 309
ร้อยเวร507: เรื่องราวเป็นมายังไง
...หลังจากนั้น ผมก็ขออนุญาตเปิดไอแพด ดูที่กระทู้พันทิพที่ผมเซฟไว้อ่านออฟไลน์ แล้วเล่าตามที่ผมเองเขียนไว้
ในระหว่างที่เล่าให้ร้อยเวร507ฟัง เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ก็โทรเข้ามาหาผม บอกว่า ได้คุยกับ "ป้านี้" แล้ว เจ้าหน้าที่ใช้คำว่า "ป้านี้" อ้างว่ากระทำรุนแรงจริง แต่เป็นไปเพื่อการติวหนังสือ ...
ผมขอสรุปย่อข้อเสนอแนะของร้อยเวร507และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ต่อผม ดังนี้
ร้อยเวร507เสนอแนะว่า อยากให้พูดคุยกันมากกว่าใช้ข้อกฎหมายฟาดฟันกัน อยากให้เคลียร์กันให้จบโดยใช้การพูดคุย ร้อยเวร507 ขอเบอร์แม่ของลูกชายและ "ป้านี้" ขอโฟกัส ขณะที่ร้อยเวร507 สนทนากับ "ป้านี้" อย่างย่อๆ ว่า เอาแบตฯ คืนให้ผมไป เรื่องจะได้จบ(ซึ่งผมก็ตั้งใจไว้ว่า หลังจากได้รับแบตฯ แล้ว จะมาลงบันทึกประจำวัน แต่ "ป้านี้" ไม่คืน เลยเปลี่ยนมาแจ้งความดำเนินคดีแทน) ผมบอกร้อยเวร507 อย่างนั้น
"ป้านี้" ไม่คืน ถ้าจะให้คืน เอาหลานชายกลับไปเลย เอากลับไปเลี้ยงเอง ร้อยเวรถามผม ว่าผมรับลูกไปเลี้ยงได้ไหม ผมตอบไปว่า ผมไม่ขัดข้อง หากแม่ของลูกชายยินยอม ซึ่งผมได้บอกร้อยเวรไปว่า แม่ของลูกชาย อยากให้ลูกได้เรียนที่กรุงเทพฯ ซึ่งผมก็เคราพและให้เกียรติในการตัดสินใจของแม่ลูกชายและลูกชาย ผมเล่าว่า จากเมื่อก่อนผมไม่ยอม แต่ในปัจจุบัน ผมเข้าใจและเห็นสอดคล้องกับแม่ของลูกชายและลูกชายให้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกทม.ได้
ตัดภาพกลับมาที่เจ้าหน้าที่1300 (ย่อจาก เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300)
..เสนอแนะว่า อยากให้ไกล่เกลี่ย ทำข้อตกลงระหว่าง "ป้านี้" กับ "ลูกชาย" ว่าจะกระทำการลงโทษอะไรแค่ไหน ไม่อยากให้ผม แจ้งความดำเนินคดี หรือ ลงบันทึกประจำวัน เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาในครอบครัวเพิ่มขึ้น ซึ่งลูกชายของผมก็ยังต้องพักอาศัยอยู่กับ "ป้านี้" เพื่อเล่าเรียนหนังสือในกทม. ต่อไป
ผมบอกร้อยเวร507 ตามข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่1300 พร้อมสำทับเพิ่มเติมว่า วิธีนี้เป็นหนทางใหม่ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมคิดว่า เป็นการปรองดองที่ดี ผมเห็นด้วย ผมสนับสนุน ผมยินดีไกล่เกลี่ยและอนุญาตให้ทำข้อตกลงกัน ผมบอกร้อยเวร507อย่างหนักแน่นว่า ผมก็ไม่อยากค้าความ ร้อยเวร507ถาม "ป้านี้"ๆ บอก ไม่ไกล่เกลี่ย ไม่ทำข้อตกลง และไม่มาที่สถานีตำรวจ ร้อยเวร507ถามผม ทำไมไม่คุยกันเอง ผมบอก ผมก็อยากพูดคุย แต่ "ป้านี้" ไม่คุยกับผม ร้อยเวร507ถาม "ป้านี้"ๆ ไม่คุยกับผมจริง ...ร้อยเวร507 เริ่มกุมขมับ
