ตอนนั้นผมเป็นนิสิตปี 1 ที่มหาลัยแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใน อ.องครักษ์ เรื่องของผมมีอยู่ว่า....วันนั้นเป็นวันเปิดหอหรือวันอะไรสักอย่างไม่แน่ใจเหมือนกัน มีคอนเสิร์ตซึ่งจัดอยู่ที่บริเวณลานชงโค ผมบังเอิญได้ไปเจอกับเพื่อนของแฟนเพื่อนผม เธอเป็นคนตัวเล็กๆ น่ารักๆ เรียนคณะสังคมศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกันเลย ผมก็พาเพื่อนไปหาแฟนแล้วเขาก็คุยกันสักพัก ผมก็สังเกตุและมองเธออยู่ตลอดเวลานะ รู้สึกว่าเราได้คุยกันนิดหน่อยมั้ง ซึ่งตอนนั้นผมก็รู้เลยว่าชอบเธอ อยากทำความรู้จักให้มากขึ้น จนผมกะเพื่อนกลับไปที่หอโดยก่อนกลับนั้น ผมได้ไปเดินเล่นที่งานคล้ายๆเป็นธีมงานวัด แล้วเล่นเกมส์ได้ตุ๊กตามาตัวหนึ่งเป็นตุ๊กตาตัวสีเทาๆ ผมเลยเอาไปให้เธอซึ่งไม่ได้คิดเลยว่าเวลาต่อมา " เรา" จะได้รู้จักและคุยกัน ตอนที่ผมเอาตุ๊กตาไปให้เธอ ผมก็ยื่นให้โดยไม่ได้พูดอะไร บอกเธอว่าเอาให้ เธอก็รับไปแบบงงๆ ซึ่งผมเป็นคนขี้อายมากถึงมากทีสุด ผมก็เลยรีบเดินออกมาและไม่ได้มองกลับไป ในใจตอนนั้นก็รู้สึกว่าเริ่มที่จะชอบเธอเข้าให้แล้ว เดินออกมายิ้มมีอย่างมีความสุข ^_______^ แล้วก็ไปสโมต่อในวันนั้น.........
.
.
.
วันต่อมาผมก็ยังคิดถึงเธออยู่คนตัวเล็กๆขาวๆ น่ารักๆ แต่ก็ไม่ได้พยายามที่จะทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมเลย เพราะในใจคิดว่าเธอคงจะไม่ชอบผมหรอก ผมไม่ใช่คนหล่ออะไร พ่อไม่รวย ไม่ได้มีเสน่อะไร ขี้อายด้วย ตัวเล็ก(เตี้ย)อีกต่างหาก เธอคงจะไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าเพื่อนกัน แต่อยู่ๆผมเปิดเฟสขึ้นมาก็เห็นมีคนแอดมา เธอคนนั้นแอดมา คนที่ผมแอบชอบ เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยย............ ความรู้สึกตอนนั้นคิดแค่ว่า เธอคงแอดมาเพื่อขอบคุณที่ให้ตุ๊กตาเธอไปมั้ง ผมก็รับแอดเธอถามว่า รู้จักเฟสผมได้ไง เธอก็บอกถามจากเพื่อนของผม (ซึ่งตอนนั้นผมรู้เลยทันทีว่าเพื่อนคนที่เธอขอเฟสผมนั้นชอบเธออยู่และเธอก็คงชอบเขา) แล้วเราก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ คุยกันจนดึก ตีหนึ่งตีสองทุกวัน จนผมเริ่มจะชอบเธอจริงๆจังๆ เลยกล้าที่จะเข้าหาเธอ โดยการซื้อของกินเซเว่นศูนย์แพทย์ไปให้เธอที่หน้าหอเกือบทุกๆวัน จนบอกกับตัวเองได้เลยว่า รักเธอเข้าให้แล้ว ......................แต่ทุกๆครั้งที่คุยกับเธอผมคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งก็คือเพื่อนของผมและเพื่อนของผมก็คงจะชอบเขา เลยทำให้ตัวเองไม่กล้าที่จะบอกคำนั้นไป .......
