แก้ไข
ทำไมชีวิตมันมืดดำ หดหู่ คนรอบข้าง
ก็รู้ว่าป่วย รับยาอยู่
แต่ไม่มีใครเข้าใจ ทั้งแม่และสามี
ชีวิตผิดแผนไปหมด เพราะโดนแต่แม่และคนในครอบครัวบงการ
ชีวิตไม่เคยได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
เมื่อได้ทำธุรกิจ(แอบแม่ทำ) ผิดพลาด เป็นหนี้สิน
มีแต่สามีที่ยังอยู่ข้างๆท่ามกลางปัญหามากมาย(สามีไม่ใช่คนรวย)
แต่สามีช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะอาศัยอยู่ในบ้านที่แม่ยายสร้างไว้ให้
ทุกวันนี้ มีบ้านหรูอยู่ มีรถใช้ แต่ไม่มีเงินใช้ เพราะแม่ควบคุมการเงินทั้งหมด
อยากออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตามลำพังกับสามี ไปขายข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว
แม่ก็ไม่ยอม (ชีวิตเรามีแต่แม่นะพ่อทิ้งไปแต่เด็ก)
แม่เหมือนมีเราไว้เพื่อคอยให้รับใช้งาน
เพราะเลขาแม่ ทำไม่ได้ดังใจแม่
(โดนไล่ออกหลายคนละ เปลี่ยนเลขาบ่อยเพราะทนอารมณ์แม่ไม่ได้)
เพราะแม่สั่งอะไรเราทำให้ได้หมด โดนด่าบ้างเวลาทำงานไม่ถูกใจ
มันเลยเก็บสะสมมาตลอด
ตอนเรียนไม่เคยทะเลาะกับสามีเลย
แต่พอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านแม่ ก็ทะเลาะกับสามีบ่อยขึ้น
เพราะสามี ทำอะไรก็ขวางหูขวางตาแม่ตลอด
ขนาดว่าเราพยายามจะ ทำตามใจแม่ทุกอย่าง
ทำให้แม่พอใจ ทำให้แม่สบายใจ
คือบางครั้ง เราไม่อยากขัดใจแม่หรอก
เพราะถ้าแม่อาละวาด ทุกคนในบ้านจะเดือดร้อนหมด
คนชง คนใช้ กระเจิงหมด
เราเก็บและรับตลอดมา บางทีสงสารสามี ที่ต้องมาคอยรับรู้ รับฟังอะไรแบบนี้
บางทีแม่ใจดี แม่ก็ขอโทดเรา แกบอกว่าแกเครียด
เราก็จ้าๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่ นานๆเข้า มันสะสมคำพูด สะสมความเครียด
สะสมปฏิกิริยา จากคนที่เรารัก เรานึกไม่ถึงเลยว่า เขาจะทำแบบนี้ใส่เรา
บางครั้ง สามีโดนแม่เรียกไปด่าในห้องทำงาน
ออกมาหน้าตาก็เครียด เราถามว่าจะเอาไรมั้ย ก็ตะคอก
เหมือนสามีก็เก็บกดเหมือนกัน เพราะเขาก็พูดอะไรมากไม่ได้
เขาบอกเขาเป็นแค่เขยจนๆไม่มีไรติดตัวมา
เราอยู่ในสภาพนี้มาจะ 10 ปีแล้ว
สงสารตัวเอง ....
