สวัสดีค่ะ อ่านจากชื่อกระทู้น่าจะเดาได้ไม่ยากว่าเราจะมาเล่าเกี่ยวกับอะไร
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเรามือใหม่หัดพิมพ์นะคะ หวังว่าจะให้อภัยในข้อผิดพลาดนะคะ
มาเริ่มเลยแล้วกัน เรื่องของเราอาจจะยาวนิดนึงนะคะเพราะมันคือความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 4 ปี (ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน)
เราเป็นสาวต่างจังหวัดค่ะ มีความใฝ่ฝันเหมือนสาวๆทั่วไปคืออยากมีคามรักที่แสนโรแมนติกเหมือนดังซีรี่เกาหลี
เราเป็นคนนึงที่หลงไหลในตัวอปป้าค่ะ พอได้มีโอกาสไปเที่ยว ประเทศแรกที่เลือกไปที่แรกแน่นอนก็ต้องเป็นประเทศเกาหลี
เพราะอยากมีโอกาสไปทำตัวคิกขุเหมือนสาวเกาหลี ประหนึ่งว่าอิชั้นคือนางเอกซีรี่กันเลยทีเดียว
เราเลือกไปกับทัวน์ค่ะ เค้าจัดโปรถูกมาก ข้าราชการเงินเดือนน้อยอย่างอิชั้นเยมีโอกาสได้พาคุณแม่ไปด้วย
วันแรกที่เหยียบเกาหลีเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ อากาศที่เย็นสบาย ผู้คนพลุ่งพล่าน ตื่นตาตื่นใจด้วยแฟชั่นเมืองหนาวที่เด็กต่างจังหวัดอย่างอิชั้นไม่เคยสัมผัส
แต่ทุกความตื่นเต้นทุกอย่างต้องหยุดอยู่ที่หนุ่มยกกระเป๋า หรือตากล้องหนุ่มตาตี่ สัญชาติเกาหลี นามว่าแจ๊คผู้ละลายหัวใจป้า อายุราวๆ 19 ปี (ปี 2555)
คือ สูง ยาว ขาว ตาตี่ ได้คุณสมบัติอปป้าในซีรี่ครบถ้วนเลย ตั้งแต่นั้นมาทริปนี้ทั้งทริปอิชั้นถือว่าเที่ยวเกาหลีคืองานรอง
งานหลักของอิชั้นคือทำยังไงก็ได้ให้ได้เฟชบุ๊คของน้องแจ๊คมาไว้ในครอบครอง (ยุคนั้นเกาหลีฟีเวอร์หนักมาก ได้เฟชบุ๊คน้องเค้ามาอิชั้นวินไปหนึ่งแต้ม)
ด้วยความที่เราพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง จากทริปเกาหลี 5 วัน 3 คืน ในที่สุดความพยายามของเราก็สำเร็จ คือได้เฟชบุ๊คนางมาจนได้
เราก็เลยได้มีโอกาสสานต่อ
(อ๊ะๆๆๆ สำหรับใครที่คิดว่าหนุ่มกิมจิจากหัวหัวข้อกระทู้คือคนนี้ คุณคิดผิด! นะคะ นี่แค่น้ำจิ้มๆๆๆ นางคือต้นเรื่อง
ที่ทำให้เราได้มาพบกับหนุ่มกิมจิสุดแสนจะน่ารักของเราต่างหากหล่ะ)
หลังจากได้เฟชบุ๊คมา เรากลับถึงไทยเราก็แอดและทักน้องเค้าทันที
ทำให้เราพบว่านางก็แอบมีใจให้ชะนีอย่างเราอยู่บ้างแต่ไม่กล้าพุ่งชน! ณ จุดนี้อิชั้นเสียใจมากอยากจะตีตั๋วไปเกาหลีอีกซักรอบ ณ ตอนนั้น
แต่ติดที่ตังค์ในกระเป๋าไม่เอื้อ
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณไม่กี่สัปดาห์ เราก็พบว่าอุปสรรคของเราคือ ภาษา!!!
เราพูด-เขียนอักฤษสื่อสารได้บ้าง แต่หนุ่มแจ๊คไม่ได้เลย! (ที่คุยกะเราเป็นคำพื้นฐานที่ควรรู้เลยพอเข้าใจระดับนึง)
เราก็ทำไงดีหละทีนี้ คุยก็คุยกันไม่ได้ สาวๆจากไทยก็ไปทัวน์คิวเป็นหางว่าว แจ๊คต้องเสียท่าชะนีไทยเข้าสักวันแน่ๆๆ
อิชั้นยอมไม่ได้ ถ้าชะนีคนนั้นไม่ใช่อิชั้น!!!