จนอยู่มาวันหนึ่งผมเริ่มที่จะเหนื่อยกับตัวเอง.......รู้สึกแต่พูดไม่ได้......เพราะเหตุผลนั้นคือ......เธอเป็นคนที่เพื่อนผมชอบและเพื่อนผมก็กำลังคุยกับเธออยู่ ........................เหตุผลนั้นเองที่ทำให้เรากลายเป็นแค่คนรู้จักกัน................
.
.
.
. จนวันนั้นก็มาถึง วันที่ผมรักเธอเข้าเต็มหัวใจ แล้ววันนั้นเอง ผมก็ได้ตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง.............
.
.
.
. .......ผมได้จบความสัมพันธ์กับเธอลง โดยผมได้ทำเป็นเหมือนผมมีปัญหาเรื่องความรักอยู่แล้วโพสต์เหมือนตัวเองกำลังคุยกับแฟนอยู่เนื้อหาก็แบบว่า ตัวเองไม่มีเวลาว่าง ไม่ค่อยได้คุยกับแฟน ถ้ามีเวลาว่างก็อยากคุยกับแฟนทั้งวัน ทั้งๆที่ตอนนั้นผมไม่มีใครเลย นอกจาก เธอ ' เธอคนเดียวในหัวใจ ' ............. และหลังจากนั้นไม่กี่นาที ก็มีสเตตัสหนึ่งเด้งขึ้น.......จากเธอคนนั้น " I'm sure isn't me " วินาทีนั้นผมแทบบ้า นี่ผมไม่รู้เลยหรอว่าเธออาจมีใจให้กับผม? นี่ผมโง่ขนาดนั้นเลยหรอ? ผมทำอะไรลงไป? คนที่ผมชอบคิดเหมือนผม? ทำไมผมไม่บอกคำนั้นกับเธอไป? ...................และอีกหลายสิบหลายร้อยคำถามถาโถมผมเข้ามา.......บอกเลยตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกเลย มันตื้อไปหมด สมองและร่างกายไม่อยากจะเคลื่อนไหวไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น.......เหมือนคนบ้าขาดสติอย่างหนัก.............แล้ว..ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ นอกจากทำให้ตัวเองลืมมม ลืมเรื่องราวของเธอคนนั้นนนนนน คนที่ผมชอบ....ผมกินเหล้า.....เมาาาาา....เมาาาา.......เมาาาาาาา.....เมาแล้วเมาอีกไม่รู้กี่วัน ..........
.
.
.
.
................หลังจากวันนั้นมาาาา....เรา ก็เริ่มที่จะห่างกัน ออกไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ......................................................................................
......
.
.
.
.
.
.
.
.
จนเกือบจะกลายเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันเลยยย......นี่ผมทำอะไรลงไป ทำไมผมไม่กล้าที่จะพูดคำนั้น........และหลังจากนั้นเธอก็ได้ย้ายเข้าไปเรียนในกรุงเทพ ซึ่งที่มหาลัยแห่งนี้ปี 1 หลายๆคณะจะได้มาเรียนที่องครักษ์ แล้วย้ายเข้าไปเรียนที่กทม.แถวๆอโศก แต่คณะของผมได้เรียนที่นี่ 3 ปี ปี 4 ถึงจะได้ย้ายเข้าไป...
.
.
.
.
.จนมาถึงวันนี้ผมอยู่ปีสามแล้ว ผมก็ติดตามเธอมาตลอดรู้ว่าเธอยังคงน่ารักเสมอและเอาใจช่วยเธออยู่ห่างๆในเวลที่เธอเหงา เศร้า ทุกข์และยินดีกับเธอเวลาที่เธอมีความสุข แม้แต่ตอนที่เธอมีแฟนแล้ว ผมก็ยังห่วงว่าเขาจะรักเธอหรือป่าว? เขาจะทำเพื่อเธอได้ขนาดไหน? เขาจะดูแลเธอดีไหม?........แต่ผมก็ทำได้แค่มองดูเธออย่างนั้น ซึ่งเราก็ไม่เชิงเป็นคนไม่รู้จักกันไปซะทีเดียว เพราะบางครั้งที่คิดถึงเธอ ผมก็ยังทักทายเธอ ถามข่าวคราว สบายดีไหม? งานเยอะไหม? ตามประสา " เพื่อน" ในมหาลัยเดียวกัน ...... ทำได้แค่นั้นเอง ทำได้แค่นั้นจริงๆ.........
