ขอบคุณที่ทำให้กระทู้ผมได้เป็นกระทู้แนะนำนะครับ 555 ไม่น่าเลย ฮือ ๆ

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกความเห็นในกระทู้แรกของผมนะครับ

อ่านทุกความเห็น แต่ไม่ได้ตอบทั้งหมด เพราะคิดไม่ถึงว่า เนื้อหาที่ยังไม่ได้พูดถึงศาสนา เพียงแค่มีคำว่า “วัดพระธรรมกาย” จะกลายมาเป็นกระทู้แนะนำได้จริง ๆ (ตอบไม่ไหว เรียกแขกมากมายเหลือเกิน 555)

ตอนเห็นคอมเม้นต์แรกปรากฏขึ้นมา ผมตื่นเต้นนะ จริง ๆ

จนมาถึงตอนนี้ผมตกใจ รู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นสาเหตุให้หลายท่านมาตะลุมบอนกันยังไงไม่รู้สิ (แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เกินจากที่คาดไปมากครับ)

ห้องศาสนา ไหงมีบรรยากาศคล้ายห้องราชดำเนินไปได้ 555

10 กว่าปีที่ผ่านมา ผมสิงอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงแทบไม่ได้เข้ามาห้องนี้ ล็อคอินใครเป็นใคร ไม่เคยรู้อะไรเลย  

จึงประเมินสถานการณ์ผิดไป ไม่นึกว่ามันจะดุเด็ดเผ็ดมันได้ขนาดนี้ จนกระทั่งเมื่อวาน

ครับ...ผมเริ่มไม่มีความสุข (แต่สนุกที่ได้พิมพ์ตอบทุกคนนะครับ)

ปกติมีเวลาว่างได้อ่านหนังสือ ก็อดอ่าน เอาเวลามาคุยกับท่านที่คอมเม้นต์

นอน 4 ทุ่มเศษ ๆ กลายมาเป็นเกือบเที่ยงคืน

นั่งสมาธิยังเคยนิ่ง ๆ บ้าง ก็มาฟุ้งซ่านซะงั้น

ที่เคยตื่นมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ก็มากะปลกกะเปลี้ยเพลียแรงชอบกล

ที่เจ็บใจคือบรรดาเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่ผลัดกันแวะเวียนมาให้กำลังใจ ด้วยการหัวเราะใส่ตอนที่ผมมึน ๆ กับแขกในกระทู้ตัวเอง (เจองูกับเจอแขกให้ตีแขกก่อน ท่าจะจริง 555)

เป็นผองเพื่อนที่อำมหิตซาดิสม์ สุด ๆ ที่อาศัยความทุกข์ของผมไปเป็นอาหารของพวกมัน

จึงคิดว่าพอดีกว่า เอาความสุขของเรากลับคืนมาเถอะ

คือผมไม่ได้ตั้งใจจะมาคอยตามตอบเรื่องคลิป คำสอนภาคโปรด-ภาคปราบ เครื่องประดับในสวรรค์ หรือเอาพระไตรปิฎกมาอ้างกันหรอกครับ  

ผมไม่เก่งขนาดนั้น (ท่านที่ต้องการคำอธิบายพวกนั้นก็ผ่านกระทู้ผมไปนะครับ)

ผมก็แค่อยากจะคุยกับคนอื่นแบบเพื่อน เพราะความเป็นเพื่อนมันทำให้เรายอมรับกัน และไม่รู้สึกอินังขังขอบอะไร ถ้าเพื่อนเรามันจะมีอะไรที่ต่างไปจากเราบ้าง

แต่ผมดีใจมากครับ ที่เห็นทุกท่านกระตือรือร้นสนใจในพระพุทธศาสนา มีคนแบบนี้มาก ๆ ก็น่าจะดี

เข้าเรื่องที่อยากแลกเปลี่ยนดีกว่าครับ

ตอนเด็ก ๆ ผมไม่เคยสงสัยว่าทำไมถึงต้องเป็นพุทธ แต่เมื่อโตมาผมตั้งคำถาม และพอใจกับคำตอบของตัวเองที่ว่า “เพราะผมได้ประโยชน์จากพระพุทธศาสนาจริง ๆ”  

ผมรู้สึกได้ว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีความสุขกับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น ไม่เป็นปัญหาและมีพิษมีภัยกับใคร

คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งดี ทั้งฟรี มีให้หยิบใช้ เวลาอ่านไปเจอตรงที่ผมสนใจ ผมขบคิด พิจารณา

