~~ตายแล้วไม่ไปไหน...ยังอยู่ในใจของพวกเรา~~
แด่ น้าวันดีที่ฉันรัก

ในฐานะที่ตัวเองยังอยู่ในห้วงเวลานี้ อยากแบ่งปันให้ทุกท่านอ่านนะ...
'เคยผ่านมาบ้างกับการที่มีใครตายจากไป ครั้งนี้ก็ถือว่าใกล้ตัวมากที่สุด(เท่าที่เคยเจอละ) น้าวันดีเป็นน้องสาวของคุณแม่ เป็นญาติคนนึงที่เลี้ยงแอมในตอนเด็ก ความทรงจำส่วนนั้นแอมจำไม่ได้ แต่น้าคงจำได้ดี พอโตมาเราก็เหมือนน้าหลานทั่วไป เจอกันตามวันรวมญาติบ้าง หรือบางสุดสัปดาห์ น้าเป็นคนตรงๆ น่ากลัวอยู่บ้างเพราะชอบพูดเสียงดัง แต่น้าก็เป็นน้าคนโปรดของแอมเสมอ น้าวันดีไม่มีครอบครัว รักอิสระ มาๆ ไปๆ ไม่ค่อยบอกกล่าว ชอบขับรถมาที่บ้านแอมบ่อยๆ'
ตอนอยู่มหาลัย คุณแม่เป็นมะเร็ง น้าวันดีก็เป็นมะเร็ง ผ่าตัดและรักษาตัวในช่วงเดียวกัน ผลออกมา คุณแม่หายดี แต่น้าวันดีไม่หาย มะเร็งได้กระจายไปส่วนต่างๆ ผ่านมาเป็นสิบปี เห็นน้าเข้าออก รพ.ตลอด รู้สึกเห็นใจน้ามาก แต่เราก็ยังคงอยู่กับครอบครัวเรา เติบโต ใช้ชีวิต เวลาผ่านไป ทุกข์สุขปนเป ผ่านไปไวขนาดไหนไม่รู้ จนต้นปีที่ผ่านมาแพทย์แจ้งว่าต้องทำการรักษาด้วยการตัดขาข้างซ้ายของน้าวันดี ตอนนั้นแหละถึงได้รู้สึกว่าผ่านมานานเท่าไหร่แล้ววะที่น้าเค้าสู้กับโรคร้ายมา ตอนนั้นโคตรรู้สึกแย่เลย ทำได้แค่โพสต์ขอรับบริจาคเลือดให้น้าผ่าตัดใหญ่ ช่วงนั้นน้าเตรียมตัวตาย พูดเสมอว่าพร้อมตาย และแพทย์ก็บอกว่ามีโอกาสเสียชีวิตสูง น้าไม่เศร้า บอกกับเราว่าถ้าไม่รอดก็คงหลับไปเลย สบายมาก แต่ถ้ารอด ก้อนเนื้อร้ายนั้นก็จะถูกตัดทิ้งไปเยอะ และจะใช้ชีวิตสะดวกขึ้น
หลังผ่าตัด น้าไม่ตาย แต่การตัดขาซ้ายจำเป็นต้องคว้านกล้ามเนื้อสะโพกด้านหลังไปหมด ทำให้น้าไม่สามารถแม้กระทั่งลุกขึ้นนั่งได้ เรารู้ดีว่า-สภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้-เป็นสิ่งที่ทำให้น้าเสียกำลังใจมากที่สุด น้าหวังว่าจะรอดชีวิตเป็นคนพิการที่ได้ใช้ชีวิต และไม่เป็นภาระกับใคร
เดือน พ.ย.น้าต้องเข้าแอดมิดที่ รพ.อีกครั้ง และเปรยอยู่หลายครั้งว่าปวดมาก น้ารับมอร์ฟีนตลอด เราสงสารน้ามาก สู้ชีวิตจริงๆ สู้มานานหลายปี ครั้งสุดท้ายได้เยี่ยมน้าตามลำพังสองชั่วโมง เราคุยกันอย่างสงบที่ รพ. จึงได้รู้ว่า น้าไม่ใช่คนพูดเสียงดังอีกต่อไป ได้รู้ว่าน้าห่วงพวกเราทุกคนเสมอ ได้รู้ว่าน้าไม่ได้ขี้รำคาญ ได้รู้ว่าน้าชอบให้อยู่คุยด้วยนานๆ ได้รู้ว่าน้าอยากกลับบ้าน อยากแวดล้อมด้วยทุกคน อยากมองหลานวิ่งเล่น ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่าทำไมน้าชอบบอกหมอว่าไม่ต้องปั๊มหัวใจ ทั้งที่ป่วยหนักสุดๆ น้ายังชวนแอมไปทะเล ยังหิ้วถุงปัสสาวะไปไหนมาไหนได้ทุกที่ แต่หลังจากมีโอกาสได้คุยกันนานๆ น้าทำให้แอมเข้าใจว่าการที่คนคนนึงไม่สามารถแม้แต่จะช่วยเหลือตัวเอง ความรู้สึกที่เราต้องพึ่งคนอื่นตลอดแม้ในเวลา กิน เดิน นั่ง นอน หายใจ มันเป็นชีวิตที่ไม่มีความหมาย... แอมไม่ได้ยอมรับทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรไปขณะนั้น เราไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้ซึ้ง