ปกติเราจะเป็นคนตลก อารมณ์ขัน ชอบทำงาน
ชอบสังคม เป็นคนที่ทำงานแบบใช้ความคิดครีเอทได้ดี
เป็นคนมีความคิดริเริ่มแปลกใหม่
แต่แปลกว่า เราไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มมีอาการแปลกๆ
เพราะ ช่วงที่พีค หาเงินได้เยอะๆ ชอบคิดว่าตัวเองทำอะไร ก็สำเร็จ
เสนอโปรเจคไรไป เป็นแสน เป็นล้านก็มีคนซื้อ
มีเงินเก็บ มีทองเยอะมาก เห่ย เรานี่มันเจ๋งว่ะ
.....เริ่มมันใจ ในตัวเองมากขึ้น
ยักษ์ในตัวมันตัวใหญ่มาก แพ้ไม่เป็น ตกต่ำไม่ได้เลย
บางpartก็เป็นแค่หนูตัวเล็กๆในซอกมืดๆดำๆ
เอ้ะ ทำไม เราถึงรู้สึกว่า ตัวเอง หดหู่จัง ทำอะไรก็ไม่เคยดีเลย
นั่นไง ฉันเป็นไบโพลาร์
เพิ่งมารู้ตัวจาก ปลายปี 58
รู้สึกว่าตัวเอง ท้อแท้ หดหู่ เช้าไม่อยากตื่นเลย
รู้สึกเบื่องาน เบื่อโลก และคิดถึงความตายอยู่บ่อยๆ
จนสิงห์ วงสควีซ เอนิมอล ฆ่าตัวตาย ยิ่งหดหู่
จนต้องพาตัวเองไปพบจิตแพทย์ เพื่อขอรับการรักษา
บ้านเรา ถึง รพ. ประมาณ130 กม. เราขับรถไปร้องไห้ไป
รู้สึก ผิดหวังในธุรกิจที่ลงทุนไปแล้วล้มเหลว
คิดถึงแม่ในวันที่เรายัง เด็ก ที่บ้านเราไม่มี กิจการงาน มากขนาดนี้
แม่ใจดีมาก เวลาว่างๆแม่จะนั่งถักเสื้อกันหนาวไหมพรมให้ฉันกับน้อง
แม่คือนางฟ้าของฉัน แม่ฉันเก่งนะ พลิกฝ่ามือจากคนจนๆแม่ค้าขายผักธรรมดา
จนมามีกิจการ มามีทรัพย์สิน มากมาย พวกเราเป็นลูกเราก็ต้องช่วยกันดูแล
พ่อเลี้ยงฉันก็มีนะ แต่ฉันก็ยอมรับ และดีกับพ่อเลี้ยงทุกคน
เพราะฉันไม่อยากมีปัญหากับแม่ ไม่อยากให้แกทุกข์ใจเลย
คิดถึงอดีตที่แสนจะเจ็บปวดเพราะแต่ละคำที่แม่ปล่อยออกมาจากปากของแม่คือ
คำที่โหดร้ายมาก ฉันฟังแต่ไม่กล้าจะเถียง เพราะยิ่งเถียงก็ยิ่งบานปลาย
คิดถึงคำพูดเวลาสามีตะคอกใส่ เวลาทำอะไรผิดพลาด เรื่องเล็กน้อย
แต่เขารุมด่าฉันใหญ่โตมากๆ
ชีวิตยังดี ที่มีแม่สามี ที่ดี คอยพูดคุยปรึกษา และให้กำลังใจ
แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยหรือพบกันบ่อยนัก เพราะแม่สามีอยู่ที่ ต่างจังหวัด
บางครั้ง ชีวิต เหมือนสิ้นหวังมากๆ มองเหมือนไม่เจอทางออกเลย
รับยา ยา แค่ทำให้หลับเท่านั้น
บางทีกินยา หลับไปที 2 วัน นอนแบบ ไม่ตื่นมาทานข้าว ไม่เข้าห้องน้ำเลย
แม่ก็ว่าสำออย มีนิสัยชอบตื่นสาย ขี้เกียจทำงานสิท่า .......T-T
😔ฉันกับสามีเคยคิดจะหนี ออกจากบ้าน ไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่
ไปทำอะไรอย่างที่เราชอบทำและตัดสินใจกันเองได้
อยากหนีออกจากกงสี อยากหนีออกจากกรงทองที่แม่ขังเอาไว้
แต่พอนึกถึงว่าแม่จะต้องตามหา ใครจะช่วยงานแม่ แค่นั้นน้ำตาก็ไหล
และล้มเลิกความตั้งใจทันที
ทุกวันนี้ ฉันมีกำลังใจจากเจ้าตัวเล็กเป็น ลูกของน้องสาว
ฉันและสามีเอาเขามาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ ฉันกับสามีไม่มีลูกด้วยกัน
