กระทู้นี้อาจจะดูเป็นกระทู้เพ้อๆนะคะ แต่เราเครียดจริงๆ เริ่มเข้าเรื่องเลยละกันเนอะ
คือเมื่อเทอมที่แล้วได้เรียนกับอาจารย์คนนึงค่ะ เค้าเป็นรุ่นพี่ อายุห่างกับเรา 5 ปี พึ่งเข้ามาสอนเทอมแรก ตอนนั้นที่เจอครั้งแรกก็ยังไม่ได้คิดอะไร พอเริ่มได้เจอกันบ่อยๆ ก็เริ่มแอบปลื้ม รู้ว่าผิดค่ะ แต่มันเผลอไปแล้ว และตอนแรกก็คิดว่าแค่ปลื้มก็เลยปล่อยเลยตามเลยเดี๋ยวก็เลิกปลื้มไปเอง แต่ไม่ใช่เลยค่ะ พอได้เจอกันเกือบทุกวันประกอบกับหลายๆสถานการณ์ทำให้เราคิดเกินเลย จนกลายเป็นชอบมากขึ้นเรื่อยๆ....
เหตุการณ์ครั้งแรกเท่าที่จำได้คือ ตอนที่เรียนแล้วอาจารย์เดินเข้ามาคุยเล่นด้วยบ่อยๆ คอยช่วยงานบ่อยๆ เราเรียนคอมค่ะ เวลาที่อาจารย์เข้ามาแก้งานให้ใกล้ๆ เราก็รู้เลยว่าตัวเองเริ่มไม่ปกติแล้วจริงๆ และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้เราใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้นด้วยค่ะ พอผ่านมาซักระยะนึงจนถึงตอนสอบเก็บคะแนนอาจารย์ทำให้เราคิดไปไกลมากก็ตอนที่ทำข้อสอบใน LAB อาจารย์เดินเข้ามาถามว่า ทำได้มั้ย ทำไมทำนานจัง ตอนนั้นก็กำลังวุ่นวายกับการแก้งานเลยยังไม่โฟกัสอะไร แต่เค้าก็เริ่มมาแก้งานให้ และเรียกอาจารย์คนอื่นมาช่วยอีก ถึงเราจะออกจากห้องสอบคนสุดท้าย แต่ก็ได้คะแนนเพิ่มขึ้นเพราะอาจารย์ช่วย แค่เท่าที่เราแอบคิดไปเองก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่พอเดินออกจากห้องเพื่อนมันดันแซวกันอีกประมาณว่า "เห้ย! คนพิเศษนี่หว่า อาจารย์เลือกปฏิบัติว่ะ" แล้วก็ขำเฮฮากัน แต่เรานี่ขำไม่ออกเลย มันคิดไปไกลยันดาวอังคาร แต่ก็เข้าใจได้อีกค่ะว่า อาจารย์ก็คงไม่ได้คิดอะไรหรอก มีแต่เรานี่แหละที่เพ้อเจ้อ
อีกครั้งนึงก็ตอนพรีเซ้นงาน เพื่อนก็แซวอีกว่าตอนที่เราเป็นคนพรีเซ้นอาจารย์ก็หลุดยิ้ม ไม่รู้ว่าเราไปทำตัวฮาอะไรตอนไหนหรือป่าว หรือเพื่อนมันแค่อยากจะชงกันเล่นๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะเรามันก็พร้อมจะคิดไปไกลอยู่แล้ว พอเจอแบบนี้เท่านั้นแหละก็ยิ่งทำให้เราคิดไกลยันดาวพลูโตอีกรอบ
จนเหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้เพ้อหนักมาก และอยากบอกตัวเองว่าควรหยุดไม่ให้คิดไปไกลมากกว่านี้ คือตอนช่วงวันวาเลนไทน์ ก่อนหน้าวันวาเลนไทน์วันนึง วันนั้นเรากำลังวุ่นวายกับการเรียนอยู่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วอยู่ๆ อาจารย์ก็เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วแอบส่งช็อคโกแลตให้ แล้วก็ยิ้ม แต่ช็อคโกแลตไม่ใช่ของอาจารย์หรอกค่ะ เราก็รู้อยู่ว่าเป็นของคนอื่น แต่ประเด็นสำคัญคือฝากอาจารย์มาให้ แล้วอาจารย์คนนั้นดันเป็นคนที่เราพยายามจะไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้ว แต่เหตุการณ์นี้มันกลับทำให้เรารู้สึกหนักกว่าเดิม เพราะสิ่งที่อาจารย์ทำคือ ส่งขนมให้ แล้วยิ้ม ทีแรกก็ดันไม่ไม่พูดอะไรอีก จนเราอึ้งหนักมาก ถึงได้บอกว่า มีคนฝากมาให้ เราแทบไม่ได้ยินตรงที่อาจารย์บอกว่ามีคนฝากมาให้เลยค่ะ เราแค่รู้สึกว่า อาจารย์กล้ารับฝากด้วยหรอ? เพื่อนก็คิดกันว่าถ้าเป็นอาจารย์คนอื่นจะรับฝากมาแบบนี้หรือป่าว? เพราะมันไม่น่าจะสมควรนะ? อีกอย่างตอนที่ส่งมาให้ทำต้องทำหน้าตาท่าทางเหมือนว่าเป็นของตัวเองเหมือจจะแกล้งเราเหมือนรู้ว่าเรารู้สึกอะไร? นี่เราชอบเค้ามากไปจนจับทุกอาการของเค้าไปคิดเองเออเองมากเกินไปหรือป่าว?