ส่วนนึงอยากเตือนทุกคนให้ทำดีกับคนที่เรารักในทุกๆ ช่วงเวลา พอคนที่เรารักจากไป มันจะมีหนังสั้นเรื่องนึงฉายในหัวใจเรา ตั้งแต่ต้นชีวิต จนจบชีวิต เหตุการณ์ที่เราลืมมันไปแล้ว เราอภัยให้ตัวเองไปแล้ว มันจะย้อนกลับขึ้นมาเป็นฉากๆ ถ้าคุณทำอะไรแย่ๆ พอถึงวันที่คุณแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว มันโคตรรู้สึกแย่เลย และถ้าคุณทำดี มันก็จะรู้สึกว่ายังดีไม่พอ เพราะฉะนั้น ทำสิ่งที่ดีที่สุด...ต่อคนที่คุณรัก
สุดท้าย แม้แอมจะไปไม่ทันยืนข้างๆ ตอนที่น้าสิ้นลมหายใจ แต่ก็สบายใจที่น้าได้นอนตายตาหลับใต้ผ้าห่มอุ่นในบ้านของครอบครัวเรา แทนอากาศเย็นๆ ที่โรงพยาบาล ไปอยู่กับคุณตาคุณยายนะคะ แอมนับถือหัวใจที่แข็งแกร่งของน้าวันดีมากๆ น้าเป็นคนดีมากๆ ไม่ว่ายังไงครอบครัวเรามีกันและกันเสมอ
รักน้าวันดีที่สุดและตลอดไป / หลานแอม
[ตัวบรรจง] คุณแม่ขอเป็นคนเขียนให้น้าวันดี
อาลัย
วาระสุดท้าย
2 ครอบครัว
พี่-น้อง 10 คน ตลอดไป
ส่งน้าวันดีขึ้นสวรรค์
ภพนี้พบหน้า
น้าวันดี "ต้นแบบของนักสู้"
ตายแล้ว...ไม่ไปไหน
แด่ น้าวันดีที่ฉันรัก
ในฐานะที่ตัวเองยังอยู่ในห้วงเวลานี้ อยากแบ่งปันให้ทุกท่านอ่านนะ...
'เคยผ่านมาบ้างกับการที่มีใครตายจากไป ครั้งนี้ก็ถือว่าใกล้ตัวมากที่สุด(เท่าที่เคยเจอละ) น้าวันดีเป็นน้องสาวของคุณแม่ เป็นญาติคนนึงที่เลี้ยงแอมในตอนเด็ก ความทรงจำส่วนนั้นแอมจำไม่ได้ แต่น้าคงจำได้ดี พอโตมาเราก็เหมือนน้าหลานทั่วไป เจอกันตามวันรวมญาติบ้าง หรือบางสุดสัปดาห์ น้าเป็นคนตรงๆ น่ากลัวอยู่บ้างเพราะชอบพูดเสียงดัง แต่น้าก็เป็นน้าคนโปรดของแอมเสมอ น้าวันดีไม่มีครอบครัว รักอิสระ มาๆ ไปๆ ไม่ค่อยบอกกล่าว ชอบขับรถมาที่บ้านแอมบ่อยๆ'
ตอนอยู่มหาลัย คุณแม่เป็นมะเร็ง น้าวันดีก็เป็นมะเร็ง ผ่าตัดและรักษาตัวในช่วงเดียวกัน ผลออกมา คุณแม่หายดี แต่น้าวันดีไม่หาย มะเร็งได้กระจายไปส่วนต่างๆ ผ่านมาเป็นสิบปี เห็นน้าเข้าออก รพ.ตลอด รู้สึกเห็นใจน้ามาก แต่เราก็ยังคงอยู่กับครอบครัวเรา เติบโต ใช้ชีวิต เวลาผ่านไป ทุกข์สุขปนเป ผ่านไปไวขนาดไหนไม่รู้ จนต้นปีที่ผ่านมาแพทย์แจ้งว่าต้องทำการรักษาด้วยการตัดขาข้างซ้ายของน้าวันดี ตอนนั้นแหละถึงได้รู้สึกว่าผ่านมานานเท่าไหร่แล้ววะที่น้าเค้าสู้กับโรคร้ายมา ตอนนั้นโคตรรู้สึกแย่เลย ทำได้แค่โพสต์ขอรับบริจาคเลือดให้น้าผ่าตัดใหญ่ ช่วงนั้นน้าเตรียมตัวตาย พูดเสมอว่าพร้อมตาย และแพทย์ก็บอกว่ามีโอกาสเสียชีวิตสูง น้าไม่เศร้า บอกกับเราว่าถ้าไม่รอดก็คงหลับไปเลย สบายมาก แต่ถ้ารอด ก้อนเนื้อร้ายนั้นก็จะถูกตัดทิ้งไปเยอะ และจะใช้ชีวิตสะดวกขึ้น
