ECHR ไม่ได้ตัดสินว่าผู้ว่าจ้างสามารถอ่านข้อความส่วนตัวที่ส่งระหว่างเวลาทำงานได้
กลายเป็นข่าวดังเมื่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป หรือ European Court of Human Rights (ECHR) ตัดสินในคดีระหว่าง Bogdan Barbulescu วิศวกรจากประเทศโรมาเนียและผู้ว่าจ้างของเขา ว่าผู้ว่าจ้างไม่ผิดที่ตรวจสอบประวัติการใช้งาน Yahoo Messenger ของ Bogdan ในชั่วโมงเวลาทำงาน
สิ่งที่เราเห็นคือหัวข้อข่าวอย่าง “Court Rules That Your Employer Can Read Private Messages Sent On Work Time” ซึ่งแปลว่า “ศาลตัดสินให้ผู้ว่าจ้างอ่านข้อความที่รับส่งในชั่วโมงทำงานได้” ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ผู้คนเข้าใจผิดว่าผู้ว่าจ้างมีสิทธิทางกฏหมายที่จะละเมิดความเป็นส่วนตัวด้วยการอ่านข้อความส่วนตัวของพนักงานถ้าข้อความเหล่านั้นถูกส่งในชั่วโมงทำงาน ซึ่งนั้นไม่ใช่ความจริงเลย
– นาย Bogdan ต้องใช้ Yahoo Messenger ในการติดต่อกับลูกค้าผ่าน account ทางการของบริษัท แต่ว่าเขาได้ใช้ Yahoo Messenger เพื่อการส่วนตัวด้วย อย่างเช่นเพื่อการพูดคุยกับแฟนของเขา ในชั่วโมงทำงาน
– เครื่องคอมพิวเตอร์ที่นาย ฺBogdan ใช้ Yahoo Messenger คือเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัท
– ทางบริษัทมีนโยบายไม่ให้พนักงานใช้ทรัพยากร ICT เพื่อการอื่นยกเว้นการทำงาน
– ทางบริษัทได้ทำการเตือนนาย Bogdan มาก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกเขาตรวจสอบการใช้งาน ICT ของพนักงานทุกคน และขอให้นาย Bogdan ใช้สำหรับทำงานเท่านั้น
ศาลตัดสินว่าเพราะบริษัทมีนโยบายให้ใช้เวลาและเครื่องมือ ICT ไปกับการทำงานเท่านั้น นาย Bogdan ไม่ได้ทำผิดกฏหมายอะไร แต่ทำผิดกฏระเบียบของบริษัท ซึ่งบริษัทมีสิทธิทางกฏหมายที่จะตั้งขึ้นมา และบังคับใช้ การตรวจสอบการใช้งาน Yahoo Messenger จึงเป็นการบังคับใช้กฏระเบียบของบริษัท และไม่ถือว่าละเมิดเกินไปเพราะตรวจสอบแค่การใช Yahoo Messenger ไม่ได้เข้าไปดูข้อมูลอื่นๆ บนตัวคอมพิวเตอร์
ถ้าไม่พยายามทำความเข้าใจข้อเท็จจริงทั้งหมด บางคนอาจเข้าใจผิดว่าในยุโรปผู้ว่าจ้างสามารถเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งาน ICT ของพนักงานทุกคนได้ ซึ่งไม่ใช่ความจริงเลย นี่ไม่ใช่คดีกฏหมาย แต่เป็นคดีกฏระเบียบในที่ทำงาน
มันไม่ผิดกฏหมายอะไรถ้าทางบริษัทจะออกกฏระเบียบภายในองค์กรให้ใช้เวลาทำงานและทรัพยากร ICT ของบริษัทกับเรื่องงานเท่านั้น ในทางกฏหมายผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิสอดแนมพนักงาน และยังต้องอธิบายกฏระเบียบของบริษัทให้พนักงานได้เข้าใจ พนักงานต้องยอมรับในกฏระเบียบ และบริษัทต้องทำการเตือนพนักงานเมื่อทำผิดกฏ
ไม่มีคำตัดสินใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าถ้าคุณใช้มือถือของตัวเอง ส่งข้อความส่วนตัว ผ่าน account ส่วนตัว บนเครือข่ายของคุณเอง (คือส่งผ่าน mobile operator ที่ตัวเองใช้อยู่ไม่ใช่ wifi ของบริษัท) สามารถเข้ามาดูข้อความเหล่านั้นได้ ทั้งหมดนั้นเป็นของส่วนตัวของพนักงาน แน่นอนว่าอาจจะมีกฏว่าห้ามใช้เวลาทำงานไปกับเรื่องส่วนตัว แต่บริษัทส่วนมากก็ไม่โง่พอที่จะบังคับใช้กฏระเบียบนี้ เพราะการบังคับไม่ให้คนทำเรื่องส่วนตัวเลยในเวลาทำงานนั้นเป็นเรื่องยาก ไม่ได้เพิ่มผลงานของพนักงาน มีแต่จะแย่ลง สร้างบรรยากาศการทำงานที่ไม่ดี และการตรวจสอบเป็นเรื่องยากและราคาแพง
อย่าเพิ่งตกใจว่ายุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทางความคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพ และความเป็นส่วนตัว นั้นอยู่ดีๆ เปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย อ่านบทความนี้เสร็จแล้ว กลับไปเล่น facebook ต่อได้ครับ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก แต่อย่าลืมทำงานด้วยละกัน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: pixabay โดย mikegi
แหล่งข่าว
เว็ปไซต์ Telecom Journal Thailand
http://bit.ly/1OWgdAN
หมายเหตุ : ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (The European Court of Human Right - ECHR)