ฉันจะผ่านเวลาเลวร้ายนี้ไปได้ยังไง
เวลากินยา ก็ทำงานไม่ได้เลย
กินยาก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
โลกเป็นสีเทาไปหมดแล้วค่ะ
ทุกวันนี้หวาดระแวง กลัวโดนด่า โดนว่า โดนตำหนิเหมือนเด็กๆ
ความมั่นใจที่เคยมี ความนับถือตนเอง มันหายไปหมดเลย
ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของฉันนะคะ มันยาวมากเลย
วันไหนว่าง จะมาเล่าต่อนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เมื่อฉันเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
ทำไมชีวิตมันมืดดำ หดหู่ คนรอบข้าง
ก็รู้ว่าป่วย รับยาอยู่
แต่ไม่มีใครเข้าใจ ทั้งแม่และสามี
ชีวิตผิดแผนไปหมด เพราะโดนแต่แม่และคนในครอบครัวบงการ
ชีวิตไม่เคยได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
เมื่อได้ทำธุรกิจ(แอบแม่ทำ) ผิดพลาด เป็นหนี้สิน
มีแต่สามีที่ยังอยู่ข้างๆท่ามกลางปัญหามากมาย(สามีไม่ใช่คนรวย)
แต่สามีช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะอาศัยอยู่ในบ้านที่แม่ยายสร้างไว้ให้
ทุกวันนี้ มีบ้านหรูอยู่ มีรถใช้ แต่ไม่มีเงินใช้ เพราะแม่ควบคุมการเงินทั้งหมด
อยากออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตามลำพังกับสามี ไปขายข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว
แม่ก็ไม่ยอม (ชีวิตเรามีแต่แม่นะพ่อทิ้งไปแต่เด็ก)
แม่เหมือนมีเราไว้เพื่อคอยให้รับใช้งาน
เพราะเลขาแม่ ทำไม่ได้ดังใจแม่
(โดนไล่ออกหลายคนละ เปลี่ยนเลขาบ่อยเพราะทนอารมณ์แม่ไม่ได้)
เพราะแม่สั่งอะไรเราทำให้ได้หมด โดนด่าบ้างเวลาทำงานไม่ถูกใจ
มันเลยเก็บสะสมมาตลอด
ตอนเรียนไม่เคยทะเลาะกับสามีเลย
แต่พอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านแม่ ก็ทะเลาะกับสามีบ่อยขึ้น
เพราะสามี ทำอะไรก็ขวางหูขวางตาแม่ตลอด
ขนาดว่าเราพยายามจะ ทำตามใจแม่ทุกอย่าง
ทำให้แม่พอใจ ทำให้แม่สบายใจ
คือบางครั้ง เราไม่อยากขัดใจแม่หรอก
เพราะถ้าแม่อาละวาด ทุกคนในบ้านจะเดือดร้อนหมด
คนชง คนใช้ กระเจิงหมด
เราเก็บและรับตลอดมา บางทีสงสารสามี ที่ต้องมาคอยรับรู้ รับฟังอะไรแบบนี้
บางทีแม่ใจดี แม่ก็ขอโทดเรา แกบอกว่าแกเครียด
เราก็จ้าๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่ นานๆเข้า มันสะสมคำพูด สะสมความเครียด
สะสมปฏิกิริยา จากคนที่เรารัก เรานึกไม่ถึงเลยว่า เขาจะทำแบบนี้ใส่เรา
บางครั้ง สามีโดนแม่เรียกไปด่าในห้องทำงาน
ออกมาหน้าตาก็เครียด เราถามว่าจะเอาไรมั้ย ก็ตะคอก
เหมือนสามีก็เก็บกดเหมือนกัน เพราะเขาก็พูดอะไรมากไม่ได้
เขาบอกเขาเป็นแค่เขยจนๆไม่มีไรติดตัวมา
เราอยู่ในสภาพนี้มาจะ 10 ปีแล้ว
สงสารตัวเอง ....