หลังผ่าตัด น้าไม่ตาย แต่การตัดขาซ้ายจำเป็นต้องคว้านกล้ามเนื้อสะโพกด้านหลังไปหมด ทำให้น้าไม่สามารถแม้กระทั่งลุกขึ้นนั่งได้ เรารู้ดีว่า-สภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้-เป็นสิ่งที่ทำให้น้าเสียกำลังใจมากที่สุด น้าหวังว่าจะรอดชีวิตเป็นคนพิการที่ได้ใช้ชีวิต และไม่เป็นภาระกับใคร
เดือน พ.ย.น้าต้องเข้าแอดมิดที่ รพ.อีกครั้ง และเปรยอยู่หลายครั้งว่าปวดมาก น้ารับมอร์ฟีนตลอด เราสงสารน้ามาก สู้ชีวิตจริงๆ สู้มานานหลายปี ครั้งสุดท้ายได้เยี่ยมน้าตามลำพังสองชั่วโมง เราคุยกันอย่างสงบที่ รพ. จึงได้รู้ว่า น้าไม่ใช่คนพูดเสียงดังอีกต่อไป ได้รู้ว่าน้าห่วงพวกเราทุกคนเสมอ ได้รู้ว่าน้าไม่ได้ขี้รำคาญ ได้รู้ว่าน้าชอบให้อยู่คุยด้วยนานๆ ได้รู้ว่าน้าอยากกลับบ้าน อยากแวดล้อมด้วยทุกคน อยากมองหลานวิ่งเล่น ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่าทำไมน้าชอบบอกหมอว่าไม่ต้องปั๊มหัวใจ ทั้งที่ป่วยหนักสุดๆ น้ายังชวนแอมไปทะเล ยังหิ้วถุงปัสสาวะไปไหนมาไหนได้ทุกที่ แต่หลังจากมีโอกาสได้คุยกันนานๆ น้าทำให้แอมเข้าใจว่าการที่คนคนนึงไม่สามารถแม้แต่จะช่วยเหลือตัวเอง ความรู้สึกที่เราต้องพึ่งคนอื่นตลอดแม้ในเวลา กิน เดิน นั่ง นอน หายใจ มันเป็นชีวิตที่ไม่มีความหมาย... แอมไม่ได้ยอมรับทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรไปขณะนั้น เราไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้ซึ้ง
ส่วนนึงอยากเตือนทุกคนให้ทำดีกับคนที่เรารักในทุกๆ ช่วงเวลา พอคนที่เรารักจากไป มันจะมีหนังสั้นเรื่องนึงฉายในหัวใจเรา ตั้งแต่ต้นชีวิต จนจบชีวิต เหตุการณ์ที่เราลืมมันไปแล้ว เราอภัยให้ตัวเองไปแล้ว มันจะย้อนกลับขึ้นมาเป็นฉากๆ ถ้าคุณทำอะไรแย่ๆ พอถึงวันที่คุณแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว มันโคตรรู้สึกแย่เลย และถ้าคุณทำดี มันก็จะรู้สึกว่ายังดีไม่พอ เพราะฉะนั้น ทำสิ่งที่ดีที่สุด...ต่อคนที่คุณรัก
สุดท้าย แม้แอมจะไปไม่ทันยืนข้างๆ ตอนที่น้าสิ้นลมหายใจ แต่ก็สบายใจที่น้าได้นอนตายตาหลับใต้ผ้าห่มอุ่นในบ้านของครอบครัวเรา แทนอากาศเย็นๆ ที่โรงพยาบาล ไปอยู่กับคุณตาคุณยายนะคะ แอมนับถือหัวใจที่แข็งแกร่งของน้าวันดีมากๆ น้าเป็นคนดีมากๆ ไม่ว่ายังไงครอบครัวเรามีกันและกันเสมอ
รักน้าวันดีที่สุดและตลอดไป / หลานแอม
[ตัวบรรจง] คุณแม่ขอเป็นคนเขียนให้น้าวันดี
อาลัย
วาระสุดท้าย
2 ครอบครัว
พี่-น้อง 10 คน ตลอดไป
ส่งน้าวันดีขึ้นสวรรค์
ภพนี้พบหน้า
น้าวันดี "ต้นแบบของนักสู้"