บทความ : ECHR ไม่ได้ตัดสินว่าผู้ว่าจ้างสามารถอ่านข้อความส่วนตัวที่ส่งระหว่างเวลาทำงานได้
ECHR ไม่ได้ตัดสินว่าผู้ว่าจ้างสามารถอ่านข้อความส่วนตัวที่ส่งระหว่างเวลาทำงานได้
กลายเป็นข่าวดังเมื่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป หรือ European Court of Human Rights (ECHR) ตัดสินในคดีระหว่าง Bogdan Barbulescu วิศวกรจากประเทศโรมาเนียและผู้ว่าจ้างของเขา ว่าผู้ว่าจ้างไม่ผิดที่ตรวจสอบประวัติการใช้งาน Yahoo Messenger ของ Bogdan ในชั่วโมงเวลาทำงาน
สิ่งที่เราเห็นคือหัวข้อข่าวอย่าง “Court Rules That Your Employer Can Read Private Messages Sent On Work Time” ซึ่งแปลว่า “ศาลตัดสินให้ผู้ว่าจ้างอ่านข้อความที่รับส่งในชั่วโมงทำงานได้” ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ผู้คนเข้าใจผิดว่าผู้ว่าจ้างมีสิทธิทางกฏหมายที่จะละเมิดความเป็นส่วนตัวด้วยการอ่านข้อความส่วนตัวของพนักงานถ้าข้อความเหล่านั้นถูกส่งในชั่วโมงทำงาน ซึ่งนั้นไม่ใช่ความจริงเลย
– นาย Bogdan ต้องใช้ Yahoo Messenger ในการติดต่อกับลูกค้าผ่าน account ทางการของบริษัท แต่ว่าเขาได้ใช้ Yahoo Messenger เพื่อการส่วนตัวด้วย อย่างเช่นเพื่อการพูดคุยกับแฟนของเขา ในชั่วโมงทำงาน
– เครื่องคอมพิวเตอร์ที่นาย ฺBogdan ใช้ Yahoo Messenger คือเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัท
– ทางบริษัทมีนโยบายไม่ให้พนักงานใช้ทรัพยากร ICT เพื่อการอื่นยกเว้นการทำงาน
– ทางบริษัทได้ทำการเตือนนาย Bogdan มาก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกเขาตรวจสอบการใช้งาน ICT ของพนักงานทุกคน และขอให้นาย Bogdan ใช้สำหรับทำงานเท่านั้น
ศาลตัดสินว่าเพราะบริษัทมีนโยบายให้ใช้เวลาและเครื่องมือ ICT ไปกับการทำงานเท่านั้น นาย Bogdan ไม่ได้ทำผิดกฏหมายอะไร แต่ทำผิดกฏระเบียบของบริษัท ซึ่งบริษัทมีสิทธิทางกฏหมายที่จะตั้งขึ้นมา และบังคับใช้ การตรวจสอบการใช้งาน Yahoo Messenger จึงเป็นการบังคับใช้กฏระเบียบของบริษัท และไม่ถือว่าละเมิดเกินไปเพราะตรวจสอบแค่การใช Yahoo Messenger ไม่ได้เข้าไปดูข้อมูลอื่นๆ บนตัวคอมพิวเตอร์
ถ้าไม่พยายามทำความเข้าใจข้อเท็จจริงทั้งหมด บางคนอาจเข้าใจผิดว่าในยุโรปผู้ว่าจ้างสามารถเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งาน ICT ของพนักงานทุกคนได้ ซึ่งไม่ใช่ความจริงเลย นี่ไม่ใช่คดีกฏหมาย แต่เป็นคดีกฏระเบียบในที่ทำงาน
มันไม่ผิดกฏหมายอะไรถ้าทางบริษัทจะออกกฏระเบียบภายในองค์กรให้ใช้เวลาทำงานและทรัพยากร ICT ของบริษัทกับเรื่องงานเท่านั้น ในทางกฏหมายผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิสอดแนมพนักงาน และยังต้องอธิบายกฏระเบียบของบริษัทให้พนักงานได้เข้าใจ พนักงานต้องยอมรับในกฏระเบียบ และบริษัทต้องทำการเตือนพนักงานเมื่อทำผิดกฏ
ไม่มีคำตัดสินใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าถ้าคุณใช้มือถือของตัวเอง ส่งข้อความส่วนตัว ผ่าน account ส่วนตัว บนเครือข่ายของคุณเอง (คือส่งผ่าน mobile operator ที่ตัวเองใช้อยู่ไม่ใช่ wifi ของบริษัท) สามารถเข้ามาดูข้อความเหล่านั้นได้ ทั้งหมดนั้นเป็นของส่วนตัวของพนักงาน แน่นอนว่าอาจจะมีกฏว่าห้ามใช้เวลาทำงานไปกับเรื่องส่วนตัว แต่บริษัทส่วนมากก็ไม่โง่พอที่จะบังคับใช้กฏระเบียบนี้ เพราะการบังคับไม่ให้คนทำเรื่องส่วนตัวเลยในเวลาทำงานนั้นเป็นเรื่องยาก ไม่ได้เพิ่มผลงานของพนักงาน มีแต่จะแย่ลง สร้างบรรยากาศการทำงานที่ไม่ดี และการตรวจสอบเป็นเรื่องยากและราคาแพง
อย่าเพิ่งตกใจว่ายุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทางความคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพ และความเป็นส่วนตัว นั้นอยู่ดีๆ เปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย อ่านบทความนี้เสร็จแล้ว กลับไปเล่น facebook ต่อได้ครับ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก แต่อย่าลืมทำงานด้วยละกัน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: pixabay โดย mikegi
แหล่งข่าว
เว็ปไซต์ Telecom Journal Thailand
http://bit.ly/1OWgdAN
หมายเหตุ : ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (The European Court of Human Right - ECHR)