ไม่ถึงขนาดว่าจะให้รู้แจ้งอะไรหรอกครับ ก็แค่คิดว่า จะหาประโยชน์จากตรงนั้นอย่างไร บางอย่างหลวงพ่อหลวงพี่บอกให้ บางอย่างผมก็เทียบเคียงเอาเท่าที่ปัญญาเราจะมี

จากนั้นก็สรุปมาเป็นวิธีปฏิบัติให้กับตัวเอง (คนอื่นอย่างไรผมไม่รู้)

ยกตัวอย่างสักนิดนะครับ เอาที่ผมชอบ เพราะมันตรงกับปัญหาของผม (แลกเปลี่ยนกันนะครับ)

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ชนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ” ผมชอบ อยากให้ตัวเองเป็นคนอารมณ์ดี โกรธยาก ๆ ได้บ้าง (ไอ้คนโกรธคนแรกที่ต้องเอาชนะก่อนก็ผมนี่ละครับ)

ผมก็คิดว่า ความไม่โกรธสร้างขึ้นมาได้อย่างไร สมัยหนุ่ม ๆ ผมเป็นคนใจร้อนครับ

เริ่มต้นจากแผ่เมตตา ผมก็หาวิธีว่าต้องทำอย่างไร

ตอนแรกฝึกคิดก่อนว่าทุกคนเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วทำใจให้มีความปรารถนาดีต่อทุกคน เหมือนเป็นญาติกัน

ผมก็ลองทำ แผ่มันทุกวันก่อนนอน (ลองทำทั้งวันอารมณ์มันไม่ได้ครับ)

ผลที่ได้ ผมว่าใจเย็นขึ้นนะ แต่ก็ได้เป็นบางคราว

ยิ่งช่วงมีงานเร่ง ๆ หนัก ๆ ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ยังมีหงุดหงิดใส่เขาอยู่ (หลายครั้งที่นึกเสียใจในภายหลัง แค่เพราะเขาอยู่ในฐานะที่ต้องฟังผม ก็ใช่ว่าผมจะมีสิทธิ์หงุดหงิดแบบไร้เหตุผลได้)

ก็รู้นะครับว่าต้องควบคุมใจ แต่บางทีมันห้ามไม่ได้จริง ๆ

สมแล้วที่เขาว่า ความโกรธมันเหมือนระเบิด ที่ทำลายตัวเองก่อน แล้วจึงไปทำลายสิ่งรอบตัว

เวลาผมอารมณ์ไม่ดี ผีก็สังเกตเห็นครับ 555 น้องที่เคยคุยเล่นก็เงียบกริบ ใครเผ่นชิ่งไปก่อนได้ก็รีบหายหัวไปเลย

ทำไปทำมาก็มาลงตรงที่ต้องนั่งสมาธิฝึกใจทุกวัน นั่งให้นาน จนใจคุ้นกับความสงบ (ดูมันก็เบสิก ผมโง่ ก็คิดนานหน่อย)

จากนั้นเวลาเห็นประโยคว่า “ชนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ” ผมเห็นภาพการนั่งสมาธิลอยมาครับ (แผ่เมตตาก็ยังทำอยู่)

สมองผมมันชอบคิดแบบนี้

จากนั้นก็ขยันนั่งไป

บางอย่างพระองค์สอนตรงตัวเลย ผมก็สบาย เช่น (เอาเท่าที่จำได้นะครับ ไม่ใช่คำเป๊ะ ๆ ในพระไตรปิฎก...ขอเพลย์เซฟไว้ก่อน 555 เดี๋ยวโดนสแกนทีละคำอีก...ผมกลัว)

การได้เกิดในตระกูลดี มีฐานะ รูปร่างหน้าตาดี เป็นเศรษฐี ไปจนถึงการได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า สำเร็จได้ด้วยบุญทั้งนั้น

ของชอบผมทั้งนั้นเลยครับ หวานคอแร้ง

ก็เอาเลยครับว่าบุญต้องทำอย่างไร จะสำเร็จเมื่อไหร่ไม่รู้ ทำบุญไปก่อน (หมายถึงหาทาง หาโอกาสลงมือทำจริง ๆ นะครับ)

ท่านบอกทำบุญได้ 3 ทาง คือ

ทำทาน...ให้ครับ ยิ่งให้ในสงฆ์ได้ยิ่งดี ดีกว่าการสงเคราะห์โลก แต่คนลำบากในโลกเราก็ต้องช่วยเหลือนะครับ

รักษาศีล...จะ 5 หรือ 8 ก็เอา ตามสะดวก

ภาวนา ก็นั่งสมาธิครับ

จากนั้นก็ลุยเลยครับ ทำมันทุกวัน (ลืมบ้าง แต่น้อยมาก)