.
.
.
ผมก็พยายามที่จะลืมเธอนะ โดยการคุยกะคนอื่นๆบ้าง แต่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆสักที .........อาจเป็นเพราะคงจะไม่ใช่คนที่ 'มีดี' รูปก็ไม่หล่อ พ่อก็ไม่รวย เหมือนที่พูดในตอนแรก เลยไม่มีแฟน และอาจเพราะยังคงคิดถึงและมีหวังว่าสักวันคงได้คุยกับเธอใหม่ ........ แต่มันก็ไม่มีวันนั้นสักที...........
.
.
.
.
อยู่มาวันหนึ่ง .... เธอเลิกกับแฟน ผมก็ไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้น ก็ยังเป็นห่วงเธอเหมือนเดิม และอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ..............และเหมือนบางครั้งผมก็เคยที่จะพยายามคุยกับเธอให้มากขึ้น พยายามยิงคำถามให้เยอะ ให้เราได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อนกลับไปเป็นเหมือนเดิม....แต่เธอก็มีท่าทีว่าไม่ได้สนใจอะไรผม และเธออาจคิดว่า 'เพื่อน' คง เป็นสถานะที่เหมาะสมกับเราสองคนที่สุด................
.
.
.
.
.
และผมเพิ่งคิดได้ว่า ถ้าวันนั้นผมกล้าที่จะบอกคำนั้นกับเธอไปสถานะและความสัมพันธ์ของผมและเธอคงจะข้ามเส้นของคำว่าเพื่อนไปแล้ว.......
.
.
.
.
.
.
และปัจจุบัน ถ้าผมขอพรอะไรสักอย่างได้ ผมคงจะขอโอกาสให้ผมได้แก้ตัวอีกสักครั้ง แค่ครั้งเดียว ผมมั่นใจว่าผมจะสามารถดูแลเธอได้ มั่นใจว่า เธอคือคนที่ใช่และเธอคือคนที่ผมตามหา คือหัวใจที่ขาดหายไปอีกครึ่งนึง คือครึ่งชีวิตที่หายไป .................ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ผมจะไม่ปล่อยโอกาสนั้นหลุดลอยไปอีก...........................
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แต่ก็มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว......ผมคงทำได้แค่เหมือนเดิม คอยกดไลค์และติดตามเธออยู่ห่างๆ คอยดูเธออยู่ห่าง คอยส่งกำลังใจให้เธอโดยที่เธอไม่รู้ เป็นกำลังใจให้ในตอนที่เธอยังไม่มีใคร...................................
- ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมคงไม่ปล่อยเธอไป -
.
.
.
