Dressmaker หนังที่ทำให้คนดูเป็นบ้า (Spoil เละเทะ)

หนังอะไร หลอกให้ขำๆ ฮาๆ อยู่แท้ๆ กลับต้องมาอึ้ง ทึ่ง แล้วก็น้ำตาร่วงในขณะเดียวกัน แล้วบางทีก็ต้องกลับมาหัวเราะทั้งน้ำตาอีก โอย คนดูเหมือนเป็นคนบ้า! ขอซูฮกคนเขียนบทเลยค่ะ เยี่ยมมาก



เปิดฉากมาคุณ Kate แสดงเป็น Tilly ก็นั่งรถตู้ผ่านท้องทุ่งทิวเขาของหมู่บ้านชนบทในออสเตรเลียที่แห้งแล้งอึมครึมยามค่ำ ฝ่าความมืดมิดกลับบ้าน เมื่อลงจากรถเธอวางกระเป๋าจักรเย็บผ้าซิงเกอร์รุ่นสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป๊ะ  เธอสวยเริด เชิด นิ่ง ดูเป็นแฟชั่นนิสตาตัวจริงมากๆ

ตลอดการดำเนินเรื่องเธอใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงออสซี่อย่างไม่ขัดเขิน คนดูฮือฮาและหัวเราะทุกครั้งที่เธอออกแบบชุดเลิศๆต่างๆให้อิพวกนางคนบ้านนอกที่เชยๆและนิสัยเสียเหล่านั้นผู้สร้างตราบาปแห่งชีวิตให้เธอ ด้วยการร่วมมือกันโยนบาปให้เธอแบบโง่ๆบอกกันปากต่อปากว่าเธอเป็นฆาตกร ที่ฆ่าเพื่อนอายุ 10 ขวบตายทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์หรือรู้ความจริง

Tilly พยายามค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ เธอจึงถูกหาว่าเป็นฆาตกรและถูกส่งตัวไปอยู่สถานกักกันเด็กและเยาวชนในเมืองหลวงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ  เธอใช้ความสามารถปัจจุบันในการเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าระดับโลก แลกกับความลับที่ชาวบ้านนอกพวกนี้ค่อยๆคายออกมาทีละน้อยเกี่ยวกับเรื่องของเธอ

เธอได้พบเพื่อนวัยเยาว์ (พระเอก) ที่คอยดูแลแม่เธอที่ทุกคนคิดว่าเป็นบ้า หลังจากที่ลูกถูกจับออกไปจากหมู่บ้าน พระเอกคนนี้หล่อชนะเลิศ! หุ่นฟิตเปรี๊ยะ perfect มากๆ แต่บทนางจบแบบงงๆอยู่ (ลองไปดูเอาเองว่าทำไมนะคะ) หรือหนังอาจจจะอยากแสดงความย้อนแย้งให้เห็นว่าเราไม่ควรไปว่าการกระทำของใคร stupid เพราะทุกคนก็มีโอกาสที่จะทำอะไรที่ stupid ได้เหมือนกันหมดเมื่อเราถูกครอบงำด้วยความโกรธ เกลียด รัก หรืออารมณ์ต่างๆนานาของมนุษย์ สุดท้าย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

กำลังฮาๆกับการหาความจริงและการแก้แค้นแบบสะใจอยู่ดีๆ ก็เจอซีนโหดที่พ่อของ Tilly [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แบบว่าคนดูตาเหลือกเลย

ตอนสุดท้าย Tilly นาง roll out the red carpet จากหน้าบ้านไปทางออกหมู่บ้าน ไอ่เราก็นึกว่านางจะเดินพรมแดงจากไปแบบสวยๆเท่านั้น ที่ไหนได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คาดไม่ถึงมากๆๆๆๆ

ทุกฉากที่เธอคุยกับแม่เธอเรียกน้ำตาคนดูได้เสมอ
ทุกฉากที่แสดงฝีมือการตัดเย็บของเธอและลูกค้าแต่ละคน เรียกเสียงฮาได้เสมอ
ทุกฉากที่ย้อนอดีต เรียกความอึดอัดจุกอกได้เสมอ
ทุกฉากที่อยู่กับพระเอก สร้างความอบอุ่นละมุนละไม จิ้นฟินเวอร์ได้เสมอ
ทุกฉากที่มีชาวบ้านเยอะๆ แสดงให้เห็นด้านแย่ๆที่ไม่น่าสงสารของคนบ้านนอกได้เสมอ (คนบ้านนอก ไม่ได้ใส ไม่ได้ซื่อ ไม่ได้น่าแจกผ้าห่มเสมอไปนะจ๊ะ ฮ่าๆๆ)

สรุปว่า Dressmaker เป็นหนัง Drama, Black Comedy ที่ดีเรื่องแรกที่ได้ดูสำหรับปี 2559 นี้ค่ะ (ไม่นับ Star War เพราะคนละแนว)
การแก้แค้นไม่ใช่สิ่งที่ดี หนังเรื่องนี้เป็น black comedy นะคะ ไม่ควรลอกเลียนแบบ ฮ่าๆๆ

ป.ล. การแปล subtitle หนังยังไม่ค่อยพัฒนาเหมือนเดิมนะ เผอิญเหลือบไปเห็นเป็นช่วงๆ รับไม่ได้อะ เช่น fabric แปลว่า ผ้า ได้เลยนะคะ ไม่ใช่ "เส้นใย" ค่ะ
ตอนนั้นเรื่องที่จา พนม แสดงก็เหมือนกัน ฉากที่สู้กันในรถอะ เค้าด่ากันว่า "suit yourself" แปลว่า "ช่างแ_่ง" ไม่ใช่ "มันเหมาะกับแกแล้ว" อย่างที่แปลมานะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่