ย่าโทรมาอีก บอกว่า ไม่องไม่เอาแล้วแบตฯ จะให้ก็ให้ ไม่ให้ก็ไม่เอา เดี๋ยว ขุ่นแม่จะซื้อแบตฯ ให้ใหม่ ผมเริ่มลังเล และร้อยเวร507ก็ได้ถามผม ก่อนที่ผมจะบอกร้อยเวร507ในเรื่องที่ย่าพูด ว่า ซื้อก้อนใหม่สิ ผมบอกอย่างแรก ผมมีตังค์ไม่พอ บอกอย่างที่สอง ผมถามร้อยเวร507ว่า เป็นสิ่งที่ผมควรต้องทำหรือ? ซื้อก้อนใหม่ ร้อยเวร507เงยหน้ามองผมอย่างครุ่นคิดแล้วบอกว่า
"ติดตามเอาคืนได้"
ร้อยเวร507 พยายามช่วยเหลือผมโดยใช้วิธีการพูดคุยกับ "ป้านี้" เพื่อขอคืน แบตฯ ให้ผม ถ้าผมฟังไม่ผิด ร้อยเวร507 ไม่ได้ยกข้อกฎหมายมาบอกกล่าว "ป้านี้" เพื่อให้ "ป้านี้" ยินยอมคืนแบตฯ ด้วยกฎหมาย ซึ่งผมประทับใจในการแก้ปัญหาของร้อยเวร507 ด้วยวิธีการพูดคุยมากกว่าการใช้ข้อกฎหมาย
และในที่สุด ผมบอกร้อยเวร507ว่า ตกลง ผมไม่เอาแบตฯ แล้ว เพราะย่าบอกไม่ต้องไปสนใจ ผมจะยอมถอยเรื่องแบตฯ ผมจะถอยเรื่องการแจ้งความดำเนินคดี แต่ผมขอแค่ลงบันทึกประจำวัน เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้กับลูกชายและ ให้ "ป้านี้" ตระหนักรู้ว่า การกระทำข่มขืนใจของ "ป้านี้" ต่อหลานชาย กฎหมายได้รับรู้แล้ว ร้อยเวร507ท่องข้อกฎหมายแล้วบอกผมว่า ลูกชายเป็นผู้เสียหาย ให้นำลูกชายมาแจ้งความ ประกอบกับได้เวลาที่ผมต้องรีบไปรับลูกชายที่กำลังคัดตัวนักฟุตบอลที่ร.ร.แห่งหนึ่ง ก่อนที่รถจะติดหนักไปกว่านี้ ผมถามร้อยเวร507 ออกเวรกี่โมงครับ อีก1 ชั่วโมงออกเวรแล้ว(เวลา ...:.... น.) แล้วผมจะแจ้งความกับใคร ร้อยเวร507บอก แจ้งกับใครก็ได้แต่เดี๋ยวจะให้ลงเป็นชื่อผม ผมรีบขอบคุณและรีบไปรับลูก

หลังจากไปรับลูกชายและแม่ของลูกชายกลับมาที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ ผมก็บอกลูกชายให้กดที่เครื่องออกคิวบัตร หมายเลขนี้ เพื่อรอคิวเรียกในการเข้าแจ้งความ ในทันใดนั้น "ลุงตำรวจเสื้อขาว" พูดขึ้นมาว่า มาทำอะไรกัน ผมบอกมาแจ้งความตามคำแนะนำของร้อยเวร507 ครับ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" งั้นมานี้ ใครจะแจ้งความ ลูกชายครับ เขาเป็นผู้เสียหาย ผมบอก
"ลุงตำรวจเสื้อขาว" ก็ให้ลูกชายบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" จะซักเรื่องราวไปด้วย
สรุปย่อถึงข้อเสนอแนะจาก "ลุงตำรวจเสื้อขาว"
"ลุงตำรวจเสื้อขาว" บอกว่า หากอยากให้ลงบันทึกประจำวันก็ทำให้ได้ แต่อยากให้ ผม แม่ของลูกชาย และลูกชาย ตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา เพราะ "ป้านี้" ก็คือ
