ไม่มีใครที่ไปเรียน/อยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วอยากอยู่ต่อเลยรอคะ?

คือเห็นคนไทยส่วนใหญ่(ทั้งหมดเลยก็ว่าได้) ที่ไปใช้ชีวิตอยู่/เรียนที่ญี่ปุ่นอยากกลับไทยกันทั้งนั้น เลยอยากรู้ว่าไม่มีใครที่ไปอยู่แล้วชอบและอยากอยู่ต่อเลยรอคะ?
มันเกี่ยวกับนิสัยด้วยรึเปล่าคะ?
ที่คนไทยไปอยู่แล้วไม่ชอบมันเป็นเพราะนิสัยคนไทยที่รับเรื่องระเบียบของที่นู่น/นิสัยของคนที่นู่น/ความ strick ของคนที่นู่นไม่ได้รึเปล่าคะ?
เพราะเคยถามคนญี่ปุ่นว่า ถ้าเลือกเกิดได้ อยากเกิดที่ประเทศไหน เขาก็บอกญี่ปุ่น เพราะ 住みやすい (อยู่ง่าย) ดี
เราเลยคิดว่ามันขึ้นอยู่กับนิสัยคนด้วย...

ปีนี้ก็จะไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น 1ปีการศึกษาของ YES ค่ะ เพราะชอบญี่ปุ่นมากๆๆๆมานานแล้ว แล้วก็มีเพื่อนญี่ปุ่นเยอะ เพราะนิสัยเหมือนคนญี่ปุ่น(เพื่อนญี่ปุ่นหลายๆคนบอกมา...) แล้วก็เคยไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นมาแล้ว ได้เพื่อนญี่ปุ่นเพิ่มมาเยอะมาก มีเราคนเดียวที่คนญี่ปุ่นมาขอไลน์ เพื่อนคนอื่นๆที่ไปด้วยไม่มีใครมาขอเลย ตอนนี้ก็ยังคุยไลน์กับพวกเขาอยู่เลย แล้วบทสนทนาก็ไหลลื่นมาก เขาบอกคุยกับเราแล้วสนุก
คราวนี้เลยอยากไปปีนึงเลย หัวเราะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมขอเข้ามายกมือว่าเป็นนักเรียนญีปุ่นคนหนึ่งที่มาเรียนแล้วอยากอยู่ต่อ แล้วก็พยายามในระดับหนึ่งจนได้งานทำอยู่ที่นี่
ถึงแม้ในชีวิตปัจจุบันจะไม่ได้ถึงขั้นสมใจ 100%  แต่โดยรวมก็พึงพอใจกับชีวิตที่นี่ และยังอยากอยู่ต่อไปอีกเรื่อยๆครับ รวมเวลาอยู่ที่ญี่ปุ่นทั้งหมดจนถึงปัจจุบันก็อยู่มาได้สามปีเศษๆแล้ว  

ผมว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ ทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
คนที่ผมรู้จักบางคนมาญี่ปุ่นอย่าง winner (เป็นฝรั่ง ได้มาทำงานดีๆ ตำแหน่งสูง เงินสูง ภาษากญี่ปุ่นไม่ต้องใช้มาก) แต่ทัศนคติไปด้วยกันไม่ได้ ก็ไม่ชอบครับ เพื่อนผมบางคนมาแบบไม่ได้เลิศหรูนัก (เป็นคนเกาหลี หางานทำไม่ได้ จนต้องพยายามยื้อตัวเองไม่ให้เรียนจบเป็นเวลาสองปี ถึงจะได้งานทำในที่สุด) แต่ทัศนคติไปด้วยกันได้ ก็ชอบและได้ลงหลักปักฐานที่นี่  


พูดถึงทัศนคติแล้วก็ขออะไรฝากเล็กๆน้อยๆ(จากประสบการณ์ตรง ไม่ได้จำบทความหรืออะไรที่เขาพูดต่อๆกันมา)ไว้ดังนี้ครับ

1. ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือที่ไหนก็ตาม  เราจะมีต้นทุนที่มองไม่เห็นแต่ต้องจ่ายเพิ่มเติมอยู่หลักๆสองอย่างครับ
อย่างแรกคือภาษา อย่างที่สองคือสถานะ เพราะเมื่อมาเป็นคนต่างชาติมาอยู่ที่ประเทศเขาแล้ว จะทำอะไรๆก็ต้องมีวีซ่าคุ้มไว้ (จนกว่าได้เป็น permanent resident)้

ใครที่มองเห็นว่าการอยู่ที่ประเทศนั้นๆ มีข้อดีที่คุ้มค่าต่อการจ่ายค่าต้นทุนสองอย่างนี้เพิ่ม ก็อยากอยู่ต่อ  
ส่วนคนทีเห็นว่าไม่คุ้มก็อยากกลับไทยเป็นธรรมดา