ทำทาน ตอนเช้าถ้าไม่ได้ใส่บาตรก็หยอดกระปุกเอา ไปวัดเมื่อไหร่ก็ค่อยไปทำรวดเดียว

ผมหยอดได้วันละร้อยครับ (ยิ่งไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืนนี่ เงินเหลือทำสบาย)

อย่างแม่ผมอยู่ด้วยเงินบำนาญของพ่อ ก็ยังหยอดวันละ 20 บาทได้ทุกวัน

รักษาศีล ศีล 5 หมูมากครับ (เพิ่งมาพูดได้ตอนหลัง ๆ นี่แหละ) สมัยอยู่มหาวิทยาลัยทำไม่ค่อยครบ ได้เพื่อนดีครับ 555

นั่งสมาธิ อย่างน้อยก็วันละ 1 ชั่วโมง ทำเรื่อยไป

ขนาดแม่ผม 70 กว่า เข่าไม่ดี ยังนั่ง (เก้าอี้) ได้วันละเป็นชั่วโมงเหมือนกัน ขืนผมทำไม่ได้แม่ล้อตายเลย อายครับ 555

พอทำนาน ๆ มันก็ติดเป็นนิสัย (กว่าจะได้ก็นานนะครับ) จากยากก็มาง่าย ตอนนี้เป็นธรรมชาติไปแล้วครับ

ไม่ได้จะอวดว่าตัวดีนะครับ (ยังห่างไกล) แค่แลกเปลี่ยนว่าผมศึกษาธรรมะเพื่อประโยชน์ตัวอย่างนี้

ผมถึงชอบพุทธศาสนา เพราะมีประโยชน์ให้ผมคว้าฟรี ๆ เยอะเลย

มาคุยในห้องศาสนา ผมก็อยากแลกเปลี่ยนนะครับ ว่าแต่ละท่านศึกษาเรียนรู้และทำกันอย่างไร

สมัยผมเด็ก ๆ ปู่ย่าตายายเขาทำบุญกันจริงจังนะครับ สวดมนต์กันนี่เป็นชั่วโมง ๆ ผิดกับคนสมัยนี้ที่ดูจะห่างกันไปหน่อย

ผมชอบที่พระพุทธเจ้าตรัสทำนองว่า คนจะดีจะเลว ไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิด ฐานะ หรือว่าอะไร แต่อยู่ที่การกระทำว่าดีหรือเลวต่างหาก

ทำให้ศาสนานี้ “เป็นศาสนาของการลงมือปฏิบัติครับ”

ยิ่งพระองค์บอกว่า “คนไหนรู้คำสอนแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตาม ก็ไม่ได้ประโยชน์

เหมือนคนรับจ้างเลี้ยงวัว ก็ได้แต่เลี้ยงวัวไป แต่ไม่ได้ประโยชน์จากน้ำนมวัวที่ตัวเลี้ยง” ภาพก็ยิ่งชัดเข้าไปอีก

เคยนึกสนุกว่าน่าไปอำคนรู้จักเล่นสักที แต่ยังไม่มีโอกาส ทำนองว่า...

A : เฮ้ย น้อง เอ็งเชื่อที่พระพุทธเจ้าสอนมั้ยวะ

B : เชื่อครับพี่ (ใครตอบแบบนี้ก็เข้าทาง)

จากนั้นก็ไล่เลยครับ เคยตื่นมาใส่บาตรมั้ย ? ไปทำบุญวัดใกล้บ้านบ่อยหรือเปล่า ? อะไรทำนองนี้

ศีล 5 ล่ะ ครบไหม ? (ไม่ต้องถึง 8 ละครับ แค่ 5 ผมก็ว่าเหลือรอดมาไม่กี่คน)  

นั่งสมาธิบ้างหรือเปล่า ตรงนี้ถามเบา ๆ ครับ เดี๋ยวมันเจ็บ

สมมุติว่าไม่เคยทำ หรือนาน ๆ ทำที ก็ทำหน้าว่าเห็นใจ กุมมือมันไว้ และบอกไปเบา ๆ ว่า

เฮ้ย น้อง พี่จะบอกอะไรให้ ตั้งใจฟังนะ มองปากพี่นี่...

เอ็งรู้ตัวไหม ว่า...

“เอ็ง-คือ-โค-บาล”

ขอให้สนุกสนานกับการทำความดีครับ


--------------------------------------------------

Link ของกระทู้ถัดไปครับ

http://pantip.com/topic/34830403

Link ของกระทู้แรกครับ

http://pantip.com/topic/34802422
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่