"พี่สาว แม่ของลูกชาย" เป็นคนในครอบครัว เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน และลูกชายกับแม่ของลูกชายก็ยังต้องพักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับ "ป้านี้"ๆ จะคิดยังไง เมื่อหลานชายมาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน จะเข้าหน้ากันติดหรือ? จะเกิดความแตกร้าวเพิ่มขึ้นในครอบครัวอีกหรือไม่? หาก "ป้านี้" กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งกับหลานชายและหลานชายชูสำเนาใบลงบันทึกประจำวัน คล้ายๆ ป้องปราม ว่า "ป้านี้" อย่าทำอย่างนี้กับผม(หลานชาย)นะ ไม่งั้น ผม(หลานชาย)จะแจ้งความ "ป้านี้" อีก ครอบครัวก็จะมีแต่ความเหนื่อยหน่ายต่อกันและกัน จากที่เคยซื้อขนมแล้วนึกถึงหลาน ต่อไปนี้ "ป้านี้" ก็จะไม่นึกถึงหลานชายอีก "ลุงตำรวจเสื้อขาว" ไม่อยากให้ลงบันทึกประจำวัน ไม่อยากให้มีหลักฐานทางเอกสาร ให้ปล่อยวาง ลืมๆ เรื่องราว "มโนสาเร่" ไปซะ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" บอกอีกว่า หากเรื่องราวที่ลูกชายของผมแจ้งความไปถึงมืออัยการๆ จะโยนทิ้ง เพราะถือเป็นคดี "มโนสาเร่"
...ในระหว่างที่ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" กำลังอรรถาธิบายแก่ ลูกชาย-แม่ของลูกชายและอาจรวมถึงผม แต่ผมกำลังคิดทบทวนถึงข้อเสนอแนะจากแต่ละฝ่าย เช่น คุณปู่(ที่โทร.มาหาในการแจ้งความครั้งที่2) คุณย่า แม่ของลูกชาย ร้อยเวร507 เจ้าหน้าที่1300 และ ลุงตำรวจเสื้อขาว มีความเห็นสอดคล้องต้องกันอย่างหนึ่งโดยมิได้นัดหมาย คือ
ไม่อยากให้มีการแจ้งความดำเนินคดีหรือลงบันทึกประจำวัน เพราะทุกคนเป็นห่วงสัมพันธภาพในครอบครัวที่ลูกชาย-แม่ของลูกชายพักอาศัยอยู่กับ "ป้านี้"
ผมพูดขึ้นมาเลยว่า โอเคครับ ผมยอมถอยยาวสุดซอย ผมไม่ให้ลูกลงบันทึกประจำวันแล้วครับ ผมขอเบอร์ติดต่อจาก "ลุงตำรวจเสื้อขาว" ได้ไหมครับ เผื่อลูกชายขอคำแนะนำ-ความช่วยเหลือ ผมอยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถมาได้ทันท่วงที "ลุงตำรวจเสื้อขาว" ให้ชื่อและเบอร์ติดต่อกับลูกชาย ...ผม ลูกชาย และแม่ของลูกชาย ขอบคุณครับ และเดินออกจาก ส.น. สามคน แม่ลูกพ่อ.
ป.ล. ผมถอยสุดซอยเนื่องจากเล็งเห็นผลแล้วว่า ผมได้สอนการเรียนรู้นอกห้องเรียนจากประสบการณ์จริงให้ลูกเห็น-ปฎิบัติไปพร้อมๆกัน
ป.ล.ล. ผมบอกลูกว่า "ผู้ชนะไม่จำเป็นต้องยืนอยู่บนจุดชนะเสมอไป"
ป.ล.ล.ล. อย่างน้อย "ป้านี้" ก็น่าจะตระหนักรู้ว่า พฤติการณ์ที่ทำกับหลานมีตำรวจ-เจ้าหน้าที่1300 รับรู้ แม้จะไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร
*v*มีอัพเดต*v*
http://pantip.com/topic/34878832/comment258
ป้า แยกแบตเตอรี่ออกจากสมาร์ทโฟนของหลาน&คืนตัวเครื่องเปล่าๆ ไว้ให้กับหลานแต่ไม่ยอมคืนแบตฯ ให้ พรุ่งนี้ผมจะไปเอาคืนแต่....