2. ทุกๆที่ล้วนมีปัญหาของตัวเอง และมีคนดีไม่ดีปะปนกันไป (อย่างกับ) อย่างไรก็ตาม อย่าเอาคำกล่าวที่ว่า "ที่ไหนๆก็มีปัญหา" มาฉุดรั้งไม่ให้เราพาตัวเองไปที่ๆเราอยากพาตัวเองไป

3.  การได้เจอคนดีหรือคนไม่ดี สามารถส่งผลต่อทัศนคติได้อย่างมากเลยทีเดียว ในด้านหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อมาอยู่ที่ต่างประเทศ เราสามารถสร้างสังคมที่อยู่รอบตัวเองได้ในระดับหนึ่งครับ

4. แม้เราจะสามารถเจอคนดีๆได้ในที่ทำงานได้เป็นระยะๆ แต่อย่าทึกทักเอาเองว่าที่ทำงานเป็นที่ๆเรามาหาเพื่อน

5. บางทีเราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอเหตุการณ์ไม่ดีและคนไม่ดี แต่เราสามารถเลือกได้ที่จะปล่อยให้สิ่งไม่ดีนั้นมาครอบงำเรา หรือจะหาอะไรดีๆมาเสริมสร้างกำลังใจเรา แล้วหาทางเอาเหตุการณ์หรือคนไม่ดีออกไปให้พ้นๆจากชีวิตซะ

ุ6. คำกล่าวที่ว่า "มาเที่ยวกับมาอยู่ไม่เหมือนกัน" เป็นเรื่อง common sense ที่คนเอามาใส่อารมณ์กันเกินไป
-  พอพูดถึงตอนมาอยู่ต่างประเทศ คนหลายคนจะมองอย่างครบวงจรทั้งช่วงการหาเงินและช่วงการใช้เงิน แต่พอพูดถึงการมาเที่ยวคนกลุ่มเดียวกันกลับมองเฉพาะช่วงใช้เงินช่วงเดียว แต่ไม่ได้มองถึงช่วงการหาเงินให้ได้ไปเที่ยวว่า ต้องโดนเจ้านายโขกสับ มีเรื่องกับลูกค้าหรือคนในที่ทำงาน เก็บหอมรอมริบอย่างไรบ้าง
- การใช้ชีวิตทั่วไป (ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหนๆ) นั้น  จะเป็นการที่เรานำเงินเดือนหนึ่งเดือน มาใช้จ่ายให้พอกับช่วงเวลาหนึ่งเดือน อีกทั้งยังมีการหักเงินบางส่วนออกไป เพื่อเตรียมไว้เผื่อเหตุจำเป็นในอนาคต  ส่วนการมาเที่ยวนั้น เป็นการที่เรานำเอาเงินก้อนที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินเดือนหลายเดือน มาถลุงให้หมดภายในเวลาสัปดาห์สองสัปดาห์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมากที่คุณภาพชีวิตของการมาเที่ยวกับการมาอยู่จะไม่เหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 5
ปัญหาอยู่ที่คนญี่ปุ่นไม่เคยยอมรับคนต่างชาติ
และถือว่าเผ่าพันธุ์ตนเหนือกว่า ญี่ปุ่นไม่ใช่เอเซีย
เกาหลีเกิดในญี่ปุ่นยังแทบไม่มีที่ยืน คนนึงที่สนิท
โดนอาจารย์แกล้งประกาศชื่อเกาหลีให้คนหัวเราะเยาะทั้งที่ถูกกดดันจนต้องเปลี่ยรเป็นชื่อญี่ปุ่นแล้ว
ความกดดันและเหยียดหยามไม่ให้เกียรติคนอื่นเว้นฝรั่งสำหรับบางคนทำแม้คนญี่ปุ่นที่รุจักหลายคนยังอยู่ไม่ได้
เคยถามเขาทำมือพลิกหน้าหลังให้ดูประมาณหน้าฉากหลังฉากแตกต่างกันมากซึ่งจริงๆก็คือมนุษย์ทุกคนแหละแต่ญี่ปุ่นจะมีการเคลือบไว้หนาเวลาเที่ยวทุกคนถึงเจอแต่ด้านดีรวมทั้งการทำmedia black out กับ self sensorshipของรัฐและสื่อด้วย การลงโทษทางสังคม การทำให้คนคนหนึ่งไม่มีตัวตนเป็นสิ่งที่บรบคั้นจนถึงกับมีคนไทยหรือนักเรียนบางคนต้องหาทางออกแบบสั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่