นั่นก็เลยเป็นสาเหตุให้เราได้มีโอกาสให้เราได้เจอหนุ่มกิมจิที่เราอยากพิชิตในชีวิตจริง
เราก็เลยเข้าหาเลยค่ะแอพอะไรก็ได้ที่สามารถหาหนุ่มเกาหลีที่สอนภาษาเค้าได้และพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย
เพราะการเรียนภาษาอังกฤษของเราก็เริ่มจากการคุยกับเจ้าของภาษา (พี่เขยเราเป็นชาวแคนาดา และ ไอร์แลนด์) และดูหนังฝรั่งบ่อยๆ
เราเลยจะดำเนินรอยตามทางเดิม ซีรี่เกาหลีก็ดูประจำอยู่แล้วที่เหลือคือเจ้าของภาษาเฮ่!
ในที่สุดหลังจากลองผิด ลองถูกเจอหนุ่มเกาโรคจิตขอเยบ้าง เจอตาเฒ่าหัวงูบ้าง เจอหื่นๆเยอะมาก สาวๆก็ไม่อยากจะคุยกะเพศเดียวกัน
จนเราจะยอมแพ้ละไม่พยายามก็ได้ฟ๊ะ!
ในที่สุดฟ้าก็ส่งเค้ามาให้หนุ่มกิมจินามว่าโจ
โจแอดเรามาด้วยรูปโปรไฟล์ตาลุงแก่ๆ สวมหมวกนิรภัย ผ้าโพกหน้า และชุดกีฬา มือจูงจักรยานท่ามกลางพระอาทิตย์ตกดิน (นึกภาพคนออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน)
เราก็เอาวะลองคุยดู จากการสนทนาทำให้เราพบว่าโจคนนี้การศึกษาดีมาก มีมารยาทในการคุย และทักษะในการพูดคุยภาษาอังกฤษดีมาก
และเค้ายินดีที่จะสอนภาษาเกาหลีให้เราโดยไม่รังเกียจ
หลังจากนั้นเราก็คุยกับโจทุกวันแล้วเอาคำที่โจสอนมาคุยกับแจ๊ค
แต่มันก็ไม่ได้ผลแล้วเพราะตามคาด แจ๊คกลายเป็นไอดอลเกาหลีสำหรับลูกทัวน์ไทย ฮ่องกง และจีนไปเรียบร้อยชะนีอย่างอิชั้นก็ตกกระป๋องตามระเบียบ
มันก็เลยทำให้เราแอบผิดกหวังนิสัยหนุ่มเกาหลีไไปเยอะพอสมควรคิดว่า น่าจะเจ้าชู้เหมือนกันหมดทั้งโลกนั่นแหละไม่เกี่ยวกะสัญชาติ (เจ็บมาเยอะฮ่าๆ)
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดคุยกะลุงโจ (ตอนคุยไม่ถามอะไรเค้าเลย ไม่รู้อะไรเกี่ยวกะโจทั้งนั้น)
คิดว่าโจน่าจะ 40 อัพ แบบอารมณ์น่าจะเป็นลุงแก่ๆใจดีคนนึงที่ยอมให้คำปรึกษา และสอนเราตามปกตินิสัยของเค้าอยู่แล้ว
ผ่านไปหลายเดือนทำให้เรารู้ว่าโจเค้าเรียนภาษาที่ประเทศในแถบยุโรปมาหลายประเทศ (น่าจะอารมณ์เวิร์คแอนด์ทราเวล)
เลยทำให้ภาษาของโจดีมากๆ สอนเราได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี
นับวันเราก็รู้สึกดีๆกะลุงโจ เออถ้ามีแฟนแก่ก็ไม่เป็นไรเนาะเค้าใจดีออก มารยาทดีขนาดนี้ หายากนะ ยิ่งชายไทยคงไม่เหลือคุณสมบัติแบบนี้
เราก็เลยเปิดใจพัฒนาความสัมพันธ์มากขึ้น หมายถึง ถามรายละเอียดและสนใจชีวิตของอีกฝ่ายมากขึ้น
วันนึงเราก็เลยขอดูรูปอื่นๆของโจบ้าง โจก็เลยส่งมาให้ดู มันเลยทำให้อิชั้นช๊อค!!!!!!