ภาพด้านบนที่ใส่ชุดลูกเสือ คือ ลูกชาย ส่วนผู้หญิงสูงวัยแต่ยังสดใสปิ๊ง คือ ขุ่นแม่ผมหรือคุณย่าของลูกชาย
ส่วน "ป้าหนึ่งเดียวคนนี้"<ไม่มีภาพ ไม่ใช่ ป้าปุ๊ หรือ ป้าอัญชลี แต่หมายว่า ป้าคนนี้คนเดียว มิได้พาดพิงถึงคนรุ่นป้าคนอื่นๆ
...ลูกเล่าให้ฟังว่า ป้าบอก "จะไม่คืนแบตฯ ให้ แต่จะทำการส่งพัสดุไปรษณีย์ไปให้แทน" ทั้งๆ ที่ตกปากรับคำกับคุณย่า ผู้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนตัวจริงซึ่งได้มอบเป็นของขวัญให้หลานไปใช้
...สืบเนื่องมาจาก คำบอกเล่าจากปากของลูกชาย โทรศัพท์มาหาผม ผู้เป็นพ่อ เมื่อเวลา 17:00 น. โดยประมาณ
พ่อ ป้า...โยนโทรศัพท์หนูเข้าพุ่มไม้
สรุปย่อ1. จากคำบอกเล่าของลูกชาย
เหมือนป้าจะติววิชาเรียนให้ แต่ลูกชายไม่อยากติว เพราะติวไปแล้ว แต่ป้าอยากให้ติวอีก ป้าไม่พึงพอใจที่หลานห่วงแต่เล่นเกม เลยเข้ายึดโทรศัพท์ แต่ลูกชายไม่ให้ ลูกชายพยายามปกป้องโทรศัพท์ ด้วยการหาอะไรสักอย่างมาป้องกัน จนขณะที่ลูกชายกำลังเล่นคอมฯ ป้าก็เข้ามายึดมือถือได้ เกิดการยื้อยุดฉุดกระชาก ป้าเขวี้ยงสมาร์ทโฟนเข้าพุ่มไม้พร้อมตามไปเหยียบซ้ำ ลูกชายเข้าป้องกัน เกิดการพัลวันพันตูตรงพุ่มไม้ ลูกชายได้รับบาดเจ็บที่หัวฟกช้ำ และรอยขีดข่วนตามร่างกาย ส่วนฝั่งป้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ลูกชายไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ในที่สุด ป้าก็ได้สมาร์โฟนของหลานไว้ในครอบครอง
สรุปย่อ2. จากคำบอกเล่าของลูกชาย
พ่อ ..ป้าคืนโทรศัพท์ให้หนูแล้ว แต่ป้าถอดแบเตอรี่ออก ไม่คืนแบตฯ มาให้หนู หากอยากได้คืน มี 2 วิธี วิธีแรก ทำเกรดเฉลี่ยให้ได้ 4 ทุกวิชา หรือ ได้อะไรนี่แหละ 85 ขึ้นไป (ผมก็ฟังลูกเล่าไม่ค่อยเข้าใจ) วิธีที่สอง กลับบ้านไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัด(แม่ของลูกไม่ยอมแน่ๆ) 2 วิธีนี้เท่านั้น ป้าถึงจะคืนแบตฯ ให้
หลังจากนั้น เลือดผู้เป็นพ่อก็สูบฉีดหนักหน่วงในร่างกายของผม โดยเริ่มจาก
1. ผมโทร. คุยกับแม่ของลูกชาย บอกว่า หากป้าเขาจะยึดก็ยึดไป แต่ขอได้ไหม ให้ แบตเตอรี่กับสมาร์ทโฟนอยู่ด้วยกัน พ่อกลัวมือถือมันจะพัง พ่อเคยอ่านเจอว่า มือถือสมัยนี้ต้องมีไฟเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา
2. ให้แม่ของลูกชาย คุยกับย่า ย่าก็บอกว่า ให้ป้าเก็บไว้ทั้งมือถือนั่นแหละ ไม่ต้องแยกแบตฯกับมือถือ ออกจากกัน
3. โทร. ไปขอความช่วยเหลือที่ ศูนย์ประชาบดี ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