และตอนนี้ก็ผ่านมาระยะนึง เราไม่อยากจะคิดค่ะว่าอาจารย์ก็คิดอะไรกับเราหรือป่าว แต่ตอนนี้เรากำลังโฟกัสที่ตัวเอง พยายามเลี่ยงไม่ให้เจอ พยายามไม่มองหา พยายามไม่รู้สึก แต่มันก็ลำบากมากค่ะเพราะต้องเจอกันในห้องเรียนเกือบตลอด และมันก็ขัดกับความรู้สึกมาก เพราะเวลาที่ไม่ได้เจอก็จะรู้สึกอยากมองหา คิดวนเวียน จนไม่มีสมาธิ มันเป็นปัญหามากๆค่ะ เพราะในใจก็คิดได้อยู่แล้วว่ามันผิด และไม่ควรคิดแบบนี้กับอาจารย์
สิ่งที่อยากทราบคือ......
ควรทำยังไงต่อไปดีคะ?
ที่หนีและหลีกเลี่ยงแบบนี้ถูกต้องแล้วใช่มั้ยคะ?
อีกปีนึงก็จะจบแล้วถึงวันนั้นแล้วควรบอกไปมั้ยคะว่าเรารู้สึกยังไง?
ถ้าบอกได้ ควรพูดยังไงไม่ให้น่าเกลียดดีคะ?
หรือไม่ควรบอกเลยดีกว่า?
เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้เครียดกับความรู้สึกผิดๆของตัวเองมากๆ
รู้ว่าไม่สมควร แต่ชอบไปแล้วทำยังไงดีคะ
คือเมื่อเทอมที่แล้วได้เรียนกับอาจารย์คนนึงค่ะ เค้าเป็นรุ่นพี่ อายุห่างกับเรา 5 ปี พึ่งเข้ามาสอนเทอมแรก ตอนนั้นที่เจอครั้งแรกก็ยังไม่ได้คิดอะไร พอเริ่มได้เจอกันบ่อยๆ ก็เริ่มแอบปลื้ม รู้ว่าผิดค่ะ แต่มันเผลอไปแล้ว และตอนแรกก็คิดว่าแค่ปลื้มก็เลยปล่อยเลยตามเลยเดี๋ยวก็เลิกปลื้มไปเอง แต่ไม่ใช่เลยค่ะ พอได้เจอกันเกือบทุกวันประกอบกับหลายๆสถานการณ์ทำให้เราคิดเกินเลย จนกลายเป็นชอบมากขึ้นเรื่อยๆ....