+++พิชิตหนุ่มกิมจิ+++
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเรามือใหม่หัดพิมพ์นะคะ หวังว่าจะให้อภัยในข้อผิดพลาดนะคะ
มาเริ่มเลยแล้วกัน เรื่องของเราอาจจะยาวนิดนึงนะคะเพราะมันคือความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 4 ปี (ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน)
เราเป็นสาวต่างจังหวัดค่ะ มีความใฝ่ฝันเหมือนสาวๆทั่วไปคืออยากมีคามรักที่แสนโรแมนติกเหมือนดังซีรี่เกาหลี
เราเป็นคนนึงที่หลงไหลในตัวอปป้าค่ะ พอได้มีโอกาสไปเที่ยว ประเทศแรกที่เลือกไปที่แรกแน่นอนก็ต้องเป็นประเทศเกาหลี
เพราะอยากมีโอกาสไปทำตัวคิกขุเหมือนสาวเกาหลี ประหนึ่งว่าอิชั้นคือนางเอกซีรี่กันเลยทีเดียว
เราเลือกไปกับทัวน์ค่ะ เค้าจัดโปรถูกมาก ข้าราชการเงินเดือนน้อยอย่างอิชั้นเยมีโอกาสได้พาคุณแม่ไปด้วย
วันแรกที่เหยียบเกาหลีเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ อากาศที่เย็นสบาย ผู้คนพลุ่งพล่าน ตื่นตาตื่นใจด้วยแฟชั่นเมืองหนาวที่เด็กต่างจังหวัดอย่างอิชั้นไม่เคยสัมผัส
แต่ทุกความตื่นเต้นทุกอย่างต้องหยุดอยู่ที่หนุ่มยกกระเป๋า หรือตากล้องหนุ่มตาตี่ สัญชาติเกาหลี นามว่าแจ๊คผู้ละลายหัวใจป้า อายุราวๆ 19 ปี (ปี 2555)
คือ สูง ยาว ขาว ตาตี่ ได้คุณสมบัติอปป้าในซีรี่ครบถ้วนเลย ตั้งแต่นั้นมาทริปนี้ทั้งทริปอิชั้นถือว่าเที่ยวเกาหลีคืองานรอง
งานหลักของอิชั้นคือทำยังไงก็ได้ให้ได้เฟชบุ๊คของน้องแจ๊คมาไว้ในครอบครอง (ยุคนั้นเกาหลีฟีเวอร์หนักมาก ได้เฟชบุ๊คน้องเค้ามาอิชั้นวินไปหนึ่งแต้ม)
ด้วยความที่เราพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง จากทริปเกาหลี 5 วัน 3 คืน ในที่สุดความพยายามของเราก็สำเร็จ คือได้เฟชบุ๊คนางมาจนได้
เราก็เลยได้มีโอกาสสานต่อ
(อ๊ะๆๆๆ สำหรับใครที่คิดว่าหนุ่มกิมจิจากหัวหัวข้อกระทู้คือคนนี้ คุณคิดผิด! นะคะ นี่แค่น้ำจิ้มๆๆๆ นางคือต้นเรื่อง
ที่ทำให้เราได้มาพบกับหนุ่มกิมจิสุดแสนจะน่ารักของเราต่างหากหล่ะ)
หลังจากได้เฟชบุ๊คมา เรากลับถึงไทยเราก็แอดและทักน้องเค้าทันที
ทำให้เราพบว่านางก็แอบมีใจให้ชะนีอย่างเราอยู่บ้างแต่ไม่กล้าพุ่งชน! ณ จุดนี้อิชั้นเสียใจมากอยากจะตีตั๋วไปเกาหลีอีกซักรอบ ณ ตอนนั้น
แต่ติดที่ตังค์ในกระเป๋าไม่เอื้อ
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณไม่กี่สัปดาห์ เราก็พบว่าอุปสรรคของเราคือ ภาษา!!!
เราพูด-เขียนอักฤษสื่อสารได้บ้าง แต่หนุ่มแจ๊คไม่ได้เลย! (ที่คุยกะเราเป็นคำพื้นฐานที่ควรรู้เลยพอเข้าใจระดับนึง)
เราก็ทำไงดีหละทีนี้ คุยก็คุยกันไม่ได้ สาวๆจากไทยก็ไปทัวน์คิวเป็นหางว่าว แจ๊คต้องเสียท่าชะนีไทยเข้าสักวันแน่ๆๆ
อิชั้นยอมไม่ได้ ถ้าชะนีคนนั้นไม่ใช่อิชั้น!!!