4. ย่าโทร. ไปหาป้า แล้วบอกว่า "พรุ่งนี้ จะให้ผมไปรับมือถือเครื่องที่ก่อปัญหา กลับมา ให้ใส่แบตฯ ประกอบเข้าทุกอย่าง" ป้า... ตกปากรับคำ
5. พึ่งพาโซเชีล มีเดีย พันทิป.คอม
6. แจ้งความที่สถานีตำรวจ
อยากจะเรียนขอคำชี้แนะ จากการแสดงความคิดเห็นของชาวพันทิพทุกผู้ทุกนาม ว่า
"หากพรุ่งนี้ ผมไปรับแบตเตอรี่ที่ป้าหนึ่งเดียวคนนี้ แล้วเขาไม่ให้ ผมอยากแจ้งความร้องทุกข์กับข้าราชการตำรวจ ผมควรบอก ตำรวจว่าอย่างไรดี ผมถึงจะได้ แบตเตอรี่ คืน"
(เพิ่มเติม) ..ในระหว่างที่อ่านความคิดเห็นในกระทู้นี้ ผมเกิดคำถามขึ้นมาว่า ผมอยากร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ "ป้าหนึ่งเดียวคนนี้" กับตำรวจ ด้วยข้อกล่าวหา "..ข่มขืนใจ... ตามมาตรา 309" ตำรวจจะรับแจ้งความจากผม หรือเปล่าครับ? เพราะบางความเห็นบอกว่า เป็นเรื่อง "ขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง" ไปแจ้งความแล้วตำรวจอาจจะหัวร่อใส่
ปล. ผมกับแม่ของลูกชาย เราสองคน "หย่าร้าง" แม่กับลูกชายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่พี่น้องที่นนทบุรี ส่วนผมผู้เป็นพ่ออยู่ชลบุรี
ปล.ล. ขอขอบพระคุณคำชี้แนะจากการแสดงความคิดเห็นของชาวพันทิพทุกผู้ทุกนามอย่างถึงที่สุด
----[อัพเดต]----
*ขออภัยที่เข้ามาเล่าให้ฟังล่าช้า พึ่งกลับถึงบ้านที่ชลบุรี สดๆ ร้อนๆ ณ นาทีนี้ ครับ
..หลังจากพยายามติดต่อกับ "ป้านี้" (ย่อจาก ป้าหนึ่งเดียวคนนี้) โดยผ่านคุณย่า ให้คืนแบตฯ ย่าโมโห ย่าบอกว่า ให้ผมขับรถมารอเอาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้ผมไปเลย จะจัดส่งทางไปรษณีย์ทำไม "ป้านี้" ยืนยันหนักแน่นว่าจะคืนให้ทางไปรษณีย์ จนย่าด่า ว่า พูดไม่เป็นคำพูด เมื่อวานบอกอย่างหนึ่ง วันนี้บอกอีกอย่างหนึ่ง ผมจึงเริ่มปฎิบัติการข้อที่ 6
ผมไปที่สถานีตำรวจใกล้บ้านแม่ของลูกชาย กดบัตรคิว แจ้งความ/ร้องทุกข์/ยื่นประกัน หมายเลข 507
ต่อไปนี้ผมขอเรียก "ร้อยเวรคนนี้" ว่า "ร้อยเวร507" นะครับ
ผมถาม: แจ้งความดำเนินคดีกับร้องทุกข์กล่าวโทษเหมือนกันไหมครับ
ร้อยเวร507: ว่าเหมือนกัน
ผม: ผมขอแจ้งความดำเนินคดีกับ "ป้านี้"
ร้อยเวร507: เรื่องอะไร
ผม: ข่มขืนใจลูกชายของผม(ชื่อนามสกุลจริง) ตามมาตรา 309
ร้อยเวร507: เรื่องราวเป็นมายังไง
...หลังจากนั้น ผมก็ขออนุญาตเปิดไอแพด ดูที่กระทู้พันทิพที่ผมเซฟไว้อ่านออฟไลน์ แล้วเล่าตามที่ผมเองเขียนไว้
ในระหว่างที่เล่าให้ร้อยเวร507ฟัง เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ก็โทรเข้ามาหาผม บอกว่า ได้คุยกับ "ป้านี้" แล้ว เจ้าหน้าที่ใช้คำว่า "ป้านี้" อ้างว่ากระทำรุนแรงจริง แต่เป็นไปเพื่อการติวหนังสือ ...