เหตุการณ์ครั้งแรกเท่าที่จำได้คือ ตอนที่เรียนแล้วอาจารย์เดินเข้ามาคุยเล่นด้วยบ่อยๆ คอยช่วยงานบ่อยๆ เราเรียนคอมค่ะ เวลาที่อาจารย์เข้ามาแก้งานให้ใกล้ๆ เราก็รู้เลยว่าตัวเองเริ่มไม่ปกติแล้วจริงๆ และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้เราใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้นด้วยค่ะ พอผ่านมาซักระยะนึงจนถึงตอนสอบเก็บคะแนนอาจารย์ทำให้เราคิดไปไกลมากก็ตอนที่ทำข้อสอบใน LAB อาจารย์เดินเข้ามาถามว่า ทำได้มั้ย ทำไมทำนานจัง ตอนนั้นก็กำลังวุ่นวายกับการแก้งานเลยยังไม่โฟกัสอะไร แต่เค้าก็เริ่มมาแก้งานให้ และเรียกอาจารย์คนอื่นมาช่วยอีก ถึงเราจะออกจากห้องสอบคนสุดท้าย แต่ก็ได้คะแนนเพิ่มขึ้นเพราะอาจารย์ช่วย แค่เท่าที่เราแอบคิดไปเองก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่พอเดินออกจากห้องเพื่อนมันดันแซวกันอีกประมาณว่า "เห้ย! คนพิเศษนี่หว่า อาจารย์เลือกปฏิบัติว่ะ" แล้วก็ขำเฮฮากัน แต่เรานี่ขำไม่ออกเลย มันคิดไปไกลยันดาวอังคาร แต่ก็เข้าใจได้อีกค่ะว่า อาจารย์ก็คงไม่ได้คิดอะไรหรอก มีแต่เรานี่แหละที่เพ้อเจ้อ
อีกครั้งนึงก็ตอนพรีเซ้นงาน เพื่อนก็แซวอีกว่าตอนที่เราเป็นคนพรีเซ้นอาจารย์ก็หลุดยิ้ม ไม่รู้ว่าเราไปทำตัวฮาอะไรตอนไหนหรือป่าว หรือเพื่อนมันแค่อยากจะชงกันเล่นๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะเรามันก็พร้อมจะคิดไปไกลอยู่แล้ว พอเจอแบบนี้เท่านั้นแหละก็ยิ่งทำให้เราคิดไกลยันดาวพลูโตอีกรอบ
จนเหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้เพ้อหนักมาก และอยากบอกตัวเองว่าควรหยุดไม่ให้คิดไปไกลมากกว่านี้ คือตอนช่วงวันวาเลนไทน์ ก่อนหน้าวันวาเลนไทน์วันนึง วันนั้นเรากำลังวุ่นวายกับการเรียนอยู่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วอยู่ๆ อาจารย์ก็เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วแอบส่งช็อคโกแลตให้ แล้วก็ยิ้ม แต่ช็อคโกแลตไม่ใช่ของอาจารย์หรอกค่ะ เราก็รู้อยู่ว่าเป็นของคนอื่น แต่ประเด็นสำคัญคือฝากอาจารย์มาให้ แล้วอาจารย์คนนั้นดันเป็นคนที่เราพยายามจะไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้ว แต่เหตุการณ์นี้มันกลับทำให้เรารู้สึกหนักกว่าเดิม เพราะสิ่งที่อาจารย์ทำคือ ส่งขนมให้ แล้วยิ้ม ทีแรกก็ดันไม่ไม่พูดอะไรอีก จนเราอึ้งหนักมาก ถึงได้บอกว่า มีคนฝากมาให้ เราแทบไม่ได้ยินตรงที่อาจารย์บอกว่ามีคนฝากมาให้เลยค่ะ เราแค่รู้สึกว่า อาจารย์กล้ารับฝากด้วยหรอ? เพื่อนก็คิดกันว่าถ้าเป็นอาจารย์คนอื่นจะรับฝากมาแบบนี้หรือป่าว? เพราะมันไม่น่าจะสมควรนะ? อีกอย่างตอนที่ส่งมาให้ทำต้องทำหน้าตาท่าทางเหมือนว่าเป็นของตัวเองเหมือจจะแกล้งเราเหมือนรู้ว่าเรารู้สึกอะไร? นี่เราชอบเค้ามากไปจนจับทุกอาการของเค้าไปคิดเองเออเองมากเกินไปหรือป่าว?
และตอนนี้ก็ผ่านมาระยะนึง เราไม่อยากจะคิดค่ะว่าอาจารย์ก็คิดอะไรกับเราหรือป่าว แต่ตอนนี้เรากำลังโฟกัสที่ตัวเอง พยายามเลี่ยงไม่ให้เจอ พยายามไม่มองหา พยายามไม่รู้สึก แต่มันก็ลำบากมากค่ะเพราะต้องเจอกันในห้องเรียนเกือบตลอด และมันก็ขัดกับความรู้สึกมาก เพราะเวลาที่ไม่ได้เจอก็จะรู้สึกอยากมองหา คิดวนเวียน จนไม่มีสมาธิ มันเป็นปัญหามากๆค่ะ เพราะในใจก็คิดได้อยู่แล้วว่ามันผิด และไม่ควรคิดแบบนี้กับอาจารย์
สิ่งที่อยากทราบคือ......
ควรทำยังไงต่อไปดีคะ?
ที่หนีและหลีกเลี่ยงแบบนี้ถูกต้องแล้วใช่มั้ยคะ?
อีกปีนึงก็จะจบแล้วถึงวันนั้นแล้วควรบอกไปมั้ยคะว่าเรารู้สึกยังไง?
ถ้าบอกได้ ควรพูดยังไงไม่ให้น่าเกลียดดีคะ?
หรือไม่ควรบอกเลยดีกว่า?
เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้เครียดกับความรู้สึกผิดๆของตัวเองมากๆ