นั่นก็เลยเป็นสาเหตุให้เราได้มีโอกาสให้เราได้เจอหนุ่มกิมจิที่เราอยากพิชิตในชีวิตจริง
เราก็เลยเข้าหาเลยค่ะแอพอะไรก็ได้ที่สามารถหาหนุ่มเกาหลีที่สอนภาษาเค้าได้และพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย
เพราะการเรียนภาษาอังกฤษของเราก็เริ่มจากการคุยกับเจ้าของภาษา (พี่เขยเราเป็นชาวแคนาดา และ ไอร์แลนด์) และดูหนังฝรั่งบ่อยๆ
เราเลยจะดำเนินรอยตามทางเดิม ซีรี่เกาหลีก็ดูประจำอยู่แล้วที่เหลือคือเจ้าของภาษาเฮ่!
ในที่สุดหลังจากลองผิด ลองถูกเจอหนุ่มเกาโรคจิตขอเยบ้าง เจอตาเฒ่าหัวงูบ้าง เจอหื่นๆเยอะมาก สาวๆก็ไม่อยากจะคุยกะเพศเดียวกัน
จนเราจะยอมแพ้ละไม่พยายามก็ได้ฟ๊ะ!
ในที่สุดฟ้าก็ส่งเค้ามาให้หนุ่มกิมจินามว่าโจ
โจแอดเรามาด้วยรูปโปรไฟล์ตาลุงแก่ๆ สวมหมวกนิรภัย ผ้าโพกหน้า และชุดกีฬา มือจูงจักรยานท่ามกลางพระอาทิตย์ตกดิน (นึกภาพคนออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน)
เราก็เอาวะลองคุยดู จากการสนทนาทำให้เราพบว่าโจคนนี้การศึกษาดีมาก มีมารยาทในการคุย และทักษะในการพูดคุยภาษาอังกฤษดีมาก
และเค้ายินดีที่จะสอนภาษาเกาหลีให้เราโดยไม่รังเกียจ
หลังจากนั้นเราก็คุยกับโจทุกวันแล้วเอาคำที่โจสอนมาคุยกับแจ๊ค
แต่มันก็ไม่ได้ผลแล้วเพราะตามคาด แจ๊คกลายเป็นไอดอลเกาหลีสำหรับลูกทัวน์ไทย ฮ่องกง และจีนไปเรียบร้อยชะนีอย่างอิชั้นก็ตกกระป๋องตามระเบียบ
มันก็เลยทำให้เราแอบผิดกหวังนิสัยหนุ่มเกาหลีไไปเยอะพอสมควรคิดว่า น่าจะเจ้าชู้เหมือนกันหมดทั้งโลกนั่นแหละไม่เกี่ยวกะสัญชาติ (เจ็บมาเยอะฮ่าๆ)
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดคุยกะลุงโจ (ตอนคุยไม่ถามอะไรเค้าเลย ไม่รู้อะไรเกี่ยวกะโจทั้งนั้น)
คิดว่าโจน่าจะ 40 อัพ แบบอารมณ์น่าจะเป็นลุงแก่ๆใจดีคนนึงที่ยอมให้คำปรึกษา และสอนเราตามปกตินิสัยของเค้าอยู่แล้ว
ผ่านไปหลายเดือนทำให้เรารู้ว่าโจเค้าเรียนภาษาที่ประเทศในแถบยุโรปมาหลายประเทศ (น่าจะอารมณ์เวิร์คแอนด์ทราเวล)
เลยทำให้ภาษาของโจดีมากๆ สอนเราได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี
นับวันเราก็รู้สึกดีๆกะลุงโจ เออถ้ามีแฟนแก่ก็ไม่เป็นไรเนาะเค้าใจดีออก มารยาทดีขนาดนี้ หายากนะ ยิ่งชายไทยคงไม่เหลือคุณสมบัติแบบนี้
เราก็เลยเปิดใจพัฒนาความสัมพันธ์มากขึ้น หมายถึง ถามรายละเอียดและสนใจชีวิตของอีกฝ่ายมากขึ้น
วันนึงเราก็เลยขอดูรูปอื่นๆของโจบ้าง โจก็เลยส่งมาให้ดู มันเลยทำให้อิชั้นช๊อค!!!!!!