ผมขอสรุปย่อข้อเสนอแนะของร้อยเวร507และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ต่อผม ดังนี้
ร้อยเวร507เสนอแนะว่า อยากให้พูดคุยกันมากกว่าใช้ข้อกฎหมายฟาดฟันกัน อยากให้เคลียร์กันให้จบโดยใช้การพูดคุย ร้อยเวร507 ขอเบอร์แม่ของลูกชายและ "ป้านี้" ขอโฟกัส ขณะที่ร้อยเวร507 สนทนากับ "ป้านี้" อย่างย่อๆ ว่า เอาแบตฯ คืนให้ผมไป เรื่องจะได้จบ(ซึ่งผมก็ตั้งใจไว้ว่า หลังจากได้รับแบตฯ แล้ว จะมาลงบันทึกประจำวัน แต่ "ป้านี้" ไม่คืน เลยเปลี่ยนมาแจ้งความดำเนินคดีแทน) ผมบอกร้อยเวร507 อย่างนั้น
"ป้านี้" ไม่คืน ถ้าจะให้คืน เอาหลานชายกลับไปเลย เอากลับไปเลี้ยงเอง ร้อยเวรถามผม ว่าผมรับลูกไปเลี้ยงได้ไหม ผมตอบไปว่า ผมไม่ขัดข้อง หากแม่ของลูกชายยินยอม ซึ่งผมได้บอกร้อยเวรไปว่า แม่ของลูกชาย อยากให้ลูกได้เรียนที่กรุงเทพฯ ซึ่งผมก็เคราพและให้เกียรติในการตัดสินใจของแม่ลูกชายและลูกชาย ผมเล่าว่า จากเมื่อก่อนผมไม่ยอม แต่ในปัจจุบัน ผมเข้าใจและเห็นสอดคล้องกับแม่ของลูกชายและลูกชายให้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกทม.ได้
ตัดภาพกลับมาที่เจ้าหน้าที่1300 (ย่อจาก เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300)
..เสนอแนะว่า อยากให้ไกล่เกลี่ย ทำข้อตกลงระหว่าง "ป้านี้" กับ "ลูกชาย" ว่าจะกระทำการลงโทษอะไรแค่ไหน ไม่อยากให้ผม แจ้งความดำเนินคดี หรือ ลงบันทึกประจำวัน เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาในครอบครัวเพิ่มขึ้น ซึ่งลูกชายของผมก็ยังต้องพักอาศัยอยู่กับ "ป้านี้" เพื่อเล่าเรียนหนังสือในกทม. ต่อไป
ผมบอกร้อยเวร507 ตามข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่1300 พร้อมสำทับเพิ่มเติมว่า วิธีนี้เป็นหนทางใหม่ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมคิดว่า เป็นการปรองดองที่ดี ผมเห็นด้วย ผมสนับสนุน ผมยินดีไกล่เกลี่ยและอนุญาตให้ทำข้อตกลงกัน ผมบอกร้อยเวร507อย่างหนักแน่นว่า ผมก็ไม่อยากค้าความ ร้อยเวร507ถาม "ป้านี้"ๆ บอก ไม่ไกล่เกลี่ย ไม่ทำข้อตกลง และไม่มาที่สถานีตำรวจ ร้อยเวร507ถามผม ทำไมไม่คุยกันเอง ผมบอก ผมก็อยากพูดคุย แต่ "ป้านี้" ไม่คุยกับผม ร้อยเวร507ถาม "ป้านี้"ๆ ไม่คุยกับผมจริง ...ร้อยเวร507 เริ่มกุมขมับ