ปกติเราจะเป็นคนตลก อารมณ์ขัน ชอบทำงาน
ชอบสังคม เป็นคนที่ทำงานแบบใช้ความคิดครีเอทได้ดี
เป็นคนมีความคิดริเริ่มแปลกใหม่
แต่แปลกว่า เราไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มมีอาการแปลกๆ
เพราะ ช่วงที่พีค หาเงินได้เยอะๆ ชอบคิดว่าตัวเองทำอะไร ก็สำเร็จ
เสนอโปรเจคไรไป เป็นแสน เป็นล้านก็มีคนซื้อ
มีเงินเก็บ มีทองเยอะมาก เห่ย เรานี่มันเจ๋งว่ะ
.....เริ่มมันใจ ในตัวเองมากขึ้น
ยักษ์ในตัวมันตัวใหญ่มาก แพ้ไม่เป็น ตกต่ำไม่ได้เลย
บางpartก็เป็นแค่หนูตัวเล็กๆในซอกมืดๆดำๆ
เอ้ะ ทำไม เราถึงรู้สึกว่า ตัวเอง หดหู่จัง ทำอะไรก็ไม่เคยดีเลย
นั่นไง ฉันเป็นไบโพลาร์
เพิ่งมารู้ตัวจาก ปลายปี 58
รู้สึกว่าตัวเอง ท้อแท้ หดหู่ เช้าไม่อยากตื่นเลย
รู้สึกเบื่องาน เบื่อโลก และคิดถึงความตายอยู่บ่อยๆ
จนสิงห์ วงสควีซ เอนิมอล ฆ่าตัวตาย ยิ่งหดหู่
จนต้องพาตัวเองไปพบจิตแพทย์ เพื่อขอรับการรักษา
บ้านเรา ถึง รพ. ประมาณ130 กม. เราขับรถไปร้องไห้ไป
รู้สึก ผิดหวังในธุรกิจที่ลงทุนไปแล้วล้มเหลว
คิดถึงแม่ในวันที่เรายัง เด็ก ที่บ้านเราไม่มี กิจการงาน มากขนาดนี้
แม่ใจดีมาก เวลาว่างๆแม่จะนั่งถักเสื้อกันหนาวไหมพรมให้ฉันกับน้อง
แม่คือนางฟ้าของฉัน แม่ฉันเก่งนะ พลิกฝ่ามือจากคนจนๆแม่ค้าขายผักธรรมดา
จนมามีกิจการ มามีทรัพย์สิน มากมาย พวกเราเป็นลูกเราก็ต้องช่วยกันดูแล
พ่อเลี้ยงฉันก็มีนะ แต่ฉันก็ยอมรับ และดีกับพ่อเลี้ยงทุกคน
เพราะฉันไม่อยากมีปัญหากับแม่ ไม่อยากให้แกทุกข์ใจเลย
คิดถึงอดีตที่แสนจะเจ็บปวดเพราะแต่ละคำที่แม่ปล่อยออกมาจากปากของแม่คือ
คำที่โหดร้ายมาก ฉันฟังแต่ไม่กล้าจะเถียง เพราะยิ่งเถียงก็ยิ่งบานปลาย
คิดถึงคำพูดเวลาสามีตะคอกใส่ เวลาทำอะไรผิดพลาด เรื่องเล็กน้อย
แต่เขารุมด่าฉันใหญ่โตมากๆ
ชีวิตยังดี ที่มีแม่สามี ที่ดี คอยพูดคุยปรึกษา และให้กำลังใจ
แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยหรือพบกันบ่อยนัก เพราะแม่สามีอยู่ที่ ต่างจังหวัด
บางครั้ง ชีวิต เหมือนสิ้นหวังมากๆ มองเหมือนไม่เจอทางออกเลย
รับยา ยา แค่ทำให้หลับเท่านั้น
บางทีกินยา หลับไปที 2 วัน นอนแบบ ไม่ตื่นมาทานข้าว ไม่เข้าห้องน้ำเลย
แม่ก็ว่าสำออย มีนิสัยชอบตื่นสาย ขี้เกียจทำงานสิท่า .......T-T
😔ฉันกับสามีเคยคิดจะหนี ออกจากบ้าน ไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่
ไปทำอะไรอย่างที่เราชอบทำและตัดสินใจกันเองได้
อยากหนีออกจากกงสี อยากหนีออกจากกรงทองที่แม่ขังเอาไว้
แต่พอนึกถึงว่าแม่จะต้องตามหา ใครจะช่วยงานแม่ แค่นั้นน้ำตาก็ไหล
และล้มเลิกความตั้งใจทันที
ทุกวันนี้ ฉันมีกำลังใจจากเจ้าตัวเล็กเป็น ลูกของน้องสาว
ฉันและสามีเอาเขามาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ ฉันกับสามีไม่มีลูกด้วยกัน
ฉันจะผ่านเวลาเลวร้ายนี้ไปได้ยังไง
เวลากินยา ก็ทำงานไม่ได้เลย
กินยาก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
โลกเป็นสีเทาไปหมดแล้วค่ะ
ทุกวันนี้หวาดระแวง กลัวโดนด่า โดนว่า โดนตำหนิเหมือนเด็กๆ
ความมั่นใจที่เคยมี ความนับถือตนเอง มันหายไปหมดเลย
ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของฉันนะคะ มันยาวมากเลย
วันไหนว่าง จะมาเล่าต่อนะคะ
ขอบคุณค่ะ