วันต่อมาผมก็ยังคิดถึงเธออยู่คนตัวเล็กๆขาวๆ น่ารักๆ แต่ก็ไม่ได้พยายามที่จะทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมเลย เพราะในใจคิดว่าเธอคงจะไม่ชอบผมหรอก ผมไม่ใช่คนหล่ออะไร พ่อไม่รวย ไม่ได้มีเสน่อะไร ขี้อายด้วย ตัวเล็ก(เตี้ย)อีกต่างหาก เธอคงจะไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าเพื่อนกัน แต่อยู่ๆผมเปิดเฟสขึ้นมาก็เห็นมีคนแอดมา เธอคนนั้นแอดมา คนที่ผมแอบชอบ เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยย............ ความรู้สึกตอนนั้นคิดแค่ว่า เธอคงแอดมาเพื่อขอบคุณที่ให้ตุ๊กตาเธอไปมั้ง ผมก็รับแอดเธอถามว่า รู้จักเฟสผมได้ไง เธอก็บอกถามจากเพื่อนของผม (ซึ่งตอนนั้นผมรู้เลยทันทีว่าเพื่อนคนที่เธอขอเฟสผมนั้นชอบเธออยู่และเธอก็คงชอบเขา) แล้วเราก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ คุยกันจนดึก ตีหนึ่งตีสองทุกวัน จนผมเริ่มจะชอบเธอจริงๆจังๆ เลยกล้าที่จะเข้าหาเธอ โดยการซื้อของกินเซเว่นศูนย์แพทย์ไปให้เธอที่หน้าหอเกือบทุกๆวัน จนบอกกับตัวเองได้เลยว่า รักเธอเข้าให้แล้ว ......................แต่ทุกๆครั้งที่คุยกับเธอผมคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งก็คือเพื่อนของผมและเพื่อนของผมก็คงจะชอบเขา เลยทำให้ตัวเองไม่กล้าที่จะบอกคำนั้นไป .......
จนอยู่มาวันหนึ่งผมเริ่มที่จะเหนื่อยกับตัวเอง.......รู้สึกแต่พูดไม่ได้......เพราะเหตุผลนั้นคือ......เธอเป็นคนที่เพื่อนผมชอบและเพื่อนผมก็กำลังคุยกับเธออยู่ ........................เหตุผลนั้นเองที่ทำให้เรากลายเป็นแค่คนรู้จักกัน................
.
.
.
. จนวันนั้นก็มาถึง วันที่ผมรักเธอเข้าเต็มหัวใจ แล้ววันนั้นเอง ผมก็ได้ตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง.............
.
.
.
. .......ผมได้จบความสัมพันธ์กับเธอลง โดยผมได้ทำเป็นเหมือนผมมีปัญหาเรื่องความรักอยู่แล้วโพสต์เหมือนตัวเองกำลังคุยกับแฟนอยู่เนื้อหาก็แบบว่า ตัวเองไม่มีเวลาว่าง ไม่ค่อยได้คุยกับแฟน ถ้ามีเวลาว่างก็อยากคุยกับแฟนทั้งวัน ทั้งๆที่ตอนนั้นผมไม่มีใครเลย นอกจาก เธอ ' เธอคนเดียวในหัวใจ ' ............. และหลังจากนั้นไม่กี่นาที ก็มีสเตตัสหนึ่งเด้งขึ้น.......จากเธอคนนั้น " I'm sure isn't me " วินาทีนั้นผมแทบบ้า นี่ผมไม่รู้เลยหรอว่าเธออาจมีใจให้กับผม? นี่ผมโง่ขนาดนั้นเลยหรอ? ผมทำอะไรลงไป? คนที่ผมชอบคิดเหมือนผม? ทำไมผมไม่บอกคำนั้นกับเธอไป? ...................และอีกหลายสิบหลายร้อยคำถามถาโถมผมเข้ามา.......บอกเลยตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกเลย มันตื้อไปหมด สมองและร่างกายไม่อยากจะเคลื่อนไหวไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น.......เหมือนคนบ้าขาดสติอย่างหนัก.............แล้ว..ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ นอกจากทำให้ตัวเองลืมมม ลืมเรื่องราวของเธอคนนั้นนนนนน คนที่ผมชอบ....ผมกินเหล้า.....เมาาาาา....เมาาาา.......เมาาาาาาา.....เมาแล้วเมาอีกไม่รู้กี่วัน ..........
.
.
.
.
................หลังจากวันนั้นมาาาา....เรา ก็เริ่มที่จะห่างกัน ออกไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ......................................................................................
......
.
.
.
.
.
.
.
.
จนเกือบจะกลายเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันเลยยย......นี่ผมทำอะไรลงไป ทำไมผมไม่กล้าที่จะพูดคำนั้น........และหลังจากนั้นเธอก็ได้ย้ายเข้าไปเรียนในกรุงเทพ ซึ่งที่มหาลัยแห่งนี้ปี 1 หลายๆคณะจะได้มาเรียนที่องครักษ์ แล้วย้ายเข้าไปเรียนที่กทม.แถวๆอโศก แต่คณะของผมได้เรียนที่นี่ 3 ปี ปี 4 ถึงจะได้ย้ายเข้าไป...
.
.
.
.
.จนมาถึงวันนี้ผมอยู่ปีสามแล้ว ผมก็ติดตามเธอมาตลอดรู้ว่าเธอยังคงน่ารักเสมอและเอาใจช่วยเธออยู่ห่างๆในเวลที่เธอเหงา เศร้า ทุกข์และยินดีกับเธอเวลาที่เธอมีความสุข แม้แต่ตอนที่เธอมีแฟนแล้ว ผมก็ยังห่วงว่าเขาจะรักเธอหรือป่าว? เขาจะทำเพื่อเธอได้ขนาดไหน? เขาจะดูแลเธอดีไหม?........แต่ผมก็ทำได้แค่มองดูเธออย่างนั้น ซึ่งเราก็ไม่เชิงเป็นคนไม่รู้จักกันไปซะทีเดียว เพราะบางครั้งที่คิดถึงเธอ ผมก็ยังทักทายเธอ ถามข่าวคราว สบายดีไหม? งานเยอะไหม? ตามประสา " เพื่อน" ในมหาลัยเดียวกัน ...... ทำได้แค่นั้นเอง ทำได้แค่นั้นจริงๆ.........
.
.
.
ผมก็พยายามที่จะลืมเธอนะ โดยการคุยกะคนอื่นๆบ้าง แต่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆสักที .........อาจเป็นเพราะคงจะไม่ใช่คนที่ 'มีดี' รูปก็ไม่หล่อ พ่อก็ไม่รวย เหมือนที่พูดในตอนแรก เลยไม่มีแฟน และอาจเพราะยังคงคิดถึงและมีหวังว่าสักวันคงได้คุยกับเธอใหม่ ........ แต่มันก็ไม่มีวันนั้นสักที...........
.
.
.
.
อยู่มาวันหนึ่ง .... เธอเลิกกับแฟน ผมก็ไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้น ก็ยังเป็นห่วงเธอเหมือนเดิม และอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ..............และเหมือนบางครั้งผมก็เคยที่จะพยายามคุยกับเธอให้มากขึ้น พยายามยิงคำถามให้เยอะ ให้เราได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อนกลับไปเป็นเหมือนเดิม....แต่เธอก็มีท่าทีว่าไม่ได้สนใจอะไรผม และเธออาจคิดว่า 'เพื่อน' คง เป็นสถานะที่เหมาะสมกับเราสองคนที่สุด................
.
.
.
.
.
และผมเพิ่งคิดได้ว่า ถ้าวันนั้นผมกล้าที่จะบอกคำนั้นกับเธอไปสถานะและความสัมพันธ์ของผมและเธอคงจะข้ามเส้นของคำว่าเพื่อนไปแล้ว.......
.
.
.
.
.
.
และปัจจุบัน ถ้าผมขอพรอะไรสักอย่างได้ ผมคงจะขอโอกาสให้ผมได้แก้ตัวอีกสักครั้ง แค่ครั้งเดียว ผมมั่นใจว่าผมจะสามารถดูแลเธอได้ มั่นใจว่า เธอคือคนที่ใช่และเธอคือคนที่ผมตามหา คือหัวใจที่ขาดหายไปอีกครึ่งนึง คือครึ่งชีวิตที่หายไป .................ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ผมจะไม่ปล่อยโอกาสนั้นหลุดลอยไปอีก...........................
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แต่ก็มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว......ผมคงทำได้แค่เหมือนเดิม คอยกดไลค์และติดตามเธออยู่ห่างๆ คอยดูเธออยู่ห่าง คอยส่งกำลังใจให้เธอโดยที่เธอไม่รู้ เป็นกำลังใจให้ในตอนที่เธอยังไม่มีใคร...................................