ย่าโทรมาอีก บอกว่า ไม่องไม่เอาแล้วแบตฯ จะให้ก็ให้ ไม่ให้ก็ไม่เอา เดี๋ยว ขุ่นแม่จะซื้อแบตฯ ให้ใหม่ ผมเริ่มลังเล และร้อยเวร507ก็ได้ถามผม ก่อนที่ผมจะบอกร้อยเวร507ในเรื่องที่ย่าพูด ว่า ซื้อก้อนใหม่สิ ผมบอกอย่างแรก ผมมีตังค์ไม่พอ บอกอย่างที่สอง ผมถามร้อยเวร507ว่า เป็นสิ่งที่ผมควรต้องทำหรือ? ซื้อก้อนใหม่ ร้อยเวร507เงยหน้ามองผมอย่างครุ่นคิดแล้วบอกว่า "ติดตามเอาคืนได้"
ร้อยเวร507 พยายามช่วยเหลือผมโดยใช้วิธีการพูดคุยกับ "ป้านี้" เพื่อขอคืน แบตฯ ให้ผม ถ้าผมฟังไม่ผิด ร้อยเวร507 ไม่ได้ยกข้อกฎหมายมาบอกกล่าว "ป้านี้" เพื่อให้ "ป้านี้" ยินยอมคืนแบตฯ ด้วยกฎหมาย ซึ่งผมประทับใจในการแก้ปัญหาของร้อยเวร507 ด้วยวิธีการพูดคุยมากกว่าการใช้ข้อกฎหมาย
และในที่สุด ผมบอกร้อยเวร507ว่า ตกลง ผมไม่เอาแบตฯ แล้ว เพราะย่าบอกไม่ต้องไปสนใจ ผมจะยอมถอยเรื่องแบตฯ ผมจะถอยเรื่องการแจ้งความดำเนินคดี แต่ผมขอแค่ลงบันทึกประจำวัน เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้กับลูกชายและ ให้ "ป้านี้" ตระหนักรู้ว่า การกระทำข่มขืนใจของ "ป้านี้" ต่อหลานชาย กฎหมายได้รับรู้แล้ว ร้อยเวร507ท่องข้อกฎหมายแล้วบอกผมว่า ลูกชายเป็นผู้เสียหาย ให้นำลูกชายมาแจ้งความ ประกอบกับได้เวลาที่ผมต้องรีบไปรับลูกชายที่กำลังคัดตัวนักฟุตบอลที่ร.ร.แห่งหนึ่ง ก่อนที่รถจะติดหนักไปกว่านี้ ผมถามร้อยเวร507 ออกเวรกี่โมงครับ อีก1 ชั่วโมงออกเวรแล้ว(เวลา ...:.... น.) แล้วผมจะแจ้งความกับใคร ร้อยเวร507บอก แจ้งกับใครก็ได้แต่เดี๋ยวจะให้ลงเป็นชื่อผม ผมรีบขอบคุณและรีบไปรับลูก
หลังจากไปรับลูกชายและแม่ของลูกชายกลับมาที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ ผมก็บอกลูกชายให้กดที่เครื่องออกคิวบัตร หมายเลขนี้ เพื่อรอคิวเรียกในการเข้าแจ้งความ ในทันใดนั้น "ลุงตำรวจเสื้อขาว" พูดขึ้นมาว่า มาทำอะไรกัน ผมบอกมาแจ้งความตามคำแนะนำของร้อยเวร507 ครับ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" งั้นมานี้ ใครจะแจ้งความ ลูกชายครับ เขาเป็นผู้เสียหาย ผมบอก
"ลุงตำรวจเสื้อขาว" ก็ให้ลูกชายบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" จะซักเรื่องราวไปด้วย
สรุปย่อถึงข้อเสนอแนะจาก "ลุงตำรวจเสื้อขาว"
"ลุงตำรวจเสื้อขาว" บอกว่า หากอยากให้ลงบันทึกประจำวันก็ทำให้ได้ แต่อยากให้ ผม แม่ของลูกชาย และลูกชาย ตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา เพราะ "ป้านี้" ก็คือ "พี่สาว แม่ของลูกชาย" เป็นคนในครอบครัว เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน และลูกชายกับแม่ของลูกชายก็ยังต้องพักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับ "ป้านี้"ๆ จะคิดยังไง เมื่อหลานชายมาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน จะเข้าหน้ากันติดหรือ? จะเกิดความแตกร้าวเพิ่มขึ้นในครอบครัวอีกหรือไม่? หาก "ป้านี้" กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งกับหลานชายและหลานชายชูสำเนาใบลงบันทึกประจำวัน คล้ายๆ ป้องปราม ว่า "ป้านี้" อย่าทำอย่างนี้กับผม(หลานชาย)นะ ไม่งั้น ผม(หลานชาย)จะแจ้งความ "ป้านี้" อีก ครอบครัวก็จะมีแต่ความเหนื่อยหน่ายต่อกันและกัน จากที่เคยซื้อขนมแล้วนึกถึงหลาน ต่อไปนี้ "ป้านี้" ก็จะไม่นึกถึงหลานชายอีก "ลุงตำรวจเสื้อขาว" ไม่อยากให้ลงบันทึกประจำวัน ไม่อยากให้มีหลักฐานทางเอกสาร ให้ปล่อยวาง ลืมๆ เรื่องราว "มโนสาเร่" ไปซะ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" บอกอีกว่า หากเรื่องราวที่ลูกชายของผมแจ้งความไปถึงมืออัยการๆ จะโยนทิ้ง เพราะถือเป็นคดี "มโนสาเร่"
...ในระหว่างที่ "ลุงตำรวจเสื้อขาว" กำลังอรรถาธิบายแก่ ลูกชาย-แม่ของลูกชายและอาจรวมถึงผม แต่ผมกำลังคิดทบทวนถึงข้อเสนอแนะจากแต่ละฝ่าย เช่น คุณปู่(ที่โทร.มาหาในการแจ้งความครั้งที่2) คุณย่า แม่ของลูกชาย ร้อยเวร507 เจ้าหน้าที่1300 และ ลุงตำรวจเสื้อขาว มีความเห็นสอดคล้องต้องกันอย่างหนึ่งโดยมิได้นัดหมาย คือ ไม่อยากให้มีการแจ้งความดำเนินคดีหรือลงบันทึกประจำวัน เพราะทุกคนเป็นห่วงสัมพันธภาพในครอบครัวที่ลูกชาย-แม่ของลูกชายพักอาศัยอยู่กับ "ป้านี้"
ผมพูดขึ้นมาเลยว่า โอเคครับ ผมยอมถอยยาวสุดซอย ผมไม่ให้ลูกลงบันทึกประจำวันแล้วครับ ผมขอเบอร์ติดต่อจาก "ลุงตำรวจเสื้อขาว" ได้ไหมครับ เผื่อลูกชายขอคำแนะนำ-ความช่วยเหลือ ผมอยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถมาได้ทันท่วงที "ลุงตำรวจเสื้อขาว" ให้ชื่อและเบอร์ติดต่อกับลูกชาย ...ผม ลูกชาย และแม่ของลูกชาย ขอบคุณครับ และเดินออกจาก ส.น. สามคน แม่ลูกพ่อ.
ป.ล. ผมถอยสุดซอยเนื่องจากเล็งเห็นผลแล้วว่า ผมได้สอนการเรียนรู้นอกห้องเรียนจากประสบการณ์จริงให้ลูกเห็น-ปฎิบัติไปพร้อมๆกัน
ป.ล.ล. ผมบอกลูกว่า "ผู้ชนะไม่จำเป็นต้องยืนอยู่บนจุดชนะเสมอไป"
ป.ล.ล.ล. อย่างน้อย "ป้านี้" ก็น่าจะตระหนักรู้ว่า พฤติการณ์ที่ทำกับหลานมีตำรวจ-เจ้าหน้าที่1300 รับรู้ แม้จะไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร
*v*มีอัพเดต*v*
http://pantip.com/topic/34878832/comment258